account_circleช่อง 3 ขยายฐานคนดูจับทางละครสายวายมากขึ้น พร้อมยกละครเรื่อง ซ่อนเงารัก เป็นต้นแบบนำร่อง ฟินได้แบบไม่ปล้ำจูบกัน
2-3 ปีที่ผ่านมากระแสละครวายหรือซีรีส์วายในประเทศไทยเป็นที่พูดถึงอย่างมาก แต่เชื่อว่ายังมีคนจำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่ไม่คุ้นเคยและสงสัยว่า “ละครวายคืออะไร?” ซึ่งหลังจากไปหาข้อมูลก็พบว่า Y น่าจะได้มาจากประเภทของการ์ตูนญี่ปุ่น Yaoi แนวชายรักชาย ที่ไม่เน้นเนื้อหาฉากมีเพศสัมพันธ์ พัฒนามาจากการ์ตูนผู้หญิง แน่นอนว่าผู้อ่านส่วนใหญ่ก็ผู้หญิง ว่ากันว่ากระแสวายได้รับความนิยมสุดๆ ในหมู่แฟนคลับบอยแบนด์ญี่ปุ่น เนื้อหาเหมือนนวนิยายทั่วไปแต่เปลี่ยนชื่อตัวละครเป็นชื่อศิลปินเรียกว่า “Fanfiction” ก่อนจะค่อยๆ พัฒนาไปในรูปแบบของภาพยนตร์และซีรีส์ ที่โด่งดังอาทิ Hana wa Saku ka, Hana wa Saku ka,Fujimi Orchestra,Seven days ฯลฯ
ไม่ใช่แค่ญี่ปุ่นเท่านั้นเพราะในจีนเองก็ฮิตไม่แพ้กันมีการสร้างออกมาเอาใจคอซีรีส์วายนับร้อยเรื่อง โดยหนึ่งในซีรีส์ที่เป็นดาวเด่นคือ Addicted ที่มีเนื้อหาเข้มข้น สร้างชื่อให้นักแสดงนำเป็นอย่างมาก ทว่าในภาคสองนั้นทำคอละครเศร้าไปตามๆ กันเมื่อทางการจีนประกาศระงับฉายกลางอากาศ จากฉากเลิฟซีนที่ลึกซึ้งเกินไป เนื่องจากการรักเพศเดียวกันยังเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายในจีน
ถึงจะเจอกับข้อห้ามมากมายซีรีส์วายก็ไม่ตาย ทีมงานละครวายในจีนต้องทำการบ้านเพิ่มเติมเพื่อให้ละครยังมีกลิ่นอายวายที่คนชื่นชอบแต่ก็ต้องไม่ขัดกับกฎหมายตัวอย่างเช่น “The Untamed” หรือ “ปรมาจารย์ลัทธิมาร” ที่พูดถึงเรื่องความรักในรูปแบบเพื่อนของลูกผู้ชาย ไม่มีซีนเลิฟซีนหวือหวา แต่ก็สามารถทำให้ผู้ชมร่วมฟินไปกับละครได้
มาถึงละครวายสัญชาติไทยกันบ้าง ก็มีหลายเรื่องเลยที่โด่งดัง และไม่ใช่เพียงแค่ในประเทศเท่านั้นแต่ยังขยายฐานแฟนคลับไปในต่างประเทศด้วย เช่น “คริส-สิงโต” จากเรื่อง “Sotus S The Series”, “ก็อต-บาส” จาก เรื่อง “2Moons The Series”, “กลัฟ-มิว” จากเรื่อง “TharnType The Series”, “เต-นิว” Kiss Me Again ฯลฯ ถ้าเทียบกับจีนแล้วในบ้านเราถึงจะไม่ผิดหลักกฎหมายหรือกฎทางทีวีใดๆ เลย แต่ก็ยังเป็นเฉพาะกลุ่ม อย่างสื่อทีวีหลักช่อง 3 ไม่ได้เคยผลิตละครแนวนี้มาก่อน นั่นจึงทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนดูละครส่วนใหญ่
โดย “ซ่อนเงารัก” ถือเป็นละครเรื่องแรกที่มีกลิ่นอายวายของช่อง 3 โดย “บี๋-อริยะ พนมยงค์” กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.บีอีซี เวิลด์ (ช่อง 3) เปิดเผยว่าละครเรื่องนี้ทำขึ้นเพื่อขยายกลุ่มคนดู ฟินแบบไม่ปล้ำจูบกัน
“ถ้าแฟนละครตัวจริงของเรา จะเห็นว่าเราพยายามปรับรูปแบบการเล่าเรื่อง การนำเสนอให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความชอบของผู้ชมในยุคนี้ เพราะละครมันก็เป็นสิ่งที่สะท้อนชีวิตประจำวันของเรา ถามว่าควรมีไหม ผมคิดว่าควรมีแต่จะทำยังไงให้มันยังมีความเป็นช่อง 3 คือไม่ใช่ปล้ำจูบกัน อันนั้นอาจจะเยอะไป เราต้องดูว่าจะทำอย่างไรให้มันมีศิลปะให้มันออกมาดูดีได้ ให้ทุกคนดูได้ด้วย นี่คือสิ่งที่เราพยายามทำอยู่ อย่างซ่อนเงารักมันมีกลิ่นของวาย แต่มันไม่ได้รุนแรง มันยังสวยอยู่ ผมชอบตรงนั้น มันเป็นการดึงกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาดูละครเราแล้วมันก็ได้กระแสที่ดีด้วย ไม่ได้วายที่จะต้องเห็นกันจะจะ นี่คือตัวอย่างที่มีการเล่าเรื่องที่มีกลิ่นอายของวายเบาๆ ภาพยังดูสวย”
“ละครซ่อนเงารักตอบโจทย์ได้หลายโจทย์ของเรามาก อีกอย่างที่เราอยากจะปรับคือเราอยากให้คนดูเดาไม่ได้ว่าเรื่องมันจะจบอย่างไร ต้องยอมรับว่ามันเป็นสิ่งหนึ่งที่เราได้ฟีดแบ็กมา ซึ่งเราก็ยังจะทำต่อไป เราก็พยายามทำให้ละครของเราเป็นอย่างนั้นอยู่ วันนี้ซ่อนเงารักตอบโจทย์ทุกข้อของเรา เป็นตัวอย่างที่ดี”
