จากเหตุการณ์การค้นหาและช่วยเหลือ 13 ชีวิต นักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ที่ติดอยู่ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ภารกิจกู้ภัยครั้งใหญ่ที่สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ซึ่งจากเหตุการณ์นี้นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทย และความมีน้ำใจจากคนทั่วโลกแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงน้ำพระทัยอันยิ่งใหญ่ของ “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร” ในหลวงรัชกาลที่ 10 ซึ่งทรงคอยพระราชทานความช่วยเหลือต่างๆ อย่างเงียบๆ ตามพระนิสัยส่วนพระองค์ จนขนานพระนามได้ว่าเป็นกษัตริย์ผู้ทรงปิดทองหลังพระ ทั้งนี้หลายคนอาจไม่ทราบว่าพระองค์ทรงพระราชทานความช่วยเหลืออะไรบ้าง แพรวดอทคอมจึงขอน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณด้วยการรวบรวมน้ำพระทัยของพระองค์มาให้ทราบทั่วกัน
โรงครัวพระราชทาน
ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของภารกิจการค้นหา 13 ชีวิต สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยและทรงติดตามการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อปรุงอาหารสำหรับแจกจ่ายให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ ผู้ปกครองของผู้สูญหาย และสื่อมวลชน ซึ่งนับว่าสร้างทั้งพลังกายและพลังใจให้กับทุกคนที่ถ้ำหลวง
พระราชทานเสื้อกันฝน 2,000 ตัว
ภารกิจการค้นหา 13 ชีวิต ดำเนินท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายแทบจะตลอดเวลา ทำให้การค้นหายิ่งยากลำบากเป็นเท่าทวีคูณ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน จึงพระราชทานเสื้อกันฝนเป็นจำนวน 2,000 ตัว เรียกว่าช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้กับทุกคนที่ถ้ำหลวงเป็นอย่างมาก
พระราชทานหลอดไฟ LED
เป็นที่ทราบกันดีว่าภายในถ้ำหลวงนั้นมืดสนิท แสงสว่างจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเล็งเห็นถึงความยากลำบากของการปฏิบัติงานในข้อนี้ จึงพระราชทานหลอดไฟ LED ที่สามารถชาร์จไฟได้ สำหรับนำไปแขวนให้แสงสว่างภายในถ้ำหลวง
พระราชทานอุปกรณ์กู้ภัย
หลังจากภารกิจการค้นหา 13 ชีวิต สำเร็จ ทำให้โล่งใจไปได้ส่วนหนึ่ง แต่ภารกิจการช่วยเหลือยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางแรงกดดันจากพายุฝน และปริมาณออกซิเจนในถ้ำที่เหลือน้อย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงพระราชทานอุปกรณ์กู้ภัยต่างๆ เพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติภารกิจการช่วยเหลือให้ทันท่วงที โดยทรงพระราชทานชุดดำน้ำ 30 ชุด ถุงดำ 2 กระสอบ ถุงซิปล็อค 2 กระสอบ กาต้มน้ำ 2 ตัว ปลั๊กไฟ 1 กล่อง เทปกาว 1 กล่อง และผ้าห่ม 1 โหล ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ภารกิจการช่วยเหลือราบรื่นยิ่งขึ้น
พระราชทานถังอัดอากาศ
ถังอัดอากาศเป็นอุปกรณ์กู้ภัย 13 ชีวิตที่สำคัญและต้องใช้เป็นจำนวนมาก แม้จะไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการถึงการพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่สิ่งนี้คือการปิดทองหลังพระของพระองค์อย่างแท้จริง เพราะเมื่อทรงทราบว่าในภารกิจเกิดความติดขัด หรือหาอุปกรณ์ใดไม่ได้ ก็ทรงจัดหามาพระราชทานให้แบบไม่ออกพระนาม อีกทั้งด้วยพระบารมีจึงทำให้จัดหามาพระราชทานได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
ทรงแสดงความเสียพระทัยอย่างสุดซึ้งต่อการสละชีพของจ่าแซม
จากการเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ของ จ่าแซม-จ่าเอกสมาน กุนัน อดีตหน่วยซีลผู้เป็นวีรบุรุษถ้ำหลวง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแสดงความเสียพระทัยอย่างสุดซึ้ง ด้วยการมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พร้อมพวงมาลาหลวงพระราชทาน นอกจากนี้ยังทรงรับศพจ่าแซมไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วัน อีกทั้งยังรับสั่งให้ประกอบพิธีศพอย่างสมเกียรติ และรับสั่งให้ดูแลครอบครัวจ่าแซมอย่างดีที่สุด และสุดท้ายทรงเชิดชูเกียรติจ่าแซมด้วยการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานยศ นาวาตรี เป็นกรณีพิเศษ และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก เป็นกรณีพิเศษ
ทรงรับชาวต่างชาติที่ร่วมช่วยเหลือ 13 ชีวิต เป็นอาคันตุกะ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงติดตามภารกิจการช่วยเหลือ 13 ชีวิตอยู่ตลอด ซึ่งนอกจากการพระราชทานความช่วยเหลือต่างๆ แล้ว ยังทรงเห็นถึงความยากลำบากและความเหน็ดเหนื่อยของผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกคน โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่มีน้ำใจเดินทางมาช่วยเหลือจากทั่วทุกมุมโลก พระองค์จึงทรงตอบแทนน้ำใจดังกล่าวด้วยการรับสั่งให้ดูแลชาวต่างชาติที่ร่วมช่วยเหลือ 13 ชีวิตเป็นอย่างดี เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้พาท่องเที่ยว และทรงรับชาวต่างชาติที่ร่วมช่วยเหลือ 13 ชีวิต เป็นอาคันตุกะของพระองค์จนกว่าจะเดินทางกลับ
พระราชทานพระราชหัตถเลขา ทรงชื่นชมผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์
หลังจากภารกิจการค้นหาและช่วยเหลือ 13 ชีวิต สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแสดงน้ำพระทัยเพื่อทรงชื่นชม นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหาย ในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ด้วยการพระราชทานพระราชหัตถเลขาความว่า “ได้ติดตามการปฏิบัติแล้ว น่าชื่นชมที่ได้เห็นข้าราชการผู้ใหญ่ ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง อดทน และมุ่งมั่นในภารกิจเฉพาะหน้า ที่ยากและท้าทาย แสดงถึงความมีสติปัญญา และมีการตัดสินใจที่ดี และวิสัยทัศน์ที่ถูกต้อง และเป็นศูนย์กลางแห่งการประสานการปฏิบัติจนภารกิจลุล่วงด้วยดี และได้ทราบว่าเป็นข้าราชการที่มีคุณภาพ กล้าต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และในเวลาเดียวกันก็มุ่งมั่นที่สร้างความดีและความถูกต้องให้เกิดขึ้นแก่ประเทศชาติ ขอชมเชยและให้กำลังใจ ขอให้รักษาความดีไว้ และขอให้มีความสุขความเจริญ”
พระราชทานงานเลี้ยงขอบคุณ “รวมใจเป็นหนึ่งเดียว”
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมอบหมายให้รัฐบาลจัดงานเลี้ยงขอบคุณผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับภารกิจการช่วยเหลือ 13 ชีวิตออกจากถ้ำหลวง ในวันที่ 1 สิงหาคม 2561 เวลา 08.00-21.00 น. ภายใต้ชื่องาน “รวมใจเป็นหนึ่งเดียว” หรือ “United as One” ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ด้วยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้รัฐบาลใช้พระลานพระราชวังดุสิตเป็นสถานที่จัดงาน อีกทั้งยังพระราชทานอาหารเลี้ยงผู้ร่วมงานร่วมกับรัฐบาลด้วย นับว่านำความปลื้มปีติเป็นล้นพ้นแก่รัฐบาลและผู้ร่วมงานทุกคนเลยทีเดียว
ภาพ : เฟซบุ๊ก สุวิทย์ มิ่งมล, ไอจี @smaankunan