หลายคนอาจคุ้นเคยกับสุภาษิตไทยที่ว่า จับปลาสองมือ ที่ให้ความหมายเชิงลบว่า ทำอะไรพร้อมกันหลายอย่างในเวลาเดียวกันอาจจะล้มเหลวได้ แต่สิ่งนี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อ นนท์ – เชาวนนท์ คลังเปรมจิตต์ นักบริหารรุ่นใหม่วัย 33 ปี ที่ดูแล 2 ธุรกิจต่างขั้วประหนึ่งเลี้ยงปลา 2 ตัวต่างสายพันธุ์ด้วยมือของผู้ชายคนเดียว ซึ่งผลก็ออกมาสำเร็จและไปในทิศทางที่ดีซะด้วย
เพราะเป็นคนชอบความท้าทายและชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอด จึงทำให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ นนท์ – เชาวนนท์ คลังเปรมจิตต์ เพิ่มสเต็ปจากดูแลธุรกิจเพียงหนึ่งอย่าง บวกเป็นสองในระยะเวลาไม่ห่างกันนัก อีกทั้งสองธุรกิจที่ดูแลนั้นก็ต่างขั้วกันมาก นั่นคือ ธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องปรับอากาศแบรนด์ไทย “มิตซุย” และธุรกิจการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบตัวต่อตัวกับครูต่างชาติ “Engoo” โดยปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามมิตซุย จำกัด และผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทอิงกู (ไทยแลนด์) จำกัด
เชาวนนท์สำเร็จการศึกษาด้านบริหารธุรกิจ เอกการบริหารจัดการธุรกิจนานาชาติ โทภาษาญี่ปุ่น จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โดยส่วนตัวเขาเป็นคนที่ชื่นชอบทำกิจกรรม หมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ รวมถึงได้เป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่ประเทศออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น โดยธุรกิจแรกของเขาเริ่มจากธุรกิจของครอบครัวที่เขาเข้ามาสานต่อตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 เป็นต้นมา นั่นคือ ธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องปรับอากาศมิตซุย
จุดนี้ไม่ได้ทำให้เขาหยุดเรียนรู้และมีความรู้ทางด้านธุรกิจเท่านั้น จากการเดินทางและต่อติดธุรกิจประจำ ทำให้เขาสนใจด้านภาษาและมีความเชี่ยวชาญในภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น เมื่อผสมกับประสบการณ์ตรงทั้งด้านบริหารจัดการธุรกิจ เคยอบรมและทำธุรกิจในญี่ปุ่นระยะหนึ่ง จึงทำให้เขาได้รับความไว้วางใจและคัดเลือกให้เป็นผู้บุกเบิกนำธุรกิจการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบตัวต่อตัวกับครูต่างชาติของ Engoo มาทำตลาดในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 เป็นต้นมา
ถึงแม้ชีวิตจะดูเหมือนมีงานแน่นมือขนาดนี้ แต่ชีวิตเขาไม่ได้มีแค่เรื่องธุรกิจนะ เพราะในด้านกีฬาอย่างตีกอล์ฟ เขาก็ถึงกับเดินทางรอบโลกเพื่อไปตีกอล์ฟเลย และเพื่อให้รู้จักคุณนนท์ – เชาวนนท์ นักบริหารรุ่นใหม่กันมากขึ้น เราไปฟังความคิดที่ได้พลังงานบวกของเขากันเลยดีกว่า
ไม่ว่าอะไรก็สำเร็จได้ด้วยความมุ่งมั่นและความพยายาม
“ผมชอบความท้าทาย และคิดอยู่เสมอว่าหากเรามีความพ
ทำไมถึงเลือกคุม 2 ธุรกิจที่แตกต่างกันอย่างนี้
“ถ้าจะถามว่าทำไมถึงเลือกธุรกิจที่
จุดเริ่มต้นของการหันมาจับมือธุรกิจด้านการเรียนภาษา
“ผมได้มีโอกาสพบกับมิสเตอร์ทาคาโอะ อูเอซาว่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอิงกูที่ประเทศญี่ปุ่น ขณะไปดูงานกับมิตซุย แล้วได้พูดคุยกันในเรื่องธุรกิจและโอกาสทางธุรกิจของอิงกูในประ
เป้าหมายของการนำ 2 ธุรกิจที่รับผิดชอบมุ่งพัฒนาให้ก้าวไกลเป็นอย่างไร
“ผมตั้งเป้าจะทำให้อิงกูก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกแรกในใจของผู้ต้องการเรียนภาษาอังกฤษทั้งหมดในประเทศไทย อยากให้คนที่อยากเรียนภาษาอังกฤษทุกคนนึกถึงอิงกูเป็นที่แรกนั่นเอง ซึ่งภารกิจนี้นับเป็นความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบตัวต่อตัวกับครูต่างชาติตลอด 24 ชั่วโมงเป็นรูปแบบธุรกิจที่ใหม่มากสำหรับคนไทย และอิงกูเพิ่งเริ่มทำการตลาดอย่างจริงจังมาได้ไม่ถึงปี ซึ่งผมมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ภายใน 1 – 2 ปีนี้อย่างแน่นอน เพราะการเรียนของอิงกูตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียนชาวไทยได้จริงๆ สามารถทำให้ทักษะด้านภาษาของผู้เรียนสูงขึ้น เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพด้านการงาน อาชีพ และการศึกษา ในราคาที่ไม่สูงเลยเมื่อเทียบกับการเรียนแบบอื่นๆ
“ส่วนของสยามมิตซุยนั้น ผมตั้งเป้าที่จะทำให้ตลาดเดิมเข้มแข็งมากขึ้น สร้างเครือข่ายกับพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ และขยายกลุ่มเป้าหมายสู่กลุ่มรายย่อยมากขึ้น และหากสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้แล้ว ก็คงมองหาธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีก เพราะผมไม่อยากอยู่เฉย ความท้าทายทำให้ชีวิตก้าวไปข้างหน้าอย่างมีพลวัตมากกว่าเดิม”
ดูแลธุรกิจทั้งสองควบไปด้วยกันแบบนี้ แม้จะเครียด แต่ก็ต้องแบ่งเวลาไปทำอย่างอื่นเพื่อพักผ่อน
“ด้วยภารกิจที่ท้าทายจากการรับผิ
เรียบเรียงโดย: Gingyawee_แพรวดอทคอม