เสพงานอาร์ต ชิมจานโปรดที่ CHIM CHIM Bangkok

เสพงานอาร์ต ชิมจานโปรดที่ CHIM CHIM Bangkok

account_circle

หากคุณกำลังมองหามุมไพรเวทพื้นที่กว้างขวางให้ตัวเองได้จุดประกายไอเดียความคิดสร้างสรรค์ พร้อมละเลียดเครื่องดื่มแก้วโปรดและเมนูจานพิเศษ เราขอแนะนำ CHIM CHIM Bangkok ที่จะพาให้คุณเหมือนหลุดเข้าไปในวันเดอร์แลนด์แห่งงานศิลปะ

เสพงานอาร์ต ชิมจานโปรดที่ CHIM CHIM Bangkok

ชั้นล่างโรงแรมสยาม แอ็ท สยาม ดีไซน์ โฮเทล กรุงเทพฯ ร้านสไตล์ลอฟท์ หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่แสงธรรมชาติลอดเข้ามาฉายความอบอุ่นที่กำแพงขาว เมื่อผสานกับพื้นหินขัดลายที่ออกแบบไว้อย่างลงตัว และงานศิลปะจากศิลปินจัดแสดงทั่วร้านซึ่งเต็มไปด้วยสีสันเด่น เชื่อว่าเมื่อใครได้ก้าวเข้าไปที่ CHIM CHIM Bangkok จะรู้สึกเหมือนราวอยู่ในแกลอรี่ศิลปะ ไม่เพียงแค่บรรยากาศเท่านั้น เรายังมีอีก 10 เหตุผล ที่ควรมาเยี่ยมคาเฟ่เก๋ๆ แห่งนี้สักครั้ง

1.ขอเริ่มตั้งแต่ชื่อร้าน CHIM CHIM ที่ใครได้ฟังต้องสะดุดหู รู้ไหมว่ามากับไอเดียมากคอนเซปต์ ชื่อของ ‘ชิม ชิม’ มาจากคำว่า ‘ชิม’ ซึ่งหมายถึง ลิ้มลองหรือลองกินอะไรใหม่ๆ หรือแตกต่าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ ชิม ชิม ได้นำมาเป็นปรัชญาในการลองทำอะไรใหม่ๆ นอกเหนือจากอาหาร แต่ยังให้ผู้มาเยือนได้รับจินตนาการจากการรับประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน นั่นจึงเป็นที่มาของข้อถัดไป

2.กำแพงสีขาวโอ่โถ่ง เป็นสิ่งที่ร้านตั้งใจออกแบบแต่แรกให้เสมือนผ้าใบแคนวาสผืนใหญ่พร้อมรองรับความคิดสร้างสรรค์ไม่จำกัดรูปแบบของศิลปินทั้งท้องถิ่นและศิลปินหน้าใหม่ ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาแสดงงานศิลปะตลอดทั้งปี โดยทั้งพื้นที่ชั้นล่างและชั้นลอยของร้าน ยังสามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่จัดแสดงงาน และจัดเวิร์คช้อปเพื่อให้เกิดชุมชนคนศิลปะที่เชื่อมศิลปินกับผู้เข้าชมเข้าด้วยกัน

3.การตกแต่งถูกใจสายรักษ์โลกแน่นอน เฟอร์นิเจอร์ในร้านเป็นเฟอร์นิเจอร์ Upcycle ที่ถูกปรับโฉมด้วยดีไซน์พิเศษเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ รูปทรงโดดเด่นของเฟอร์นิเจอร์ ช่วยเสริมให้บรรยากาศยูนีคไม่เหมือนที่ไหน

4.ไม่เพียงคอนเซ็ปต์ที่เชื่อมโยงกับศิลปะ อาหารแต่ละเมนูยังอัดแน่นด้วยคุณภาพและรสชาติ ตั้งแต่การคัดวัตถุดิบชั้นดี อย่างจานอร่อยที่พร้อมเสิร์ฟในเมนูอาหารเช้า Breakfast Burrito ไข่คน ใช้ไข่ไก่เลี้ยงปล่อย ให้ความสดใหม่และสัมผัสที่แตกต่าง ซึ่งไม่เพียงเมนูนี้เท่านั้น ไข่ที่ใช้ในทุกเมนู รับรองว่ามาจากไข่ไก่เลี้ยงปล่อยทั้งหมดเช่นกัน สำหรับไส้กรอกเฟนเนล เลือกใช้จาก Sloane บุชเชอร์ชื่อดังของกรุงเทพฯ

5.ใครชื่นชอบเมนูพาสตา มีให้เลือกทั้งแบบโฮมเมดและพาสตาแห้งแบบอาร์ติซาน ไม่ว่าจะเป็นเส้นเพนเน่ ลิงกุยเน่ บูคาตินี่ และเส้นอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งมีเมนูแนะนำอย่าง Spaghetti & Meatballs มาพร้อมกับก้อนเนื้อวากิวฉ่ำหอม อีกจานสำหรับซีฟู๊ดเลิฟเวอร์ Crab & Pesto พาสตาปูทะเล หรือพาสตาเฟตตูชินีกุ้งลายเสือตัวใหญ่เนื้อแน่น จัดเต็มวัตถุดิบพรีเมี่ยมแบบเต็มคำ

6.สายพิซซ่า ไม่ควรพลาดพิซซ่าโฮมเมดที่ใส่ใจตั้งแต่กระบวนการหมักแป้งโดที่นำมาใช้ทำพิซซ่า โดยหมักไว้นานถึง 48 ชั่วโมง ก่อนจะนำมานวดและยืดใหม่ก่อนเข้าเตาอบร้อน กระบวนการหมักที่นานถึง 48 ชั่วโมง ทำให้ได้ตัวแป้งพิซซ่าซาวร์โดมีความยืดนุ่มและผิวกรอบ อีกทั้งมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ส่วนหน้าพิซซ่าแน่นอนใช้วัตถุดิบคุณภาพดีไม่แพ้เมนูจานอื่น มีให้เลือกทั้งหน้า Jamon Iberico & Tomato ที่ใช้แฮม Iberico ไปจนถึง Gravlax & Cream พิซซ่าแซลมอนรมควัน ผักชีลาวและซาวร์ครีม

7.เมนูเครื่องดื่มของ ชิม ชิม แบงค็อก คือการไฮไลท์สิ่งที่ดีที่สุดจากผลผลิตของไทย ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดกาแฟจาก Roots ผู้ผลิตเมล็ดกาแฟคุณภาพที่เลือกใช้เมล็ดของเกษตรกรท้องถิ่นภาคเหนือของไทยจากห้วยน้ำขุ่นและปางชอน ในจังหวัดเชียงราย ตลอดจนเมล็ดกาแฟอื่นๆ ที่หมุนเวียนมาตามฤดูกาล เมนูกาแฟมีให้เลือกตั้งแต่แก้วคลาสสิกเช่นเอสเพรสโซ และกาแฟดริปโดยใช้เมล็ด Single origin, กาแฟไนโตรหลากรสที่มีทั้ง Cold Brew เพิ่มกลิ่นเฮเซลนัท คาราเมล อัลมอนด์ มินต์ จนถึงเมนูครีเอทอย่าง Mint Mocha Frappe เอสเพรสโซเข้มข้นจากเมล็ด Roots ปั่นกับดัทช์โกโก้ นม น้ำตาลทรายแดงและวิปครีม ส่วนชาเลือกสรรมาจาก Monsoon Tea แบรนด์ชาขึ้นชื่อของไทย ผลิตชาจากไร่ชาปลูกผสมผสานอยู่ท่ามกลางผืนป่าในภาคเหนือของไทย ขอแนะนำ ‘สุขุมวิท’ ชาเบลนด์ที่ทำขึ้นจากชาดำผสานกับความหอมละมุนของลาเวนเดอร์ มะม่วงและกระวาน ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้ากันได้อย่างลงตัว

Art-inspired social diner ที่เป็นทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร แกลเลอรี่และเวิร์คช็อปสเปซ ให้ผู้คนมาสังสรรค์ทานอาหารอร่อยคุณภาพเยี่ยมท่ามกลางงานศิลปะสีสันสดใสแห่งนี้ เปิด


 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up