ภูมิแพ้ลูกสาว “พ่อป้าง-น้องขมิ้น” คู่ซี้ ศิลปินยกบ้าน (มีคลิป)

ได้ยินเพลงของผู้ชายคนนี้ก็บ่อย ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นคู่ดูโอ้ในนามวงไฮดร้า จนมาเป็นศิลปินร็อคฉายเดี่ยวบนเวที ชื่อของ “ป้าง-นครินทร์ กิ่งศักดิ์” ก็ยังคงเป็นที่จดจำของคนฟังเพลง ที่ผ่านมาเราอาจจะเห็นมาดเข้มๆ ของเขาตามคอนเสิร์ตมากมาย แต่วันนี้แพรวดอทคอมมีโอกาสได้ไปเยี่ยมผู้ชายคนนี้ถึงที่บ้าน เพื่อพูดคุยชีวิตหลังเวทีอันอบอุ่นของเขากับลูกสาววัย 9 ขวบ “น้องขมิ้น กิ่งศักดิ์” ทายาทคนเดียวของพี่ป้าง ที่กำลังฉายแววความน่ารัก พร้อมกับพรสวรรค์การวาดรูปที่ใครได้เห็นแล้วต้องตะลึง

ทำงานด้านนี้ต้องทัวร์คอนเสิร์ตตลอด พี่ป้างมีเวลาใกล้ชิดกับลูกมากแค่ไหน

พี่ป้าง : ช่วงนี้พี่ทัวร์คอนเสิร์ตตลอด เดือนนึงก็ประมาณ 10 กว่าวัน อยู่กรุงเทพฯ บ้าง ต่างจังหวัดบ้าง แล้วแต่ว่าเป็นช่วงเทศกาลอะไร แต่ถ้าช่วงที่หยุดก็จะอยู่แต่บ้าน เล่นกับลูกเต็มที่

เห็นมาดเข้มๆ แบบนี้ ดุลูกบ้างไหม

พี่ป้าง : นาน น๊าน นนนนนน ดุที ครับ (ยิ้ม) ส่วนใหญ่จะดุเรื่องความปลอดภัย เพราะเขาชอบเล่นโลดโผน ต้องคอยเตือน เขายังเด็กด้วย ความซนยังมีอยู่เยอะ

ลูกสาวคนนี้นิสัยเป็นไงบ้าง

พี่ป้าง : ตอนเด็กๆ เขาเลี้ยงยากพอสมควร ร้องไห้เสียงดังมาก กกกกกกก ตอนกลางคืนถ้าตื่นจะไม่มีใครหลับต่อได้ เพราะเขาจะแผดเสียงไปทั่วบ้านเลย พอโตมาก็ซนนิดหน่อย แต่เป็นเด็กที่เรียนดี เกราดเฉลี่ยน้อง 4 มาตลอด และเขาก็ชอบวาดรูป ซึ่งก็ทำได้ค่อนข้างดีด้วย

ขมิ้นชอบเรียนวิชาไหนมากที่สุดคะ

ขมิ้น : อืม…หนูชอบเรียนวิชาที่ได้ใช้ศิลปะค่ะ


ผลงานบางส่วนของน้องขมิ้น FB : Kamin Gallery

โตขึ้นอยากเป็นอะไรคะ

ขมิ้น : หนูอยากเป็นนักออกแบบสิ่งของ หรือไม่ก็เฟอร์นิเจอร์ค่ะ


ผลงานบางส่วนของน้องขมิ้น FB : Kamin Gallery

ดูแล้วลูกสาวจะเป็นอาร์ทติสท์ พี่ป้างเห็นแววน้องตั้งแต่เมื่อไหร่

พี่ป้าง : เรื่องวาดรูปเขามาเองเลย ประมาณ 3-4 ขวบ ก็จับดินสอวาด ตอนแรกพี่ก็ไม่ได้สนใจอะไร คิดว่าคงเหมือนเด็กทั่วๆ ไป แต่เขาก็วาดมาเรื่อยๆ จนประมาณ 5-6 ขวบ แม่เขาเริ่มสังเกต และมาให้พี่ดูภาพที่น้องวาด ก็เริ่มเอะใจว่า สิ่งที่เขาวาดมันเหมือนเริ่มโชว์ตัวตนเขาเอง ชักไม่เหมือนเด็กทั่วๆ ไปแล้ว ตอนแรกก็คิดว่า หรือเป็นเพราะเราเป็นพ่อแม่ แล้วเห่อวะ (ยิ้ม) เลยให้คนอื่นดู เขาก็บอกวาดแบบนี้ไม่ธรรมดาแล้ว พี่กับแฟนเลยส่งเสริมเต็มที่


ผลงานน้องขมิ้นตอนอายุประมาณ 3-4 ขวบ วาดให้พ่อป้างเป็นของขวัญวันพ่อ

คิดว่าเป็นเพราะอะไรน้องถึงโดดเด่นเรื่องการวาดรูปขนาดนี้

พี่ป้าง : มันก็คงมาจากหลายๆ อย่าง เพราะตั้งแต่ที่น้องอยู่ในท้องก็พยายามหาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาช่วย สรุปก็ใช้วิธีเปิดเพลงแจ๊ซและเพลงคลาสสิกให้ฟัง เพราะรู้สึกว่าเพลงแนวนี้มันก่อให้เกิดความรู้สึกในด้านบวก ให้เขาฟังไปเรื่อยๆ พอคลอดก็ให้ฟังตลอด เห็นอะไรสวยๆ ก็จะชี้ให้เขาดูหมด ส่วนที่ว่าจะมาจากพ่อแม่หรือเปล่า พี่ว่าหลักๆ มันอยู่ที่ตัวเขามากกว่าที่ทำให้เขามีพรสวรรค์ด้านนี้ ด้วยสิ่งแวดล้อมก็อาจจะมีบ้าง เพราะพี่กับแฟนเองก็ชอบศิลปะทั้งคู่

มีลูกสาวแล้ว คิดอยากจะมีลูกชายเพิ่มไหม

พี่ป้าง : จริงๆ พี่กับแฟนอยากได้ลูกสาวมาตั้งนานแล้ว ตั้งใจไว้ว่าคนแรกถ้าเป็นไปได้ขอเป็นลูกสาว ก็ได้สมใจ พี่ว่าลูกสาวมันเหมือนตุ๊กตา น่ารักๆ ตอนแรกคิดจะมีสักสองคนนะ แต่แฟนพี่ค่อนข้างมีลูกยาก พออายุเริ่มเยอะขึ้นด้วย เลยคิดว่างั้นก็มีแค่คนเดียวพอก็ได้

พ่อกับแม่ใครดุกว่ากันคะน้องขมิ้น

ขมิ้น : คุณพ่อค่ะ มีตีด้วย แต่เบามาก กกก (พ่อป้างหัวเราะ)


น้องคอนเฟิร์มมาแล้วว่าพ่อป้างดุ แสดงว่าโตขึ้นหวงลูกสาวด้วยใช่ไหม

พี่ป้าง : หวงครับ …(หน้าเข้มทันที) คือ ต้องคอยดูแลเขาตลอด พี่คิดว่าสังคมมันมีทั้งเรื่องดีและแย่ เราต้องกันเขาออกจากเรื่องแย่ๆ เท่าที่จะทำได้ แต่อนาคตเมื่อเขาโตขึ้นพี่ก็ไม่ได้วางกรอบอะไร จะใช้วิธีหล่อหลอมเขาให้ดูด้วยตัวเอง พี่กับแฟนพยายามจะสอนแบบบูรณาการ ค่อยๆ ใส่ไป ให้รู้ว่าคนเรามีแบบไหน บางคนทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร คนที่ทำสิ่งไม่ดีทำไม่ถึงทำ และคนดี ทำไมถึงทำดี มันแตกต่างกันอย่างไร พยายามสอนพื้นฐานให้ ส่วนเขาจะคบใครคงไปตีกรอบเขาไม่ได้ แต่ความรู้ที่เราพอจะมี อย่างเรื่องวิธีการดูคน ก็จะสอนเขาว่าอย่ามองแค่ข้างหน้า ให้ดูที่ภาพรวมด้วย

เรื่องแววความเป็นศิลปินของลูกสาว มีวางแผนไว้ยังไงบ้าง

พี่ป้าง : พี่ก็คุยๆ กับเขานะ มีถามเหมือนกันว่า ขมิ้นชอบวาดรูปแบบนี้ จะเอาไปทำอะไรได้บ้าง ก็อธิบายว่าทำได้หลายอย่างลูก เป็นดีไซเนอร์ออกแบบเสื้อผ้า ออกแบบผลิตภัณฑ์ก็ได้ หรือจะเป็นสถาปนิกก็ได้ แล้วแต่ลูกเลย แต่ตอนนี้เขายังเด็กมาก อาจจะมีเปลี่ยนอีก ต้องดูอีกทีว่าโตขึ้นแล้วเขาจะไปทางไหน



มีแววจะมาสายดนตรีเหมือนคุณพ่อบ้างไหม

พี่ป้าง : ไม่เลยครับ พี่แทบไม่เคยเห็นเขาร้องเพลงเลยนะ แต่เขาเล่นเปียโนแล้วมีฟิลลิ่งที่ดี หลักใหญ่ๆ ของพี่กับแฟนคืออยากให้เขาเป็นตัวเอง เราจะไม่มีการบังคับอะไรเลย แต่เท่าที่ถามเขาตอนนี้ ท่าทางไม่ได้อยากเป็นเบื้องหน้า อยากวาดรูปมากกว่าส่วนโตขึ้นจะยังไงต่อ ขอแค่ให้เป็นในสิ่งที่เขาต้องการทำแล้วมีความสุข พี่โอเคหมด


อินกับการเลี้ยงลูกสาวขนาดนี้ เคยแต่งเพลงให้หรือยัง

พี่ป้าง : มีอยู่ในหัวครับ กะว่าวันนึงที่เขาโตพอจะซึมซับข้อมูลอะไรได้ ก็จะแต่งให้เขา ตอนนี้แต่งไปเขาอาจจะถามว่า พ่อแต่งเพลงอะไร ฟังไม่รู้เรื่องเลย (หัวเราะ)



แล้วขมิ้นเองชอบเพลงไหนของคุณพ่อบ้างคะ

ขมิ้น : หนูชอบเพลงที่เหลือคือรักแท้ค่ะ …

นอกจากจะประสบความสำเร็จในเรื่องการทำเพลงให้คนฟังมีความสุขแล้ว เบื้องหลังของผู้ชายมาดเข้มคนนี้ก็เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของการเป็นพ่อที่แสนจะอบอุ่น ซึ่งพี่ป้างเองก็ได้เล่าให้ฟังทิ้งท้ายว่าคงมาจากการเลี้ยงดูของพ่อเขาเองด้วยที่เป็นต้นแบบให้เขาได้เดินตามจนทุกวันนี้

“พี่จะสนิททั้งกับพ่อและแม่ ตอนเด็กๆ เลยมีความทรงจำเยอะแยะไปหมด จำได้ว่าสมัยก่อนเราสี่พี่น้องจะรอคอยช่วงวันสุดสัปดาห์ตลอด เพราะพ่อพี่จะเอาเกมมาให้เล่นทุกศุกร์และเสาร์ เราจะยืนเรียงกันเลือกว่าจะเล่นเกมอะไร แล้วพ่อก็จะอธิบายเกมก่อนเล่น มันเป็นอะไรที่สนุกมาก และมีความสุขมาก พ่อพี่เลยเป็นต้นแบบหลายอย่างในชีวิตของพี่ด้วย มาวันนี้พี่คือหัวหน้าครอบครัว จึงต้องดูแลให้ดีเหมือนที่พ่อเราดูแล สมัยก่อนรุ่นพ่อแม่เรา ผู้ชายมีหน้าที่ออกไปทำงาน ผู้หญิงอยู่บ้านเลี้ยงลูก พี่ว่ามันถูกต้องแล้ว แต่ยุคนี้ด้วยความจำเป็นหลายอย่าง บางครอบครัวอาจทำไม่ได้ แต่ยังไงผู้ชายเมื่อกลับมาถึงบ้าน พี่ว่าก็ควรให้เวลากับครอบครัวให้มากที่สุด เพราะสิ่งนี้มันหล่อหลอมและเป็นภาพจำให้กับลูก มันอาจจะเป็นภาระที่หนักหนาเหมือนกันนะสำหรับการเป็นผู้นำครอบครัว แต่2 เพศนี้ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ผู้ชายเวลาอยู่นอกบ้าน จะตะลอนไปไหน ทำอะไรได้ แต่ต้องไม่ลืมคนที่บ้าน อาจจะเต็มที่บ้าง มีเรื่องบ้าๆ บอๆ บ้าง ก็อย่าทำให้ความเป็นชายมารบกวนครอบครัวที่สร้างมาจะดีกว่าครับ”

เรื่อง : SRIPLOI
ภาพ : แพรวดอทคอม
สถานที่ : บ้านคุณป้าง – นครินทร์ กิ่งศักดิ์

Praew Recommend

keyboard_arrow_up