การอ่านคือแรงบันดาลใจช่วยให้ “พริม พริมา” มีความละเอียดอ่อนมากขึ้น

“พริมชอบอ่านพัฒนาตัวเอง เพราะได้แรงบันดาลใจในการพัฒนาตัวเองไปอีกมุมที่เราไม่เคยรู้มาก่อน อีกประเภทที่ชอบอ่านมากคือ เรื่องสั้น รู้สึกว่า เนื้อหาไม่หนักเกินไป อ่านง่าย หยิบอ่านเมื่อไหร่ก็ได้

“เล่มโปรดล่าสุดที่เพิ่งอ่านจบเลย “การคบเพื่อนแบบเดล คาร์เนกี”  เขาสอนวิธีการเข้าสังคมที่ถูกต้องว่าเราควรจะมีวิธีการพูดอย่างไรให้สร้างมิตรภาพได้ เช่น การจำชื่อคนได้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเป็นความประทับใจแรก ซึ่งส่วนใหญ่บางทีผู้คนก็หลงลืมไป รวมไปถึงแนะนำวิธีการพูดแบบต่างๆ เช่น ถ้าจะไหว้วานคนให้ช่วยเหลือเรา ควรมีวิธีการอย่างไร  พริมว่ามันเป็นรายละเอียดเล็กน้อยในชีวิตที่คนหลงลืมไป และสร้างเสริมศิลปะการพูดได้ดียิ่งขึ้นเล่มนี้มันก็เขียนแล้วเข้าใจง่ายด้วยค่ะ “สำหรับเรื่องสั้น ส่วนใหญ่พริมชอบอ่านของนิ้วกลม เล่มโปรดคือ สิ่งมหัศจรรย์ธรรมดา ที่พูดถึงสิ่งของรอบตัวโดยให้นึกถึงความสุขรอบตัวที่เราหาได้ง่ายๆ หรือความหมายของสิ่งของที่แต่ละชิ้นก็มีความหมายของมัน อีกเล่มคือ อาจารย์ในร้านคุกกี้ เรียกว่า เป็นเคล็ดวิชาแห่งความสุขและแรงบันดาลใจให้ความรู้สึกแบบ Feel good ที่พริมชอบหนังสือของนิ้วกลมเพราะ เขาเขียนถึงครอบครัว การกลับให้ความสำคัญกับที่บ้าน  ซึ่งพริมสนิทกับที่บ้าน ก็จะได้แง่คิดในการใช้เวลาร่วมกันให้มีค่ามากขึ้น พออ่านแล้วรู้สึกว่าตัวเอง กลายเป็นคนที่ละเอียดอ่อนมากขึ้น

“สมัยเด็กพริมอ่านหนังสือเยอะ แต่พอเริ่มทำงานก็อ่านน้อยลงเพราะไม่มีเวลา จนกระทั่งเมื่อ 3 ปีที่แล้ว พริมกลับมาอ่านหนังสืออีกครั้ง เพราะติดมือถือมาก จนวันหนึ่งเห็นพี่สาวอ่านหนังสือตลอดเวลา เวลาคุยกับพี่ดูเขามีความรู้รอบตัวเยอะ ไปที่ไหนก็พกหนังสือตลอด จึงเริ่มถามพี่ว่า อ่านอะไร เขาก็แนะนำหนังสือเรื่องสั้นของนิ้วกลมให้ กลายเป็นว่าเราชอบ อ่านง่าย ไม่เครียด นับตั้งแต่นั้นก็อยากมีหนังสือเป็นของตัวเอง ช่วงแรกไม่รู้จะเลือกเล่มไหน ก็อาศัยอ่านเรื่องย่อในอินเตอร์เน็ตค่ะ แล้วไปงานหนังสือซื้อมา 10 เล่มขึ้น เพราะเราไม่มีเวลาไปร้านหนังสือบ่อย แล้วมานั่งอ่าน ไล่อ่านตามเวลาที่มี

“เวลาอ่านหนังสือ พริมใจเย็นขึ้น พอใจเย็นทำอะไรก็ราบรื่นขึ้น ที่สำคัญคือฝึกสมาธิ พริมชอบอ่านหนังสือเล่ม พริมว่าการจับหนังสือมันดีกว่าการอ่านในมือถือ เพราะหนึ่งคือ เวลาเราอ่านจากมือถือก็จะมีข้อความต่างๆ เด้งขึ้นมาซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ว่าอะไรก็หันเหความสนใจเราได้ทุกวินาที แต่การได้จับเล่ม มันเหมือนพาเราไปอีกโลกหนึ่ง  คล้ายๆ กับได้นั่งดูหนังจากจินตนาการของเราค่ะ”

** ภาพเมื่อตอนที่พริม-พริมา  เดินสายสร้างแรงบันดาลใจการอ่าน ในโครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ปี2 ที่โรงเรียนบ้านโดท่างาม จังหวัดมหาสารคาม