จอห์น วิค (John Wick)

10 เกร็ดโหดโคตรมันส์  รู้ก่อนเหยียบสภาสูงไปกับ จอห์น วิค (John Wick)

Alternative Textaccount_circle
จอห์น วิค (John Wick)
จอห์น วิค (John Wick)

หลังสู่สงครามนักฆ่าครั้งใหม่ที่เดือดระอุที่สุด “John Wick: Chapter 4 จอห์น วิค แรงกว่านรก 4” ภาพยนตร์แอ็กชันแฟรนไชส์อันดับ 1 กับการกลับมาในภาคที่ 4 ที่ในครั้งนี้จะเป็นการยกระดับสู่ผลงาน The Next Level เมื่อผู้สร้างขนทุกสิ่งทุกอย่างที่โลกภาพยนตร์แอ็กชันสามารถจะทำได้ ทั้งปืน ธนู กระบองสองท่อน การดริฟต์รถ พร้อมนักแสดงมากฝีมือระดับอินเตอร์เนชั่นแนลมาร่วมประชันบทบาท งานนี้เรียกได้ว่า เป็นผลงานมาสเตอร์พีซที่ทั้งโลกต้องจับตามอง
แฟนหนังชาวไทยเตรียมเร่งอะดรีนาลีนให้สูบฉีด ด้วย “10 เกร็ดโหดโคตรมันส์” ก่อนพบกับการเผชิญหน้าของนักฆ่าอันดับ 1 ที่ทุกคนต่างเฝ้ารอ จอห์น วิค (John Wick)

1) โหดไม่เกรงใจใคร ! จอห์น วิค สังหารมาแล้วทั้งหมดกว่า 299 ศพ

เดือดสมนักฆ่าฉายา “บาบายาก้า” เพราะชายที่ชื่อ “จอห์น วิค” ไม่ว่าจะศัตรูหน้าไหน อาวุธชนิดไหน ก็ฆ่าไม่ยั้ง ในสามภาคที่ผ่านเขาฆ่าไปแล้วกว่า 299 ศพ และในภาคที่ 4 นี้ใครจะรู้ว่าเขาจะสังหารไปอีกกี่ศพ เพื่อลุ้นเอาชนะเดิมพันสภาสูงแลกอิสรภาพ

จอห์น วิค  (John Wick)

2) มันส์สุดวิค ! John Wick: Chapter 4 จะอัดแน่นด้วยฉากแอ็กชันที่เยอะที่สุด

คอนเฟิร์มแล้ว ! จอห์น วิค ภาคนี้ จะอัดแน่นไปด้วยฉากแอ็กชันที่เยอะที่สุด ยิงไม่ยั้ง ฟาดไม่มีหยุด ให้สมกับการกลับมาของแฟรนไชส์โลกนักฆ่าที่เดือดระอุสุด

จอห์น วิค  (John Wick) 01

3) คีอานู รีฟส์ จัดเต็มกว่าครั้งไหน ตั้งเป้าฝึกอาวุธและคิวบู๊กว่า 12 สัปดาห์

จัดเต็ม ทุ่มสุดตัว สำหรับคีอานูฟ รีฟส์ ที่ต้องฝึกซ้อมทักษะการต่อสู้ต่างๆ เป็นเวลา 12 สัปดาห์เต็มก่อนจะเปิดกล้องถ่ายทำ ซึ่งส่วนใหญ่เขาใช้เวลาไปกับการฝึกกระบองสองท่อน ที่จะเป็นอาวุธสังหารที่โคตรเด็ดในภาคนี้

จอห์น วิค  (John Wick) 02

4) ผสมผสานหลายศิลปะการต่อสู้ ยกระดับทุกซีนมันส์ซะใจ

นอกจากอาวุธที่ขนมากันอย่างครบครัน ในภาคนี้ยังเต็มไปด้วยศิลปะการต่อสู้จากหลากหลายมุมโลก ทั้งการต่อสู้แบบวิถีบูชิโด คาวบอย และยิวยิตสู ผนวกรวมไว้ด้วยกัน นับว่าเป็นการรังสรรค์ความมันส์ให้กับแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่อง

จอห์น วิค  (John Wick) 03

5) บุกโลเคชั่นระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ยกทีมถ่ายทำถึง 3 ทวีป 5 ประเทศ

ตะลุยโลกนักฆ่าถึง 3 ทวีป 5 เมืองใหญ่ ปารีส, นิวยอร์ก, เบอร์ลิน, โอซาก้า และ จอร์แดน โดยเฉพาะการถ่ายทำในปารีสทีมงานยกกองไปถ่ายทำในแลนมาร์คดังจริง ทั้งมหาวิหารซาเคร-เกอร์, ประตูชัย และหอไอเฟล ถือเป็นการบุกสถานที่เพื่อความสมจริงเหมือนที่ทีมงานตั้งใจไว้

จอห์น วิค  (John Wick) 04

6) ทีมงานการันตี ! คีอานู รีฟส์ ขับรถซิ่งได้เทพที่สุดในฮอลลีวูด

สำหรับฉากไฮไลท์ของภาคนี้กับการฉากขับรถไล่ล่าที่ประตูชัย กลางปารีส คีอานู รีฟส์ต้องฝึกดริฟต์รถ 180 องศา และ 270 องศาด้วยตัวเอง จากเดินหน้าเป็นถอยหลังในเสี้ยววินาที เหนือกว่านั้นเขายังต้องยิงปืนในขณะขับรถ จนทีมงานยกให้เขาเป็นดาราที่ซิ่งรถได้เทพที่สุดในวงการ

จอห์น วิค  (John Wick) 05

7) จอห์น วิค กลับมาพร้อมรถคู่ใจ ! พร้อมซิ่งเดือดทะลายทุกศัตรูที่ขวางหน้า

รถพลีมัธ บาร์ราคูด้า ของไครสเลอร์ ปี 1971 กลายเป็นรถอเมริกันมัสเซิลคู่กายของจอห์น วิคในภาคนี้ ที่ใช้ในฉากเด็ดที่ประตูชัยกลางปารีส ซึ่งทีมงานได้แต่งเครื่องโมดิฟายใหม่ โดยถอดประตูและกระจกข้างออกทั้งหมด

จอห์น วิค  (John Wick) 06

8) มะหมาพร้อมซัด ! “เบลเยี่ยม มาลินอยส์” คือพันธุ์สุนัขในภาคนี้

แฟรนไชน์จอห์น วิคจะขาดสุนัขไปไม่ได้ แน่นอนว่าภาคนี้ยกระดับสู่ The Next Level โดยแท้จริง ซึ่งแม้สุนัขในภาคนี้จะเป็นพันธ์เบลเยี่ยม มาลินอยส์คล้ายกับภาคก่อน แต่ภาคนี้เจ้าสุนัขจะเล่นฉากแอ็กชันเยอะที่สุด และทีมงานยังใช้สุนัขถึง 5 ตัวในการถ่ายทำตลอดทั้งเรื่อง

จอห์น วิค  (John Wick) 07

9) “เคน” นักฆ่าตาบอด ตัวละครผู้ได้รับแรงบันดาลใจจากหลากหลายคัลเจอร์

สหายรักศัตรูแค้นของจอห์น วิคในภาคนี้อย่าง “เคน” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากฮีโร่แอ็กชันฝั่งเอเชียอย่างซามูไรตาบอด ‘ซาโตอิจิ’ ผสมผสานกับตัวละครของโจวเหวินฟะใน ‘โหดตัดโหด’ และฟุตเทจของ บรูซ ลี ที่ใส่สูทเทสหน้ากล้อง เรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่ทั้งเท่และเดือดภายในเวลาเดียวกัน ซึ่งทีมงานก็ต่างบอกเป็นเสียงกันว่าดอนนี่ เยน ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ

จอห์น วิค  (John Wick) 08

10) การโคจรมาพบกับครั้งแรกของสองเดือด ”คีอานู รีฟส์” ปะทะ “ดอนนี่ เยน”

นับว่าสะเทือนโลกภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกของสองซุปเปอร์สตาร์ระดับโลก ที่ประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ต้องจารึกไว้ “คีอานู รีฟส์” นักแสดงฝีมือพระกาฬจากฮอลลีวูด และ “ดอนนี เยน” เจ้าพ่อสายปรมาจารณ์ตัวท็อปแห่งเอเชีย ศึกครั้งนี้จะเป็นศึกหยุดโลกที่แฟนหนังห้ามพลาดทุกประการ

จอห์น วิค  (John Wick) 10

Praew Recommend

keyboard_arrow_up