เคลลี่ ธนะพัฒน์ สามีสายเปย์ ลือทุ่มงบ 20 ล้าน เสกงานแต่งในฝันให้ น้องนาย

ถึงคู่เจ้าบ่าว-เจ้าสาว เคลลี่ ธนะพัฒน์ และ “นาย ชนุชตรา” จะเคยออกมาเปิดเผยว่า งานฉลองมงคลสมรสของพวกเขาจะจัดขึ้นในสไตล์อบอุ่น แต่จากภาพที่เห็นบอกเลยว่าแต่งนี้จัดใหญ๋ จัดเต็มแบบไม่ธรรมดาเหมือนกัน ท่ามกลางข่าวลือสะพัดว่าเจ้าบ่าวสายเปย์ทุ่มทุนกว่า 20 ล้านบาท

ถึงคู่เจ้าบ่าว-เจ้าสาว เคลลี่ ธนะพัฒน์ และ “นาย ชนุชตรา” จะเคยออกมาเปิดเผยว่า งานฉลองมงคลสมรสของพวกเขาจะจัดขึ้นในสไตล์อบอุ่น แต่จากภาพที่เห็นบอกเลยว่าแต่งนี้จัดใหญ่ จัดเต็มแบบไม่ธรรมดาเหมือนกัน ท่ามกลางข่าวลือสะพัดว่าเจ้าบ่าวสายเปย์ทุ่มทุนกว่า 20 ล้านบาท

หลังจากที่คบหาดูใจกันมาได้ 3 ปี ความรักของ เคลลี่ ธนะพัฒน์ และ “นาย ชนุชตรา” ก็สุกงอมได้ที่ โดยเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2561 ทั้งสองได้เข้าพิธีหมั้นและแต่งงามตามประเพณีไทย ล่าสุดคู่รักคู่นี้ได้ถือฤกษ์ดีวันที่ 30 มีนาคม 2662 จัดงานฉลองมงคลสมรสขึ้น ณ วาระเวลา การ์เด้น ฮอลล์ เลียบทางด่วนรามอินทรา ท่ามกลาง ครอบครัว ญาติๆ รวมถึงเพื่อนๆ ทั้งในและนอกวงการบันเทิง มาร่วมแสดงความยินดีอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดยทั้งงานหลักและงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ สนุกสนานและน่าประทับใจเป็นอย่างมาก

ล่าสุดคู่รักคู่หวานได้ควงคู่กันมาออกรายการ “คุยแซบ show” ทางช่อง one31 พร้อมเปิดเผยถึงเรื่องราวหลังแต่งงาน รวมถึงกระแสข่าวเม้าท์ที่ว่าเจ้าบ่าวกลายเป็นพ่อบุญทุ่ม เนรมิตงานแต่งในฝันให้เจ้าสาว โดยการทุ่มงบให้ถึง 20 ล้านบาทเลยทีเดียว

ถามถึงงานแต่งงานที่เพิ่งผ่านมา เป็นอย่างไรบ้าง?

เคลลี่ : ต้องบอกว่างานออกมาตามที่เราต้องการ แล้วก็ต้องบอกว่าเป็นงานที่สนุกมาก ไม่อยากกลับเลย อันนี้เพื่อนๆ บอกมานะครับ แต่ก็ต้องถามน้องนายเหมือนกันว่ารู้สึกยังไงบ้าง

นาย : คืองานที่ออกมาเหมือนงานในฝันของเราเลยค่ะ คือเราจะเป็นผู้หญิงที่ชอบดูในเรื่องของงานแต่งงาน ชอบดูชุด ชอบดูงาน คือมันออกมาเหมือนที่เราหวังไว้มาก

ก่อนหน้านี้ไปงานแต่งงานของคนอื่นบ่อยไหม?

นาย : ก็ไปบ่อยค่ะ อย่างที่บอกว่าไปดูเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่มีแบบที่ถูกใจเรา แต่งานของเราถูกใจเรามากที่สุดค่ะ

ธีมและคอนเซ็ปต์งานคืออะไร?

นาย : คือนายจะเป็นคนที่ชอบคริสตัลไงคะ แล้วนายก็เลยบอกคนจัดงานไว้ว่าอยากได้แบบมีคริสตัลเยอะๆ แล้วดอกไม้ที่ชอบก็จะเป็นดอกกุหลาบกับดอกไฮเดรนเยีย ก็เลยขอในเรื่องของส่วนนี้ไว้ค่ะ

อะไรแพงที่สุดในงานแต่งนี้?

เคลลี่ : คือผมต้องบอกว่าดีใจมาก ที่มีหลายๆ คนมาทักว่า ดูแพง ดูเว่อร์ ซึ่งผมต้องบอกว่าเราจัดงานนี้ เราไม่ได้ตำน้ำพริกละลายน้ำ เราไม่ได้ฟุ่มเฟือย คือเราจะมีการตั้งงบไว้ก่อนแล้ว คือเราตั้งใจอยู่แล้ว เรื่องต่อมาคือเรื่องดอกไม้ ที่ผมต้องรีบตอบก็เพราะว่าบางคนลงทุนเป็นล้านๆ สำหรับดอกไม้ แต่ผมว่าไม่จำเป็น คือการจัดงานสวยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะ แต่เราสองคน จะนั่งใส่ใจในเรื่องดีเทลต่างๆ เราดูในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการตกแต่ง เรื่องของเอนเตอร์เทนเมนท์ เรื่องของอาหารตลอดจนเครื่องดื่ม แต่เวดดิ้งแพลนเนอร์ของเราก็ช่วยได้เยอะเหมือนกัน แล้วก็โชคดีที่ผมมีเพื่อนฝูงที่รักแล้วก็สนิทกันมากหลายคน เลยได้คนนู้นคนนี้มาช่วยงานเราอีก

มีกระแสข่าวลือว่างานฉลองมงคลสมรสนี้ ใช้เงินไปถึง 20 ล้านบาทจริงหรือไม่?

เคลลี่ : โอ้โหวว ต้องขอบคุณมากนะครับที่มองว่าผมรวยขนาดนั้น คือจริงๆ ต้องบอกว่าน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของอันนั้นอีกครับ คืออย่างที่บอกไปว่าเราคุมดีเทลเองเกือบทั้งหมด แล้วก็ต้องบอกว่าผมต้องตามใจเจ้าสาว เพราะเขาคือคนที่ผมรักที่สุด และเราก็อยากให้เขาในสิ่งที่ดีที่สุด แต่อย่างที่บอกว่าเราสองคนไม่ใช่คนที่ฟุ่มเฟือย ไม่จำเป็นว่าเราต้องหรูหราที่สุด เพราะเราไม่ได้จัดงานเพื่ออวดใคร แค่อยากจัดงานให้เป็นสิ่งที่เราสองคนต้องการ ผมอาจจะบอกตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้ แต่จะบอกว่าไม่ได้แพงอย่างที่หลายๆ คนคิดครับ

จุดที่รู้สึกเหนื่อยที่สุดคือจุดไหน?

เคลลี่ : การวางงานสำหรับผม จริงๆ ไม่ได้เหนื่อยอะไรเลยนะครับ แต่เหนื่อยเรื่องของการคิด ในเรื่องของรายละเอียด เพราะผมเป็นคนที่ชอบดูแลคน ผมอยากให้งานออกมาเป็นงานที่สนุก ไม่ใช่งานที่คนมาแล้วร่วมพิธีการต่างๆ แต่อยากให้มาแล้วสนุก แล้วอยากอยู่ต่ออาฟเตอร์ปาร์ตี้ด้วย เพราะมันเป็นงานฉลองนะครับ ก็เลยอยากให้สนุกกัน แล้วกว่าผมจะมีงานแบบนี้ได้ ผมก็ต้องทำงานเก็บตังค์นานมากครับ

ในเรื่องของสินสอดทองหมั้นเป็นยังไงบ้าง?

เคลลี่ : ก็ต้องบอกว่าผมก็โชคดีอีกนะครับ ที่ทางบ้านเขาไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย คือไม่ได้ขออะไรเลยจริงๆ ครับ แต่ผมก็ต้องให้อยู่แล้วครับ คือทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมี ผมก็ต้องให้น้องนายอยู่แล้วครับ เขาไม่ต้องขอหรอกผมก็ให้อยู่แล้ว

เห็นว่าแหวนแต่งงานใหญ่มาก ประมาณกี่กะรัต?

เคลลี่ : อันนี้ 3 กะรัตครับ

ชีวิตหลังงานแต่งงาน ได้เป็นคู่ชีวิตกันแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง?

เคลลี่ : คือตั้งแต่คืนแรกเลยนะครับ มีเพื่อนมาเยอะมาก อยู่ปาร์ตี้กันถึงเช้าครับ แล้วทุกคนก็ถามเรื่องทายาท หลังจากนั้นเราก็กลับไปที่บ้าน ก็ต้องบอกว่าแทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเลยหลังจากตื่นมา เพราะเราต่างคนต่างก็ถ่ายละครกันอยู่ครับ

นาย : ก็เหมือนกลับไปที่บ้าน แล้วก็ยังใช้ชีวิตปกติกันอยู่ คือตื่นขึ้นมาตี 5 แล้วก็ต้องออกไปทำงาน แล้วพี่เคลลี่ก็ออกตามไปค่ะ

สุดท้ายเมื่อถามว่ามีแพลนฮันนีมูนกันเมื่อไหร่?

เคลลี่ : คือยังไม่ได้วางแผนเรื่องฮันนีมูนกันเลยครับ แต่ว่าผมมีทริปที่จะต้องไปกับบริษัท คือไปที่อิตาลีกับสวิตเซอร์แลนด์พอดี ก็เลยจะถือเป็นพรีฮันนีมูนไปก่อน แต่ที่คิดไว้คือน้องนายเขาอยากไปที่อเมริกา ก็อยากไปดูบ้านของเราที่เราเติบโตมา ไปดูการใช้ชีวิตของเราในตอนเด็กอะไรแบบนี้ครับ

---

ข้อมูลจาก : รายการ “คุยแซบ show” ทางช่อง one31