account_circleคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเลือดนักสู้ แวร์ โซว ยิ้มออก หลังใช้หนี้หมด 13 ล้านบาท น้องคนดี ลูกสาวเป็นกำลังใจ ตอนนี้ถึงไม่มีบ้าน-รถ แต่ก็มีความสุข
นับได้ว่าเป็นคุณแม่ที่สู้สุดใจจริงๆ เพราะไม่ว่าต้องเผชิญปัญหาเล็กหรือใหญ่ แวร์ โซว ก็พยายามที่จะผ่านมันไปให้ได้แม้ตัวคนเดียว โดยก่อนหน้านี้เธอมีปัญหาเรื่องหนี้สินที่มีมากกว่า 13 ล้านบาท และยังป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แต่นักแสดงสาวก็ไม่ท้อ ได้กำลังใจจากลูกสาว น้องคนดี เธอจึงเดินหน้าขายของปลดหนี้ทุกทางแบบไม่อายว่าเธอจะเป็นคนดัง ล่าสุดในงานบวงสรวงละคร เสน่หาสตอรี่ Season 2 ของบริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) เธอได้เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า ได้ปลดหนี้ทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าเธอจะต้องหมดตัวแต่ก็ไม่เสียใจ เพราะไม่มีหนี้สิน ทุกวันนี้อาศัยอยู่กับลูกสาว ภายในอพาร์ตเม้นท์เล็กๆ เพียงสองคนแม่ลูก ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ แต่ก็เป็นชีวิตที่มีความสุขกว่าเดิมมาก
ปัญหาเรื่องหนี้สินตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
“ตอนนี้ขายคอนโดได้ เลยหมดหนี้หมดสิน ชีวิตเหมือนเริ่มต้นใหม่ที่ศูนย์ แต่สบายใจขึ้น ไม่อย่างนั้นมันกังวลเรื่องดอกเบี้ย เพราะเราต้องหามาจ่ายเขาทุกเดือนๆ ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ งานเราก็ไม่ได้เยอะด้วย เราชักหน้าไม่ถึงหลังอะไรก็แล้วแต่ พวกนี้ก็เครียดอยู่ แต่พอเราไม่มีหนี้ไม่มีสินแล้ว ทำให้เราสบายใจขึ้นเยอะมากเลย และถามว่าไม่มีอะไรเหลือแล้วเสียใจไหม กังวลใจไหม ทุกข์ใจอะไรไหม ตอบเลยว่าไม่เลย การไม่มีหนี้สิน การไม่มีภาระผูกพันอะไรกับชีวิตเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดเลย”
ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะไหม?
“ไม่เปลี่ยนค่ะ เพราะแวร์เป็นคนประหยัดมัธยัสถ์กระเบียดกระเสียนอยู่แล้ว คือถ้าเราไม่ค่อยมีงาน เรามีหนี้สินเยอะแยะ แล้วเรายังไปใช้เงินฟุ่มเฟือยสิ อันนั้นมันจะยิ่งน่ากังวลใจ แต่ถ้าคนที่รู้จักเราจริงๆ จะรู้ว่าไลฟ์สไตล์เราง่ายมาก กินข้าวแกง 30-50 บาทก็แฮปปี้แล้ว แต่ถ้า 70-80 บาท ก็แพงแล้วนะ”
แล้วเรื่องที่เราเป็นโรคซึมเศร้า?
“คือจริงๆ แล้วคนหลายๆ คนคิดว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้าเพราะว่าปัญหาเรื่องเงิน แต่บอกเลยว่ามันไม่ใช่เรื่องเงิน เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย มันเป็นเรื่องที่เราถูกเอาเปรียบ พอเราถูกเอาเปรียบมากๆ มันจะทำให้เรารู้สึกดดัน และคนที่เอาเปรียบเราเขาก็ไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือว่าออกมาทำอะไรในสิ่งที่คุณเอาเปรียบเราไป อย่างแวร์ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ซื้อรถแล้วมันใช้งานไม่ได้ ถามว่าเราเองก็ไม่เคยติดค้างชำระ แล้วมันเป็นปัญหาของเรามั้ยที่จะต้องมานั่งรับผิดชอบ แบกจ่ายภาระหนี้สินดอกเบี้ยอยู่คนเดียว และคนที่มีส่วนร่วมกับปัญหานั้นเขาหายไปไหน เมื่อเราหาใครมาช่วยในส่วนนี้ไม่ได้ เพราะมันไม่ได้เกิดจากเราไง มันเกิดจากหลายๆ อย่าง แล้วเราต้องมารับผิดชอบอยู่คนเดียวก็เลยเหนื่อย แต่เรื่องพวกนี้ก็ยังไม่ใช่เรื่องใหญ่ มันมีเรื่องของครอบครัว เรื่องของการงาน เรื่องของเพื่อนร่วมงาน เรื่องของสังคม เรื่องของหลายๆ อย่าง และที่สำคัญเราโดนโทรศัพท์โรคจิตบ่อยๆ เราเองก็มีปัญหาเยอะแยะมากมาย แล้วยังมาเจอคนพูดจาไม่ดีอีก จนทุกวันนี้ใครมาโทรแวร์ก็ต้องเสียงแข็งไว้ก่อน เพราะมันเสียจริตหมดเลย จนเราก็ไม่ไหวแล้ว”
อาการตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
“หายแล้วค่ะ แต่ถ้าย้อนกลับไป แวร์เป็นโรคซึมเศร้าโดยที่ไม่รู้ตัวมาประมาณ 5-6 ปีก่อนนั้นนะคะ และรักษามาประมาณ 3 ปี รวมทั้งหมดก็ประมาณ 8-9 ปีนะคะ แล้วตอนนี้คุณหมอบอกว่าทุกอย่างดีแล้ว แต่ยังไม่ให้หยุดกินยา เนื่องจากเรายังต้องเจอผู้คน เรายังต้องทำงาน เจออะไรก็แล้วแต่ที่เข้ามากระทบเราได้ง่าย คุณหมอก็ขอดูอาการไปเรื่อยๆ ก็ไปพบคุณหมอ 2 เดือนครั้ง”
ลูกสาวให้กำลังใจคุณแม่อย่างไร?
(น้องคนดีตอบ) “ตอนที่คุณแม่ป่วยหนูก็ได้เห็นค่ะ เพราะหนูอยู่กับแม่สองคน เราก็ต้องคุยกันให้มันเยอะและทำความเข้าใจกันมากๆ ค่ะ ฉะนั้นการที่เราเปิดใจคุยกันและรับรู้ปัญหาของกันและกัน ทำให้หนูสามารถเข้าใจปัญหาและเข้าใจความรู้สึกของคุณแม่ได้มากขึ้น และคุณแม่ก็เข้าใจปัญหาและความรู้สึกของหนูได้มากขึ้นเหมือนกัน ฉะนั้นก็เลยจูนกันติดง่ายและค่อนข้างที่จะให้กำลังใจกันได้ง่ายค่ะ”
(แวร์ โซวตอบ) “คือครอบครัวแวร์เป็นครอบครัวที่มีอะไรคุยกันหมด ไม่มีปิดบัง เรื่องภาวะการเงินถ้าเราไม่มีเราก็พูดกันตรงๆ จะบอกกันตลอด น้องคนดีเขารู้ว่าช่วงนี้แม่มีงานเยอะ บางช่วงแม่ไม่มีงานเลย ช่วงนี้แม่กำลังอารมณ์สวิง อารมณ์กำลังขึ้น หรือช่วงนี้แม่อารมณ์เย็นลง สงบลง เขาจะรู้หมดทุกอย่าง และเขาก็จะไม่เกิดความสับสน แต่บางครอบครัวผู้ใหญ่มีปัญหาอะไรแล้วไม่บอกเด็กเลย เด็กก็จะงงว่าพ่อแม่ฉันเป็นอะไรเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แล้วตัวผู้ใหญ่เองก็ต้องรับฟังด้วย เพราะเขากำลังเป็นวัยรุ่น ผู้ใหญ่เองก็ต้องรับฟังว่าวัยรุ่นเขาก็ต้องมีอารมณ์สวิงของเขาเหมือนกันนะ เพราะฉะนั้นการเปิดใจรับฟังซึ่งกันและกันมันก็จะลดอาการของโรคซึมเศร้า หรือว่าปัญหาทางความคิดหรือความเครียดได้ เด็กวัยรุ่นเป็นโรคซึมเศร้าเยอะมาก เนื่องจากว่าไม่มีใครฟังใครในครอบครัว ก็อยากจะฝากหลายๆ คนด้วยนะคะ ยังไงความรักที่จริงใจ ความบริสุทธิ์ใจและเข้าใจกันจริงๆ ดูแลซึ่งกันและกันในครอบครัว มันไม่ใช่แค่มีที่นอน กินอิ่ม นอนหลับ มีเงินใช้เท่านั้นคือความสุข ไม่ใช่ แต่ข้างในใจ ความห่วงใย ความเข้าใจกันมากกว่า”
หลังจากนี้จะสร้างเนื้อสร้างตัวหารายได้อย่างไรบ้าง?
“ก็ฝากด้วยนะคะ ตอนนี้แวร์กับน้องคนดีพร้อมทำงานแล้วนะคะ เราเองตอนี้ก็อายุมากแล้ว เดี๋ยวเราก็จะแก่ชราแล้ว ก็คงต้องเก็บเงินไปอยู่บ้านพักคนชรา คงจะไม่รบกวนให้น้องคนดีเขามาเลี้ยงดูอะไรแวร์ ก็ต้องเก็บเงินไว้ใช้ยามแก่เฒ่าด้วย และทำงานได้แล้ว เข้ากับสังคม เข้ากับคนหมู่มากได้แล้ว ไม่มีอาการขึ้นๆ ลงๆ อะไรแล้ว ยังไงก็ขอฝากด้วยนะคะ (ยิ้ม)”