อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข

ที่มา 10 บทเพลงฮิต ของ เจ้าพ่อเพลงรัก แสตมป์ – อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข

Alternative Textaccount_circle
อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข
อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข

หากเอ่ยถึงเจ้าพ่อเพลงรัก เราคงคิดถึงใครอื่นไม่ได้นอกจาก ศิลปินมากความสามารถ แสตมป์ – อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ที่นอกจากจะมีเสียงร้องที่ชวนหลงใหลแล้ว ทักษะแต่งเพลงของเขาก็ยังเป็นเลิศอีกด้วย

เชื่อว่าหากเราได้ลงมือทำอะไรอย่างเต็มที่ ด้วยความรักและความทุ่มเทแล้ว ความสำเร็จก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม เช่นเดียวกับ แสตมป์ – อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข นักร้องนักแต่งเพลงมากความสามารถ ที่ได้ลงมือสานความฝันของตัวเองได้สำเร็จ ทั้งนี้บางคนอาจจะรู้แล้ว แต่ก็มีบางคนที่อาจจะไม่รู้ว่า นอกจากเพลงในอัลบั้มของเขาจะได้รับความนิยมอย่างล้นหลามแล้ว เขายังแต่งเพลงให้กับศิลปินมากมาย ซึ่งหลายบทเพลงก็ยังอยู่ในความทรงจำ โดยเมื่อไม่นานมานี้ ในรายการ “Goodtime Soundtrack of Life” โดยสถานีวิทยุ Goodtime 98.5 FM ศิลปินหนุ่มแสตมป์ได้บอกเล่าชีวิต ผ่าน 10 บทเพลง ที่เขายังประทับใจจนถึงทุกวันนี้

อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข

1.สวรรค์ไม่แฟร์ – Bad Guys

“สำหรับเพลงแรก “สวรรค์ไม่แฟร์” เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ผมเลือกมา เพราะว่า เทปม้วนแรกในชีวิต ที่ผมซื้อเป็นของวงชื่อว่า Bad Guys ทำไมผมถึงซื้อเทปม้วนนี้ม้วนแรกก็ไม่รู้นะ ผมจำได้ว่าผมซื้อที่ตลาดพนัสนิคม ตอนนั้นผมอยู่ที่นั่น ซึ่งเพลงแรกที่ผมขอเลือกบอกเล่าชีวิตผม ชื่อเพลงว่า สวรรค์ไม่แฟร์ เป็นเพลงที่แปลกมากเลยนะ ถ้าคุณได้ฟังเพลงนี้มันจะมีประโยคเด็ดของมัน คือ  “หลับตาเถอะที่รักหลับให้สบาย ลาก่อนชาตินี้พบกันชาติต่อไป” คือว่าสำหรับเราตอนนั้นเราโตมากับเพลงแบบพี่เบิร์ด หรือว่าอะไรที่มันเป็น mainstream ดังนั้นเพลงนี้มันแปลก เรารู้สึกว่ามันแหกคอก มันเป็นเพลงที่พูดถึงความตายขึ้นมา ตอนนั้นผมน่าจะอายุแค่ 7-8 ขวบเองมั้ง แล้วผมก็แบบฟังแล้วชอบมันมากเลย ดูในทีวีแล้วเราอยากได้จังเลยเทปม้วนนี้ สมัยนั้นขอคุณพ่อซื้อ น่าจะ 70 บาท มันเป็นก้าวแรกของการก้าวสู่วงการเพลงร็อกของผมเลย คือเพลงอื่นในเทปมันก็จะแปลกมาก บางเพลงมีเนื้อหาเกี่ยวกับนักมวยปล้ำหญิงด้วย มันก็เลยแปลกมากสำหรับผม และก็รู้สึกว่ามันอยู่ในใจเราตลอดเลย ถ้าฟังจะนึกถึงตัวเองตอนเด็กๆ  และก็นึกว่าทำไมเราถึงไปฟังเพลงอะไรที่มันแปลกขนาดนี้ในตอนเด็กๆ นึกถึงความทรงจำสมัยตอน 7-8 ขวบ ว่าตอนนั้นเราชอบอะไรอยู่ เราเรียนอะไรอยู่ เราเล่นอะไรอยู่ คิดถึงบรรยากาศตอนเด็กซึ่งตอนนั้นน่าจะช่วง ป.4-ป.5 ครับ ทุกวันนี้ผมกลับไปดู YouTube เพลงสวรรค์ไม่แฟร์แล้วผมยังรู้สึกว่าแปลกอยู่เลยครับ”

2.บุษบา – Moderndog

“ต่อมาเพลง “บุษบา”เพลงนี้ทุกคนน่าจะรู้จักอยู่แล้ว ผมว่าเด็กในยุคผมน่าจะเป็นเพลงนี้แหละ ที่มันเปลี่ยนชีวิตของพวกเราแล้วก็ของวงการเพลงด้วย โมเดิร์นด็อกทำให้เกิด Alternativeสำหรับผมแล้วมันรู้สึกว่า บุษบาเป็นเพลงปลุกไฟในตัวผม ทำให้ผมอยากเล่นดนตรี คือ ทำให้ผมรู้สึกชอบเพลงมากนะ แต่ผมว่าตัวผมเองไม่สามารถที่จะเป็นไอดอลตรงนั้นได้ ผมไม่สามารถที่จะเป็นนักร้อง ที่อยู่ในทีวีตอนนั้นได้ ก่อนหน้านั้นผมคิดว่า ดาราเท่านั้นที่จะเป็นนักร้องได้ หรือว่าต้องเป็นนักร้องที่เก่งมากไปเลย แต่ว่าเพลงนี้มันทำให้เปิดประตู เป็นนักดนตรีที่แต่งเพลงเอง และก็ทำอะไรด้วยตัวเอง เล่นดนตรีด้วยตัวเอง ตอนนั้นฟังแล้วอยากเล่นกีต้าร์มาก แต่ว่ายังไม่มีโอกาสได้เล่น เพราะยังไม่มีกีตาร์ที่บ้าน จำได้ว่าเป็นเพลงที่ทำให้เรารู้สึกว่า โลกมันใหม่มากเลยมันน่าอยู่จังเลย มันมีอีกหลายทาง ไม่ใช่ว่าเข้าในวงการเพลง มันมีอีกหลายทางในการใช้ชีวิต ถ้าได้ฟังเพลงใน โมเดิร์นด็อกชุดนี้ มันมี เพลงกะลา ที่ตอบโจทย์ชีวิตผมมาก ทุกอย่างในตอนนั้นมันไม่มี internet เหมือนในตอนนี้ ทุกอย่างที่คนในสังคมได้รับ เกิดจากสื่อใหญ่ บริษัทที่ซื้อสื่อได้นำเข้าไปสู่ท่านผู้ฟัง แต่ว่าอัลบั้มเสริมสุขภาพของโมเดิร์นด็อก มันไม่ต้องมีสื่อแต่มันไปด้วยตัวเพลง นอกจากวงการเพลงแล้วโมเดิร์นด็อก ก็ได้สร้างหลายๆอย่าง มันทำให้วงการศิลปะ วงการออกแบบ การแต่งตัวทุกอย่าง มันเปลี่ยนไปหมดเลย”

อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข

3.ทางแยก – Yokee Playboy

“เพลง “ทางแยก” ขอเลือกมาจากตาม Timeline ตั้งแต่เด็กจนโต อย่างที่ผมเล่าว่า ต่อจาก “บุษบา” คือ วง Yokee Playboy  ตอนนั้นผมอยู่สักประมาณ ม.4 ครับ เริ่มตั้งวงดนตรีของตัวเอง เค้าเรียกอัลบั้มนี้ว่า นมหนาม เพราะจะมีนมปลอมๆ นมเหล็ก แล้วจะมีหนามแทงๆ ออกมา จะเขียนว่า Yokee Playboy ต้องบอกว่านั่นคือ พระคุณที่สามของผมเลยเป็นคุณครูในการเล่นกีต้าร์ของผม น้องๆ คนไหนที่เพิ่งเริ่มหัดเล่นดนตรีนะครับ พี่แนะนำเลยว่า อัลบั้มนมหนามคือที่สุดแล้วของเพลงไทย ทุกเพลงตั้งแต่ 1 ถึง 10 สุดยอดจริงๆ เพลงที่เลือกมานี้ชื่อว่า เพลง ทางแยก  จริงๆก็เป็นเพลงช้าเพลงหนึ่ง ผมรู้สึกว่าการอาเร้นจ์ เนื้อหา เสียงดนตรีต่างๆ มันแหวกมากเลย มันมีเสน่ห์มาก  ก็เลยทำให้นึกถึงวันที่ผมตั้งวงดนตรี จะต้องนึกถึงเพลงนี้ ที่เป็นเพลงที่เราแกะเล่นกัน ซึ่งตอนนั้นผมเล่นกีต้าร์อย่างเดียวครับ มีสมาชิก 4 คนครับ  ทุกวันนี้ยังเจออยู่บ้าง มีบางคนเป็นนายธนาคารไปแล้ว อีกคนก็เล่นดนตรีกลางคืน  อีกคนก็ขายสินค้าต่างๆ ส่วนอีกท่านก็ไม่ได้เจอแล้วครับ แต่ในสมัยนั้น คือตัวติดกันมากเลย  ได้ไปประกวดในคลื่นวิทยุแห่งหนึ่ง ได้เข้ารอบ 30 วงสุดท้าย ตอนนั้นก็อัดเทปกันเละเทะ… ในสมัยนั้นหลายๆ คนก็ยังใช้ซาวน์เบาท์ในการอัดอยู่ อัดทีละแทร็ค แต่ไม่ได้ใช้คอม  ใช้เทปวีดีโอแบบใหญ่ๆ สมมติว่าคุณจะเทค จะต้องมาตัดแปะต่อกัน ถ้ายุคนี้ก็แบบอัดไปเลยพันเทค สมัยนั้นก็จะยากหน่อย ซึ่งเป็นยุคสุดท้ายแล้วของเทปรีล”

4.เสียงข้างในจิตใจ – P.O.P

“เพลง “เสียงข้างในจิตใจ” สำหรับเพลงนี้ไม่ได้เป็นสตอรี่เรื่องดนตรีแล้ว แต่คือการเรียนครับ มีช่วงชีวิตหนึ่งที่ผม “ซิ่ว”   คือผมไปเรียนคณะวิทยาอยู่ช่วงนึง ผมรู้สึกว่าผมโง่มากเลย แล้วมัวแต่เล่นดนตรีทั้งวัน ไม่ค่อยได้เข้าเรียน ช่วงนั้นก็จะมีเพลงชุดนี้แหละครับออกมาเป็น Soundtrack P.O.P ชุด 2 จะมี พี่นภ พี่ก้อ พี่โต้ง ก็มีเพลงหนึ่งในนั้น ซึ่งตอนนั้นเราก็ยังเป็นเด็ก การจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างในชีวิต ก็ยากนะ แล้วเราจะเรียนอันนี้ต่อไปดีมั้ย หรือว่าเราจะลองไปสอบเอ็นทรานซ์ใหม่ ตอนนั้นผมแบบเละเทะมากเลย ทำให้เราก็ไม่แน่ใจว่า ถ้าเราไปเอ็นท์ฯใหม่ แล้วเราไม่ติดล่ะ จะเป็นอย่างไร ก็มีเพลงหนึ่งในอัลบั้มของ P.O.P ที่ชื่อ เสียงข้างในจิตใจ ซึ่งมันเป็น Soundtrack ของผมในช่วงเวลานั้น โดยในเพลงจะร้องว่า“สุดท้ายไม่ได้อะไร อย่างน้อยได้ทำดั่งใจ”  ซึ่งน่าแปลกใจมาก ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ ผมอายุมากขึ้นแล้ว แต่ผมก็ยังมีอะไรที่ต้องลังเลใจ อยู่ในชีวิตเยอะมาก ในทุกๆ ครั้งที่มีการตัดสินใจ พอนึกถึงเพลงนี้ เราก็จะตัดสินใจได้ทันทีเลย ด้วยประสบการณ์ตอนนั้น เคยเชื่อในครั้งแรกแล้วลองทำตามความรู้สึกว่า ถ้าทำแล้วจะเป็นอย่างไร ผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร ที่ได้เลือกทางนี้แล้วด้วยจิตใจ 100% ของเรา ก็ขอบคุณพี่นภ พี่บอยมาก ที่เขียนเพลงนี้ขึ้นมาให้เด็กคนหนึ่งได้ใช้ชีวิตจนถึงวันนี้อย่างมีหางเสือครับผม ยิ่งใหญ่ครับ เพราะเพลงนี้มีพลังมากเลยนะ เพิ่งได้บอกพี่บอยก็ตอนนี้ครับ”

อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข

5.เรือชูชีพ – Death of a Salesman

“ในเพลง “เรือชูชีพ” เป็นช่วงมหาวิทยาลัยเหมือนกัน ผมใช้เพลงนี้ในการประกวดดนตรี ซึ่งตกรอบ จำได้ว่าผมตั้งชื่อวงเลียนแบบชื่อวงนี้ด้วย วงนี้ชื่อว่า วง Death of a Salesman เป็นวงในตำนานของประเทศเรานะครับ ผมคิดว่า เขาจะเป็นคนที่แบบคลาสสิก ถ้าเป็นเมืองนอกเขาจะเหมือน Sex Pistols ที่ออกอัลบั้มชุดเดียวแล้วเลิก แล้วทุกเพลงในอัลบั้มนั้นมันเจ๋งสุดๆ ผมเคยคุยกับป๊าเต็ดว่าไม่สามารถจะหา Reference ให้มันได้ ไม่สามารถจะหาต้นตอให้มันได้เลยว่า เขาฟังอะไรมาว่ะ คือมันประหลาดและมันเพราะมาก ทำให้ผมอยากเล่นดนตรี Death of A Salesman ทำให้ผมอยากทำเพลง เป็นวงที่จุดประกายที่ทำให้ผมรู้สึกว่าการทำเพลงมันสุดยอดไปเลยเยี่ยมไปเลยเป็นฮีโร่ของผมในการทำเพลงจริงๆ เขาอายุเท่าผมเลยนะครับ เขาเก่งมากๆเลย ถ้าตอนนี้ได้ฟังอยู่ก็อยากจะให้มารวมตัวกันอีกครั้งนะครับ ยังรออยู่ เป็นซิงเกิลแรกของเขา เป็นเพลงที่ผมชอบมากเลยชื่อว่า เรือชูชีพ   โดยใน MV จะเท่มาก ถ้าคุณได้ดูทาง Youtube จะเป็นแบบคุณเคยเล่นเกมต่อจุดที่เขาจุดไว้ 1 2 3 4 5 6 เขาก็ลากไปจนจบ เป็นรูปเรือ ยุคนั้น 2000 ต้นๆ มันคือเปลี่ยนวิธีคิดการทำเพลง การทำ MV ยุคนั้น คือไม่จำเป็นต้องมีคนแสดง มันยิ่งทำให้ผมชอบเพลงนี้มาก ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกเป็นเพลงที่สุดยอดจริงๆ”

7.เสน่หา – สุเทพ  วงศ์กำแหง

“อีกหนึ่งเพลงที่ประทับใจมากๆ คือเพลง “เสน่หา”อันนี้จะเป็นช่วงที่ผมแต่งเพลง แล้วก็ถ้าเรียงตามยุคนี้มันยังเรียงอยู่นะ  คือผมชอบ Jay Chou มาก Jay Chou โจวเจี๋ยหลุน ผมชอบมาก ผมเริ่มฟังเขาแล้วรู้สึกว่าเท่จังเลย เอาเพลง R&B ผสมกับเพลงจีนโบราณ ทำให้ผมรู้สึกว่า ทำไมเราไม่ทำเพลงสมัยใหม่ผสมกับเพลงไทยโบราณบ้าง ก็ได้ไปค้นเพลงไทยเก่าๆ ฟัง เลยได้มีโอกาสปรึกษา พี่บอย ตรัย พี่ผมอยากทำเพลง อยากศึกษาว่า เมโลดี้ไทยๆ มีอะไรบ้าง ผมชอบลูกกรุง พ่อผมชอบลูกกรุง พี่ตรัยก็ส่ง อาจารย์ดนู มาให้ผมฟัง  ในอัลบั้มไหมไทยชุดหนึ่ง มี Coverเพลงนี้อยู่  เพลงเสน่หา ของคุณสุเทพ แล้วผมรู้สึกว่า เมโลดี้มันเพราะมากเลย ก็ทำให้เป็นความตั้งใจของผม ไม่รู้ว่ามีใครจับทางผมได้ไหม ว่ามีช่วงหนึ่ง หลายช่วงเลยแหละที่ผมพยายามใส่เมโลดี้ไทยลงไป คือเป็นความชอบส่วนตัวของผมที่ผมชอบเมโลดี้พานาโซนิค เอื่อยๆ แบบนี้ ผมคิดว่า เพลง เสน่หา นี้ เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมตกหลุมรักเมโลดี้แบบนี้ โอมจงเงย จริงๆ ทุกเพลงนะ ถ้าถอดออกมาจะเป็นแบบไทยเดิม พยายามให้มันเป็น สเกล พานาโซนิค เพราะว่าชอบ พอกลับไปฟัง รู้สึกว่าเราเติบโตมากับเพลงแบบนี้  พ่อก็จะฟังแบบคุณสุเทพ วนๆ อยู่อย่างนี้ ก็จะมีเมโลดี้แบบนี้อยู่ในตัวอยู่”

8.มีเธอ – ปุ๊ อัญชลี จงคดีกิจ

“เพลง “มีเธอ”เป็นเพลงที่ผมใช้เปิดในงานแต่งงาน Timeline หายไปประมาณ 5 ปี 10 ปี ด้วยซ้ำมั้ง จริงๆ เพลงนี้ผมชอบตั้งแต่เด็กๆ ตอนอยู่ ม.3 ม.4 จำได้ว่าจะต้องนั่งรถไปเรียนพิเศษ ไปกับคนข้างบ้าน สมัยก่อนเราจะมีเป็นเทปกัน เรายังไม่มี streaming เปลี่ยนเพลงไปเรื่อย เราจะมีเทปม้วนเดียวนี้แหละ ที่ติดรถอยู่แล้วสมมติว่าผมมีเรียนอยู่ 2 เดือนตอนปิดเทอม  มันก็จะเป็นอยู่แค่ม้วนเดียว ตอนที่ผมเจอพี่ปุ๊ ผมเรียงเพลงใส่หน้าแกได้เลย เพลงที่ 1 เพลงที่ 2 เพลงที่ 3 เพลงที่ 4 อันนี้เป็นชุดที่พี่ปุ๊ออกกับค่าย  oh my god น่าจะเป็นเพลงที่ 2 ผมชอบมาก ชื่อเพลงว่ามีเธอ ตอนนั้นฟังก็เข้าใจว่า คือเนื้อเพลงมันอบอุ่นมาก มันบอกว่า “ฉันไม่รู้จะเป็นยังไง  ฉันไม่มีเธออย่างนี้ ฉันก็คงหลงทางกำลังใจมันหายไปทุกที ไม่มีใครไม่มีเลย” ก่อนจะแต่งงาน เลือกที่จะเปิดเพลงนี้  เพราะรู้สึกว่าเพลงนี้โดนที่สุด เพราะว่าผมนึกถึงภรรยาของผม ซึ่งมันคือคำนี้เลย  ถ้าไม่ได้พบเธอ ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ตรงไหน ไม่รู้ว่าจะรอดมาได้ยังไง แบบว่าจะมีอาชีพการงานต่อได้ยังไง จะจัดการตัวเองได้ยังไง จะจัดการจิตใจตัวเองได้ยังไง แต่ผมรู้นะว่าเพลงนี้แต่งเพราะอะไร ถ้าสืบย้อนไปพี่ปุ๊ออกชุดนี้กับค่าย oh my god  ซึ่งเป็นค่ายที่แบบคริสเตียนมากๆ ผมขอชื่นชมผู้แต่ง ณ ที่นี่ว่า คุณแต่งเพลงได้เพราะที่สุดในโลก  เนื้อมันก็บอกถึงความรักของคนที่มีต่อพระเจ้าแน่ๆ ฉันไม่รู้จะเป็นยังไง รู้ไหมรักของเธอนั้นคือคำตอบ ทำให้คนอย่างฉันได้พบความหมาย ซึ่งเขาเก่งมากเลยนะที่ได้เขียนถึงพระเจ้า ทำให้เราซึ่งไม่ใช่คริสเตียนรู้สึกความรักในแบบอื่นๆ ไปด้วย  รู้สึกว่าความรักดูยิ่งใหญ่ไปด้วย ก็เลยคิดว่าเพลงนี้เหมาะกับงานแต่งงานมาก”

อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข

9.The Devil – แสตมป์

“เอ่ยถึงศิลปินอื่นๆ ไปเยอะแล้ว ผมขอพูดถึง 1 เพลงของตัวเองที่ชอบมากๆ แต่ไม่ค่อยรู้จักคือเพลง “The Devil” เพลงนี้เปลี่ยนชีวิตผมพอสมควร มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมทำอะไรได้มากกว่าที่ผมคิด คือมีช่วงๆ หนึ่งที่ผมค่อนข้างจะตันกับการทำงาน และก็อาจจะเบื่อ Routine ต่างๆ และแล้วก็คิดอะไรไม่ค่อยออก อยู่ๆ ก็มีความคิดบ้าๆ แบบบ้าบอมากครับในหัว แบบเอ้ย น่าจะทำเพลงภาษาอังกฤษ แต่ผมภาษาอังกฤษอ่อนมาก จนกระทั่งวันนึงผมแต่งเพลงนี้ แล้วก็ส่งให้เพื่อนที่เก่งภาษาอังกฤษหลายๆ คนช่วยตรวจ แล้วก็แก้กันไปแก้กันมา และก็ทำ Demo เนี่ยมันก็มีอีกจุดหนึ่ง ผมตกใจเหมือนกันว่ามันเกิดขึ้น คือผมทำ Demo เพลงนี้เก็บไว้ ปี 2016  ประมาณ 2 ปีก่อน หลังอัลบั้ม Sci-Fi ครับ แล้วก็ตอนนั้นไปดูคอนเสิร์ต summer sonic ที่ญี่ปุ่น จำได้ว่าผมอยากจะไปดูวง Nothing But Thieves นะครับ แล้วก็ผมไปไม่ทันตกรถไฟ ทำให้ผมไปทันอีกวงหนึ่ง ชื่อวงว่า Pop etcetera หรือว่า Pop ETC ซึ่งผมเคยเห็นชื่อวงเขาจากอินเทอร์เน็ตนะ แต่ผมไม่เคยฟังเพลงเขา แล้วผมก็ไปยืนดูเขาเล่น แล้วก็โห นี่มันคือสิ่งที่เราตามหาเลย คือเพลงป๊อปที่มีกลิ่นร็อก เมโลดี้เพราะ หวาน เท่ ทุกอย่างที่เราชอบมันอยู่ในวงนี้ ผมก็เลยประทับใจมากแล้วก็หยิบมือถือของผมถ่ายรูปเขา แล้วก็แฮชแท็กว่า Pop etcetera Pop ETC ดูเสร็จผมก็นั่งรถไฟกลับโตเกียว  แล้วก็นั่งเช็กมือถือเล่นๆ ปรากฏว่านักร้องนำของวงเขาทักเข้ามาในไอจีผม ว่า Thank you ที่มาดู เฮ้ย เขาตอบเรา และเขาก็คงมาดูโปรไฟล์ผมพอสมควรแล้ว และเขาก็บอกว่า You เล่นดนตรีเหรอ แล้วผมก็บอกใช่ ผมมาจากเมืองไทยนะ แล้วก็บอกชอบเพลงของคุณมากเลย และเราก็เป็นเพื่อนกันในอินเทอร์เน็ต เขาบอกว่าเขาอยากทำงานกับเราด้วย ผมก็เลยเอา Demo  ที่ผมมีอยู่นี้ คือเพลงThe Devil ส่งไปให้เขา และเขาก็ร้องกลับมา เป็นเสียงของเขาซึ่งแบบโอ้โห มันแบบสุดยอดเลย ผมก็เลยรู้สึกว่า เฮ้ย อัลบั้มอังกฤษรอดแล้ว เรามีคนช่วยทำ  และเพลงนี้เขาก็เป็นคน Arrange ทั้งหมดทุกอย่าง คือจากสิ่งที่ผมเล่นกีต้าร์ ซึ่งเขาทำให้มันเป็นแบบนั้นได้ และหลังจากนั้นก็เหมือนว่าผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากเขาเยอะมาก ทุกวันนี้ก็ยังทำเพลงกันอยู่นะครับ”

10. Futari Saison – Keyakizaka 46

“สำหรับเพลง “Futari Saison” คือชีวิตล่าสุดของผมครับ คือ หลังจากที่เป็นนักดนตรี ได้แต่งงาน ทำเพลงเอง ล่าสุดผมเป็นโอตะครับ ผมติดตามวงไอดอลอยู่ครับ แล้วก็วันนี้ผมตื่นเต้นมากที่จะได้เปิดเพลงของวงเขาให้คุณได้ฟังกันครับ และวงนั้นคือวง Keyakizaka 46ครับ มันเป็นวงที่ผมชอบมากตอนนี้ ติดตามมาประมาณปีครึ่งแล้ว ผมเล่าจริงๆ เลยนะ ตอนแรกเนี่ยผมไม่ได้ตามวงไอดอลมาก่อนเลยเขามี AKB ไรกันผมก็ไม่ได้ฟัง แต่ตามไอดอลเกาหลีนะ แต่ไอดอลระบบญี่ปุ่นเนี่ยผมไม่ได้ตาม จนกระทั่งมี BNK ก็เลยเริ่มสนใจ ชอบเพลง 365 วัน กับเครื่องบินกระดาษ รู้สึกว่าเวลาทำงานเหนื่อยๆ แล้วฟัง มันมีกำลังใจ BNK ตอนนั้นยังไม่ได้ดังยังไม่มีเพลงคุกกี้นะครับ และก็ผมก็เริ่มชอบมากๆ และก็ได้มีโอกาสได้ไปแบบเที่ยวญี่ปุ่นพอดี แล้วก็มีแก๊งโอตะทั้งหลายเนี่ย เขาก็เริ่มขายวงนี้ให้ผม ชื่อ Keyakizaka 46  แล้วผมตอนนั้นยังแบบโอ๊ยอะไรเนี่ยเด็กผู้หญิงจับมาใส่ชุดทหารทำอะไร ดูแรงจังเลย ก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้ง แล้วก็ไปที่ section ไอดอล อยากศึกษาต้นตำรับของ BNK คืออะไร แล้วทั้งแผงมีแต่ Keyakizaka 46 ทั้งหมด แล้วผมก็แบบ นี่อะไรเนี่ย ก็เลยลองฟังเพลงดูละกัน มันอาจจะให้กำลังใจเราได้เหมือนกัน ผมเลยเอาหูฟังครอบ ผมอยากให้ทุกคนทำแบบนี้ไปพร้อมกันนะครับ กด Play พร้อมกันเลยนะครับ คือนึกภาพว่าผมว่าทุกคนอยู่ TOWER RECORDS แล้วก็หลับตา แล้วเอาเพลงนี้เข้าไปในหู มันเป็นโมเม้นต์ที่เปลี่ยนชีวิตผมมาตลอดหนึ่งปีครึ่งครับ ผมพูดไปก็รู้สึกกลัวตัวเอง และนี่คือเพลง Futari Saison –Keyakizaka 46  มีคุณติ๊ก Playground คุณอาร์ต จีโน เป็นนักวาดรูป พี่บอยตรัย และอีกหลายๆท่าน ล่าสุดมีน้องนนท์ The Voice เข้ามาด้วย ยินดีต้อนรับน้องๆ และยังมีอีกหลายๆท่านครับ รายชื่อที่พูดไปคือติ่งของวงนี้ครับ”

อย่างไรก็ตามก่อนจากกันไปหนุ่มแสตมป์บอกว่ามีความสุขมากๆ ที่ได้มีโอกาสมาบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับบทเพลงโปรดในวันนี้ ทั้งนี้สามารถพบกับช่วงเวลาดีๆ จากศิลปินคนอื่นๆ ได้ที่สถานีวิทยุ Goodtime 98.5 FM  ในช่วง  Goodtime Soundtrack of Life เวลา 21.00 – 23.00 น.


 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up