account_circleงานแต่งงานถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของการเริ่มต้นชีวิตคู่ และอยากบันทึกความทรงจำดี ๆ ไว้ให้ได้มากที่สุด หนึ่งในสิ่งที่พลาดไม่ได้เลย คือ การถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง (Prewedding) เพื่อเก็บภาพความรักที่มีต่อกัน รวมถึงบันทึกความทรงจำในแบบที่วาดฝันไว้ ด้วยการสะท้อนความรักตามแบบฉบับของแต่ละคู่ ผ่านความคิดสร้างสรรค์จนกลายเป็นภาพที่น่าประทับใจ และการถ่ายพรีเวดดิ้งยังสามารถสื่อได้ดีว่าทั้งคู่มีเรื่องราวความรักเป็นอย่างไรบ้าง
ถ่ายพรีเวดดิ้ง เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแต่งงานที่ทุกคู่รักจำเป็นต้องมี เพื่อให้งานแต่งงานนั้นสมบูรณ์แบบมากที่สุด นอกจากการติดต่อช่างภาพถ่ายพรีเวดดิ้งหรือสตูดิโอในการถ่ายภาพแล้ว อย่าลืมว่าการเตรียมตัวถ่ายพรีเวดดิ้งก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะภาพถ่ายเหล่านั้นจะคงอยู่ให้ได้ระลึกถึงวันเริ่มต้นชีวิตคู่ไปอีกยาวนาน วันนี้เราจึงรวบรวม4 Step เตรียมตัวถ่ายพรีเวดดิ้ง ให้ได้รูปสวย รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
1. เลือกตากล้องสำหรับถ่ายพรีเวดดิ้ง
เริ่มต้นเตรียมตัวถ่ายพรีเวดดิ้งด้วยการเลือกตากล้องที่มีฝีมือ ตอบโจทย์สไตล์การถ่ายภาพที่คุณชื่นชอบ ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือกใช้บริการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสตูดิโอรับถ่ายภาพ หรือ ฟรีแลนซ์ถ่ายภาพที่พบเห็นตามโซเชียลมีเดียทั่วไป ซึ่งสิ่งสำคัญคือการเลือกสไตล์ภาพพรีเวดดิ้งที่ต้องการ โดยคุณอาจจะมองหาตัวอย่างภาพจากอินเทอร์เน็ต และตัดสินใจเบื้องต้นว่าต้องการถ่ายพรีเวดดิ้งนอกสถานที่ หรือ ภายในสตูดิโอ เพราะลักษณะการเตรียมตัวรวมถึงสไตล์ภาพจะแตกต่างกันไปด้วย หากไม่มั่นใจว่าควรถ่ายแบบไหนดี คุณสามารถปรึกษาช่างภาพถ่ายพรีเวดดิ้งได้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเลือกช่างภาพให้ตอบโจทย์สไตล์ที่ต้องการ
2. ดูแลสุขภาพและออกกำลังกายก่อนถ่ายพรีเวดดิ้ง
ไม่ว่าใครหรือคู่รักไหน ๆ ก็อยากดูดีในวันถ่ายพรีเวดดิ้งกันทั้งนั้น หลายคู่ถือโอกาสนี้ลดน้ำหนักและทำให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดีไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้วันถ่ายภาพรวมถึงวันแต่งงานจะได้ดูดีด้วยกันทั้งคู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องผอมลงมากกว่าเดิม หรือ ความสวยความดูดีจะต้องผอมอย่างเดียวนะ หากคุณเป็นคนเจ้าเนื้อก็ไม่ได้ถือว่าผิดอะไร แค่ดูแลสุขภาพให้พร้อมก่อนวันแต่งงานก็เพียงพอแล้ว เพราะวันถ่ายพรีเวดดิ้งไปจนถึงวันแต่งงาน การจัดเตรียมงามให้ออกมาดูดีจะต้องใช้ความทุ่มเทอย่างมาก แน่นอนว่าอาจทำให้คุณเหนื่อยกว่าวันไหน ๆ ได้นั่นเอง
3. วางแผนถ่ายภาพพรีเวดดิ้งพร้อมแผนสำรอง
สำหรับการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งให้ได้ภาพที่ตรงใจ หากเป็นการถ่ายภาพนอกสถานที่อย่าลืมที่จะวางแผนสถานที่ให้พร้อม และกำหนดการเดินทางเป็นลำดับให้ดี ๆ เพราะบางสถานที่อาจมีผู้คนพลุกพล่าน บรรยากาศหรือสภาพอากาศอาจไม่เป็นไปตามที่ต้องการ ตลอดจนแสงในการถ่ายพรีเวดดิ้งอาจไม่ถูกใจคุณสักเท่าไหร่ ดังนั้นทางที่ดีอย่าลืมที่จะเตรียมแผนสำรองไว้ล่วงหน้าด้วย ในกรณีที่บางสถานที่ปิด หรือ ช่วงเวลาในการเดินทางไม่เป็นไปตามแผน คุณจะได้เปลี่ยนแผนการถ่ายพรีเวดดิ้งได้ทันเวลา แถมยังช่วยให้การจ้างช่างถ่ายภาพคุ้มค่าคุ้มราคาไม่ผิดหวัง
4. ฝึกโพสท่าก่อนถ่ายพรีเวดดิ้ง
ก่อนการถ่ายพรีเวดดิ้งคุณควรฝึกตัวเองและคู่รัก ให้สามารถโพสท่าทางได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อให้รู้มุมถ่ายที่มั่นใจ ดูดี และไม่เขินอายเมื่อถึงวันถ่ายจริง อาจจะหาตัวอย่างจากอินเทอร์เน็ตก็ได้ ลองจินตนาการดูว่าหากภาพถ่ายพรีเวดดิ้งของคุณทั้งคู่ ออกมาด้วยท่าทางที่แข็งทื่อ ไม่เป็นธรรมชาติ คุณจะเสียดายเวลาในการถ่ายและผิดหวังกับภาพเหล่านั้นมากแค่ไหน แนะนำให้ศึกษาการโพสที่เหมาะสมจากช่องทางอินเทอร์เน็ตที่ค้นหาได้ทั่วไป และลองโพสหน้ากระจกจนเกิดความเคยชิน รับรองว่าการถ่ายพรีเวดดิ้งจะง่ายและเร็วขึ้นแน่นอน
วิธีการเตรียมตัวทั้งหมดที่เราได้รวบรวมมา เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งสวยสมใจ หากใครที่มีแพลนถ่ายพรีเวดดิ้งแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นเตรียมตัวอย่างไร ลองนำวิธีนี้ไปใช้กันดูได้เลยนะคะ แต่ถ้ายังไม่มั่นใจว่าจะหาช่างภาพมืออาชีพช่วยบันทึกโมเมนต์การแต่งงานของคุณได้ยังไง เราแนะนำช่างภาพจาก Fastwork ที่รวมเหล่าฟรีแลนซ์ช่างภาพถ่ายพรีเวดดิ้งไว้ให้เลือกมากมาย การันตีคุณภาพด้วยตัวอย่างผลงานและจำนวนการจ้างงานให้ได้เปรียบเทียบ รับรองเลยว่าไม่มีผิดหวังชัวร์ ๆ