Louis Vuitton ทะยานขึ้นแท่น ครองตลาดการซื้อของคนวัย Gen Z ผลจากการสำรวจของ Piper Jaffray วาณิชธนกิจ ชื่อดังของประเทศสหรัฐอเมริกา
แม้ว่าปัจจุบันเศรษฐกิจโลกจะตกต่ำ แต่สินค้าแบรนด์เนม โดยเฉพาะแบรนด์ไฮเอนด์ยังคงมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้แบรนด์ที่ยืนหนึ่งทำรายได้สูงสุดเรื่อยมาเห็นจะเป็น หลุยส์ วิตตอง หนึ่งในแบรนด์ไฮเอนด์จากเครือ LVMH นอกจากนี้หลุยส์ วิตตอง ยังเป็นแบรนด์ที่กำลังเป็นขาขึ้นของตลาด Gen Z ในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
ทั้งนี้ Piper Jaffray วาณิชธนกิจชื่อดัง ได้เผยโพลหัวข้อ “Taking Stock with Teens” โดยผลสำรวจวัยรุ่น 9,500 คน ซึ่งมีรายได้เฉลี่ยครอบครัวอยู่ที่ 65,400 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2 ล้านบาท ในประเทศสหรัฐอเมริกาว่า หลุยส์ วิตตอง เป็นแบรนด์โปรดของพวกเขา ซึ่งตอนนี้อยู่ในตลาดลำดับที่ 2 รองจาก Michael Kors จากเครือ Capri Holdings
ปัจจุบัน หลุยส์ วิตตอง มีส่วนแบ่งในตลาดถึง 14% ซึ่งทางแบรนด์ทำผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ โดยในซีซั่นที่ผ่านมาอยู่ในลำดับ 3 ทำส่วนแบ่งไป 11% ในส่วนของ ไมเคิล คอล มีมากถึง 27% แต่ในซีซั่นนี้ลดลง 1% อาจจะเป็นตัวเลขที่ดูน้อยนิด แต่ก็ไม่อาจไว้วางใจได้ ถ้าแบรนด์ไฮเอนด์อย่าง หลุยส์ วิตตองที่ค่อยๆ ตีตื้นขึ้นมา และทำยอดได้ดีมากขึ้นในกลุ่มคน Gen Z
แล้วเหตุใดแบรนด์ไฮเอนด์อย่าง หลุยส์ วิตตอง ซึ่งมีราคาสินค้าไม่เบาเลยกลับมียอดขายเพิ่มขึ้นในกลุ่มวัย Gen Z ที่อายุของพวกเขามากสุดเพียง 22 ปีเท่านั้น ซึ่งเหตุผลหลักๆ นั้นดูเหมือนจะเป็นการรีแบรนด์ใหม่ให้ดูวัยรุ่นมากขึ้นนั่นเอง
แน่นอนว่าแบรนด์เก่าแก่ที่มีอายุมากถึง 165 ปี ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีนั้นมีเพียงแค่ หีบใส่ของและทรังค์ แต่เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ซีอีโอของ LVMH ได้แต่งตั้ง Delphine Arnault ลูกสาวในฐานะรองประธานบริหารของ Louis Vuitton เพื่อเป็นผู้นำแบรนด์ควบคู่ไปกับซีอีโออีกคนหนึ่งอย่าง Michael Burke
Delphine Arnault ซึ่งเคยทำงานในตำแหน่งต่างๆ ภายใน LVMH เล็งเห็นว่า หลุยส์ วิตตอง ควรมองหาตลาดของคนที่อายุน้อยลง จึงเกิดแคมเปญที่มุ่งเน้นวัยรุ่นอย่าง Teen Vogue ซึ่งใช้เซเลบคนดังที่มีชื่อเสียงมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ โซฟี เทอร์เนอร์ หรือจะเป็นมิวส์ฟากฝั่งบ้านเราอย่าง ญาญ่า อุรัสยา รวมถึงยังมีการออกไอเท็มและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ๆ เช่น กระเป๋าเรืองแสงในที่มืด และเคสโทรศัพท์ เป็นต้น
นอกจากนี้ หลุยส์ วิตตอง ยังผลิตไอเท็มแนวตลาดสตรีท ซึ่งคอลแลบส์กับแบรนด์สเก็ตบอร์ดอย่าง Supreme และจ้าง Virgil Abloh ผู้ก่อตั้ง Off-White มาเป็นผู้อำนวยการด้านศิลปะของเสื้อผ้าบุรุษเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวทั้งสองดึงดูดความสนใจให้ริชคิดส์บางคนมาซื้อ Malle Courrier 90 ซึ่งหีบใบนี้มีราคาสูงถึง $70,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.1 ล้านบาท
เมื่อไม่นานมานี้ หลุยส์ วิตตอง ยังได้ออกแคมเปญที่ 3 อย่าง “School Teens” ซึ่งเป็นแคมเปญสุดท้ายที่ร่วมกับ Virgil Abloh ในคอลเล็คชั่น Spring/Summer 2019 โดยในแอดของโฆษณานี้ยังเป็นเหล่านักเรียนที่ใส่เสื้อสีสันสดใส ซึ่งเป็นหนึ่งในไอเท็มของคอลเล็คชั่นนี้ รวมถึงยังมีไอเท็มอื่นๆ อีกอย่างกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าสะพาย รองเท้าบู๊ท สนีคเกอร์ เห็นแบบนี้จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลุยส์ วิตตองถึงทำยอดขายคนวัยเจนนี้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ
ภาพ และ ข้อมูล : www.fool.com, louisvuitton