เบรคความฟรุ๊งฟริ๊งด้วยไอเท็มต่างสไตล์ ไม่ให้หวานเว่อร์ตามแบบขุ่นแม่แห่งความเยอะ! ชมพู่-อารยา

อย่างที่หลายๆ คนทราบกันดีว่าสาวชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต เป็นคนหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องความเยอะ! เยอะในที่นี้หมายถึงเรื่องแฟชั่น การแต่งตัวนะจ๊ะ แต่แปลกตรงที่เยอะแล้วสวย เยอะแล้วไม่มีใครว่าไง ลองถ้าเป็นคนอื่นแต่งสิจะหาว่าบ้าได้ แต่ที่จริงแล้วทุกคนสามารถแต่งตัวเยอะเหมือนกับสาวชมพู่แถมไม่โดนด่าได้นะ เทคนิคนั้นมีอยู่ง่ายนิดเดียว

นอกจากจะพกพาความมั่นใจมาเต็มที่แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพกมาด้วยก็คือความรู้ด้านแฟชั่นนิดหน่อย ย้ำนะจ๊ะว่าแค่นิดหน่อยจริงๆ นั่นก็คือเทคนิคของการแต่งตัวให้คอนทราสต์หรือเรียกง่ายๆ ว่าแต่งตัวให้ขัดแย้งกันนั่นเอง

ซึ่งสาวชมพู่เองก็มักจะใช้เทคนิคนี้บ่อยๆ เพราะเจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ว่าตัวเธอเองนั้นเป็นคนที่ชื่นชอบเรื่องแฟชั่น เสื้อผ้า หรือของสวยๆ งามๆ มาก เห็นอะไรก็อยากจะจับใส่ซะให้หมด จนบางทีก็ดูเยอะตั้งแต่หัวจรดเท้า เทคนิคของสาวชมพู่ก็คือไม่ได้ลดความเยอะในการแต่งตัวลงนะ แต่จะใช้เทคนิคการแต่งตัวที่ขัดแย้งกัน โดยจะเลือกมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าที่ต่างสไตล์กันเพื่อไม่ให้ดูหนักไปแบบใดแบบหนึ่งนั่นเอง

1
อย่างเช่นการจับคู่ของกางเกงยีนส์ หรือเอี้ยมยีนส์เข้ากับเสื้อขนเฟอร์ เพื่อเบรคไม่ให้ดูฟรุ๊งฟริ๊งกระดิ่งแมวจนเกินไป ยังมีความเท่ของยีนส์ผสมอยู่ หรือแม้แต่เสื้อลายดอกที่ดูเยอะๆ สาวชมพู่ก็มักจะใส่ยันส์สุดคลาสสิกเสริมเข้าไปเพื่อไม่ให้ลุคนั้นดูลายตาจนเวียนหัว
2
หรือแม้แต่การจับคู่กันของเสื้อยืดลายดาร์กๆ หน่อยกับกระโปรงสุดฟรุ๊งฟริ๊งก็เข้ากันได้ดีทีเดียว นอกจากนี้ยังใช้พร็อบเข้าเสริมด้วยก็ได้นะ เช่นหมวกบอยๆ สักใบกับชุดเดรสขนนก ที่ลงตัวเลยทีเดียว
3
ใช้ความเป็นสปอร์ตเกิร์ลเข้าช่วย ถ้าใครคิดอะไรไม่ออกว่าจะเบรคความหวานยังไงไม่ให้ดูเลี่ยนจนเกินไปก็ให้หารองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าสนีกเกอร์นี่แหละ เป็นทางเลือกที่ง่ายแถมยังออกมาดีอีกด้วย
4
นอกจากเสื้อผ้าและแอคเซสเซอรี่ที่ต่างสไตล์กันแล้ว ทรงผมก็ยังเป็นเรื่องที่สำคัญมากกกกก ย้ำว่ามาก! เพราะถ้าวันไหนที่สาวๆ รู้ตัวว่าเราจะแต่งตัวเยอะตั้งแต่ตัวจรดเท้า ก็ควรจะเบรคความเยอะด้วยทรงผมที่อาจจะมัดขึ้น หรือรวบผมไว้มากกว่าที่จะปล่อยหรือดัดลอน เพราะนอกจากจะดูรกรุงรังแล้วยังมาแย่งซีนเสื้อผ้าที่เราจะโชว์อีกด้วย
5
แว่นตากันแดดก็เป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่อยากจะให้หลายคนพกไว้ติดกระเป๋าหน่อยก็ดีนะ อย่างสาวชมพู่เนี่ยเราจะเห็นได้ชัดเลยว่า แว่นกันแดดเป็นไอเท็มที่เธอขาดไม่ได้เลยจริงๆ เทคนิคการใส่แว่นกันแดดก็ง่ายนิดเดียวคือ ถ้าวันไหนที่แต่งตัวหวานแล้ว ควรจะเบรคความหวานด้วยแว่นกันแดดที่ดูโฉบเฉี่ยว ดูเปรี้ยวหน่อยจะดีมากจ่ะ

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : IG@chomismaterialgirl

5 ผีสาวจาก อดีตชาติ ตามหลอนข้ามภพ อุทาหรณ์เตือนสติรักติดบ่วงกรรม ทำฉันใดจึงหลุดพ้น?

ผีสาวจาก อดีตชาติ ยึดความรักเป็นสรณะ แต่กลับโดนรักทำร้าย จากรักจึงกลายเป็นแค้น จนต้องตามมาหลอนข้ามภพข้ามชาติ ดูจะเป็นพล็อตเด็ดที่ใช้ดำเนินเรื่องในละครผีไทยมาทุกยุคทุกสมัย

ที่เริ่ดคือพล็อตนี้ดูกี่ทีคนก็อิน เรตติ้งกระฉูด ซึ่งอาจเป็นเพราะความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด ชาตินี้ชาติหน้า รวมทั้งการไม่ไปผุดไปเกิด ล่องลอยเป็นสัมภเวสีหรือผีด้วยติดอยู่ในกิเลสอาฆาต ฝังแน่นอยู่ในดีเอ็นเอของคนไทยด้วยกระมัง เวลามีละครพล็อตนี้มาเลยทำให้การเสพ การดู เต็มไปด้วยอรรถรส

แต่จะดีกว่าไหมถ้าการดูนี้จะทำให้เราตระหนักรู้ อุปมาดัง ‘ดูละครย้อนดูตัว’ เพราะนัยของละครที่แทรกอยู่ในละครพล็อตทำนองนี้ หนีอย่างไรก็ไม่พ้นอุทาหรณ์เตือนสติว่า หากยอมให้อารมณ์ผูกอาฆาตด้วยพิษรักแรงแค้นเป็นทัพนำ นั่นเท่ากับคุณกำลังหลงวนติดอยู่ในบ่วงกรรมไม่จบไม่สิ้น ดังเช่น ผีสาวจากอดีตชาติเหล่านี้

ผีคุณอุบล จาก ‘พิษสวาท’ บทประพันธ์โดย ทมยันตี

ผีสาว

ผีสาวอุบล นางรำหลวงแห่งราชสำนักอโยธยา เมียพระราชทานของพระอรรค ทหารเอกมากฝีมือผู้ภักดีต่อแผ่นดินยิ่งชีพ แต่เมื่อวาระสุดท้ายของกรุงอโยธยามาถึง พระอรรคก็เลือกบั่นคอเมียรัก เพื่อมอบหมายหน้าที่ผู้เฝ้าทรัพย์แผ่นดินให้กับเธอ ด้วยพันธะสัญญาทำให้อุบลต้องแบกรับภาระหน้าที่อันทรงเกียรติด้วยความทุกข์ทรมานนานนับร้อยๆ ปี รักแท้แปรเปลี่ยนเป็นอาฆาต เธอจึงกลับมาอีกครั้งในนาม ‘สโรชินี’ เพื่อเป้าหมายเดียวคือทำให้สามีผู้ทรยศต่อความรักความภักดีจดจำอดีต และสำนึกในสิ่งที่เขาเคยทำต่อเธอให้ได้

ผีริ้วทอง จาก ‘กำไลมาศ’ บทประพันธ์โดย พงศกร

ผีสาว

ผีสาวเรื่องราวความแค้นของผีริ้วทอง ลูกสาวเจ้าของคณะหุ่นกระบอกที่มีต่อหม่อมเจ้าหญิงรัมภา ติณชาติ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าท่านหญิงรัมภาลงมือฆ่าเธอเพราะต้องการแย่งหม่อมเจ้าดิเรก ศุภมาศ ทั้งที่รู้ว่าเธอและหม่อมเจ้าดิเรกเป็นสามีภรรยากันแล้ว แถมหม่อมเจ้าสามีผู้สูงศักดิ์ก็รักใคร่เธอมากจนสั่งทำ ‘กำไลมาศ’ กำไลทองสลักชื่อเธอเป็นของรักแทนใจ และด้วยความเข้าใจผิดนี้เองที่ส่งฤทธิ์ร้ายเป็นพลังอาฆาต เมื่อเห็นหม่อมเจ้าดิเรกและหม่อมเจ้าหญิงรัมภากลับมาเกิดใหม่ในชาตินี้ และมีท่าทีจะสานความสัมพันธ์กันด้วยสัจจาธิษฐานในอดีตชาติ ผีริ้วทองจึงทนอยู่เฉยไม่ได้

ผีอีแพง จาก ‘บ่วง’ บทประพันธ์โดย จุลลดา ภักดีภูมินทร์

ผีสาว

ผีสาวแพงแอบหลงรักคุณพระภักดีบทมาลย์ สามีของคุณชื่นกลิ่น ผู้เป็นนายหญิง ด้วยนิสัยทะเยอทะยาน เธอจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาสนใจ คืนหนึ่งคุณพระไปราชการเมากลับมา แพงจึงได้โอกาสตกเป็นเมียคุณพระ แต่กระนั้นคุณพระก็ยังไม่สนใจเธออยู่ดี แพงแค้นใจจึงไปหาหมอผีทำคุณไสยใส่ ทำให้เขาหลงเธอหัวปักหัวปำ เรื่องที่แพงทำเสน่ห์รู้ถึงหูคุณหญิงอบเชย แม่ของคุณชื่นกลิ่น คุณหญิงหาวิธีขจัดมนต์ดำจนสำเร็จ แต่กลับมีผลให้คุณพระล้มป่วย ก่อนตายคุณพระสาบานว่าขอเกิดเป็นคู่กับคุณชื่นกลิ่นไปทุกๆ ชาติ เมื่อคุณพระเสียชีวิต ของทำเสน่ห์ก็กลับวกกลับเข้าตัวแพง ทำให้เธอกลายเป็นคนเสียสติ คุณหญิงอบเชยโกรธแค้นที่ลูกสาวต้องเป็นหม้าย จึงสั่งให้สร้างเรือนหลังเล็กขึ้นมาเพื่อขังแพงไว้ และทรมานโดยการเฆี่ยนตีจนตาย ก่อนตายแพงอาฆาตกับทุกๆ คนว่าจะไม่ขอไปผุดไปเกิด และจะคอยจองเวรคุณชื่นกลิ่นให้พรากจากคนรักไปทุกๆ ชาติ

Best Looks of Kimberley

Best Looks of Kimberley

สวยติดลมบนที่วินาทีนี้ไม่มีใครเกินสาวคิมมี่ ด้วยเพราะโตขึ้น สาวขึ้น หรือ ‘In Love’ มากขึ้น (ยิ้ม) ก็ไม่รู้สินะ ถึงได้สวยเด็ดเผ็ดพริกกระเหรี่ยงมากช่วงนี้ ก็อย่างโบราณท่านว่า ‘คนงามเพราะแต่ง’ พอสาวคิมมี่เริ่มรักสวยรักงามมากขึ้น  อะไรๆ ก็ดูเปรี้ยวจี๊ดขึ้นทันตาสินะ

Pound_Praewnista รวบลุคเด่นของคิมมี่มาให้ชม ที่พูดได้เลยว่า ‘คิมเบอร์ลี่’ ในวันนี้ คือ It’s Girl Thailand ที่มีสไตล์น่าแต่งตามเป็นที่สุด

ใครไม่รักก็บ้าแล้ว xoxo

kimberley

ประเดิมลุคแรกกันที่ชุดกระโปรงจาก Salvatore Ferragamo SS16 ที่สาวคิมมี่ใส่ขึ้นปกแพรว ลุคนี้การันตรีความว้าว! อวดหุ่นด้วยทรวดทรงแบบ ‘นาฬิกาทราย’ ตอกย้ำว่า สาวคิมมี่ในวันนี้ สวยเซี๊ยะเปี๊ยะระเบิด Say Good Bye ลาขาดลุคเบเบี้แฟตไปได้เลย

kimberley

ชุดเดรสลาย Pop Graphic จาก Him&Her คืออีกชุดที่ตอกย้ำความเซี๊ยะของหุ่นปัง ‘เอวขอดของจริง โนฟิลเตอร์ โนโนโตช้อป’ คือแคปชั่นที่ผมอยากย้ำให้ทุกคนเข้าใจ

จะสวยแกรม สวยหวาน หรือสวยชิวล์ เธอคนนี้ก็เอาอยู่ 

kimberley

คิมมี่ในลุคเชิ้ตผ้าไหมพิมพ์ลาย และกางเกงขาสั้นเอวสูงลายเดียวกันจาก Canitt

kimberley

เชิ้ตแขนยาวที่แต่งปลายแขนหวานๆ ด้วยดีเทลระบาย ทับด้วยเดรสสายเดี่ยวแต่งลูกไม้ จาก Kwankao คืออีกมวิธีมิกซ์แอนด์แมทช์ที่มาแรงช่วงนี้

kimberley

เดรสไหล่เดียวแต่งพู่จาก Vanatika สำหรับงานปาร์ตี้เบาๆ

kimberley

ชุดกระโปรงเทคนิคการจับผ้าแบบนี้เป็นซิกเนอร์ของแบรนด์ Sobasiz ที่ส่งให้เธอสวยหวานมาก

kimberley

ชุดเดรสลูกไม้จาก Alice Mccall @ Exhibitspace

ลุค Suit ก็ถูกเรียกมาเพิ่มความคูลให้กับบางวันของสาวคิมเช่นกัน 

kimberley

อย่างสูทสีแดงเข้ารูปจาก Vatanika นี้ ดูเซ็กซี่ไม่เบาเชียวละ

kimberley

สูทสีส้มจี๊ดจาก Vickteerut

kimberley

เบลเซอร์และกางเกงขากว้างจาก ASAVA

แม้ว่าวิธีการเลือกชุดของสาวคิมมี่จะเป็นการหยิบแบบทั้งลุคของแต่ละแบรนด์มาใส่

แต่ที่น่าสนใจก็คือ ต่อให้แบรนด์นั้นๆ จะใช้นางแบบสวยเปรี้ยงสักแค่ไหน แต่คิมมี่ของเราใส่แล้วก็ยัง ‘ปัง!’ มากกว่าอยู่ดี

นี่มันเป็นการฉีกกรอบความคิดสุดเฉิ่มเดิมๆ ที่ชอบค่อนแคะว่า ‘นางแบบ ใส่อะไรก็สวย’ ไปได้เลย ขอแค่ดูแลรูปร่างให้ดี มีแอตติจูดมั่นใจ

ต่อให้ลุคไหนๆ สาวไทยก็เอาอยู่!!!!!

ผมเชียร์คุณอยู่ คุณก็รู้

เรื่อง : Pound_Praewnista

พยากรณ์ดวงชะตาประจำวัน อังคารที่ 2 สิงหาคม 2559

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : ชาวอาทิตย์ถูกกากบาท จะโดนบีบ ต้องรับผิดชอบงานที่ตัวเองไม่ได้ทำ ไปช่วยก็ยังถูกต่อว่า วุ่นวายไปหมด วางตำแหน่งคนไม่ถูกกับความถนัด เพราะเจ้านายชอบใช้แต่คนเดิมๆ ต้องอดทน ควรหาเวลาไปทำบุญซื้อที่ดิน ในวัดจะมีเตรียมไว้ให้ญาติโยมร่วมสมทบทุนเพื่อสร้างสาธารณะประโยชน์ในวัด หรือถวายน้ำเปล่าแก่พระสงฆ์จะได้ดับความร้อนใจ

การเงิน : วันนี้เงินจะจมอยู่บนกระดานหุ้น

ความรัก : เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ทะเลาะกันด้วยอารมณ์พูดกระทบชิ่งกันไปมา จนถึงใช้กำลัง เพราะฉะนั้นควรถอยกลับไปตั้งหลักก่อน คนโสด ยิ่งคบยิ่งถูกหาผลประโยชน์ ยิ่งคบยิ่งถูกหลอกใช้ แล้วจะคบเพื่อ…

สุขภาพ : ระวังติดเชื้อไวรัสได้ง่าย หรือเป็นหวัดร้ายแรง

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : ระมัดระวังคำพูดของเพื่อนร่วมงานจะทำให้ท่านอารมณ์เสีย จนให้งานสะดุด ขาดตอน ไม่ต้องฟังใคร ทำงานอย่างเดียว

การเงิน : ใช้จ่ายกับเรื่องสุขภาพของคนในบ้าน

ความรัก : พูดกันไม่ได้อีกแล้ว เครียดเรื่องการเงินทำให้ระหองระแหงในครอบครัว ยิ่งเครียด เงินก็ยิ่งไม่เข้ามา คนโสด แม้จะมาก็ไม่ใช่ตัวจริง รอไปอีกวันนะ

สุขภาพ : มีปัญหาในโพรงจมูก หรือเกี่ยวกับไซนัสอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : ท่านที่ทำงานประจำพวกนักบัญชี นักการเงิน หรือธนาคาร ช่วงเวลานี้ไม่เหมาะที่จะเริ่มต้นงานใหม่ๆ เพราะจะต้องแบกรับงานที่หนักหน่วง เจออุปสรรคหนักหนาสาหัส ถึงขนาดต้องลาออกจากงานหรือถูกเลิกจ้างได้สูงมาก

การเงิน : เก็บเงินไม่อยู่ มีปัญหาเรื่องเงินบ่อยครั้ง อาจต้องหาคนมาช่วยเก็บเงินแล้วละ

ความรัก : คู่ท่านอยู่ด้วยกันแล้วหนักมาก หนักไปด้วยเหตุผล อาจยึดอยู่ในกรอบประเพณีมากกว่าความโรแมนติก เบาๆ บ้างก็ได้ คนโสด ท่านหึงหวง ทุ่มเทกับความรักมาก จนคนรักกำลังถอนตัวออก เตรียมใจไว้หน่อยว่า จะอกหัก

สุขภาพ : กรุณาทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ ระวังอาหารเป็นพิษ ท้องเสีย และลำไส้อักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน : ทำงานหนักมาตลอดอาทิตย์ วันนี้ได้ชิลด์บ้างแล้ว

การเงิน : ตามทวงหนี้บ้าง เพราะหากมัวแต่รอ ก็ไม่ได้คืน

ความรัก : สถานภาพชื่นมื่น กำลังเตรียมการณ์วางแผนเดินทางท่องเที่ยว หรือไปหาครอบครัวที่ต่างจังหวัด คนโสด หากท่านกำลังคบซ้อน วันนี้ต้องเลือกแล้วละก่อนที่จะไม่เหลือใครให้เลือก

สุขภาพ : ปวดหัวข้างเดียว

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : ใช้ความสามารถเฉพาะตัวแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน เจองานด่วน งานเร่ง ต้องทุ่มสุดตัว งานจึงจะผ่านไปได้

การเงิน : จะใช้เงินเกี่ยวกับลงทุน เล่นหุ้น

ความรัก : คู่ท่านจะฟังคนอื่น หรือมีญาติผู้ใหญ่มาเกี่ยวข้อง ต้องทำใจ เพราะสถาบันครอบครัวก็ต้องมีพี่ป้าน้าอา ไม่ใช่มีแค่เราสองคน คนโสด สั้นๆ เลย ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มีแววอกหัก

สุขภาพ : ระบบช่องท้องมีปัญหา ระวังเป็นนิ่ว

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน : งานจะสำเร็จสมกับที่ท่านตั้งใจ เหลือเพียงแต่เก็บรายละเอียด ก็สามารถส่งโปรเจ๊คท์ได้

การเงิน : ดวงท่านไม่เปิด อย่าเสี่ยงโชคเยอะ

ความรัก : คุยกันเข้าใจกันมากขึ้น เริ่มทำใจได้แล้ว คนโสดมีเพื่อนแนะนำมิตรใหม่มาให้ แต่ท่านยังไม่ถูกใจ ปฎิเสธไปเลยหรือจะลองคบก่อนก็ได้ แล้วแต่สบายใจ

สุขภาพ : อย่ากลั้นปัสสาวะบ่อย จะมีปัญหาเรื่องกรวยไตอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : ไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรหวือหวา งานเริ่มเข้าสู่ระบบ แม้เริ่มโปรเจ๊คท์ใหม่ก็ประสบความสำเร็จ

การเงิน : ใช้จ่ายเกี่ยวกับการเดินทางไปต่างจังหวัด

ความรัก : ดูแลกันหน่อย จะมีคนในบ้าน หรือญาติพี่น้องป่วยไข้ คนโสด แค่เข้ามาทักทายไม่กี่คำก็รู้แล้วว่า ไม่ใช่ของจริง

สุบภาพ : เตรียมยาภูมิแพ้ ผื่นคัน และหอบหืดไว้ด่วน

‘ติ๊ก’ภูมิใจน้ำตาไหลเมื่อศรีภรรยา ‘พีช-สิตมน’ขอตามรอยเนวิเกเตอร์ ไปบุกป่าบ้าง…

‘พีช-สิตมน’ขอตามรอยเนวิเกเตอร์ ไปบุกป่าบ้าง

‘พีช-สิตมน’ขอตามรอยเนวิเกเตอร์ ไปบุกป่าบ้าง ก็ใครจะไปคิดว่าสาวสังคม แฟชั่นนิสต้าจ๋าอย่างสาวพีชจะมีอารมณ์แบกเป้ลุยป่าฝ่าดงเหมือนคุณสามี แต่สาวพีชทำได้จ้า

ได้ปลูกต้นไม้กันที่จังหวัดลำปาง ภายใต้ชื่อโครงการ Little Forest Thailand ซึ่งก่อตั้งโดย ผศ.ดร.อโนทัย ชลชาติภิญโญ, ภูภวิศ กฤตพลนารา, เข็มอัปสร สิริสุขะ, พรเทพ หวันปาเต๊ะ, ชนิดา ภักดีบัญชาศักดิ์, สิทธิพัฒน์ เวียรศิลป์ และกรัชเพชร อิสสระ

Screen Shot 2016-08-02 at 12.11.05 AMสวยแล้วยังคิดดีอีกด้วย งานนีดูเหมือนสาวพีชจะแฮปปี้มาก เพราะได้มีโอกาสร่วมเป็นหนึ่งในการทำกิจกรรมช่วยเหลือฟื้นฟูธรรมชาติด้วยการปลูกป่าปลูกป่า20,000 ต้นในโครงการ Little Forest Thailand ตั้งใจและทุ่มเทขนาดนี้เอาใจ (ติ๊ก) ไปเลย

Screen Shot 2016-08-02 at 12.20.08 AM copyสวยแล้วยังคิดดีอีกด้วย ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจกับทุกคนที่มาร่วมโครงการนี้ด้วยใจล้วนๆ

เรื่อง :นิตยสารแพรว

ภาพ : peachystarlight,roj_issuethailand,littlehelp_thailand

8 ไอเดีย ครีเอทลุค ‘ผมบ๊อบสั้น’ ตามสไตล์สาวมั่นมาแรง ‘น้ำชา ชีรณัฐ’

จบบริบูรณ์แล้วสำหรับกระแส #เสียงสูง ที่ได้มีดราม่าร้อนแรงร่อนโลกโซเชียลเกี่ยวกับแคปชั่นใต้รูปในอินสตราแกรมของนักแสดงสาววัยรุ่น ปันปัน สุทัตตา ที่สื่อไปในเชิงลบถึง น้ำชา ชีรณัฐ นักร้องนักแสดงสาวสุดมั่น

มาพูดถึงสาวน้ำชา ชีรณัฐ หลายคนคงคุ้นหน้าและคุ้นเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอกันไม่น้อย เพราะน้ำชาแจ้งเกิดกับเพลง รักแท้ยังไง จังหวะเพลงมันส์ๆ กับสีสันเสื้อผ้าสุดจี๊ดจ๊าด ซึ่งในปัจจุบันเธอก็ยังมีผลงานเพลง ละคร ซีรีส์ รวมถึงแบรนด์เสื้อผ้า ‘SHERANUT’ ที่เธอเป็นเจ้าของร่วมดีไซน์เองออกมาให้แฟนๆ ได้ติดตาม ซึ่งก็นับว่าเป็นสาวมั่นที่หลงใหลเรื่องศิลปะ และแฟชั่นอยู่ค่อนข้างมาก รวมถึงเรื่องทรงผม ที่ถึงแม้เธอจะไว้ ‘ผมบ๊อบสั้น’ แต่ก็ครีเอทลุคปรุงแต่งทรงผมได้สวยหลากลุค พร้อมออกงานแบบไม่มีเบื่อ

น้ำชา ชีรณัฐเริ่มกันแบบออริจินัลกับทรงบ๊อบสั้น ที่ถึงแม้จะไม่ได้ตกแต่งจัดแจงทรงผมอะไรมาก แต่ก็ยังคงสวยตามแบบฉบับบ๊อบสั้นกันอยู่ เพียงแค่ปล่อยผมตรง หรือไดร์ผมให้มีดูมีวอลุ่ม เพื่อไม่ให้เส้นผมฟีบแบนเกิน ใส่ลูกเล่นเข้าไปด้วยการทัดผมหลังใบหูข้างใดข้างหนึ่ง ง่ายๆ แค่นี้ก็เรียกเสน่ห์ได้แล้ว แถมเข้าได้กับทุกงานด้วย

น้ำชา ชีรณัฐใส่ความเป็นเด็กลงไป ด้วยการรวบผมครึ่งหัวมัดในระดับสูง เพื่อเปิดให้เห็นใบหน้าสวยใส ส่วนปลายผมบ็อบสั้นที่เหลือก็ไดร์สักเล็กน้อย ซึ่งสาวน้ำชาก็ได้ลุคสวยใส มองแล้วสบายตาเข้ากับวันสบายๆ สำหรับวันพักผ่อนเป็นอย่างดี

น้ำชา ชีรณัฐปรับลุคให้ดูโตขึ้นกลายเป็นสาวมั่นสุดปราดเปรียวมีกลิ่นความเซ็กซี่เล็กๆ น้ำชาก็เอาอยู่ จัดแจงผมบ๊อบสั้น ด้วยการรวบผมครึ่งหัวไปด้านหลัง ฉีดสเปรย์เก็บดีเทลเส้นผมให้เรียบ ส่วนปลายผมนั้นก็ม้วนผมออกไปด้านนอก เปิดโหงวเฮ้งใบหน้าให้น่ามองและมีสเน่ห์ได้สุดๆ ซึ่งทรงผมนี้ก็เหมาะกับชุดเปิดให้เห็นผิวช่วงบนนะ จะได้ไม่ดูตันจนเกินไป

น้ำชา ชีรณัฐ

ใครว่า ม้วนปลายผมให้เป็นลอนเล็กๆ จะได้ลุคสาวหวาน แบ๊วเพียงอย่างเดียว เพราะน้ำชาก็ครีเอทผมบ๊อบสั้น ม้วนปลายผมลอนเข้าให้กลายเป็นสาวเปรี้ยว แซ่บได้ เล่นดีเทลด้วยการแบ่งผมแสกกลางแล้วรวบเก็บที่หลังหูทั้งสองเท่านี้ก็เอาอยู่แล้ว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสไตล์เสื้อที่สวมใส่เหมือนกันนะ เพราะแค่เสื้อที่สาวน้ำชาใส่ ก็เรียกความแซ่บได้เกินครึ่งแล้ว

น้ำชา ชีรณัฐ

เรียบหรู ดูดี ลุคนี้สำหรับสาวที่ไว้ผมบ๊อบสั้น ก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่แบ่งผมแสกกลาง แล้วรวบผมตึงเก็บไปด้านหลัง มัดเป็นหางม้าก่อน จากนั้นม้วนผมเป็นมวยเล็กระดับต่ำด้านหลัง ฉีกสเปรย์เก็บรายละเอียดผมให้เรียบเนี๊ยบ จะหยิบชุดราตรีเรียบหรู บวกกับเครื่องประดับต่างหูแฟชั่นเข้ามา ก็ได้ลุคสาวหรู ดูแพงออกงานแล้ว

น้ำชา ชีรณัฐ

น้ำชา ชีรณัฐ

สำหรับสาวๆ ที่อยากเปลี่ยนทรงผมบ๊อบสั้นเป็นทรงอื่น สำหรับใส่ไปเที่ยว พักผ่อนในวันชิลๆ การมัดปลายผมบ๊อบสั้นให้เป็นหางม้าในระดับกลาง แล้วปล่อยชายผมระต้นคอสักเล็กน้อย ก็ช่วยเติมเสน่ห์ให้เป็นสาวธรรมดาที่น่าค้นหาได้ และถ้าสาวคนไหนชอบความเป็นสีสัน จะหยิบผ้าผูกผมมาเสริมด้วย ก็ได้ลุคสาวสนุกๆ เก๋เข้ามาได้ไม่ยากเลย

น้ำชา ชีรณัฐ

เวลาเราเห็นสาวๆ ผมบ๊อบสั้นที่ม้วนผมเป็นลอนใหญ่หรือระดับกลางเต็มศีรษะ ภาพสาวหวานจะลอยขึ้นมาทันที แต่ก็นั่นแหละระดับสาวน้ำชา เธอก็สามารถครีเอทผมทรงนี้ให้กลายเป็นสาวสวย เท่ได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเสื้อผ้าและเครื่องประดับอีกเช่นเคย จะเห็นว่า แค่สาวน้ำชาหยิบแว่นตาเท่ๆ สักอันมาใส่ ความเท่ก็พุ่งปรี๊ดชนะความหวานแล้ว

น้ำชา ชีรณัฐ

ปิดท้ายด้วย การย้อมสีผม หรือฉีดสเปรย์สีผม เพื่อฉีกลุคใหม่ๆ กันไปเลย ซึ่งสีผมก็ถือเป็นตัวช่วยหลักที่ช่วยดีไซน์ให้สาวๆ แต่ละคนได้ลุคสวย เด่นในแบบฉบับของตัวเอง อย่างสาวน้ำชา เพียงแค่เปลี่ยนสีผมเป็นสีแดงแรงฤทธิ์ แล้วแต้มสีปากด้วยลิปสติกสีแดง จัดแว่นตาสุดเท่ บวกกับแจ๊กเก็ตหนังเท่ๆ สักตัว ฉีกลุคจากด้านบนกลายเป็นสาวสวย เท่ ร้อนแรงเลย

รู้แบบนี้ สาวๆ ผมบ๊อบสั้นที่กำลังเบื่อ อยากเปลี่ยนทรงผม จะลองหยิบไอเดียเหล่านี้ไปใช้กันก็ได้นะจ๊ะ

เรื่อง : Gingyawee_แพรวดอทคอม
ภาพ : IG @namcha_tea

FASHION OF THE WEEK : black & white ชีวิตมีขาวก็ต้องมีดำ สไตล์ปันปัน-สุทัตตา เจ้าของ#เสียงสูง

วงการบันเทิงบ้านเรามีเรื่องให้ต้องตามเผือก ดุเดือดกันตั้งแต่ต้นเดือน กับข่าวเกาเหลากันระหว่างนักแสดงสาววัยรุ่น ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์ และสาวน้ำชา-ชีรณัฐ ยูสานนท์ จนเป็นกระแสไปทั้งโซเชียล ซึ่งงานนี้สาวปันปันเองก็ยอมรับผิดไปเป็นที่เรียบร้อย สาวน้ำชาเองก็ออกมายุติเรื่องราวโดนการยอมรับคำขอโทษจากสาวปันปัน

งานนี้เราไม่ขอพูดว่าใครผิดใครถูก เพราะไหนๆ เรื่องมันก็จบลงแล้ว เอาเป็นว่าใครทำอะไรน่าจะรู้ตัวเองดีที่สุด อะไรที่ผิดพลาดก็ทบทวนตัวเอง และปรับปรุงตัวใหม่ก็แล้วกันนะจ๊ะ ซึ่งแน่นอนว่างานนี้หลายคงมุ่งเป้าไปที่สาวปันปันที่ในตอนแรกก็แทบจะไม่มีใครเชื่อว่าสาวน้อยหน้าใสคนนี้ จะมีมุมที่ทำเอาหลายคนช็อคได้ แต่ในเมื่อเหรียญยังมีสองด้าน คนเราทุกคนก็มีทั้งมุมมืดและมุมสว่างด้วยกันทั้งนั้นแหละ เหมือนกับ FASHION OF THE WEEK ของเราสัปดาห์นี้ที่เลือกแฟชั่น black & white สไตล์สาวปันปันมานำเสนอ มีทั้งลุคสาวหวาน และลุคแซ่บๆ ในคนเดียวกัน ไปดูกันเลยดีกว่าจ้า

1
เดรสกระโปรงลุคนี้สาวปันปันดูแซ่บไม่ใช่เล่น โดยเฉพาะชุดสีดำที่ช่วยขับผิวให้สว่างยิ่งกว่าหลอดไฟอีกนะเนี่ย
2
ทั้งสองชุดนี้เป็นชุดที่ค่อนข้างเรียบร้อยนะ แต่การแต่งหน้าหรืออินเนอร์ต่างกันมาก ชุดดำนี่ดูเป็นนางร้าย ส่วนชุดขาวก็นางเอ๊ก นางเอก
3
ด้วยความที่หน้าตาและภาพลักษณ์ของสาวปันปันดูคุณหนูทำให้มีชัยไปกว่าครึ่ง แต่หรูก็ยิ่งดูไฮโซโบว์ใหญ่ หรือจะแต่งชุดธรรมดาๆ เหมือนวัยรุ่นทั่วไปก็ออร่าจับมากจริงๆ
4
ที่จริงสาวปันปันก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปนะ ใส่เสื้อกล้าม สายเดี่ยว ธรรมดาๆ นี่แหละ แต่ทำไม๊ ทำไม พอเป็นสาวปันปันใส่แล้ว ดูมีความแซ่บเหมือนกันนะเนี่ย

ยังไม่จบนน้ามีอ่านต่อหน้าถัดไปจ้า

ไขความลับสวิสเซอร์แลนด์ ประตูสู่อาชีพการบริการด้านการโรงแรมดีที่สุดในโลก

เมื่อพูดถึงประเทศสวิสเซอร์แลนด์ สิ่งแรกที่นึกถึงถ้าไม่ใช่ช็อกโกแลต นาฬิกาหรือว่ามีดพับ คงจะเป็นภูเขาเอลป์สูงเสียดฟ้ารายล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่สลับไล่เรียงกันไป จนได้รับสมญานามว่าเป็น “หลังคาแห่งทวีปยุโรป” ที่มีความสวยงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรมไม่แพ้ที่ใดในโลก
นอกจากประเทศแห่งนี้จะมีดีเรื่องขนมหวานและความคลาสสิก สวิสเซอร์แลนด์ยังได้ชื่อว่าเป็นประเทศต้นกำเนิดของอุตสาหกรรมโรงแรมและบริการที่ดีที่สุดในโลก แต่ละปีจะผลิตบุคลากรที่มีประสิทธิภาพผ่าน 5 สถาบันชั้นนำในสวิสเซอร์แลนด์มาแล้วนักต่อนัก ทำให้นักศึกษาจบใหม่ที่นี่กลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ได้รับการคัดสรรเข้าทำงานจากโรงแรมระดับไฮเอนด์แห่งต่างๆ ทั่วโลก ด้วยเหตุผลน่าสนใจที่เราเก็บมาฝาก
pic-8
เพราะแนวการสอนที่นี่ดั้งเดิมแต่ไม่โบราณ
นอกจากที่นี่จะมีแผนการศึกษายึดตามรอยแบบแผนดั้งเดิมแล้ว สถาบันทั้ง 5 แห่งของ Swiss Education Group ยังปรับเปลี่ยนพัฒนาหลักสูตรไปตามเทรนด์ของวงการธุรกิจ เพื่อให้ทันสมัยอยู่เสมอ ทุกคนจะได้ทดลองจัด Event จริงในสถานที่จริง เริ่มตั้งแต่คิดธีม เชิญแขก ทำอาหาร รับแขก บริหารงบประมาณ หรือแม้แต่การออกไปฝึกงานนอกสถานที่ ที่สำคัญถูกส่งข้ามน้ำข้ามทวีปไปทั่วโลก เดินทางไปยังเมืองต่างๆ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการบริการและการจัดการโรงแรมดีเป็นเลิศไม่แพ้กัน เพื่อให้รู้จริงเรื่องการบริการ ไม่ว่าจะเป็นโปรตุเกส ดูไบ หรือมัลดีฟ ความหลากหลายด้านวัฒนธรรมการกินของแต่ละเชื้อชาติ จะทำให้เข้าถึงหัวใจการบริการมากขึ้น

SHMS pic on post

รายล้อมไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุข ธรรมชาติและอากาศเย็นสดชื่น
ธรรมชาติรอบๆ ตัวสามารถสร้างจินตนาการได้ไม่รู้จบ จึงมีบางแคมปัสของที่นี่เลือกสถานที่ตั้งอยู่บนยอดเขา อาทิ Swiss Hotel Management School ( SHMS ) หนึ่งในสถาบันเครือ Swiss Education Group คือแรงบันดาลใจในการกระตุ้นความใฝ่รู้ใฝ่เรียนให้อยากตื่นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ในทุกๆ เช้า นอกจากทำเลที่ตั้งจะอยู่ในบริเวณที่สวยงาม เดิมทีนั้นอาคารเรียนแห่งนี้ในอดีตคือโรงแรมสไตล์ปราสาทโรงแรมแรกที่มีอายุกว่า 150 ปี ห้องพักของโรงแรมปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องพักนักศึกษาเห็นวิวสวยงาม มีโถงใหญ่คล้ายห้องบอลรูม และมีโรงละครสำหรับให้นักศึกษาจัดงานเลี้ยงได้ มีห้องภัตตาคารแบบ fine dining กว่า 300 ที่นั่งที่จัดเป็นห้องอาหารให้นักศึกษาได้เรียนรู้เรื่องการทำงานภายใต้บรรยากาศของการเรียนรู้เรื่องโรงแรมและการจัดงาน เสมือนได้อยู่ในบรรยากาศจริง

Neuchatel-IHTTI

 

SHMS_Leysin-exterior

รวมไปถึงการเลือกทำเลที่ตั้งของอีก 4 แห่ง ล้วนแล้วแต่มีความสวยงามทั้งขุนเขา และทะเลสาบเจนีวา ผู้คนสุภาพ บ้านเมืองสงบสุข และปลอดภัย

สร้างก้าวที่มั่นคงสู่ประตู World Wide ไปสู่เครือข่ายทั่วโลก
ความสำเร็จของโรงแรมศรีพันวา บริหารงานโดยคุณปลาวาฬ – วรสิทธิ์ อิสสระ เป็นเครื่องการันตีได้อย่างดีถึงสถาบันที่สวิสเป็นประตูก้าวสำคัญสู่การทำงานในเวทีระดับโลก เพราะ Cesar Ritz Colleges สถาบันที่คุณปลาวาฬศึกษา ก่อตั้งโดย เซซาร์ ริทซ์ บิดาแห่งการโรงแรม ผู้ก่อตั้ง The Ritz เต็มไปด้วยนักศึกษาจากทั่วโลกกว่า 65 สัญชาติ นั่นหมายความว่านอกจากจะได้เรียนจากสถาบันคุณภาพแล้ว นักศึกษายังมีโอกาสได้มีเพื่อนจากทั่วโลก ซึ่งจะเป็นเครือข่ายในวิชาชีพต่อไปในอนาคต และเป็นโอกาสที่ได้เรียนรู้เรื่องความแตกต่างของคนและวัฒนธรรมแต่ละประเทศที่เป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งในการประกอบวิชาชีพโรงแรมและบริการ
รู้อย่างนี้แล้วอย่าปล่อยโอกาสความสำเร็จให้หลุดลอยไป สร้างช่องทางสายอาชีพให้กว้างไกลจากจุดเริ่มต้นของการบริการด้านการโรงแรมดีที่สุดในโลกอย่างสวิสเซอร์แลนด์ หรือถ้ายังลังเลกับการตัดสินใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.swisseducation.ac , [email protected] โทร. 02 -6521481

เทรนด์ผิวสวยสุขภาพดีของผู้หญิงยุคใหม่ ผิวสีไหนก็สวยได้

ความคิดที่ว่าผู้หญิง “ผิวขาว” คือผู้หญิงที่สวย และผู้หญิง “ผิวคล้ำ” คือผู้หญิงไม่สวยนี่มันเป็นความคิดที่ค่อนข้างโบราณไปหน่อยนะคะ เพราะความงามที่แท้จริงนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ต่อให้สาวๆ จะมีผิวสีไหน จะขาว ดำ คล้ำ แทน เชื่อเถอะค่ะว่าทุกคนสามารถมีผิวที่สวยได้

ผิวที่สวยในที่นี้เราหมายถึง “ผิวที่มีสุขภาพดี” เพราะต่อให้คุณมีผิวขาวตามค่านิยมที่คนชื่นชอบก็จริงแต่ถ้าผิวของคุณสุขภาพไม่ดี แห้งกร้าน จับแล้วไม่นุ่นชุ่มชื่น แบบนั้นก็ไม่เวิร์คนะว่าไหม? ซึ่งตอนนี้เทรนด์ผิวสุขภาพดีก็เป็นที่นิยมกันมากขึ้นลองสังเกตดูผิวของดาราสมัยนี้ มีมิติมากขึ้น ไม่ขาวแบน หรือขาวเป็นกระดาษ A4 เหมือนแต่ก่อน แต่เอ๊ะ สาวๆ คงสงสัยกันแล้วใช่ไหมคะว่าเราจะรู้ได้ยังไงว่าผิวเราสุขภาพดีหรือไม่? ไม่ยากค่ะวิธีเช็คสุขภาพผิวนั้นทุกคนสามารถทำตามได้ อย่างแรกเลยสามารถดูได้จากตาเปล่า ดูว่าผิวของเรานั้นมีสีผิวที่สม่ำเสมอไหม ตาดูแล้วก็ยังไม่ชัดค่ะต้องสัมผัสหรือจับผิวดูว่าเนียนนุ่ม ชุ่มชื่นรึเปล่า แต่ถ้าอยากรู้ชัดๆ ให้ลองเอาเล็บขีดที่ผิวเบาๆ ดู ถ้าไม่เห็นรอยขีด แสดงว่าผิวของเราแข็งแรง มีความยืดหยุ่นค่ะ ที่เราต้องให้ความสำคัญกับผิวขนาดนี้ก็เพราะผิวคืออวัยวะที่สำคัญช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นภายในไว้ และยังป้องกันมลภาวะต่างๆ ไม่ให้เข้ามาในร่างกายเราอีกด้วย ถือเป็นทหารเอกหรือเกาะป้องกันด่านแรกของร่างกายเราเลยก็ว่าได้

Jessica

shutterstock_275916962

Kendall Jenner

shutterstock_406593712

Miranda May Kerr

shutterstock_416880763

การที่เรายอมรับความสวยตามแบบของเราน่ะดีที่สุดแล้ว เพราะบางคนอยากจะมีผิวขาวซะจนไม่สนวิธีการว่าอันตรายรึเปล่า ทั้งฉีดผิว กินกลูต้า บริโภคทุกอย่างที่เชื่อว่าจะทำให้ผิวขาวขึ้น คงไม่ต้องอธิบายหรอกนะว่าโทษของมันมีอะไรบ้าง เพราะตัวอย่างก็มีให้เห็นในข่าวกันตลอดเวลาแค่มีผิวที่สุขภาพดีไม่ว่าผิวสีไหนก็สวยได้

แล้วไอ้ผิวสุขภาพดีเนี่ยต้องทำยังไง? ที่จริงแล้วการจะมีผิวสุขภาพดีนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยนะคะ แค่รู้จักดูแลตัวเองเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อยก็สามารถมีผิวที่สุขภาพดีได้แล้ว ยิ่งสมัยนี้มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมากมายตามท้องตลาดออกมาเป็นตัวเลือกให้กับสาวๆ แต่ก็ต้องเลือกให้ดีๆ นะคะ เพราะบางอย่างก็ไม่ได้คุณภาพ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถืออย่าง VASELINE  HEALTHY WHITE UV LIGHTENING เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมีส่วนผสมของวิตามินบี 3 ช่วยให้ผิวกระจ่างใสสม่ำเสมออย่างเป็นธรรมชาติแถมยังทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นด้วยไมโครดร็อปเล็ตจากวาสลีนเจลลี่ช่วยล็อคความชุ่มชื่นและทริปเปิ้ลซันสกรีน ช่วยปกป้องผิวจากอันตรายจากรังสียูวีได้อีกด้วยค่ะ แถมยังน่าเชื่อถือเพราะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอันดับ 1 ในประเทศ (ที่กล้าพูดเนี่ย เพราะเขาได้รับรางวัลการันตีมาแล้วจริงๆ ค่ะ) เหมาะกับทุกสภาพผิว จะผิวขาว ผิวสีแทน ก็ใช้ได้หมด

ที่สำคัญนะคะสาวๆ นอกจากจะบำรุงผิวด้วย VASELINE  HEALTHY WHITE UV LIGHTENING เป็นประจำทุกวันแล้วก็ต้องดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้วต่อวันเพื่อผิวที่ชุ่มชื่น รับประทานผักผลไม้ที่มีประโยชน์ให้เยอะๆ ออกกำลังกายเป็นประจำควบคู่ไปด้วยจะดีมากค่ะ

Vanquishh_Lotion_TH_UV_250ml_PackA4
ถ้าใครอยากทราบข้อเพิ่มเติมก็เข้าไปติดตามได้ที่
 http://www.vaselinethailand.com/ ตามลิงค์นี้เลยค่ะ

อัพเดทชีวิต ‘แพลงต้อน-อีตั้น’โตเป็นหนุ่มหล่อเนื้อหอมไม่เบา แม่หมิวไม่หนักใจ มั่นใจเลี้ยงลูกดี เพราะมีสิ่งนี้…

‘แพลงต้อน-อีตั้น’โตเป็นหนุ่มหล่อไม่เบา …สาวๆ ว่าไง

‘แพลงต้อน-อีตั้น’โตเป็นหนุ่มหล่อไม่เบา ล่าสุดหมิวพาลูกชายทั้ง2คน มาโชว์ความออร่าจับไม่แพ้พ่อก้อง (นรบดี) เลยขอพามาอัพเดทความหล่อ เอ๊ย อัพเดทชีวิต วันนี้จึงจัดให้เต็มๆ

eton

eton1ตอนนี้แพลงต้อนกำลังเรียนอยู่ม.4 ที่โรงเรียนร่วมฤดี ส่วนอีตั้นเรียนอยู่ม.2 ที่โรงเรียนเดียวกัน ซึ่งถ้ามีเวลาว่างแพลงต้อนจะชอบดูหนัง กับเล่นเบส หรือไม่ก็วาดรูป เรียกว่าอารมณ์ศิลปินสุดๆในขณะที่อีตั้นเองก็ชอบตีกลอง ดูหนัง เรียกว่าดูได้ทุกประเภทเลย

Untitled-4

Screen Shot 2016-07-31 at 11.39.11 PM copyส่วนไลฟ์สไตล์การกินของหนุ่มๆ บ้านนี้ด้วยความที่แม่หมิวกินมังสวิรัติ สายเฮลตี้รักสุขภาพสุดๆ แถมคุณยายก็เข้มงวดเรื่องการกินมาก 2 หนุ่มก็เลยได้อิทธิพลมาเต็มๆ แพลงต้อนเล่าให้ฟังว่า “คุณยายดูแลอาหารให้ตั้งแต่เด็กเลย ท่านให้กินผักทุกอย่าง เวลามาที่บ้านจะสำรวจว่ามีผักผลไม้ติดบ้านไหม  ตอนเด็กๆ พวกเราไม่ได้ดื่มพวกน้ำอัดลมเลย แต่พอโตขึ้นมาก็อนุโลมบ้าง แต่อย่าบ่อย มีเหมือนกันที่ผมกับอีตั้นเบื่ออาหาร เราก็โทรเรียกอาหารฟาสต์ฟู้ดมาส่งที่บ้าน สั่งต่อหน้าคุณยายเลย ท่านก็มีบ่นบ้าง” (ยิ้ม)

Untitled-55

Untitled-6บ้านนี้มาแปลกแทนที่แม่จะทำให้ลูกกิน แต่กลายเป็นว่าแม่หมิวขอผ่าน ยิ่งเวลาอยู่บ้านหมิวจะไม่ทำเลยยกเว้นถ้าไปเที่ยวต่างจังหวัดก็จะทำอาหารเช้าง่ายๆ   เช่น พาสต้า กับไข่เจียว ด้านแพลงต้อนเห็นแบบนี้เป็นหนุ่มชอบทำอาหารนะจ๊ะ เคยไปเรียนทำขนมปังด้วย เมนูที่ชอบทำคือ ไข่คน เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ใส่ชีสลงไป ด้านอีตั้นก็มีจานถนัด เป็นเมนูง่ายๆ อย่างเฟรนช์โทสต์  เมนูเดียวเอาอยู่

อย่างล่าสุดเพิ่งยกโขยงไปเที่ยวประเทศอังกฤษ ยังต้องกินร้านออแกนิคเลยจ้าาา
เรื่อง : นิตยสารแพรว  ภาพ: eaton.sas,https://www.facebook.com/mew.lasi

พยากรณ์ดวงชะตาประจำวัน จันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2559

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : หากวันนี้ท่านจะไปเซ็นสัญญาหรือคุยโปรเจ๊คท์ใดๆ หาข้อมูลให้พร้อม ต้องดูให้รัดกุม ก่อนจะตกปากรับคำเซ็นสัญญา เพื่อไม่ให้พลาด

การเงิน : ใช้เงินไปกับการท่องเที่ยว

ความรัก : จะมีญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวป่วย ดูแลกัน อย่าว่อกแว่กเชียว คนโสด คบกันอยู่ดีๆ ก็ระแวงกันซะงั้น ต่างคนต่างกลัวจะนอกใจ หากไม่มั่นใจก็เลิกกันตั้งแต่ตอนนี้เลย จะได้ไม่เจ็บ

สุขภาพ : จะมีปัญหาที่ข้อต่อกระดูกหลังไม่ค่อยดี

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : จุดอ่อนท่านอยู่ที่บริวารและลูกน้องทำงานไม่เต็มที่ ควรคิดวิธีบริหารจัดการใหม่

การเงิน : ได้ลาภจากญาติผู้ใหญ่ เช่น ทรัพย์สินเงินทอง มรดก

ความรัก : ความคิดสวนทางกัน กว่าจะซื้อของสักชิ้นต้องใช้เวลาปรึกษากันนานมาก ส่วนใหญ่จะหนักไปในทางทะเลาะกันมากกว่า แค่ลดอัตตาลงก็ไม่เครียดแล้ว คนโสด จากพื้นดวงชาวจันทร์หลงรักคนง่ายอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอย่าหลงที่หน้าตา หมดยุครักแรกพบแล้วมั้ง

สุขภาพ : พกยาแก้ผื่นคัน ลมพิษไปด้วยนะคะ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : ท่านที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ระวังจะสะดุด อย่าลงทุนเยอะ ดวงไม่เปิด ไม่เข้าข้างเลย จะถูก

หุ้นส่วนหลอก หากเป็นไปได้ควรทำเองดีกว่า

การเงิน : รายจ่ายจรเยอะ

ความรัก : ทะเลาะกันอย่างไรก็แล้วแต่ อย่าก้าวร้าวหรือใช้ความรุนแรง จะสร้างบาดแผลทั้งทางกายและจิต พยายามหักห้ามใจ คนโสด ไม่ควรหวั่นไหวกับภาพลวงตา เพราะท่านอาจกำลังหลอกตัวเองว่า เขามีใจกับเรา เขารักเรา ไม่จริงนะคะ ตื่นๆๆ

สุขภาพ : ระบบทางเดินหายใจมีปัญหา หอบหืดกำเริบ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน : ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าหลายอย่าง พูดกับใครก็ไม่ราบรื่น จะถูกขัดใจได้

การเงิน : ยังต้องจ่ายค่ายา ค่าหมอ เพื่อรักษาคนในบ้าน

ความรัก : ได้ของขวัญที่ถูกใจ จบด้วยแฮปปี้เอ็นดิ้ง คนโสด มีคนไม่โสดมาชอบ อย่าเพิ่งเลือก เพราะช่วงนี้ดวงคู่ยังไม่เปิด

สุขภาพ : อาจแพ้อาหาร อากาศ เกสรดอกไม้ ต้นไม้ จนเกิดผื่นคัน

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : ได้งานท้าทาย ซึ่งท่านอยากทำเพื่อลบคำสบประมาท ควรทำให้ได้ เพราะจะทำให้ท่านกลายเป็นฮีโร่ของเพื่อนเลยทันที

การเงิน : ได้เงินเล็กๆ น้อยๆ จากงานเสริม

ความรัก : คนในครอบครัวเจ็บป่วย หรือมีเคราะห์ ใส่ใจดูแลกันหน่อย คนโสด คู่ท่านเรื่อยๆ มาเรียงๆ ยังไงก็ไม่รู้ รอพรุ่งนี้แล้วกันนะ

สุขภาพ : เข่ามีปัญหา หรือกระดูกเสื่อม

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน : ชาวศุกร์เริ่มต้นเดือน เริ่มต้นสัปดาห์ก็ดวงไม่ดีเสียแล้ว กากบาทเลย อาจมีปัญหากับหุ้นส่วนหรือเพื่อนร่วมงาน เหมือนต่างคนต่างก็คิดว่า ตัวเองถูกเอาเปรียบ เพราะมีความเหลื่อมล้ำ เป็นต้นเหตุให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง จนถึงใส่ร้ายกัน

การเงิน : ใช้เงินก้อนใหญ่กับการลงทุน

ความรัก : ความรักถูกกากบาทด้วย จะทะเลาะกัน จนเปิดโอกาสให้มือที่สามมาเกี่ยวข้อง อย่าดึงผู้ใหญ่มาเดือดร้อนด้วย คนโสด หากเคยถ่ายคลิปอะไรไว้ เก็บไว้ให้ดี อาจหลุดออกไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

สุขภาพ : ระวังติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่กำลังใกล้สอบ หรือเข้าเรียนใหม่ ให้ปรับสภาพตัวเองให้ได้แล้วจะเรียนได้

การเงิน : จะมีโชคลาภจากการเป็นนายหน้า

ความรัก : สถานภาพน้อยใจกัน พูดอะไรนิดก็เก็บไปคิดมาก อย่ามโนกันนัก คิดเรียบๆ ง่ายๆ ให้ชีวิตมีความสุขดีกว่า คนโสด รอไปก่อนนะ ยังไม่ใช่ ยังไม่มา

สุบภาพ : ระบบขับถ่ายมีปัญหา ท้องไส้ไม่ปกติ

Hallo Norge!! หนาวส่งท้ายที่นอร์เวย์ (ตอนที่ 2)

หน้าร้อนที่ผ่านมาแดดเมืองไทยโหดร้ายจริงๆ หลายวันที่อุณหภูมิสูงเกินกว่า 40 องศาเซลเซียส ผมจึงวางแผนพาอาม่าและเจ้าต้นกล้วยน้องชายตัวแสบหนีร้อนไปหาลมหนาวสักหน่อย จุดหมายปลายทาง ที่เล็งไว้มานานแล้วคือ นอร์เวย์ ดินแดนแห่งฟยอร์ด (Fjord) กำหนดการมีแค่ 5 วัน เนื่องจากต้องรีบกลับมาปั่นงานต่อ

ล่องเรือชมฟยอร์ด

ทริปนี้เราซื้อตั๋วเดินทางในนอร์เวย์กับนอร์เวย์ อิน อะ นัทเชลล์ (Norway in a Nutshell) ซึ่งเป็นบริษัทขายตั๋วรถไฟ เรือ รถบัส แบบวันสต็อปเซอร์วิส ให้ผู้ที่ต้องการเดินทางแบบอิสระ ไม่มีไกด์นำ เดินทางกันเองตามเวลาที่ระบุในตั๋ว แรก ๆ ก็กลัวว่าจะหลงหรือ ตกตารางการเดินทาง อีกทั้งภาษาก็เป็นนอร์วีเจียน แต่เนื่องจากผู้คน ไม่มาก ป้ายสัญลักษณ์บอกทางชัดเจน ตารางเดินทางที่เที่ยงตรง จึงไม่มีปัญหาในการเดินทางแต่อย่างใด ทัวร์มีหลายรูปแบบ เลือกได้ตามที่ต้องการว่าจะไปไกลแค่ไหน ไปกี่วัน

นอร์เวย์
รถไฟไปเมืองฟลัม

เส้นทางที่เราเลือกเป็นเส้นทางคลาสสิกและนิยมที่สุด คือ นั่งรถไฟสายฟลัมเรลเวย์ บนเทือกเขานอร์เวย์ ล่องเรือชม ฟยอร์ดแลนด์ และแนเรยฟยอร์ด ค่าตั๋วคนละ 2,600 โครเนอร์ นอร์เวย์ (NOK) หรือราว 13,000 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เสียครึ่งราคา สามารถซื้อตั๋วได้จากเมืองไทย หรือซื้อที่ศูนย์ บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวกลางเมืองก็ได้

เส้นทางหลักในการดูฟยอร์ดของทริปนี้ เริ่มจากนั่งรถไฟ ที่สถานีกลาง (Central Station) ออกจากกรุงออสโลตอน 8 โมงเช้า รถไฟหน้าตาทันสมัยมาก ที่นั่งนุ่มสบาย มีตู้เสบียง ทันสมัยเหมือนกับผับร้านอาหาร บางตู้มีมุมเด็กให้เด็กๆ ป่ายปีน เล่นแบบสวนสนุก ต้องชมไอเดียคนคิดว่าเก่งมาก

นอร์เวย์
ทิวทัศน์ระหว่างไปเมืองฟลัม

เราใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงมาถึงเมืองมีร์ดัล (Myrdal) ที่ความสูง 1,200 เมตร ไม่น่าเชื่อว่า ขนาดเข้าหน้าร้อน หิมะ ก็ยังตก บางจุดหิมะสูงท่วมหลังคาบ้าน จนอดสงสัยไม่ได้ว่า ผู้คนจะออกจากประตูบ้านได้อย่างไร จากนั้นลงต่อรถไฟสาย ฟลัมเรลเวย์ ลักษณะแบบรถไฟโบราณ แล่นช้า ๆ ขึ้นและลง ชมวิวเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุมสวยงามแปลกตา อีกราวหนึ่งชั่วโมง ระหว่างทางได้เห็นถนนสตัลไฮม์สเคลวา (Stalheimskleiva Road) ซึ่งเป็นถนนที่ชันและคดเคี้ยวที่สุดในยุโรป ซิกแซ็กเป็นรูป ฟันปลา ถ้าขับรถคงจะเวียนหัวมาก ระหว่างทางแวะชมน้ำตก จอสฟอสเซน (Kjosfossen) ซึ่งแข็งเป็นน้ำแข็ง จากนั้นรถไฟ พาเราวิ่งลงมายังท่าเรือเมืองฟลัม (Fläm) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ สงบๆ ริมทะเลสาบ

นอร์เวย์ทริปนี้เราล่องชมฟยอร์ดแลนด์ และแนเรยฟยอร์ด ซึ่งเป็นกิ่งแยกของซอกเนฟยอร์ด (Sognefjord) ที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก เรือสีขาวสองชั้น หากต้องการเห็นวิวทั่ว ๆ ควรนั่งดาดฟ้า แต่ลมจะแรง ที่น่าแปลกใจคือ คนบนเรือ ชมฟยอร์ดในทริปนี้ ตอนแรกคิดว่าส่วนใหญ่น่าจะเป็น คนจีน ญี่ปุ่น หรือเกาหลี ปรากฏว่ากลายเป็นพี่ไทยไปซะงั้น เป็นกรุ๊ปทัวร์ 2 กลุ่มใหญ่ พูดจาโหวกเหวกเสียงดังจนคนจีน เงียบจ๋อยเลย เราได้แต่ละอายในใจเงียบๆ

ผมเคยมีโอกาสไปชมฟยอร์ดที่นิวซีแลนด์ ความสวย สู้ที่นอร์เวย์ไม่ได้ ที่นี่ลึกกว่า แคบกว่า บางช่วงได้เห็นแมวน้ำ ตัวเป็น ๆ สีน้ำตาลเข้ม ตากลมบ้องแบ๊ว ผลุบโผล่ทักทายกลาง สายน้ำ ได้ยินว่าบางครั้งอาจโชคดีเห็นปลาโลมาว่ายโฉบเฉี่ยว ริมเรือด้วย

อากาศบนดาดฟ้าเรือหนาวมาก ลมก็แรง เวลาผ่านไปเร็วมาก เรา ใช้เวลารวม 2 ชั่วโมงในการล่องเรือเคล้าฝูงนกนางนวล นกที่นี่เชื่องมาก จนสามารถโยนขนมปังให้กินกลางอากาศ บางตัวถึงขนาดบินมาจิกขนมปัง จากมือ ระยะทางล่องเรือประมาณ 20 กิโลเมตร ตลอดข้างทางมีหมู่บ้าน เล็ก ๆ สงบ น่ามาพำนักอยู่ชั่วคราวสักสิบปี

นอร์เวย์
วิวเมืองวอสส์

จากนั้นเรานั่งรถโดยสารต่อมาที่เมืองวอสส์ (Voss) เพื่อมาขึ้นรถไฟไปเมืองเบอร์เกน (Bergen) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของนอร์เวย์ อากาศยังคงหนาวจับใจ อุณหภูมิราว 4 องศาเซลเซียส เที่ยวเมืองเบอร์เกน เสร็จได้ไม่นานเราก็นั่งรถไฟตู้นอนกลับมาถึงกรุงออสโลตอนเช้าของอีกวัน รถไฟตู้นอนแบ่งเป็นห้องเล็ก ๆ มีประตูปิดมิดชิด สะอาด เตียงเป็น 2 ชั้น ฟูกมีฮีทเตอร์ หนึ่งห้องนอนได้สองคน แม้พื้นที่จะจำกัด แต่ก็มีอ่างล้างหน้าส่วนตัว รถไฟที่นี่วิ่งเรียบมาก เวลานอนแทบไม่รู้สึกถึง แรงสะเทือน เหมือนนอนในโรงแรมปกติ หลับสบายเลย

การเดินทางโดยรวมทริปนี้เหนื่อยพอควร แต่ขอบอกว่า สวย สนุก และประทับใจจริงๆ รวมระยะทางทั้งสิ้น 990 กิโลเมตร น่าเสียดาย ที่เวลามีน้อยไปนิดและไม่เห็นแสงเหนือ จึงแอบคิดว่า จะหาโอกาสกลับมาเที่ยวอีกแน่ๆ แต่ต้องหาเวลาสักหนึ่งสัปดาห์ แล้วเดินทางมาช่วง กรกฎาคมน่าจะลงตัวที่สุด

นอร์เวย์สำหรับทริปนี้ Ha det…Norge!!

 

TIPS : NORWAY FJORD TRIP

  •  เมือง : Oslo, Myrdal, Flam,Gudvangen, Voss, Bergen รวมระยะทาง: 990 กิโลเมตร
  • ไฮไลท์ : เที่ยวกรุงออสโล นั่งรถไฟสายฟลัมเรลเวย์ และล่องเรือชมออร์แลนด์ส ฟยอร์ด และแนเรยฟยอร์ด
  • ค่าใช้จ่าย : เฉลี่ยคนละ 35,000 บาท ไม่รวมค่าเครื่องบิน
  • สอบถามเพิ่มเติม : [email protected]

ที่มา : คอลัมน์สารคดีท่องเที่ยว นิตยสารแพรวฉบับที่ 886

“การ์มิน วีโว่มูฟ” นาฬิกาข้อมือ 2 in 1 บอกเวลาได้และยังเป็นตัวช่วยให้คุณสุขภาพดีอย่างมีสไตล์

ส่วนใหญ่คนรุ่นใหม่หลายคนมักจะมีไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ จนลืมดูแลสุขภาพ หรือใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ตลอดวัน แต่วันนี้เรามีไอเท็มที่จะมาเป็นตัวช่วยเรื่องสุขภาพของเรามาแนะนำให้รู้จัก

“การ์มิน วีโว่มูฟ” (Garmin vivomove) นาฬิกาข้อมือดีไซน์หรูที่มาพร้อมแถบสถานะการเคลื่อนไหวสีแดง ซึ่งจะยาวขึ้นทุกๆ 15 นาทีจนกว่าจะถูกรีเซ็ทค่าด้วยการเดิน 2-3 นาที เพื่อกระตุ้นให้ขยับร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากการนั่งนานๆ ติดต่อกันจะทำให้ร่างกายลดการผลิตเอนไซม์ที่ช่วยเผาผลาญไขมัน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำร้ายสุขภาพ นอกจากนี้ วีโว่มูฟยังมีฟังก์ชั่น Activity Tracker ที่จะนับก้าวเดินและตั้งเป้าหมายจำนวนก้าวเดินรายวันโดยอัตโนมัติ เพื่อค่อยๆ ผลักดันให้ทุกคนมีไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟกว่าที่เคย

GARMIN vivomove_lifestyle shot (2)

การ์มิน วีโว่มูฟ คือคำตอบสำหรับผู้ที่อยากสวมใส่สายรัดข้อมือสุขภาพและมีความหลงใหลในแฟชั่น ด้วยดีไซน์ที่มาในรูปทรงนาฬิกาข้อมือแบบคลาสสิก แต่เต็มไปด้วยฟังก์ชั่นที่ทันสมัย เช่น การตรวจวัดคุณภาพการนอนหลับ และความสามารถในการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น Garmin Connect เพื่อติดตามความก้าวหน้าของไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟขึ้นทุกวัน นอกจากนี้ การ์มิน วีโว่มูฟสามารถกันน้ำได้ลึก 50 เมตร ทำให้สามารถใส่อาบน้ำหรือว่ายน้ำได้โดยไม่ต้องกังวล* ส่วนแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานอยู่ได้นานถึง 1 ปี

GARMIN vivomove (Sport Grey)GARMIN vivomove (Classic Rose Gold)การ์มิน วีโว่มูฟ พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้ ใน 2 สไตล์แตกต่างกัน ได้แก่ 1) รุ่นสปอร์ตสายซิลิโคนสีขาว/เงิน และสายซิลิโคนสีเทา-เงิน ราคา 5,990 บาท และ 2) รุ่นคลาสสิกสายหนังสีขาวหน้าปัดเคลือบสีโรสโกลด์ และสายหนังสีดำหน้าปัดสีดำ ราคา 8,390 บาทจำหน่ายที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีและแก็ดเจ็ต และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ

เรียบเรียงโดย : saipiroon_แพรวดอทอคม

ภาพ : Garmin vivomove

 

พยากรณ์ดวงชะตาประจำวัน อาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม 2559

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : ปวดหัวกับมาตรฐานของเจ้านายจริงๆ เพราะไม่ว่าทำอะไรก็ถูกตำหนิตลอด เห็นเราไม่มีผลงาน ทั้งที่ก็พยายามทำเต็มที่แล้ว

การเงิน : อย่าทำเอกสารสัญญา จะเป็นรอง

ความรัก : เรื่องเด่นประจำวันนี้คือ คำพูด พยายามอย่าต่อปากต่อคำกัน เพราะจะนำพาทุกสิ่งเข้ามาที่ตัวจนไปถึงกำลัง คนโสด มีคนเข้ามาแต่ไม่จริงใจ มีแต่เรื่องเดือดร้อนมากกว่าความสุข

สุขภาพ : จะมีปัญหาเรื่องน้ำในหูไม่เท่ากัน หรือบ้านหมุน

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : ไม่ค่อยมีความสุข สำหรับผู้หญิงวันนี้ควรวางตัวดีๆ จะเจอเจ้านายเจ้าชู้ใส่ พูดจาแทะโลม แต่จะกลายเป็นท่านที่ถูกมองว่า ให้ท่า อยากเจริญในหน้าที่การงาน ซะงั้น

การเงิน : วันหยุดเงินเดือนออกก็ต้องออกไปจับจ่ายใช้สอยตามระเบียบ

ความรัก : ลงทุนร่วมกันแล้วพลาด เลยเป็นประเด็นไม่เข้าใจกันในครอบครัว แทนที่จะเอาแต่โทษกัน ควรหันมาช่วยแก้ไขดีกว่า คนโสด ไม่ได้ดังใจ หงุดหงิดกันบ่อยมาก ดูท่าจะไปกันไม่รอดแล้ว

สุขภาพ : ผู้หญิงจะมีปัญหาเรื่องเนื้องอกในมดลูก

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : ท่านพูดตรงจนถูกเจ้านายเขม่น มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก แต่งานต้องทำกันเป็นทีมเวิร์ค ท่านจึงควรปรับตัวเข้ากับพวกเขาให้ได้ งานจึงสำเร็จ

การเงิน : ใช้จ่ายเกี่ยวกับซื้ออุปกรณ์ในการทำงาน

ความรัก : แม้พูดจากันดีขึ้น แต่ในใจยังคงคลางแคลง พยายามคุยกันอีก ปอกเปลือกออกให้หมดใจเลย คราวหน้าจะได้ไม่ต้องมีอะไรค้างคา คนโสด เตรียมใจไว้หน่อยนะ เพราะวันนี้ความจริงจะเปิดเผยว่า คนที่ท่านแอบรักอยู่ เขามีเจ้าของแล้ว เศร้าเลย

สุขภาพ : ฟันมีปัญหา ปวดฟัน อาจต้องรักษารากฟัน

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน : ทำงานเยอะมาก เพราะใช้งานลูกน้องไม่ได้ดังใจ เครียด และเหนื่อยจนอยากลาออก แต่งานตอนนี้หายาก ขอให้อดทนทำไปก่อน

การเงิน : จะเสียเงินกับการศึกษาของบุตรหลาน

ความรัก : เป็นช่วงป่วยไข้ของครอบครัวชาวพุธ ทั้งญาติผู้ใหญ่ คู่ ลูกหลาน แม้กระทั่งตัวท่านเอง ก็พยายามให้กำลังใจกัน คนโสด เตรียมใจไว้ว่าจะมีคนมีครอบครัวแล้ว เข้ามายั่วเย้าในเชิงทีเล่นทีจริง อย่าได้หลงเชื่อ เพราะท่านจะถูกแฟนเขาตามมาแฉ

สุขภาพ : คุมน้ำตาลด่วน เพราะเบาหวานถามหา

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : ชาวพฤหัสถูกกากบาท วันนี้ท่านถูกเจ้านายเอาเปรียบ ฉกฉวยผลประโยชน์หรือผลงานเข้าตัวเองคนเดียว หรือกลายเป็นเครื่องมือของคนมีอำนาจเหนือกว่า อาจเป็นคดีความ หากผิดพลาดจะต้องแก้ปัญหาหลายอย่าง

การเงิน : เสียรู้คน เงินในกระเป๋าหายวูบ อย่าโลภ

ความรัก : มีปากเสียงกันบ่อย ลองแยกกันอยู่ชั่วคราวไหม หรือหากดีกว่า ก็แยกกันเป็นการถาวรเลย คนโสด คนที่คบอยู่นิสัยไม่ค่อยดี ระวังท่านจะถูกหลอกใช้ในเรื่องผิดกฎหมาย

สุขภาพ : ระวังเรื่องการขับรถ อย่าขับเร็ว หรือประมาท ควรไปปล่อยปลา ซื้อโลงศพ เพื่อสะเดาะเคราะห์ให้กับตัวเอง

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน : ได้ทำงานหนักกว่าคนอื่นตลอด แต่ก็ต้องทำ เพราะภาระเยอะ ไม่ทำงานก็ไม่มีเงิน

การเงิน : ทั้งที่รู้ว่าถูกหยิบยืมเงินแล้วจะไม่ได้คืน แต่เพราะบุญคุณทำให้ปฎิเสธไม่ได้

ความรัก : สถานภาพและความสัมพันธ์เรื่อยๆ มาเรียงๆ ไม่มีอะไรคืบหน้า เสมอต้นเสมอปลาย จะว่าไปก็มีความสุขอีกแบบ คนโสด หาคู่ยาก ยังไม่เจอคนที่จริงจัง และก็ยังไม่มีใครเข้ามาด้วย

สุขภาพ : จะมีปัญหาเรื่องภูมิแพ้ เจ็บคอ เป็นหวัด

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : หากต้องเดินทางไปทำงานนอกสถานที่ เตรียมเอกสารให้พร้อม และเตรียมลับฝีปากไว้เพื่อเจรจาต่อรองให้ดี เพราะหากผ่านก็จะประสบความสำเร็จมากมาย

การเงิน : เก็บเงินไม่อยู่ เพราะมีรายจ่ายเต็มสตรีม

ความรัก : ดูแลระวังรักษาใจกันหน่อย อยู่ห่างกันแล้วทะเลาะกัน เครียดเป็นสองเท่า เท่ากับเปิดโอกาสให้มีคนสอดแทรกได้ง่าย คนโสด มีคนเข้ามาแต่ก็ยังไม่ใช่ ไม่ชัดเจน

สุบภาพ : ระบบย่อยอาหารและลำไส้มีปัญหา

Hallo Norge!! หนาวส่งท้ายที่นอร์เวย์ (ตอนที่ 1)

หน้าร้อนที่ผ่านมาแดดเมืองไทยโหดร้ายจริงๆ หลายวันที่อุณหภูมิสูงเกินกว่า 40 องศาเซลเซียส ผมจึงวางแผนพาอาม่าและเจ้าต้นกล้วยน้องชายตัวแสบหนีร้อนไปหาลมหนาวสักหน่อย จุดหมายปลายทาง ที่เล็งไว้มานานแล้วคือ นอร์เวย์ ดินแดนแห่งฟยอร์ด (Fjord) กำหนดการมีแค่ 5 วัน เนื่องจากต้องรีบกลับมาปั่นงานต่อ

ไฮไลท์ของทริปนี้คือ นั่งรถไฟสายคลาสสิก ฟลัมเรลเวย์ (Flam Railway) บนเทือกเขานอร์เวย์ ล่องเรือชมออร์แลนด์ส ฟยอร์ด (Aurlands Fjord) และแนเรยฟยอร์ด (Nryfjord) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก (World Heritage)  หลังจากค้นหาข้อมูลในโซเชียลทั้งหลายได้สักพัก ก็คิดว่าพอไหวกับเวลาอันแสนสั้นนี้ ใช้เวลาทำวีซ่าสั้นมาก แค่สองวัน ว่าแล้วก็แบ็กแพ็คกันไปเลย

นอร์เวย์
มอสส์สีสวยที่แนเรยฟยอร์ด

ฮัลโลนอร์เวย์

ช่วงที่เรามาเป็นช่วงหยุดสงกรานต์ อุณหภูมิที่นี่หนาวพอได้จับไข้ ประมาณ 9 องศาเซลเซียส ตกดึกลดลงไปถึง 0 องศาเซลเซียส พระอาทิตย์ตกราวทุ่มหนึ่ง ความจริงที่นอร์เวย์มีปรากฏการณ์ธรรมชาติ นอกจากฟยอร์ดแล้วก็มีแสงเหนือ (ออโรร่า – Aurora) ซึ่งพอมีโอกาส จะเห็นที่กรุงออสโล แต่น้อยมาก ต้องบินขึ้นไปด้านเหนือของประเทศ อีกสัก 1,200 กิโลเมตร แถวเมืองทรอมโซ (Tromso) น่าเสียดายที่ไม่ได้ ขึ้นไปเพราะเวลาจำกัด หากมาในช่วงเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม ก็จะเห็นพระอาทิตย์เที่ยงคืน

นอร์เวย์เป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวีย ค่าครองชีพแพง เป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองแค่สวิตเซอร์แลนด์ ฮ็อตด็อกข้างทาง ตกชิ้นละ 300 บาท แฮมเบอร์เกอร์ 2 ชิ้นจ่ายแบงก์พันไม่มีทอน น้ำมัน ลิตรละ 60 บาท ค่าเข้าห้องน้ำครั้งละ 50 บาท ค่าครองชีพในโตเกียว กับนิวยอร์กต้องยอมแพ้เรียกพี่ได้เลย

นอร์เวย์
ทิวทัศน์ของฟยอร์ดแลนด์

พื้นที่นอร์เวย์มีขนาด 3 ใน 4 ของสยามประเทศ แต่พลเมือง มีเพียง 5 ล้านคน ความหนาแน่นประชากรต่างกันร่วม 20 เท่า มองไป ไม่ค่อยเจอผู้คนเท่าไหร่ เป็นประเทศที่ส่งออกแซลมอนมากที่สุดในโลก ภูมิประเทศเป็นฟยอร์ดติดชายฝั่งยาวกว่า 20,000 กิโลเมตร มีลักษณะ เป็นทางน้ำลึก แคบ สองข้างทางเป็นหน้าผาสูงซึ่งเกิดจากการกัดเซาะ ของธารน้ำแข็ง (Glacier) มาเป็นเวลาหลายร้อยล้านปี

ผู้คนในสมัยก่อนที่เรียกว่า ชาวไวกิ้ง จึงเชี่ยวชาญการเดินเรืออย่างมาก ถึงขนาดบุกไปยึดทางตอนเหนือของอังกฤษเมื่อราว 1,200 ปีก่อน คนที่นี่รูปร่างสูงใหญ่เฉลี่ยน่าจะ 6 ฟุต เวลาเดินเทียบกันพวกเรา ดูเป็นเด็กไปเลย ผู้คนยิ้มแย้มมีมิตรไมตรี ทั้งผู้หญิงผู้ชายส่วนใหญ่ หน้าตาดูดี ผิวพรรณขาวเนียนกว่าทางอังกฤษและออสเตรเลีย ตัวอย่าง ดาราที่เมืองไทยก็ต้องเป็นน้องญาญ่าคนสวยที่เป็นลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ ความจริงยังมีดาราลูกครึ่งไทย-สแกนดิเนเวียนที่หน้าตาดีอีกหลายคน เช่น ใหม่ ดาวิกา, ปู ไปรยา, แอน ทองประสม, ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล

สัมผัสออสโล

กรุงออสโลเป็นเมืองหลวงของนอร์เวย์ บ้านเรือนไม่สวยคลาสสิก เท่าเมืองหลวงดัง ๆ ในยุโรปอื่นอย่างโรม ปารีส ปราก แต่ก็มีเอกลัษณ์ ของตนเอง มีพิพิธภัณท์เยอะ ที่นิยมก็คือ มูนช์ มิวเซียม (Munch Museum) เก็บรูปภาพศิลปะแนวเอกซ์เพรสชันนิสม์ มีภาพวาดคน กรีดร้อง (The Scream) ที่โด่งดังมาก พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง ซึ่งมีซาก เรือไวกิ้งอายุกว่าพันปีให้ชม ศูนย์โนเบลสันติภาพ สวนฟรอกเนอร์ (Frogner Park) ซึ่งมีรูปปั้นโลหะในสวนมากที่สุดในโลก โรงละครโอเปร่า ที่มีสถาปัตยกรรมสีขาวโดดเด่น หลังคาเป็นสโลปทางเดิน เราสามารถ เดินจากพื้นไปถึงยอดหลังคาเพื่อชมวิวตัวเมืองได้ ส่วนอื่น ๆ ไม่ว่า จะเป็นซิตี้ฮอลล์ พระราชวัง ก็เหมือนเมืองในยุโรปทั่วไป

นอร์เวย์
พระราชวังในกรุงออสโล
นอร์เวย์
โรงละครโอเปร่าในกรุงออสโล

บริเวณพระราชวังมีการเปลี่ยนเวรทหารช่วงบ่าย ๆ สวยงามคล้าย กับที่ลอนดอน จุดหนึ่งที่ชอบของกรุงออสโลคือ มีบริการให้เช่าจักรยาน ชมเมือง (City Bike) ทั่วเมือง เราสามารถเช่าขี่ไปที่ต่าง ๆ และจอดทิ้งไว้ ประหนึ่งเหมือนขึ้นรถเมล์ ชาวจักรยานนักปั่นเห็นแล้วคงจะปลื้ม

ถนนคนเดินในเมืองร่มรื่นดี แม้ว่าจะเข้าเดือนเมษายนแล้วแต่ ก็ยังมีเศษน้ำแข็งหิมะประปราย ที่ชวนสะดุดตาคือ มีคนจรจัดมาก พอสมควร ส่วนใหญ่เป็นพวกผู้อพยพจากยุโรปตะวันออก จึงไม่น่าสงสัย ว่าทำไมการเข้าห้องน้ำตามร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดถึงต้องขอรหัสเข้าห้องน้ำ จากคนขายก่อน ซึ่งชาวนอร์เวย์ยังถกเถียงกันว่าจะดำเนินการอย่างไรดี กับปัญหาคนจรจัดนี้

นอร์เวย์
กลางกรุงออสโล

ของฝากที่ระลึกตามร้านขายของมีหมวกไวกิ้งและตุ๊กตาโทรลล์ (Troll) ซึ่งเป็นยักษ์ในนิทานปรัมปราของชาวสแกนดิเนเวีย มีจมูกใหญ่ น่ารักน่าชังดี อาศัยในป่าเขาและถ้ำ โรงแรมที่เราพักในครั้งนี้เป็นโรงแรม ใหญ่ที่สุดกลางกรุงออสโล อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟหลัก ระยะห่างไม่ถึง 100 เมตร ช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้นมาก สภาพโรงแรมใหม่และ ทันสมัย แต่ราคาก็แพงได้ใจ คืนละกว่าครึ่งหมื่น โรงแรมสูง 37 ชั้น สามารถเห็นวิวเมืองได้ทั่ว

 

ที่มา : คอลัมน์สารคดีท่องเที่ยว นิตยสารแพรวฉบับที่ 886

โพเอม’ (POEM) เฉลิมฉลอง 1 ทศวรรษแห่งความสำเร็จกับคอลเลกชั่นพิเศษตอกย้ำความงานอันโก้หรู

ก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ได้อย่างสวยงามสำหรับแบรนด์เสื้อผ้าสตรีหรูคัตติ้งเนี้ยบที่ได้สร้างปรากฏการณ์ความงามอันโก้หรู โดดเด่นไม่ซ้ำใครด้วยการตีความที่ร่วมสมัยแต่ยังสามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวันอย่างแบรนด์ ‘โพเอม’ (POEM)

Autumn-Winter 2016 นี้จึงขอตอกย้ำความเป็นที่สุดของสไตล์ด้วยคอลเลกชั่นพิเศษเฉลิมฉลอง 1 ทศวรรษแห่งความสำเร็จใน “A Decade of Glamour” “จุดเริ่มต้นของคอลเลกชั่นนี้คือการมองย้อนกลับไปตลอดระยะเวลา 10 ปีของ POEM มันคือการทำสิ่งที่ผมเชื่อให้ทุกคนได้เห็น” ชวนล ไคสิริ ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์กล่าวถึงแนวคิดเบื้องหลังคอลเลกชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของห้องเสื้อ “ผมเชื่อในเรื่องสัดส่วนความงาม (proportion) และงานฝีมือ (craftsmanship) ซึ่งเป็นสองสิ่งที่คุณแม่ผมสอนว่าสำคัญที่สุดหากจะทำอาชีพนี้”  POEM ในความคิดของชวนลจึงเป็นผู้หญิงผู้ดำเนินชีวิตตามอุดมคติของคำว่าสมบูรณ์แบบ พวกเธอเข้าใจไลฟ์สไตล์ของตัวเองอย่างถ่องแท้และเลือกสรรแต่สิ่งที่ดีที่สุดด้วยตัวเธอเองทั้งสิ้น

800
เทคนิคการตัดเย็บชั้นสูง (Haute Couture) ถูกนำมาลดทอนและร้อยเรียงให้เข้าใจง่ายและสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวันอันเกิดความตั้งใจของชวนลที่อยากเห็นผู้หญิงงดงามได้ทุกโมงยามไม่ว่าเธอจะมีนัดทางธุรกิจหรือนัดสังสรรค์ทางสังคมจะอยู่ในบทบาทผู้หญิงทำงานแม่หรือลูกสาวความงดงามสมบูรณ์แบบคลี่คลายเป็นเค้าโครงเสื้อแบบเลดี้ไลค์ (ladylike) ที่โอบกอดสรีระของผู้หญิงด้วยเส้นสายโค้งเรียวแต่เฉียบคมผ่านเทคนิคการฝังคอร์เซ็ทลงในตัวชุดโดยเลือกใช้วัสดุที่มีโครงสร้างในตัวมาสร้างรูปทรงนาฬิกาทรายเพื่อไม่ให้รบกวนเส้นสายเรียบสะอาดบนตัวชุด

1
A Decade of Glamour ปักหมุดหมายไว้ในทศวรรษที่ 1950 ซึ่งซิลลูเอตต์ขับเน้นสัดส่วนอันโค้งเว้าของสุภาพสตรีได้กลายเป็นหนึ่งในสไตล์ที่โลกจดจำได้มากที่สุดและเป็นเอกลักษณ์ของ ดิต้า วอน ทีส (Dita Von Teese) ศิลปินการเต้นรำเปลือยอก (Burlesque) นางแบบดีไซเนอร์และนักเขียนที่มีแนวคิดอันชาญฉลาดเกี่ยวกับสตรีอย่างชัดเจน “ผมชอบดิต้าตรงที่เธอเป็นคนที่ยอมรับในความแตกต่างของตัวเองและนำเอาความแตกต่างนั้นมาเป็นจุดเด่นเฉพาะตัวที่ไม่มีใครเลียนแบบได้” เธอจึงเป็นมิวส์ผู้งดงามอย่างเย้ายวนแบบฉบับของ POEM ในวาระครบรอบหนึ่งทศวรรษ ทว่าความงามโก้หรูยังแฝงไว้ด้วยความร้อนแรงแบบ Femme Fatale และ Glamour Girl ซึ่งเผยแง่มุมใหม่ของหญิงสาวที่เซ็กซี่ในแบบ POEM เป็นครั้งแรก

3

กลิ่นอายความงามอันร้อนแรงนี้ ยังได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาดยุคโรแมนติกจากค.ศ. 1888 The Rose of Heliogabalus (เดอะ โรสเซส ออฟ เฮลิโอกาบาลัส) ของจิตรกรชาวอังกฤษเชื้อสายเนเธอร์แลนด์ Sir Lawrence Alma-Tadema (เซอร์ ลอว์เรนซ์ อัลมา-ทาเดมา) ที่เล่าเรื่องราวของจักรพรรดิโรมัน เฮลิโอกาบาลัส ผู้สั่งให้โปรยกลีบกุหลาบลงมาถมกายแขกเหรื่อในงานเลี้ยงจนสิ้นชีวิตเพียงเพื่อความสำราญเล่ห์กลที่แสนสวยงามมาสู่แรงบันดาลใจของลายพิมพ์กลีบกุหลาบที่แสนโรแมนติกของชวนลไคสิริใน POEM Fall-Winter 2016 นี้ “ภาพเขียนชิ้นนี้ให้สีและอารมณ์สุดโรแมนติกซึ่งขัดแย้งกับเรื่องราวในภาพอย่างสุดโต่งกลีบกุหลาบแต่ละกลีบบนชุดของ POEM เหมือนเป็นองค์ประกอบของจุดที่เรียงเป็นเส้นและสร้างทิศทางให้ดูเป็นเรขาคณิตกลีบกุหลาบสีแดงยังเป็นสัญลักษณ์ของเพศหญิงความรักที่เร่าร้อนซึ่งกระจายอยู่บนผืนผ้าสีขาวราวกับจะบอกเล่าเรื่องราวของผู้หญิง POEM ที่ติดตามกันมาตั้งแต่วันแรกจนเข้าสู่ช่วงวัยที่เย้ายวนที่สุด”

5

จุดเด่นของคอลเล็กชั่นนี้ยังอยู่ที่ซับในผ้าตาข่ายพิเศษ (power mesh) ซึ่งช่วยเก็บกระชับรูปทรงให้เข้าที่, เทคนิคเลเซอร์คัทและการพิมพ์ลายผ้าด้วยระบบดิจิตอล (sublimation), ลายพิมพ์บนผ้าทูทู 16 ชั้นไล่มิติของเฉดสีอันอ่อนหวานผ่านลายกราฟิกเหลี่ยมมุมของประกายเพชรกับลายกลีบกุหลาบสุดโรแมนติก, ลายพิมพ์กราฟิกเส้นโค้งสไตล์อาร์ตนูโว (art nouveau) ช่วยสร้างฟอร์มโค้งเว้าของเรือนร่างที่สื่อถึงความเย้ายวนอันมีระดับสไตล์เบอร์เลสซึ่งใช้เทคนิคการสแกนลายจากแพทเทิร์นสามมิติซึ่ง POEM พยายามคิดค้นและพัฒนาตลอดมา และยังเพิ่มดีไซน์ใหม่ๆ เช่นกางเกงทรงซิกาแร็ตและเสื้อท่อนแพทเทิร์นดีคอนสตรักชั่นผูกโบองค์ประกอบเด่นที่ให้ความโก้หรูทว่าดูคล่องแคล่วแบบหญิงสาวสมัยใหม

2
Colours
ความงามพิสุทธิ์ซึ่งค่อยๆเผยเสน่ห์สุดอันตรายอันมิอาจต้านทาน เปิดมาด้วยโทนสีละมุน อย่างสีขาว สีเบจและคู่สีทูโทน สีขาวตัดสีชมพู ก่อนจะไล่ระดับโทนสีเข้ม เช่น สีชมพูเข้ม สีแดงก่ำสีเขียวมะกอกและสีดำในลุค Femme Fatal และ Glamour Girl

4
Silhouette & Technique

ช่วงเอวคอดกิ่วกลายเป็นเค้าโครงเอกลักษณ์ของ POEM มาตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งในฤดูกาลนี้ POEM แนะนำเทคนิคการสร้างฟอร์มโค้งเว้าแบบใหม่ที่สัมผัสได้ถึงความบางเบาและละมุนละไม ด้วยเทคนิคพิมพ์ลายบนผ้าทูทู 16 ชั้นซ้อนทับกันเพื่อไล่ระดับของเฉดสีอ่อนหวาน ส่วนลายพิมพ์กราฟิกสไตล์อาร์ตนูโวที่เล่นกับเส้นโค้งช่วยสร้างความคอดเว้า และเฉลิมฉลองสไตล์เบอร์เลสด้วยลายพิมพ์กราฟิกเหลี่ยมมุมประกายของเพชร สื่อถึงความเด็ดเดี่ยวของหญิงสาว โดยใช้การตัดเย็บประณีตให้มีตะเข็บน้อยที่สุด เพื่อให้ลายพิมพ์เชื่อมต่อกันดุจผ้าผืนเดียว

6
Fabrics
เนื้อผ้าที่ให้ผิวสัมผัสและมีเอฟเฟ็กต์สะท้อนถึงความหรูหรา เช่น ผ้ากำมะหยี่เนื้อนุ่มเงา ผ้าทูทูสร้างเค้าโครงโค้งโปร่งเบา และผ้าซิลค์เนื้อมันวาว ทั้งยังเลือกใช้เนื้อผ้าที่สร้างมูฟเมนต์ เช่น ผ้าโพลีเอเอสเตอร์ที่ยืดหยุ่นได้ดี ผ้ากำมะหยี่สแปนเด็กซ์สอดผ้าตาข่ายพิเศษ (power mesh) และผ้าซิลค์ซาตินที่เย็บโครงด้านล่างให้ชายกระโปรงเต้นไหวยามก้าวเดิน นอกจากชิ้นเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ อาทิ กระโปรงเอไลน์ทรงสุ่มและเดรสทรงสอบเข้ารูป ยังแนะนำชิ้นใหม่ๆสำหรับผู้หญิงยุคโมเดิร์น เช่น เสื้อเชิ้ตคอปกที่ดูแข็งแกร่ง เสื้อเบลาส์ผ้าซิลค์แลดูพลิ้วไหว กางเกงทรงซิกาแร็ต กางเกงปลายบาน และโบประดับคอที่เป็นเหมือนแอคเซสเซอรีย์อันโก้หรู

เรียบเรียงโดย : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : POEM

 

อุ้ม นพรรต เน็ตไอดอลสายเชฟ ปั้นเมนูอร่อย ถูกใจFollowersนับล้าน!

สมัยนี้สาวๆ รุ่นใหม่จะเข้าครัวแต่ละครั้ง ก็กลัวนั่นนี่ มองว่าการทำอาหารเป็นเรื่องยาก วันนี้เลยได้เน็ตไอดอลสาวสวย อุ้ม นพรรต เจ้าของคลิปทำอาหารสุดฮ็อตมาแนะนำเคล็ดลับให้ บอกเลยว่าทำง่ายมากๆ

อุ้ม นพรรต

อุ้ม นพรรต เป็นที่รู้จักจากคลิปทำอาหารเมนูง่ายๆ สไตลิ่งน่ารักๆ ในเพจ My name is napat ภายในเวลาไม่ถึงปีมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นจำนวนหลายแสน รวมทุกช่องทางโซเชียลทั้งเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมแล้วมีคนกดติดตามหลักล้าน!

อุ้ม นพรรต

ด้วยนิสัยที่เป็นคนชอบการทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมาเป็นเน็ตไอดอลจากความชอบส่วนตัวนี้ เจ้าตัวเล่าว่าจุดเริ่มต้นจริงๆ มาจากความพยายามทบทวนตัวเอง ค้นหาสิ่งที่ชอบและอยากทำหลังเรียนจบ แล้วพบว่าตัวเองชอบแต่งตัว เลยตัดสินใจเอาดีทางนี้ให้ถึงที่สุด ร้านเสื้อผ้า Napat Closet ที่ก่อตั้งขึ้นก็ขายดิบขายดี จากโบนันซ่าย้ายมาอยู่ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร และเมื่อเห็นว่าพื้นที่โซนด้านหลังน่าจะเปิดขายกาแฟขายเครื่องดื่มได้ก็ตัดสินใจทำทันที สรุปขายดียิ่งกว่าขายเสื้อผ้าเสียอีก

 

ที่มา : หนังสือ Easy&Yummy by อุ้ม นพรรต สำนักพิมพ์ Amarin Cuisine (อ่านต่อหน้าที่ 2)

แบบนี้ก็มีด้วย! ‘พล สัตย์สงวน’ หนุ่มใหญ่วัย40อัพ เสพติดชีวิตนักศึกษาเรียนจนได้ปริญญา21ใบ!

เสพติดชีวิตนักศึกษาเรียนจนได้ปริญญา21ใบ …สุดยอด!

เสพติดชีวิตนักศึกษาเรียนจนได้ปริญญา21ใบ เพราะ ‘พล สัตย์สงวน’ มีดีเอ็นเอทางการศึกษาเต็มตัว คุณตาเปิดโรงเรียน ‘หาดใหญ่อำนวยวิทย์’ ส่วนคุณยายมีโรงเรียน ‘สัตย์สงวนวิทยา’ แต่ทายาทอย่างเขากลับเอ็นทรานซ์ไม่ติด จึงเลือกที่จะจัดระบบการเรียนให้ตัวเองตั้งแต่ม.5 จนถึงวันนี้ในตำแหน่ง หัวหน้าลูกเรือการบินไทยวัย 43 ปี เขามีปริญญาอยู่ในครอบครอง 21 ใบแล้ว จนหลายคนหาว่าบ้า!

 คุณพอลน่าจะเป็นตัวอย่างกับคำพูดที่ว่า ‘ไม่มีใครแก่เกินเรียน’ เพราะไม่ว่าจะเป็นประตูการศึกษาสถาบันไหน เขาพร้อมที่จะตบเท้าเข้าไปเสมอ

 

“เมื่อก่อนเรียนควบคู่กัน 3 ที่เลย ทั้งสาขาภาษาเยอรมัน คณะอักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร   และอีกสองสาขาคือภาษาอังกฤษ และภาษาเยอรมันจากคณะมนุษยศาสตร์ ม.รามคำแหง  และที่มสธ. เรียกว่ามีปริญญา 3 ใบอยู่ในมือแล้ว หลังจากนั้นพอเรียนจบก็ลงเรียนสาขาศึกษาศาสตร์ที่มสธ.ต่อ ได้ปริญญาศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาการแนะแนว ระหว่างนั้นลงม.รามฯ ด้วย กำลังจบก็ลงเรียนสาขาภาษาไทยอีก เพราะอยากเป็นนักเขียน ต่อด้วยรัฐศาสตร์ เพราะตอนนั้นอยากทำงานกระทรวงการต่างประเทศ มีความรู้สึกว่าการเป็นทูตวัฒนธรรมน่าสนใจ จึงเลือกเรียนนอกจากสาขาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาแล้ว ผมลงเรียนต่อทั้งสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือการทูต การบริหารรัฐกิจ การปกครอง แล้วสาขาบริหารงานยุติธรรม เพิ่งเปิดหลักสูตรใหม่ก็เรียน เพราะโอนเทียบหน่วยกิตได้ กลายเป็นจบปริญญาตรีทางรัฐศาสตร์ทั้ง 4 สาขาจากม.รามฯเลย!

IMG_1062 rt copy

แม้เวลาผ่านมาเป็นสิบปี จนผมทำงานการบินไทยเข้าปีที่ 23 ก็ยังไม่หยุดที่จะเรียนรู้ ซึ่งการสอบเข้ามหาวิทยาลัยยุคนี้ต้องสอบ GAT/PAT สอบ O Net และสอบวิชาสามัญ 9 วิชา ต้องใช้คะแนนจากม.6 กฎใหม่ เกรดต้องไม่ต่ำกว่า 2.00 ซึ่งมศว. ไม่นับเกรดเฉลี่ยของม.ปลาย ผมจึงเรียนได้ แต่หากจะเข้าจุฬาฯ ต้องใช้ แล้วตอนที่ผมจบม.6 ได้เกรดแค่ 1.49 ด้วยความอยากทำฝันให้เป็นจริง ผมยอมเรียนม.6 ใหม่ที่สถาบันการศึกษาทางไกล เวลาเรียนชอบมาก เพราะไปเรียนกับเด็กแว๊นซ์ บางคนมีพ่อแม่มาเรียนด้วย เพราะอยากให้จบ พวกนี้ทำสอบโดยไม่อ่านคำถาม ฝนคำตอบเลย ผมเรียนได้เกรด 3.32 ได้แล้วก็ไปสอบ GAT/PAT และ O Net และวิชาสามัญ ปีนั้นมีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ก็เลื่อนไปมา บางวิชาสอบไม่ได้ ตอนนั้นผมเลือก ธรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา คณะศึกษาศาสตร์ พลศึกษา เกษตรและครุศาสตร์ จุฬาฯ ก็คิดว่าอดแล้วละ ผมเปิดดูคู่มือด้วยความอาลัย ต้องสะดุด เพราะอักษรฯ จุฬาฯ ใช้แค่คะแนน PAT ภาษาเยอรมัน ผมมีวิชาสามัญ 3 วิชา สังคม ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ซึ่งผมสอบ แต่ก็ไม่คาดหวังว่าจะได้ เด็กต้องเก่งมากๆ ปรากฏมีตัวช่วย ปกติอักษรฯ จุฬาฯ รับปีละ 240 คน ปีที่ผมสอบรับ 270 คน เพราะเปิดวิชาเอกภาษารัสเซียเพิ่มขึ้น ซึ่งผมสอบได้คะแนนน้อยกว่าคะแนนต่ำสุด 200 คะแนน พอดีมีคนสละสิทธิ์ ผมนี่น้ำตาไหลเลย ไม่คิดว่าจะได้ ตอนนี้เรียนปี 2 แล้วครับ ชอบเข้าชั้นเรียนมาก เพราะได้เจอสังคมที่น่ารักเสมอ คาดว่าเรียนคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ จบ 3 ปี ซึ่งตามกฎของจุฬาฯ ให้เรียน 3 ปีครึ่ง หรือ 4 ปี ผมจึงตั้งใจว่าอยากจบใน 3 ปีจะได้ใช้เวลาที่เหลือเรียนอย่างอื่นที่ชอบไปด้วย เช่น นันทนาการ วิทยาศาสตร์การกีฬา และวาทศิลป์ เพราะคิดว่าตัวเองยังพูดไม่เก่ง

“สำหรับผม การเรียนเป็นงานอดิเรกที่ทำให้มีความสุข เป้าหมายปริญญาใบต่อไปที่มองไว้คือ พลศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศษสตร์ ครับ

ติดตามอ่านเรื่องราวทั้งของ พล สัตย์สงวน ได้ใน คอลัมน์ Live Stories นิตยสารแพรว ฉบับ 25 กรกฏาคมนี้

 

keyboard_arrow_up