มารู้จัก 3 ตายายสุดแซ่บ! ไอดอลของคนรุ่นใหม่ พร้อมเคล็ดลับการดูแลตัวเองในวัย 30 อัพ

การดูแลตัวเองเป็นเรื่องที่ดี อย่ารอให้ตัวเองต้องเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลแล้วถึงจะหันมาดูแลตัวเองกันล่ะ โดยเฉพาะคุณๆ ทั้งหลายที่อายุเข้าเลข 3 กันแล้ว ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย เราขอเตือนว่าคุณไม่ใช่เด็กวัยรุ่นที่ร่างกายแข็งแรงอีกแล้วนะจ๊ะ เพราะอายุที่มากขึ้นปัญหาสุขภาพต่างๆ ก็เรียงคิวตามกันมาโดยไม่ได้นัดหมายเลยล่ะ คราวนี้แหละคุณเอ๊ยย รู้ตัวอีกทีว่าแก่แล้วก็ตอนนอนอยู่โรงพยาบาลนี่แหละ ดังนั้นต้องรีบดูแลตัวเองก่อนที่จะสาย

นอกจากวันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับคุณตาคุณยายสุดแซ่บ! ที่แก่แค่ตัวเลขแต่ร่างกายยังฟิตปึ๋งปั๋งแล้ว เรายังมีเคล็ดลับการดูแลตัวเองมาฝากอีกด้วย ใครที่อยากให้ร่างกายและสุขภาพดีแบบคุณตาคุณยาย ก็ทำตามวิธีนี้ด่วนเลยนะ ไม่งั้นอย่าหาว่าไม่เตือนนะจ๊ะ

2

1

ฟิลิปเป้ ดูมาส (Philippe Dumas) นายแบบเครางามจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เห็นเท่ๆ หุ่นดีๆ แบบนี้อายุ 60 แล้วนะจ๊ะ แถมยังเป็น หนึ่งในนายแบบที่เซ็กซี่ที่สุดในยุโรปตอนนี้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นนายแบบที่อายุมากที่สุดและดังที่สุดก็ว่าได้ ก่อนที่จะมาเป็นนายแบบ ฟิลิปเป้ ดูมาส เคยทำงานอยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมภาพยนตร์มาก่อน หลังจากนั้นจึงผันตัวตามหาความฝันของแกนั่นก็คือการได้เป็นนายแบบนั้นเอง และดูเหมือนว่าการที่แกมาเป็นนายแบบตอนอายุเยอะๆ นี่แหละคือจุดขายของแก ทั้งเครางามๆ และรอยสักสวยๆ ซึ่งแตกต่างจากนายแบบรุ่นใหม่ๆ ในวงการแฟชั่น แม้กระทั่งแบรนด์ระดับโลกอย่าง Burberry, Dior, Louis Vuitton, Chanel, Giorgio Armani ฯลฯ ยังให้ความสนใจและเข้ามาติดต่อขอให้แกเป็นนายแบบให้เชียวนะ

7

4

6

มาถึง คุณยาย Ernestine Shepherd ชาวเมืองบัลติมอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่งจะฉลองอายุวัย 80 ปีไปหมาดๆ แต่คุณยายยังแซ่บ! จนสาวๆ อย่างพวกเราอายเลยแหละ เพราะภาพคุณยายวัย 80 ในหัวของเราต้องเป็นคุณยายแก่ๆ นั่งๆ นอนๆ อยู่แต่ในบ้านช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้อย่างแน่นอน แต่! คุณยาย Ernestine Shepherd ไม่ใช่แบบนั้นเพราะแกได้รับการแต่งตั้งจาก Guinness World Records Book ให้เป็นนักเพาะกายที่มีอายุมากที่สุดในโลก เคล็ดลับให้ดูสวยและสุขภาพของคุณยาย Ernestine Shepherd ก็ไม่มีอะไรมาก อาศัยความมีวินัยเป็นหลัก คุณยายจะตื่นตั้งแต่ตี 3 เพื่อมานั่งสมาธิ จากนั้นก็ออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งถึง 8 โมงเช้า เสร็จแล้วก็เข้าฟิตเนตเพื่อออกกำลังกายอย่างจริงจัง ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มีแค่การออกกำลังกายเท่านั้น การควบคุมอาหารเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณยายมีสุขภาพที่แข็งแรงแบบนี้อาหารที่เธอทานก็จะประกอบไปด้วยอกไก่ เกาลัด ธัญพืช ไข่ และน้ำ นอกจากเรื่องออกกำลังกายและอาหารแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการพักผ่อนให้เพียงพอ โดยคุณยายบอกว่าจะเข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่นั่นเอง

8

9มาฝั่งเอเชียอย่างประเทศจีนก็ไม่น้อยหน้ากับเขานะ หวังเต๋อซุน” คือนายแบบที่อายุ 80 ปี เป็นนายที่มีอายุมากที่สุดอีกคน ที่ได้เดินแฟชั่นโชว์ให้กับแบรนด์ชื่อดัง “หูเซ่อกวง” บนรันเวย์ไชน่า แฟชั่นวีค จนทำให้เป็นที่สนใจของใครหลายๆ คนว่าเขาคือใครกันแน่ ก่อนที่จะมาเดินแบบ หวังเต๋อซุน เป็นทั้งนักแสดงที่มีผลงานมากมาย ปรากฏตัวในหนังดังๆ มาแล้วหลายเรื่อง ส่วนเรื่องรูปร่างที่หนุ่มๆ ยังต้องอายนั้นก็เกิดมาจากการออกกำลังกายล้วนๆ โดยเขาเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจังก็ตอนอายุ 50 ปีจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมันทำให้ร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้นแตกต่างจากคนวัยเดียวกันนั่นเอง

ส่วนใครที่อยากฟิตปึ๋งปั๋งแบบ 3 ตายายที่เรานำมาฝากกันวันนี้ เราก็มีเคล็ดลับและวิธีดูแลตัวเองมาฝากเป็นเคล็ดลับง่ายๆ ที่เชื่อว่าพวกเราทุกคนทำได้ ถ้ามุ่งมั่นและตั้งใจจริง ไม่มีอะไรเกิดความพยายามอยู่แล้ว อย่าลืมนะว่าสุขภาพดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องเริ่มที่ตัวเราเอง

1.ตรวจเช็คสุขภาพร่างกายประจำปี
เริ่มที่การตรวจเช็คร่างกายเป็นประจำทุกปี เมื่อเราอายุเข้าเลข 3 แล้ว ความเสี่ยงต่อร้ายภัยไข้เจ็บจะมีสูงขึ้นมาก การตรวจร่างกายนอกจากจะเป็นการรับมือความเปลี่ยนแปลงของร่างกายแล้ว ยังช่วยให้เรารู้ศักยภาพของตัวเราด้วย ถ้าหากว่าตรวจมาแล้วเจอโรคก็จะได้ดูแลและป้องกันได้ทันก่อนจะสายเกินไปนั่นเอง

2.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นสิ่งที่สำคัญของทุกวัย โดยเฉพาะวัย 30 อัพ ที่ต้องดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ เริ่มจากอาหารเช้าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ วัยนี้ควรจะทานอาหารเช้าภายใน 2 ชั่วโมง หลังจากที่คุณลุกจากเตียง โดยอาหารที่ทานเข้าไปให้เน้นโปรตีน โดยโปรตีนที่เหมาะกับวัยนี้คือ โปรตีนจากถั่ว และอาหารประเภทนมจากโยเกิร์ต วัยนี้ไม่ควรทานอาหารที่ย่อยยาก ที่สำคัญควรทานอาหารที่ไม่แปรรูป เช่น ข้าวกล้อง ผักใบเขียว ผลไม้สด หรือโปรตีนไร้มัน เช่น อกไก่ ปลา เป็นต้น ฟังดูเหมือนจะทำตามได้อยาก แต่อยากให้ค่อยๆ ปรับกันไปเพื่อสุขภาพที่ดี

3.ออกกำลังกาย
สำหรับการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัยนี้ที่จริงแล้ว สามารถออกกำลังกายได้ทุกรูปแบบ แต่ถ้าจะให้แนะนำก็คงจะเป็นการเล่นโยคะ เพราะนอกจากจะช่วยพัฒนาสมองแล้ว ยังฝึกสมาธิ ทำให้มีจิตใจที่สงบนิ่งนั่นเอง อีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะแนะนำก็คือการยกเวทสร้างกล้ามเนื้อ ยิ่งอายุมากขึ้นระบบเผาผลาญร่างกายจะทำงานได้น้อยลง ทำให้กล้ามเนื้อร่างกายหย่อนยานลงไปพร้อมกัน การยกเวทจะช่วยให้ร่างกายกระชับ กล้ามเนื้อแข็งแรงกลับมาฟิตปึ๋งปั๋ง

4.ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8-10 แก้ว
ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่หลายคนรู้อยู่แล้วทั้งนั้น อย่างเรื่องการดื่มน้ำ ก็ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพราะน้ำจะช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นของผิวหนัง ทำให้เรารู้สึกสดชื่น และผิวพรรณดูสดใส โดยน้ำที่ดื่มควรเป็นน้ำอุณหภูมิห้อง นอกจากน้ำเปล่าแล้วหากใครมีกำลังทรัพย์มากพอ อยากให้ลองจิบชาเขียวร้อนทุกวันอีกด้วย เพราะชาเขียวจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท เผาผลาญไขมันในร่างกายได้มากขึ้นอีกด้วย

5.พักผ่อนให้เพียงพอ
ควรนอนหลับวันละ 7-8 ชั่วโมงทุกวัน และนอนให้เป็นเวลาจะช่วยให้ระบบชีวภาพภายในร่างกายทำงานเป็นปกติ ถ้าใครนอนก่อน 4 ทุ่มได้จะดีมาก เพราะช่วงเวลานี้ขณะที่เรานอนหลับร่างกายจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ระบบต่างๆ จะฟื้นฟูตนเองให้กลับสดใสแข็งแรง ที่สำคัญผิวส่วนใบหน้าผ่อนคลายริ้วรอยต่างๆ ก็จะลดน้อยลง ทำให้ดูเด็กกว่าอายุจริงอีกด้วยนะ

6.ใช้ผลิตภัณฑ์ลดและต่อต้านริ้วรอยเป็นตัวช่วย

ก็วัยนี้แล้วเนอะ ต้องใช้ตัวช่วยกันสักหน่อย เช่น ครีมบำรุง ลดริ้วรอย รอยเหี่ยวย่นต่างๆ ของผิวโดยเฉพาะบนใบหน้า นอกจากครีมบำรุงแล้วก็ต้องใช้ครีมกันแดด เพื่อเป็นตัวช่วยป้องกันรังสียูวี ยิ่งประเทศไทยแดดแรงขนาดนี้ ก็ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพราะแสงแดดนี่แหละคือศัตรูของพวกเราเลยแหละ

7.ผ่อนคลายอารมณ์ ลดความเครียด

แม้เราจะดูแลตัวเองดีเท่าไหร่ แต่ถ้าจิตใจและทัศนคติของเราติดลบ สิ่งที่ทำมาก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะความสุขของชีวิตที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อจิตใจเราสงบ ไม่ว่าจะเครียดเรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องครอบครัว ก็ขอให้เราแก้ปัญหาด้วยสติ คิดบวกว่าทุกปัญหาที่เกิดมีทางแก้ แล้วเราจะผ่านมันไปได้ด้วยดี และเราจะเป็นคนที่มีความสุขจนหลายคนอิจฉาเลยแหละ

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : IG@dumphil, FB:Ernestine Shepherd-World’s Oldest Female Body Builder

Praew Recommend

keyboard_arrow_up