ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ขนุนเปิ๊ดสะก๊าด ร้องนำ” อ้างเป็นเจ้าของผลงาน “ผีตาโขน” โวย “นายอลงกรณ์ กองอิน” ผู้ออกแบบ “ชุดประจำชาติไทย” ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2019 ก็อปปี้ผลงาน
เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา “บริษัท ทีพีเอ็น 2018 จำกัด” ผู้จัดการประกวด “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์” ได้ประกาศผลการคัดเลือกชุดประจำชาติในโครงการ ‘ความเป็นไทยร่วมสมัยที่ฟ้าใสจะใส่ไปคว้ามง’ เพื่อใช้เป็นชุดประจำชาติในการประกวด Miss Universe 2019 ซึ่งผลปรากฏว่ารางวัลชนะเลิศตกเป็นของนักออกแบบกราฟิกดีไซน์วัย 55 ปี “อลงกรณ์ กองอิน” ผู้ออกแบบชุด “ผีตาโขน” (Phi Ta Khon Festival of Thailand) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทศกาลผีตาโขน ที่จัดขึ้นในอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย
ทั้งนี้ภายหลังจากการประกาศผลไม่เท่าไหร่ก็ได้เกิดดราม่าขึ้น เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ขนุนเปิ๊ดสะก๊าด ร้องนำ” อ้างเป็นเจ้าของผลงานหน้ากากผีตาโขน พร้อมระบุว่า “อลงกรณ์ กองอิน” ผู้ออกแบบ “ชุดประจำชาติไทย” ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2019 ได้นำผลงานของตนไปใช้
“บังเอิญเห็นโพสต์เมื่อสักครู่นี้ มีคนชื่นชนในความงามของหน้ากากผีตาโขนที่นำไปประยุกต์กับชุดให้คุณฟ้าใสไปใส่ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2019 เราดีใจ แต่ดูไปดูมา เอ๊ะนี่มันลายหน้ากากของทางร้าน เราไม่เคยได้ขายงานชิ้นนี้ให้ลูกค้าเลย เพราะงานชิ้นนี้เป็นงานออกแบบชิ้นพิเศษ และชิ้นเดียวที่เราเก็บไว้ให้ ไม่ได้จำหน่าย ล่าสุดเราได้นำหน้ากากนี้ไปถ่ายแบบเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวของอำเภอเรา แล้วอยู่ๆ ก็พบว่าชุดนี้ถูกคัดเลือกให้เป็นชุดประจำชาติไทยสำหรับการประกวด Miss Univers Thailand 2019 โดยที่ไม่ขออนุญาตเราก่อนเลย? เราเจ้าของงานนะ บอกกันสักคำ? ก่อนที่คุณจะนำงานของเราไป ขออนุญาตเจ้าของก่อนไหม มันมักง่ายเกินไปหรือเปล่าคะ ก็อปงานแล้วบอกว่าตัวเองออกแบบ แล้วบอกว่าเป็นผลงานตัวเอง จะให้เจออีกกี่รอบคะแบบนี้? เราสั่นมาก เราโกรธมาก …. เราเสียใจมาก ไม่คิดว่าฝีมือระดับประเทศไปสู่โลกจะทำแบบนี้กับกลุ่มผู้ผลิตชุมชนเล็กๆ แบบนี้ เสียใจมากๆ อย่างที่สุด ผิดหวังในความที่เราจริงใจจะเผยแพร่วัฒนธรรมของชุมชนเรา แต่มีคนเอาเปรียบเราแบบนี้ อย่าทำร้ายกันแบบนี้เลยค่ะ อย่ามักง่ายสิคะคุณ ช่วยแชร์ด้วยค่ะ โปรดพิจารณาด้วยค่ะ”
ในเวลาต่อมา “อลงกรณ์ กองอิน” ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก “Alongkron Kongin” ระบุว่า “ก่อนอื่นต้องขอโทษเจ้าของภาพผลงานผีตาโขน ที่ผมได้ทำการตัดต่อกราฟิกมาใช้ในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อนที่จะนำมาดัดแปลง ซึ่งเบื้องต้นนี้ผมได้ขอโทษและขออนุญาตมา ณ ตรงนี้ ขอขอบคุณเจ้าของผลงานที่อนุญาตแล้ว หลังจากผมได้ติดต่อขอโทษและขออนุญาตด้วยตัวเอง แล้วบทเรียนในครั้งนี้สอนให้รู้ว่าทำอะไรให้คิดให้มากกว่านี้และภาพอินเตอร์เน็ตทั่วไปที่เราเสิร์ชมา ล้วนมีเจ้าชองทั้งสิ้น ขอบคุณครับ ผมจะสร้างสรรค์งาานต่อไปครับ”
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ขนุนเปิ๊ดสะก๊าด ร้องนำ” ได้โพสต์ข้อความชี้แจงเพิ่มเติมระบุว่า “เบื้องต้นเราได้รับการติดต่อจากคุณอลงกรณ์ ที่นำผลงานของเราไปใช้แล้วเมื่อคืนนี้ ทางพี่เขาได้แสดงตัวว่าเป็นคนนำผลงานเราได้ดัดแปลงจริง เรารับคำขอโทษจากพี่เขาแล้ว และขณะนี้ทางเรากำลังรอการดำเนินการ เพื่อแก้ไขปัญหา และรับผิดชอบต่อไป ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามา เราขอยืนยันว่าไม่ได้ต้องการจะพาดพิงใคร เราแค่ต้องการความเป็นธรรมต่อผลงานของร้าน และสิทธิ์ของเราเท่านั้น ขอบคุณค่ะ”