account_circleตอนเด็กๆ ทุกคนล้วนเคยมีความฝัน แต่จะมีสักกี่คนที่ได้ทำตามความฝันและประสบความสำเร็จ หลายคนต้องกักเก็บความฝันเอาไว้ และพร้อมเผชิญโลกแห่งความจริงที่ไม่มีอะไรได้มาโดยง่ายดาย เช่นเดียวกับจอยที่ชอบประดิษฐ์สิ่งของมาตั้งแต่เด็ก แต่แล้วก็มีเหตุให้เธอต้องละทิ้งความฝันเหล่านั้นไป เพราะปัญหาครอบครัวที่เข้ามาแทรกแซง พอโตขึ้นก็ต้องทำงานหาเงินเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว แถมชีวิตการแต่งงานยังต้องมาพัง ทั้งๆ ที่เธอไม่เคยอยากให้มันมีบทสรุปเช่นเดียวกับพ่อแม่ของเธอ แต่สุดท้าย ทุกอย่างมันก็ไม่เป็นดั่งฝัน
จุดเปลี่ยนในชีวิตจึงเริ่มต้นขึ้น เมื่อเธอทำแก้วตกแตก พอเอาผ้าเช็ดพื้นก็เผลอโดนเศษแก้วบาด จอยเริ่มคิดทบทวนว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ผนวกกับที่พ่อของเธอมีคู่ควงคนใหม่เป็นเศรษฐีนี หัวสมองเธอแล่นทันที และจอยจึงเริ่มออกแบบไม้ถูพื้นมหัศจรรย์ (แบบที่ไม่ต้องใช้มือบิดเองออกมาอย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน) โดยมีภรรยาใหม่ของพ่อเป็นนายทุน แต่ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ จริงๆ นี่คือสิ่งที่เธอกำลังจะได้เรียนรู้ พร้อมกับความเชื่อที่ว่า ไม่มีใครเกิดมาเพื่อล้มเหลวไปตลอดหรอกนะ เหมือนของสิ่งหนึ่งที่พัง ทำไมเราจะซ่อมมันไม่ได้ล่ะ
‘จอย เธอสู้เพื่อฝัน’ ชื่อไทยจัดว่าตรงกับเนื้อหาสุดพลัง โดยหนังถูกสร้างจากเรื่องจริงของจอย แมกกาโน นักธุรกิจหญิงที่สร้างสรรค์ของใช้สำหรับแม่บ้านกว่าร้อยชิ้นออกมา ชีวิตของเธอไม่ธรรมดาเลยจริงๆ แต่เมื่อขึ้นจอใหญ่ แน่นอนว่าก็ต้องมีการปรุงแต่งเรื่องราวให้ดราม่าเข้มข้นปนตลกร้าย โดยผ่านการกำกับชั้นเยี่ยมของ ผกก. Silver Linings Playbook ซึ่งเล่าเรื่องออกมาได้น่าติดตาม ชวนขบคิด และสนุกเกินคาด เรียกได้ว่าดูเพลินจนไม่อยากให้จบ แม้ตอนจบจะห้วนไปหน่อยก็ตาม แต่ก็ยังถือว่าไม่ผิดหวังเลย
และการที่ได้เจนนิเฟอร์ ลองเรนซ์มารับบทนำ ก็ถือเป็นงานพรีเมี่ยมมากๆ ไม่กังขาเลยว่าทำไมนักวิจารณ์ส่วนใหญ่ถึงชื่นชอบบทบาทการแสดงของเธอ (ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำและยังได้เข้าชิงออสการ์สาขานำหญิงในปีนี้) เพราะต้องแสดงออกทางอารมณ์แบบสุดพลังจริงๆ นึกฟีลของแม่บ้านคนหนึ่งที่บ้านแตก ละทิ้งความฝัน ไม่ถูกกับพี่สาว แม่ติดละครทีวี เลิกกับผัว ทำธุรกิจแล้วเจ๊ง โดนโกง ล้มละลาย! แล้วเธอผ่านพ้นมันมาได้ยังไงกัน
ยอมใจเลยว่าเจนลอว์สวมบทจอยได้เจ้มจ้นมาก มีประมาณสองซีนที่เล่นได้ชวนขนลุกตาม แถมยังได้กลุ่มนักแสดงสมทบที่รับส่งอารมณ์กันได้เป็นอย่างดี เลยทำให้หนังออกมาดูเป็นธรรมชาติ และเข้าถึงคนดูแบบสุดๆ โดยหนังเริ่มเรื่องด้วยการนำเสนอดราม่าในครอบครัวซึ่งถือเป็นอีกเสี้ยวหนึ่งที่ทำให้จอยคิดลาออกจากงานแล้วก้าวขาสู่การทำสินค้าออกขายตามความฝันในวัยเด็ก เราจะได้เห็นตัวตนของจอยในแง่ของความเป็นคนเด็ดเดี่ยว กล้าได้กล้าเสีย แต่ก็มีมุมที่เปราะบางจนคนดูอย่างเราน้ำตาซึมตามได้เลย ที่สำคัญเรายังจะได้เห็นถึงความรักอันยิ่งใหญ่ภายในครอบครัว แฟนเก่า เพื่อนสนิทที่ไม่เคยทอดทิ้งกัน และมิตรภาพระหว่างคู่แข่งทางธุรกิจ
ถือว่าจอยเป็นหนังที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนได้มั้ย คำตอบคือได้อยู่นะ อาจจะไม่ถึงขั้นกับปลุกไฟฝันให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็สามารถทำให้เราจุดประกายความคิดบางอย่างขึ้นมา ว่าสุดท้ายแล้วเราอยากทำอะไรกันแน่ แม้วันนี้ทุกอย่างจะไม่เป็นตามฝัน แต่หากได้ลุกขึ้นมาลองสู้ดูสักตั้ง ความฝันก็อาจจะเป็นจริง เหมือนอย่างที่จอยทำได้นั่นเอง ใครที่กำลังเบื่อๆ เซ็งๆ อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง หรือหากต้องการปลุกพลัง ลองดูหนังเรื่องนี้ อาจจะได้ไอเดียใหม่ๆ ที่จะสร้างสรรค์ชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้นก็ได้นะ เพราะเราก็ไม่ต่างจากไม้ถูพื้น หากทำให้มันแตกต่างจากคนอื่น และนำเสนอได้อย่างตรงใจ ทำไมจะไม่เป็นที่ต้องการล่ะ
คะแนน 9/10
เรื่อง : คิมคานา