กัน นภัทร

เปิดห้องหัวใจ กัน นภัทร 9 ปีในวงการมีวันนี้ได้เพราะความรัก

Alternative Textaccount_circle
กัน นภัทร
กัน นภัทร

เรียกว่าอยู่ในวงการบันเทิงมานานถึง 9 ปีแล้ว สำหรับนักร้องหนุ่มเสียงเสน่ห์ขวัญใจแฟนคลับ ” กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ ” ที่ผ่านมาศิลปินหนุ่มคนนี้ได้รับโอกาสและได้แสดงความสามารถหลายบทบาท ถึงวันนี้ “กัน” ได้มีโอกาสเล่าเรื่องราวชีวิตเปิดทุกห้องหัวใจ ในรายการ “Goodtime Soundtrack of Life” คลื่น Goodtime 98.5 FM ผ่าน 10 บทเพลง เกี่ยวกับความทรงจำของตัวเอง ตั้งแต่วันแรกจากเด็กต่างจังหวัด จนก้าวเข้ามาเป็นศิลปินมีชื่อเสียงทุกวันนี้ได้ก็เพราะความรักของทุกคนที่อยู่ในชีวิต และนี่คือ 10 เพลง ย้อนเส้นทางของชีวิตของผู้ชายคนนี้

กัน นภัทร

1. งมงาย – Bodyslam

“เพลงนี้ต้องบอกว่าเป็นเพลงตอนที่ผมเรียนที่โรงเรียนสวนกุหลาบช่วงมัธยมต้น มีรุ่นพี่ที่เป็นศิษย์เก่าเป็น “พี่ตูน Bodyslam” (อาทิวราห์ คงมาลัย) ซึ่ง “พี่ตูน”เป็นไอดอลของเด็กนักเรียนทุกคนในตอนนั้น และเพลงงมงาย เป็นเพลงดังมากๆ ผมเองเป็นคนที่ชอบเพลงช้าๆ อยู่แล้ว พอพี่ตูนออกเพลงนี้มาปุ๊บมันโดนใจผมมากๆ แล้วก็มีงานประกวดร้องเพลง Acoustic ของโรงเรียน เพลงนี้จะเป็นเพลงที่นิยมมาก ตั้งแต่รอบคัดเลือกจะมีคนเอาเพลงนี้ไปร้องเยอะมาก มันเป็นเพลงที่ผมรู้สึกว่ามันเป็นช่วงหนึ่งในชีวิตเรา เนื้อเพลงที่มันงมงายของความรัก ต่อให้จะมองว่าฉันงมงายฉันก็ยังรักเธอ ตอนนั้นตัวผมเองมันมีความรู้สึกนี้ด้วยครับ มันมีความรู้สึกอินกับตัวเราในความรัก ซึ่งเป็นความรักแบบเด็กๆแบบ Puppy Love เป็นความรักครั้งแรกของผม ตั้งแต่สมัยเรียนประถมที่สุพรรณบุรี ตอนมาเรียนกรุงเทพฯก็ห่างไกลเขา แต่ก็ยังคิดถึง ยังไงเราก็ยังได้เจอกันอีก เขาอยู่ในสายตาของเรา ยังเป็นคนที่เรารักเขาอยู่เหมือนเดิม นี่คือความรู้สึกในตอนนั้น

คือสมัยเด็กๆ ผมผูกพันกับเพลงลูกทุ่ง เติบโตมากับเพลงลูกทุ่ง พอมาเรียนสวนกุหลาบสังคมเปลี่ยน เจอสังคมใหม่ที่เขาฟังเพลงแบบนี้กัน เขาไม่ฟังเพลงลูกทุ่งกัน ทำให้การฟังเพลงก็เปลี่ยนไป ฟังเพลงป๊อปเพลงร็อคมากขึ้น ไอดอลที่เป็นศิลปินของสวนกุหลาบเยอะมาก ทั้ง “ป๊อด Moderndog”, “ตูน Bodyslam” และ “เล้าโลม” เราที่มีวงแบบพี่ๆ มาเล่นที่โรงเรียน จำภาพได้เลยว่าสนุกมาก เป็นการฟังเพลงในรสชาติใหม่ที่เราไม่เคยฟังมาก่อน อันนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการประกวดจะมีทั้งสตริงและ Acoustic ถ้าเป็นสตริงก็จะเป็นวงแบบเต็ม เราเองไม่ได้ถนัดสายร็อคหนักๆ แต่เราจะเป็นสายนุ่มๆ จะมีกีต้าร์ 2 ตัว กับเพื่อนๆ แล้วก็มีกล่อง Percussion ตัวนึง ปีแรกเราไม่เคยมีประสบการณ์ ก็ตื่นเต้นมาก ปีที่ 2 ก็เลยเตรียมตัวใหม่ แล้วก็มีเครื่องดนตรีเพิ่มเข้ามาด้วย นั้นคือ ไวโอลิน ทำให้ดนตรีดูดีดูหรูดูแพง มีความแปลกใหม่ เลยได้ที่ 1 ในการประกวดครั้งนั้น”

กัน นภัทร

2. อาลัยรัก – ชรินทร์ นันทนาคร

“เพลงนี้เวอร์ชั่นต้นฉบับเป็นของคุณอาชรินทร์ ผมได้ฟังเป็นครั้งแรกที่พี่ “มาช่า วัฒนพานิช” ร้องประกอบภาพยนตร์เรื่อง “ไอ้ฟัก” ผมชอบมาก เพราะไม่เคยเห็น พี่มาช่า ร้องเพลงที่มีความเป็นลูกกรุงมีความเป็นไทยมาก่อน ฟังแล้วให้ความรู้สึกที่อยากจะถ่ายทอดถึงความเสียใจจริงๆ ให้ผู้ฟังรับรู้ว่า เราเสียใจแค่ไหน อาลัยกับคนที่เขารักเหมือนกับในภาพยนตร์ ผมมีโอกาสร้องเพลงนี้ในละครเรื่องแรกที่เราแสดง ชอบเพลงเก่าๆเพลงไทยๆอยู่แล้ว สไตล์ลูกกรุงฟังแล้วมันจะอินกับเพลงได้ง่าย ภาษาที่เขาเขียนในสมัยก่อน มันมีความสละสลวย และความงดงามในตัวเพลง เพลงลูกกรุงผมเกิดฟังไม่ทันหรอกครับ แต่คุณพ่อฟังเพลงลูกกรุงมาโดยตลอด ก็ได้ซึมซับจากคุณพ่อ แล้วมาวันหนึ่งมีคอนเสิร์ตเดียวของตัวเอง หลังจากได้ The Star มี “อาชรินทร์” ได้มาเป็นแขกรับเชิญ ความพิเศษตรงที่เราได้ร้องเพลงกับตำนาน คนที่แบบร้องเพลงอะไรก็ดังในช่วงนั้น มีความผูกพันกับอาชรินทร์มาก ๆ เป็นแฟนเพลงของคุณอาเขามาตลอด และวันหนึ่งลูกชายตัวเองได้มีโอกาสจะร้องเพลงกับตำนานแบบนี้ มันเป็นภาพที่น่าจดจำมากๆ รู้สึกขอบคุณที่ชื่นชอบกับเพลงของ คุณอาชรินทร์ ชอบการใช้คำของเขา มีอยู่ท่อนหนึ่ง “แม้มีปีกโผบินได้เหมือนนก อกจะต้องธนูเจ็บปวดนัก ฉันจะบินมาตายตรงหน้าตัก” มันเห็นภาพทุกอย่างของเนื้อร้องเพลงนี้ครับ”

กัน นภัทร

3. ทางกลับบ้าน – Bodyslam

“เพลงนี้จะอินกับความหมายล้วนๆ ผมเพิ่งได้มาฟังเพลงนี้ช่วงหลังๆ อยู่ๆก็เปิด YouTube เจอคลิปนี้ ตอนที่ พี่ตูน ร้องเพลงนี้ครั้งแรกในการแสดงคอนเสิร์ตที่ราชมังฯ เขาก็พูดนำเข้าเพลงประมาณว่า “หลายๆคนที่เป็นเด็กต่างจังหวัดที่ออกมาตามหาความฝันของตัวเองในกรุงเทพฯในเมืองหลวง ผมเชื่อว่าทุกคนต้องมีเหนื่อยมีท้อ แต่ว่าทุกครั้งที่เราได้กลับไปถึงบ้าน ตัวเองกลับไปนึกถึงคนที่รักเราที่บ้าน อยากทำให้เขาภูมิใจในตัวเรา” มันมีความหมายมากๆ ผมกับพี่ตูนมีชีวิตที่คล้ายๆกัน เป็นเด็กสุพรรณ เรียนที่สวนกุหลาบเหมือนกัน แล้วก็มันมีช่วงชีวิตที่เป็นแบบนี้มีความคิดว่า “เรามาทำอะไรที่นี่?” ตอนที่เราเป็น The Star ใหม่ๆ มันเป็นช่วงที่ไวมาก ไม่คิดว่า วันหนึ่งต้องมาทำอะไรที่เหนื่อยขนาดนี้เลยผมถามพี่ๆว่าผมจะได้กลับบ้านกลับสุพรรณเมื่อไหร่ ตอนนั้น The Star ปี 6 เป็นช่วงที่พีคมากๆ เป็นยุคของ กัน-โน่-ริท จากนี้ประมาณ 3 เดือนต้องทำงานทุกวัน ทั้งโปรโมท ทั้งออกรายการทั้งหลาย มันเป็นช่วงที่โตในรถตู้ กินข้าวกล่อง 3 มื้อ ไม่เคยได้ไปนั่งร้านอาหารดีๆ กินข้าวแพงๆ ความรู้สึกบางครั้งคิดถึงบ้านมากๆ ได้ฟังเพลงนี้เราก็กลับไปนึกถึงชีวิตเราในช่วงนั้นเราผ่านมาได้ไง เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง เนื้อเพลงเพลงนี้มันให้กำลังใจที่ดีมากๆสำหรับเราในการทำงาน เพราะเวลาที่เราเหนื่อยเราท้อ เราจะพยายามนึกถึงสิ่งๆนี้ เราก็จะทำให้เต็มที่ในทุกๆวัน ทั้งงานละคร งานแสดง Single เพลงดังๆ ละครเวทีที่ได้โอกาสมาก็ทำให้เต็มที่ที่สุดให้เขาภูมิใจ ว่าวันหนึ่งเราจะหอบสิ่งที่เราภูมิใจกลับไปหาเขา ช่วงนี้กลับบ้านบ่อยมาก หลังๆนี้เวลาเรามีงานละครเยอะๆไม่ค่อยมีโอกาสได้กลับบ้านสักเท่าไหร่ แต่ก็จะเห่อบ้านมาก เพราะเป็นบ้านหลังใหม่ที่อยากจะสร้างให้พ่อแม่ บ้านหลังเก่าอยู่มานานมากแล้วเลยปลูกบ้านหลังใหม่ในที่ที่อยู่ใกล้ๆหลังเก่า ได้กลับบ้านไปดูความคืบหน้าเรื่อย ๆ ล่าสุดจัดพาแฟนคลับไปทำบุญที่สุพรรณบุรี หลังจากทำบุญเสร็จก็พาแวะเข้าไปบ้าน ให้เขาดูความเคลื่อนไหวว่าบ้านเราไปถึงไหนแล้ว พวกเขาภูมิใจกับเรามาก เพราะว่าจริงๆแล้ว พวกเขาก็มีส่วนมากๆ ที่ทำให้ผมมีวันนี้มีบ้านให้คุณพ่อคุณแม่ได้อยู่ ถือว่ามีแรงผลักดัน มีกำลังใจที่ดี ในการทํางานครับ”

4. บอกตัวเอง – ROOM39 Feat.โป่ง ปฐมพงศ์ (โป่ง หินเหล็กไฟ)

“เป็นเพลงที่ฟังเวลาเราอกหัก ผมว่าทุกคนก็ต้องมีเพลงที่เราเปิดอยู่เป็นเพื่อนเราสักหนึ่งเพลง ผมรู้สึกว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ดีมากๆ ตั้งแต่ที่ได้ยินมาครั้งแรกที่ พี่โอ เขียนเพลงนี้ขึ้นมา ใครที่เคยเป็นแฟนคลับผม เคยได้ฟังเพลงที่ผมร้องเป็นเวอร์ชั่นของผมเอาไว้ cover ลงใน instagramของผม ผมเล่นกีต้าร์ แล้วร้องเอาอยู่คนเดียว ลองส่งลงไปในกรุ๊ปที่มี พี่โออยู่ด้วย พี่โอ ชอบมาก และขอเอาไปลงเพจของพี่เขา ยอดวิวในเพจแกประมาณหลายล้านวิว ถือว่าเยอะมาก รู้สึกดีใจและขอบคุณ ตอนร้องรู้สึกอินกับอะไรไม่รู้เหงาๆอยู่คนเดียว เป็นเพลงที่เวลาที่เรารู้สึกถึงความรักในครั้งเก่าๆที่เคยผ่านมา หรือว่าอยากจะเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนนึง หรือว่าจะลืมในสิ่งที่ไม่ดีออกไปจากเราให้ได้ ผมว่าเป็นเพลงนี้ เป็นเพลงที่ตอบโจทย์มันคอยบอกตัวเองว่าให้เราลืมเรื่องราวที่ผ่านมาให้ได้ เพื่อที่ว่าเราจะต้องมีวันพรุ่งนี้ที่มันดีกว่าวันนี้ ก็เลยรู้สึกว่า นี่คือสิ่งที่ชอบมาก แล้วตอนท้ายๆมี พี่โป่ง หิน เหล็ก ไฟ มา Feat. ด้วย คือพีคมากๆ ผมชอบ MV มากๆ ดูแล้วน้ำตาซึม ถ่ายทอดออกมาได้ดีมากๆ เป็นเพลงที่ความรู้สึกหลากหลายมาก ทั้งเสียใจในอดีตที่ผ่านมา และทำให้มีความหวังกับสิ่งที่เราต้องมีวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าวันนี้”

กัน นภัทร

5. ข้างๆ หัวใจ – กัน นภัทร

“เป็นเพลงที่ผมร้องเองที่ผมชอบมากที่สุดในชีวิต ด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่าง ที่เกิดเพลงนี้ขึ้นมา ตอนที่เราอัดใช้เวลาอัดเร็วมากๆ มันเร็วแต่ว่ามันดี เราอัดไปแล้วเราไม่กลับมาคิดว่าที่เราอัดไปมันดีหรือยัง พอเราอัดเสร็จปุ๊บมันดี คิดว่ามาอัดใหม่คงร้องไม่ดีกว่านี้แล้ว ด้วยฟีลด้วยความรู้สึกที่ว่าเราอินกับเพลงๆ นี้ ด้วยตอนที่อัดทุกอย่างมันสมูทและลงตัวมากๆ ตอนท้ายของเพลงนี้ที่เรียกว่า ร้องสวนไปสวนมาแต่เป็นเสียงตัวเอง เพลงนี้ พี่โอเล่ เป็นโปรดิวเซอร์ แต่งเนื้อร้อง และทำนอง

เพลงนี้เป็นเพลงแรกๆของเพลงในค่ายของเราที่มีการเคาเตอร์เกิดขึ้น เป็นเหมือนเพลงต้นตำรับ พอมีเพลงนี้เกิดขึ้นมา เพลงอื่นๆ หลังจากนี้ก็มีการเคาเตอร์เกิดขึ้น มีการ adlib (แอดลิบ) เสียงของตัวเอง ความรู้สึกว่ามันลงตัวดี เวลาที่เล่นสด เวลาเรามีแฟนคลับที่ไปดูงานของเรา เราจะเคาเตอร์เสียงตัวเอง 2 เสียงไม่ได้ มีคนมาช่วยเราร้องท่อนหลัง “และฉันยังสำคัญ” แล้ว เราก็ adlib (แอดลิบ) ไป เหมือนกับได้ร้องกับเขาไปด้วยครับ บางเพลงเราชอบตั้งแต่เห็นเนื้อ เราชอบตั้งแต่ได้ยินไกด์

ครั้งแรก แต่เพลงนี้ชอบเพลงตอนที่เราอัดเสียงแล้ว มันคือเพลงของเรา เป็นเสน่ห์ในช่วงนั้นจะให้กลับไปร้องแบบเมื่อก่อนมันก็ร้องไม่ได้แล้ว มันก็เพราะในแบบที่มันเป็นในตอนนั้น เสียงตอนนั้นหนุ่มมาก ตอนนี้แก่แล้ว”

6. เคียงกัน – กัน นภัทร Feat. D Gerrard

“คือ ตอนที่ทำเพลงนี้เสร็จขึ้นมา แล้วก็ยังไม่ได้ตั้งชื่อเพลงแต่แรก แต่พอไปอ่านเนื้อเพลงเสร็จปุ๊บ แล้วโปรดิวเซอร์ก็มองหน้าเราแล้วบอกว่ามันมีคำนึงในเพลงนี้ เอาชื่อนี้และกัน เคียงกัน เอาใจแฟนคลับ กัน ด้วย คือแบบ คือความหมายโดยรวมมันก็ได้ เพลงนี้ คือเพลงที่เป็นซิงเกิ้ลล่าสุดของผม และก็เป็นความพิเศษที่ว่า มันได้มีโอกาส Featuring กับ น้องบิ๊ก D Gerrard ซึ่งก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้ Featuring กับ Rapper แบบนี้ อยากจะนำสไตล์เหล่านี้ มาผสมผสานในเพลงของเรา คือผมได้มีโอกาสเคยร่วมงานกับน้องเค้าใน รายการสี่โพดำ ได้เห็นความสามารถของน้องเค้าว่าเด็กคนนี้คือ ความสามารถเกินอายุ และก็เพลงของเค้าที่ก็ปล่อยออกมาก็คือดังมากๆ น่าจะทำให้เพลงของเรามันดูแบบไปด้วยกันได้ ในช่วงที่เราร้อง ก็เป็นสไตล์ป๊อป และก็อีกที่มาหนึ่ง คือเป็นเนื้อเพลงที่ผมฟังครั้งแรก แล้วรู้สึกแบบ โอ้โห โดนมากๆ เป็นเนื้อเพลงที่ “พี่ดิว อรุณพงศ์” หรือว่า “ดิว The Star 5” เป็นคนที่แต่งเนื้อเพลงนี้ขึ้นมาครับ ผมชอบเนื้อเพลงและเอ็มวีเพลงนี้มา เป็นอีกฟีลนึงที่เราไม่เคยถ่าย แล้วก็มีหลายซีนที่หลายคนก็ชื่นชอบ เป็นอีกอารมณ์หนึ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนใน MV ครับ”

กัน นภัทร

7. อย่าเสียใจคนเดียว – Better Weather

“เพลงนี้เป็นเพลงที่รู้สึกประทับใจมากครับ ได้ยินจากซีรีส์เรื่องหนึ่ง แล้วก็รู้สึกคิดถึงใครสักคนหนึ่งที่เราอยากจะให้กำลังใจเวลาที่เรารักใครสักคนนึง เราก็อยากให้เค้าแบบรู้สึกมีความสุขทุกครั้ง รู้สึกแบบ ถ้าเค้ามีความเหนื่อย ท้อ เราก็อยากแบ่งเบาภาระสิ่ง ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันไป คือเพลงนี้ รู้สึกแบบพอได้ยินเนื้อปุ๊ปอ่ะ นึกถึงคนที่เรารัก จริงๆมันให้ได้ทุกคน ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เป็นแฟนเรา เป็นพ่อ แม่ พี่น้อง ครอบครัวเราก็ได้ ก็คือแบบอย่าเสียใจคนเดียวนะ ตามเนื้อเพลง มันคือความที่เป็นคนอบอุ่นอยู่ในนั้นครับผม”

8. กาลครั้งหนึ่ง – STAMP Feat. Palmy อีฟ ปานเจริญ

“เพลงนี้ เป็นเพลงที่ “พี่แสตมป์” (อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข) ร้องกับ “พี่ปาล์มมี่”(อีฟ ปานเจริญ) เป็นเพลงที่มีความหมายกับผมมากๆ อันนี้คือเพลงที่ผมคิดถึงคุณยายที่เสียไปน่ะครับ ผมกับคุณยายผูกพันกันมาก ตั้งแต่เด็กท่านเลี้ยงผมมามากว่าคุณแม่เลี้ยงด้วยซ้ำ เพราะว่าคุณแม่เป็นครู ผมก็จะแบบติดคุณยายมาก คือผูกพันกับยาย แล้วก็ยายนี่ต้องบอกว่าเป็น

คนหนึ่งที่ทำให้ผมได้มีวันนี้เลยครับ คือตอนเด็กๆ การที่ผมได้เริ่มร้องเพลง แล้วก็การที่คุณพ่อคุณแม่พาผมเข้ามาประกวดร้องเพลง ตอนอายุประมาณ 7 ขวบ ผมร้องเพลงในห้องน้ำเล่นๆ เสียงมัน ก็เข้าไปในหูคุณยาย ยายก็เลยบอกว่า กันมันมีแววนะ พามันไปประกวดร้องเพลงดูมั้ย เป็นจุดเริ่มต้นที่แบบมันมีความแบบคิดถึงทุกครั้งที่ ที่เรานึกถึงคุณยาย แล้วก็เพลงนี้ มันเป็นเพลงที่มีความหมายเรื่องของสิ่งที่เราเคยผูกพันมากๆ สิ่งที่เราเคยเจอ มันเป็นความรักที่เราเคยรู้สึกดีมากๆ หลายคนอาจจะมองความรัก เพลงนี้เป็นความรักที่แบบเคยพบคนที่เราเคยรัก อยู่ด้วยกันมา รักกันมา แต่ว่าผมนึกถึงคุณยายเสมอ ที่ได้ยินเพลงนี้ทุกครั้ง แล้วก็มัน พูดไม่ออกเหมือนกันวันที่คุณยายจากเราไป ก่อนที่คุณยายจะเสียไป ก็อยากให้เค้าอยู่บ้านหลังใหม่ ก็อย่างที่บอกว่า อยากให้เค้าอยู่บ้านหลังใหม่ที่กำลังสร้างอยู่ สร้างใกล้เสร็จแล้วนะ ผมก็เสียดายที่คุณยายไม่ได้เห็นมันนะครับ แต่ว่าเราก็โชคดีที่เราก็ได้มีโอกาสทำให้คุณยายได้เห็นในสิ่งที่หลานคนนี้ได้ทำเอาไว้หลายๆอย่าง นึกถึงแล้วมันก็มีความสุข เพราะยายจะชอบให้ผมร้องเพลงให้ฟัง เมื่อได้ยินเสียงผมเค้าก็จะมีรอยยิ้ม มีความสุข ผ่านแววตาของเค้าออกมา แล้วก็รู้ได้ว่าเค้ายังรักหลานเสมอ แล้วก็เพลงนี้ ก็คือเพลงที่เหมือนเนื้อทุกเพลงที่ได้ยินกัน ได้ฟังกัน เพลง ๆ นี้ มันเป็นความรักที่สวยงาม แล้วก็มีท่อนนึงที่ผมชอบมากที่พูดว่า “จะทำให้เธอภูมิใจ ทุกครั้งที่เธอได้มองมาเห็น” ถึงแม้ว่าทุกวันนี้เค้าจะไม่อยู่กับเราแล้ว แต่ว่าเราก็จะทำที่เรามีอยู่ทุกวันนี้ครับ ให้เค้าได้เห็นในสิ่งที่เราตั้งใจ ที่เค้าภูมิใจ ที่เค้ามองลงมา”

กัน นภัทร

9. ยิ่งไม่รู้ ยิ่งต้องทำ – ปองกูล สืบซึ้ง

“เพลงนี้เป็นคติประจำใจผมเลย ที่ใช้ในการดำรงชีวิตมาโดยตลอด เป็นเพลงของ “พี่ป๊อป” (ปองกูล สืบซึ้ง) อย่างที่บอกไปว่า ชีวิตเราเหมือนชื่อเพลง ผมเชื่อว่าทุกคนคงจะรู้ว่า ไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิต เรื่องของการที่เราจะอยู่กับคนที่เรารักไปได้อีกนานแค่ไหน คือเราไม่สามารถตอบได้เลย พ่อ แม่ เรา กับคนที่เรารัก แล้วก็ไม่รู้ว่าเรามีชีวิต หรือว่าได้ทำอะไรให้กับคนที่เรารักไปอีกนานแค่ไหน แต่ว่าวันนี้เรายังมีโอกาส รู้สึกว่ามันยังเป็นคติของเรา ทำให้ดีที่สุดในทุกวัน ให้เค้าได้มีรอยยิ้ม ให้เค้าได้มีความรู้สึกแบบอย่างที่บอกว่าภูมิใจในสิ่งที่เราทำมา อันนี้คือผมพูดจริงๆนะว่าผมโชคดีที่มีครอบครัวที่ดี มีคุณพ่อคุณแม่ที่ปลูกฝังในสิ่งที่ดีๆมาตลอด ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ ผมอาจจะไม่ได้อยู่กับพ่อแม่มากเท่ากับลูกคนอื่น ๆ ตั้งแต่ผมมาเรียนสวนกุหลาบ ตั้งแต่ผมมาเรียนกรุงเทพ จนถึงทุกวันนี้ก็ไปกลับสุพรรณเอา บางทีคุณพ่อคุณแม่ขึ้นมาหา บางทีเราก็กลับไปหาเค้า แต่ว่าผมรู้สึกว่าผมไม่เคยขาดเลย กับสิ่งที่มันคือความรักความอบอุ่นที่คุณพ่อคุณแม่เติมให้ผมมาตลอด และก็สิ่งดีๆที่เค้าปลูกฝังให้เรามามีทุกวันนี้ได้ เพราะฉะนั้น เรามีโอกาสทำให้เค้ามีความสุขบ้าง ผมก็อยากทำให้มันเยอะที่สุดที่จะทำได้ในช่วงที่เค้ายังมีเวลาอยู่กับเรา ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำ เราทำให้คนอื่นมากกว่าทำให้ตัวเอง ตั้งแต่เข้ามาในวงการ ฉะนั้นสิ่งที่อยากทำและยังไม่ได้ทำคือเรื่องของการใช้ชีวิตในแบบที่เป็นตัวของตัวเอง แต่ว่ามันยังทำไม่ได้ครับ มันยังต้องมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำให้คนที่เรารักอยู่ แต่ว่ามันก็แลกมากับสิ่งที่คุ้มค่าคือทำให้คนที่เรารักมีความสุข ใช้ชีวิตไม่ให้ประมาทด้วยครับ”

10. รัก – อัญชลี จงคดีกิจ

“เพลงที่เลือกๆมานี่ชีวิตผมดู Slow Life มากเลย มีแต่เพลงช้าๆซึ้งๆ สำหรับเพลงนี้เป็นของพี่ “บอย โกสิยพงษ์” และก็ร้องโดย “พี่ปุ๊” (อัญชลี จงคดีกิจ) ก็เป็นเพลงที่มีความหมายที่ดีมากๆ พูดถึงความรักที่เราอยากจะบอกกับคนที่เรารักทุกคนบนโลกใบนี้ก็ว่าได้ คือใครที่มีความรักอยู่กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรักครอบครัว รักแฟน รักเพื่อน เพลงนี้คือ เป็นเพลงที่แบบสามารถขอบคุณสิ่งดีเหล่านี้ได้ทุกคนเลยบนโลกใบนี้ ที่เรารักเขา และเพลงนี้ ผมอยากจะขอมอบให้กับแฟนคลับของผม ที่อยู่เคียงข้างมาตลอด ในการทำงานวงการนี้ ให้กำลงใจในสิ่งที่เราทำมาตลอด 9 ปีที่ผ่านมา ก็อยากจะขอมอบเพลงที่ 10 ซึ่งเป็นเพลงสุดท้ายในวันนี้ ที่ผมเลือกให้กับพวกเขาเหล่านี้ ที่คอยยืนอยู่เคียงข้างเรามาเสมอ และก็มันเป็นเพลงที่มีพลังที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับผม คือ คนที่เค้ารักเราจริง ๆ และก็อยากเห็นคนที่เค้ารักได้ทำงานในสิ่งที่เค้าเต็มที่กับมัน แล้วก็คอยเป็นกำลังใจให้เค้า คอยเติมน้ำ เติมพลังใจ เติมเรี่ยวแรงให้เค้าได้แบบมีพลังทำงานต่อไป นี้คือสิ่งที่แบบมันหาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้ว คือผมโชคดีมากๆ เค้าไม่ใช่คนในครอบครัวเรานะ เค้ารักเรา แล้วดูแบบเหมือนมันผูกพันกับเค้าและก็ต้องขอบคุณพวกเค้าเหล่านั้นมาก ก็เลยอยากจะมอบเพลงรักเพลงนี้ให้กับพวกเขาเป็นการขอบคุณทุกอย่างครับ”


 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up