เซบาสเตียน สแตน พลิกภาพจำทหารแขนเหล็ก สู่บทบาทผู้คืนความยุติธรรม

นักแสดงหนุ่ม เซบาสเตียน สแตน พลิกภาพจำทหารแขนเหล็ก จาก Captain America สู่บทบาท  “สก็อตต์ ฮัฟฟ์แมน” เจ้าหน้าที่เพนตากอน ชายคนเดียวที่จะมอบความยุติธรรม คืนสู่วีรบุรุษแห่งสงครามเวียดนาม

คิดถึงนักแสดงหนุ่ม เซบาสเตียน สแตน กันอยู่หรือเปล่า? ล่าสุดเขากำลังจะกลับมาในภาพยนตร์สงคราม-ดราม่า “The Last Full Measure วีรบุรุษโลกไม่จำ” พร้อมพลิกภาพจำจากทหารแขนเหล็ก “Winter Soldier” จาก Captain America: Winter Soldiers และ Avengers: Endgame มารับบท “สก็อตต์ ฮัฟฟ์แมน” เจ้าหน้าที่เพนตากอนนำทีมปฏิบัติการกู้เกียรติยศให้กับพลร่มสังกัดกองทัพอากาศสหรัฐฯ วีรบุรุษที่โลกลืม “วิลเลียม เอช. พิตเซนบาร์เกอร์” ที่สละ 1 ชีวิตตนเองโรยตัวลงมาเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนทหารราบ 60 กว่านาย พร้อมทั้งขุดคุ้ยความจริงบางอย่างที่รัฐบาลซ่อนไว้ในสงครามเวียดนาม ปี 1966 ก่อนที่จะไปเจอกับวีรกรรมจริงสุดห้าวหาญของ “วิลเลียม เอช.พิตเซนบาร์เกอร์” มาพูดคุยกับ “เซบาสเตียน” ถึงการเตรียมตัวการถ่ายทำ และสิ่งที่อยากให้แฟนๆ รอชมภาพยนตร์เรื่อง “The LastFull Measure วีรบุรุษโลกไม่จำ”

“The Last Full Measure วีรบุรุษโลกไม่จำ” เป็นการเปิดเผยตำนานของวีรบุรุษให้โลกได้รู้ ทำไมคุณถึงคิดว่าโลกนี้ควรจะได้รู้จักกับชายที่ชื่อว่า “วิลเลียม เอช.พิตเซนบาร์เกอร์”?

“ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เวลาสร้างนานมาก ผมคิดว่า ทอดด์ โรบินสัน (ผู้กำกับ) ใช้เวลา 20 ปี ปะติดปะต่อเรื่องขึ้นมา มันเป็นเรื่องราววีรกรรมสุดเหลือเชื่อที่สมควรถูกเผยแพร่ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีทีมนักแสดงระดับตำนานมารับบทเป็นวีรบุรุษตัวจริงเหล่านี้ ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีส่วนร่วม พออ่านบทจบผมตกลงรับบททันที แทบไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ”

คุณเข้ามารับบทนี้ได้อย่างไร?

“เอเย่นต์ส่งต่อมาให้ผม ผมได้คุยกับทอดด์ โรบินสัน เขาอธิบายให้ผมฟังว่าอะไรเป็นอะไร เขาเล่าให้ฟังว่าก่อนที่จะมาเป็นหนังเรื่องนี้เขาค้นคว้าข้อมูลมามากขนาดไหน จากแหล่งใดบ้าง ผมรับบทเป็น สก็อตต์ ฮัฟฟ์แมน ที่ต้องไปพบกับตัวละครต่างๆ จนค้นพบวีรกรรมน่าเหลือเชื่อของอดีตทหารคนหนึ่งที่เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อให้คนอื่นรอด สก็อตต์ต้องทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ทหารคนนี้ได้รับเหรียญกล้าหาญตามที่เขาควรจะได้ พอผมรู้ว่ามีนักแสดงอย่าง คริสโตเฟอร์ พลัมเมอร์,วิลเลียม เฮิร์ต, แซมมวล แอล. แจ็คสัน และ ปีเตอร์ ฟอนด้า ผู้ล่วงลับ ในฐานะนักแสดงคุณรู้ได้ทันทีว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมอบประสบการณ์การทำงานที่ผมจะลืมไม่ลง ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณหันกลับมามองตัวเอง ตั้งคำถามเกี่ยวกับคุณค่าของความเป็นคนที่พวกเราทุกคนล้วนตามหามันสร้างแรงบันดาลใจ มอบความแข็งแกร่งให้เรา เช่นเดียวกับที่พิตซ์เสนอตัวเองโดดลงไปช่วยทหารข้างล่าง แม้ว่ามันจะไม่ใช่หน้าที่ของเขาเลยก็ตาม

คุณรู้สึกอย่างไรที่ได้ร่วมงานกับทีมนักแสดงที่เรียกได้ว่าเป็นระดับตำนานในเรื่อง?

“เป็นเกียรติมากครับ ผมโตมากับหนังพวกเขา การทำงานในเรื่องนี้เหมือนผมกลับไปเข้าโรงเรียนการแสดงอีกครั้งเลย เป็นนักเรียนที่เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ระดับท็อป ไม่ใช่แค่อาจารย์เป็นปรมาจารย์ยังได้เลย จะว่าไปตัวผมเองกับตัวละครก็มีส่วนคล้ายกันนะ เพราะเราต่างออกจากคอมฟอร์ตโซนตัวเอง สก็อตต์เดินทางไปพบกับทหารผ่านศึกเหล่านี้ ซึ่งแต่ละคนก็มีบุคลิกและเรื่องราวของตัวเอง ซึ่งมันทดสอบเขามาก มันทำให้เขาตั้งคำถามด้านศีลธรรมกับตัวเองว่า เขาเป็นคนที่ดีพอหรือยัง เป็นพ่อที่ดีพอหรือยัง ซึ่งผมซึมซับมันมาในชีวิตจริงพอสมควร ผมตั้งคำถามว่าทำไมผมถึงเป็นนักแสดง ทำไมผมถึงเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้”

สุดท้ายคุณอยากฝากอะไรถึงผู้ชมบ้างไหม?

“ผมหวังว่าพวกเขาจะรักภาพยนตร์เรื่องนี้ ปกติเราไม่ค่อยเห็นหนังแนวนี้ บางทีเพราะเราอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับมัน กับสิ่งที่รั้วของชาติ ทำเพื่อปกป้องพวกเรา แม้ว่าต้องแลกมาด้วยชีวิตของพวกเขาก็ตาม”

---

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

สัมภาษณ์หยิกแกมหยอกของ เบลล่า-ราณี & โป๊ป-ธนวรรธน์ คู่จิ้นที่มองตาก็รู้ใจ

อ้อม-พิยดา คืนจอภาพยนตร์ในรอบ 15 ปี พลิกคาแร็คเตอร์แม่ในมุมใหม่

เผยโฉมแก๊ง นักแสดง F4 ฉบับไทยแลนด์ คาด ไบร์ท-วชิรวิชญ์ สวมบท เต้าหมิงซื่อ