สัมภาษณ์ “ดีเจเจ๊แหม่ม” จัดเต็ม! พร้อมแต่งแฟนหนุ่มปีหน้า

อุต๊ะ ว้ายกรี๊ด กับข่าวโลกาภิวัฒน์ฉบับเรียลิตี้ เหตุเพราะดีเจหน้าหวาน “เจ๊แหม่ม-วินัย สุขแสวง” ออกมาประกาศก้อง พร้อมแต่งงานกับแฟนหนุ่มรุ่นน้อง “บอย-พัชรวัสส์ คงถวิล” แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้มีภาพงานหมั้นสุดสวีทของทั้งคู่หลุดออกมาว่อนเน็ตให้แมงเม้าท์กระพือปีกกันให้ว่อน วันนี้(27 สิงหาคม) praew.com มีคำสัมภาษณ์ของคู่รักกระแสแรงมาให้เม้าท์สนั่นขึ้น

ข่าวว่าพบรักที่สีลม?
บอย : บังเอิญผมไปเที่ยวที่สีลม ต่างคนต่างไปพักผ่อนกัน แล้วก็ไปเจอกันที่ผับ

เจ๊แหม่ม : ใครจีบใครก่อน จะถามงี้ใช่มั้ย แหม… เห็นหนังเหนียวแบบนี้แต่ไม่แรดนะคะ(หัวเราะ) เขาต้องมาจีบเราก่อนสิ
เราเนี่ยเป็นคนเก่งแต่ปาก เอาเข้าจริงก็ไม่กล้า เพราะฉะนั้นเขาเป็นคนเริ่มก่อน(เน้นเสียง)

บอย : (หัวเราะ) ครับ ผมเป็นคนเริ่มก่อนเองแหละ เพราะไม่รู้มาก่อนว่าเขาเป็นพี่เจ๊แหม่ม คิดว่าเป็นคนมาเที่ยวปกติ เห็นหน้าสวยๆ ด้วย

เจ๊แหม่ม : วันแรกที่เขาเห็นเรา เขาบอกว่าสงสัยคงแต่งตัวมาโชว์ เพราะหน้าผมมาเต็มมาก นางนึกว่าเป็นนางโชว์อยู่ซอย 2 (หัวเราะเสียงดัง)

บอย : วันนั้นก็แค่คิดว่าหาเพื่อนคุยกัน แต่ไม่ได้คิดว่าจะมาเป็นแฟนกันจนถึงวันนี้ครับ สารภาพเลยว่าตอนแรกไม่ได้คิดอะไรเลย ตั้งใจคบแบบเป็นเพื่อนเที่ยวเฉยๆ แต่พอหลังจาก 2 อาทิตย์แรกที่พบกัน แล้วก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน คือเขาเป็นคนดูแลเอาใจใส่ และทำอาหารอร่อยมาก(เน้นเสียง) ขณะที่ถ้าผมมีเวลาก็จะไปคอยดูแลเขาที่บ้านบ้าง

ตอนนี้หมั้นกันแล้ว?
เจ๊แหม่ม : ใช่(ยิ้มแฮ้ปปี้) แต่ยังไม่ได้เป็นสามีเป็นตัวเป็นตนนะ เป็นคู่หมั้นไปก่อน คือมีคนมาดูแลก็แฮปปี้ใช่ไหม เพราะฉะนั้นจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ส่วนงานพรีเวดดิ้งนั้นเป็นไอเดียของวู้ดดี้ เพราะเราไปออกรายการวู้ดดี้ เกิดมาคุย แล้วเขาก็ทำเซอร์ไพรส์ให้ ใจจริงเราก็ไม่ได้อยากทำอะไรที่มันใหญ่โตขนาดนั้น แต่ด้วยความที่สนิทกัน วู้ดดี้บอกขอเหอะ จะได้มีรูปเอาไปติดหน้างานเธอไง ปรากฏว่าพี่คนที่ถ่ายรูปก็เป็นมือถ่ายเวดดิ้งที่ถ่ายรูปผออกมาสวย ก็เลยกลายเป็นว่าเราแต่งฟ้าแลบ ท้องก่อนแต่ง สวยเนอะท้องก่อนแต่งได้เนี่ย (หัวเราะ)

อยากเห็นแหวนหมั้น?
บอย : เราหมั้นแบบไม่มีสวมแหวนครับ เพราะเขาไม่ชอบใส่เครื่องประดับ ผมเลยซื้อเป็นคอนโดให้ ราคาก็เฉียด 4 ล้านครับ

เจ๊แหม่ม :
เขาก็เหมือนรู้นิสัยเรานะ ทั้งๆ ที่คบกันมาได้แค่ 3 เดือน แต่เขารู้ว่าเราไม่ใช้เงินไปกับการซื้อเครื่องประดับ ซื้อนาฬิกา ซื้อสร้อย เราไม่ซื้อ เราชอบอยู่กับของเล่น ชอบอยู่บ้าน ชอบซื้อรถ มี 3 อย่างที่ชอบ แต่ตอนนี้มีอีกอย่างที่เพิ่มขึ้นมา ก็คือเขานี่แหละเป็นสิ่งที่ 4 (ยิ้มหวาน)

ทำไมยอมใจอ่อน?
เจ๊แหม่ม : ที่ยอมใจอ่อนเพราะกลัวแก่แล้วต้องอยู่คนเดียว (หัวเราะสนุก) เดี๋ยวป่วยแล้วไม่มีคนพาไปหาหมอ ถึงวัยเขาจะเป็นรุ่นน้อง แต่เรามองว่าเขาเป็นผู้ใหญ่กว่า ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเอาหรอก เพราะหนึ่งคือไม่ชอบเด็กเลย เพราะทัศนคติมันก็ต่างกันเนอะ(หันไปพยักเพยิด) ช่องว่างก็เยอะ คือเขาเด็กกว่าเรารอบหนึ่งน่ะ แต่กลายเป็นว่าความคิดเขาแก่กว่าเราอีก ที่สำคัญเขาวางแผนอะไรในชีวิตกับเราค่อนข้างเยอะ ทั้งเรื่องสุขภาพ เรื่องธุรกิจ เรื่องการดูแลตัวเอง เขาบอก…จะมานอนจมกองของเล่นฝุ่นเต็มไปหมดไม่ได้ ต้องหันมาดูแลสุขภาพ จะได้อยู่กันไปยาวๆ

บอย :
จะได้อยู่เป็นเพื่อนกันไปนานๆ ตอนที่เราอายุเยอะๆ จะได้ปรึกษาเรื่องงานด้วยได้ คือตอนแรกก็ยอมรับนะว่ากังวลเรื่องความต่างของอายุเหมือนกัน กลัวจะเข้ากันไม่ได้ แต่สุดท้ายก็มีการปรับและพูดกันหลายๆ อย่าง ก็ปรับจูนสิ่งที่มันไม่เข้ากันและทำให้เข้ากันได้ พี่แหม่มเป็นคนที่คอยเอาใจใส่ดูแล คอยเทกแคร์ เขาจะไม่ค่อยพูดคำว่ารัก แต่จะปฏิบัติซะมากกว่าครับ ก็เลยใจอ่อน (ยิ้ม)

พร้อมใช้ชีวิตคู่แบบสามีภรรยา?
เจ๊แหม่ม : เขาไปขอเรากับแม่ แม่ก็ไม่ว่าอะไร เพราะรู้ว่าเราเป็นคนที่อยู่คนเดียวมานาน ถ้ามีเพื่อนที่มาดูแลกันและกันมันก็น่าจะเป็นอะไรที่ดีในชีวิต เพราะเราก็โตเกินกว่าจะไปใช้ชีวิตแบบไม่นิ่งแล้ว เรารู้สึกว่าเรานิ่งเรื่องความรัก เพราะเรามองอนาคต เราก็ห่วงตัวเองเหมือนกันว่าทำงานหนักๆ ล้มป่วยแล้วใครจะดูแล แต่การมีเขาอย่างน้อยที่สุดถ้าเราหัวฟาดห้องน้ำไป หรือเกิดอะไรขึ้นเขาก็ฮุบสมบัติไปคนเดียว(หัวเราะ) แต่บอกก่อนว่า ณ วันนี้ยังไม่ได้อยู่กันแบบสามีภรรยานะ เรื่องที่เขาซื้อคอนโดให้ เราก็คุยกันว่าเหมือนเป็นการเตรียมตัว ถ้าคอนโดเสร็จก็เตรียมตัวใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ตอบแบบดูสวยเนอะ ดูเป็นนางเอกเกาหลีดี (หัวเราะ)

บอย :
น่าจะอีก 18 เดือนคอนโดคงเรียบร้อยครับ ส่วนเรื่องแต่งก็ตั้งใจไว้ว่าถ้าทุกอย่างลงตัวคงจะเป็นเดือนพฤษภาคม วันที่เราเจอกันวันแรกและเป็นเดือนเกิดของเขาด้วยครับ

เจ๊แหม่ม : เนี่ย เขาเป็นแบบเนี้ย เป็นคนให้ความสนใจในรายละเอียด ผู้หญิงคงอยากจะได้ผู้ชายแบบนี้ที่ดูแลเอาใจใส่เป็นแฟน เขาก็มีอะไรตรงนี้เยอะมาก ในขณะที่เราอาจจะมีแต่ไม่แสดงออก เป็นเรื่องของการห่วงใยกันมากกว่า

เคยมีเรื่องหึงหวงกันไหม?
บอย : สำหรับผมไม่มีครับ เพราะถ้าเราสองคนมั่นคงต่อกัน ความหึงหวงก็คงไม่เกิดขึ้น

เจ๊แหม่ม :
ส่วนเราก็เคยมีแอบหึงนะ เวลาเห็นเขาคุยโทรศัพท์ เราก็จะถามว่าคุยกับใคร แต่มันก็ขำๆ แหละ ไม่มีอะไรหรอก เพราะเราก็มองว่าเขาค่อนข้างเสถียรอยู่พอสมควรเรื่องของความรัก ประเด็นคือคู่เรามันอาจจะเป็นคู่ที่มีลักษณะเฉพาะตรงที่เราเป็นคนขาดเรื่องความรักมาก เราไม่เคยได้รับการดูแลแบบนี้มานานมาก ในขณะที่เขามีเยอะจนบางทีคนอาจจะมองว่ามันล้นมากซะเหลือเกิน มันก็เลยมาคลิกตรงกันพอดี

บอย : ถามว่ากลัวความรักช่วงแรกๆ จะมาก แต่หลังๆ จะแผ่วลงไหม ผมไม่นะ เพราะเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายอย่างนี้ตลอด ตั้งแต่วันที่คบเขาวันแรกจนวันนี้ ผมยังไม่เคยมีดอกไม้ให้เขาเลยสักดอก ผมอยากทำให้ทุกวันมันเป็นวันสำคัญ ไม่เกี่ยวว่าเฉพาะวันไหน

ไม่คิดว่าด่วนตัดสินใจ?
บอย : ไม่เลย เพราะถึงจะทิ้งเวลาไปนานกว่านี้อีก 5-6 ปี แล้วมาเริ่มต้นจากการเป็นแฟน ผมว่ามันก็มีค่าเท่ากัน ถ้า ณ วันนี้เราพร้อมกันทั้งคู่ ก็เปิดฉากด้วยการเป็นแฟนกันเลยดีกว่า เพราะเพื่อน เราสองคนมีเยอะแล้ว แต่อยากมีคนที่เข้าใจและพิเศษมากกว่า ซึ่งพี่แหม่มคือคนๆ นั้นสำหรับผม(ยิ้ม)

เจ๊แหม่ม :
สำหรับเรา ภาพเรื่องความรักเราไม่มีเรื่องนี้ตั้ง 10 กว่าปีมาแล้ว แต่ก็คิดเสมอว่าความรักเป็นสิ่งที่ดีกับคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกอายุ กับรักครั้งนี้คิดว่าจะทำให้ดีเพื่อเป็นตัวอย่างของเพื่อนๆ ในกลุ่มของเราเองและอีกหลายๆ คน ให้เขาเห็นว่าเรารักกันจริงๆ และอย่างน้อยความรักแบบนี้ก็ไปสร้างต่อให้เขารู้สึกว่าฉันอยากมีแบบนี้บ้าง เรามองแค่นี้เอง

รักคือพลัง เห็นด้วยเลยคร่า

เรื่อง “จิบลิ”
ภาพ : IG

Praew Recommend

keyboard_arrow_up