“ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” เชื่อว่าหลายคนจะต้องเคยได้ยินประโยคนี้มาตั้งแต่เด็กๆ เพราะตั้งแต่จำความได้ ข้าวก็เป็นอาหารหลักของคนไทยที่ไม่ว่าจะทำเมนูอะไรทั้งผัดกระเพรา แกงจืด ข้าวต้ม ข้าวก็มักจะเป็นวัตถุดิบหลักของคนไทยจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตที่แยกออกจากกันไม่ได้ไปแล้ว
แต่ถ้าจะลองดูลงไปในรายละเอียด เราเคยสงสัยกันไหมคะว่าถึงแม้ “ข้าว” ที่เราทานอยู่ทุกวันนี้มีคุณค่าสารอาหารอย่างไร ? ซื้อมาจากที่ไหน? และในเมื่อข้าวที่เป็นอาหารหลักของคนไทย เพราะอะไรเราถึงไม่ค่อยเห็นข้าวเป็นที่นิยมเหมือนกับกาแฟที่สนุกจะลิ้มรสคู่กับขนมแสนอร่อยตามร้านคาเฟ่
สีสด เผยให้เห็นว่า “ข้าว” เป็นจุดเด่น ให้คนไทยได้รู้จักว่าประเทศของเราไม่ได้มีเพียงแต่ข้าวหอมมะลิเท่านั้น แต่ยังมีข้าวอีกหลายสายพันธุ์ที่เมื่อนำมาพัฒนาสูตรแล้วยิ่งเพิ่มความอร่อยของการทานอาหารมากขึ้น จึงก่อให้เกิดเป็นร้านอาหารไทย “สีสด บาย บานาน่าลีฟ” ที่มีจุดเด่น คือการทำ “ไรซ์บาร์ (Rice Bar)” ในร้านอาหาร นำเสนอประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้ลูกค้าในรูปแบบที่เรียกว่า Mixtaurant ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในต่างประเทศ ให้ลูกค้าที่มาใช้บริการได้มากกว่าความอร่อย
เพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสสัมผัสลิ้มรสความหอมกรุ่น นุ่ม อร่อย ของข้าวที่สีสดใหม่ ซึ่งรับข้าวโดยตรงมาจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศาลานา ปลูกข้าวแบบอินทรีย์ด้วยฝีมือของชาวนาไทยด้วยราคาที่เป็นกลาง และนำมาพัฒนาเบลนด์สูตรข้าวให้ตอบโจทย์กับผู้บริโภคได้ทานข้าวที่อร่อยควบคู่ไปกับการได้รับประทานอาหารไทยปรุงด้วยวัตถุดิบคุณภาพดี เพื่อให้ได้รสชาติความอร่อยของอาหารไทยต้นตำรับ
“สีสด บาย บานาน่าลีฟ (Sisod by Banana Leaf)” ตั้งอยู่ภายในโครงการ เดอะ เซอร์เคิล ถนนราชพฤกษ์ ช่วงติดกับแยกตัดเข้าถนนบรมราชชนนี เมื่อเข้ามาภายในร้านต้องสะดุดตากับ “ไรซ์บาร์ (Rice Bar) บาร์ข้าวออร์แกนิคที่เกิดจากการนำข้าวหลากหลายสายพันธุ์มาพัฒนาทำเป็นสูตรที่ทานง่าย รสชาติอร่อย ซึ่งข้าวแต่ละสูตรยังได้ผ่านการคิดค้นมาแล้วว่า ช่วยตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพของคนในปัจจุบันอย่างไร และแต่ละสูตรนั้นจะช่วยเพิ่มสารอาหารอะไรให้กับลูกค้าได้บ้าง จึงเป็นที่มาของบาร์ข้าวทั้ง 6 สูตรด้วยกัน
เริ่มจาก ข้าวหอม 5 สายพันธุ์ , ข้าวสูตรควบคุมน้ำหนัก,ข้าวสูตรเด็กเล็ก เพื่อพัฒนาการ, ข้าวสูตรควบคุมน้ำตาล, ข้าวสูตรบำรุงผิวและความงาม และ ข้าวหอมมะลิ 105 ออร์แกนิค ซึ่งเราสามารถเลือกสูตรข้าวบอกกับพนักงาน เพื่อที่จะนำมารับประทานกับกับข้าวได้เลย
บรรยากาศภายในร้านตกแต่งเรียบง่ายสบายตาด้วยโทนสีขาว มีรวงข้าวเล็กๆ ประดับอยู่ในแจกัน ได้กลิ่นอายธรรมชาติร่วมสมัย และยังแบ่งสัดส่วนพื้นที่ภายในร้านชัดเจนไม่ว่าจะเป็นบาร์ข้าว, โซนหุงข้าว และโซนสำหรับรับประทานอาหาร
ประเดิมเมนูแรกด้วย “เมนูข้าว” จากไรซ์ บาร์ ของทางร้าน “ข้าวอบตามใจฉัน” หลังจากที่เราเลือกสูตรข้าวที่จะทานเรียบร้อยแล้ว ทางร้านจะนำมาหุงด้วยหม้อคาเมชิ เทคนิคการหุงข้าวเฉพาะแบบโบราณของชาวญี่ปุ่น เมื่อเคี้ยวข้าวจะได้เทคเจอร์ของความนุ่ม…หนึบ
สายฟิวชั่นต้องชอบเมนูนี้ “ข้าวอบกะปิ” มินิบับสัญชาติไทย เพิ่มความสนุกให้การกินมีสีสันด้วยข้าวที่สีสดใหม่เสิร์ฟในหม้อคาเมชิร้อน พร้อมเครื่องเคียง ผัก หมูหวาน และกะปิสูตรเฉพาะของทางร้าน เป็นกิมมิกให้คลุกเคล้าปรุงรสชาติด้วยตัวเอง
ครบเครื่องเรื่องกระเพราต้องสั่ง “ข้าวกระเพราไก่ไข่ออนเซ็น” กระเพราไก่เนื้อแน่น รสชาติเข้มข้นจัดจ้านถึงเครื่อง เสิร์ฟในข้าวอบร้อนๆ ราดด้วยไข่ออนเซ็น อร่อยเผ็ดครบเครื่องสายกระเพราห้ามพลาด
ใครที่ชื่นชอบความอร่อยของน้ำพริก และรสต้มยำกุ้งสุดแซ่บ ! จะต้องว้าวกับเมนูนี้ “น้ำพริกต้มยำกุ้ง” ฉีกกฎต้มยำกุ้งที่ผ่านมาด้วยการนำต้มยำกุ้งมาคั่วผสมกับน้ำพริกสูตรลับของทางร้านได้รสเผ็ดจัดจ้าน ทานคู่กับเครื่องเคียง กุ้งตัวโตพร้อมผักต้ม ความอร่อยที่ลงตัว
อีกหนึ่งเมนูไฮไลท์ต้องยกให้ “ข้าวหมูกรอบคั่วพริกเกลือ” หมูกรุบกรอบร่อยชิ้นใหญ่ ที่ถึงแม้จะทานตอนไม่ร้อนก็ไม่ได้ทำให้ความกรอบหายแต่อย่างใด เคล็ดลับอยู่ที่วิธีการทอดสูตรเฉพาะของทางร้านต้องใช้วิธีการทอดค่อนข้างนาน และยังมีจำนวนจำกัดต่อวันอีกด้วย
รู้จักเมนูไฮไลท์ของข้าวกันไปแล้วมาถึงเมนูออร์เดิร์ฟเรียกน้ำย่อย “หมูสะเต๊ะ” เนื้อหมูหมักนุ๊ม..นุ่ม หมักด้วยเครื่องเทศสูตรพิเศษของทางร้าน เสิร์ฟบนเตาร้อนเพิ่มกิมมิคเก๋ๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด รสชาติหอมกลมกล่อมรับรองว่ากินคนเดียว 10 ไม้ยังไม่พอ
เมนูถัดมาต้องถูกใจคนชอบทานปลา โดยเฉพาะเมนู ปลาทู สุดเก๋ กับ “ยำปลาทูฟู” เปลี่ยนรสชาติความเคยชินของปลาทูอันแสนคุ้นเคยมาครีเอทเป็นยำปลาทูโฉมใหม่ ได้รสชาติความเค็มมันเฉพาะของปลาทูทานคู่กับน้ำยำรสเด็ด อร่อยเกินห้ามใจ
สายเฮลท์ตี้ต้องรักเมนูนี้กับ “สีสด เฮาส์ สลัด” เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน ความพิเศษอยู่ที่ความสด สะอาดปลอดสารพิษของผักออร์แกนิก พร้อมเสิร์ฟด้วยผักเกล็ดหิมะคู่กับเนื้อปูก้อนโต โรยด้วยรำข้าวเพิ่มคุณค่าของสารอาหาร เมื่อเคี้ยวไปแล้วจะได้รสสัมผัสความกรุบกรอบของผักหลากหลายชนิด รสชาติอร่อย ได้ลองแล้วต้องหลงรักแน่นอน
อีกหนึ่งเมนูไฮไลท์เอาใจคนรักสุขภาพกับ “เมี่ยงกลีบบัว” ที่ทางร้านเลือกใช้กลีบของดอกบัวมาซึ่งมีเท็กซ์เจอร์ที่นุ่ม รสชาติไม่ฝาด มีกลิ่นหอมที่โดดเด่น เมื่อทานคู่กับเครื่องเคียงพร้อมน้ำราดเมี่ยงรสชาติเข้มข้นแล้ว ยิ่งเพิ่มอรรถรสในการทานอาหารได้เป็นอย่างดี
เติมความสดชื่นระหว่างวันกันสักนิดด้วย “Rose Lychee Soda” ตกแต่งด้วยดอกไม้ตามฤดูกาล รสเปรี้ยวอมหวานจากน้ำเลม่อนผสมลิ้นจี่ กุหลาบ เติมความซ่าด้วยโซดา หรือถ้าใครที่ชอบเครื่องดื่มรสเปรี้ยวอมหวาน ขอแนะนำ
“Plum Sprite Soda” รสเปรี้ยวอมหวานจากบ๊วย ผสมน้ำเลม่อน คู่กับโซดา
Smoothie berry รำข้าว ที่นอกจากจะให้ความสดชื่นรสชาติความอร่อยจากเบอร์รี่หลากหลายชนิดยังได้สุขภาพที่ดีจากรำข้าวสด ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงซึ่งหาทานได้เฉพาะที่ร้าน สีสด บาย บานาน่าลีฟ เท่านั้น
ส่วนใครที่คิดถึงเมนูสุดฮิตจาก บานาน่าลีฟ เช่น ไก่มะนาว, ปลากะพงทอดน้ำปลา และ เมี่ยงคำ ทางร้านก็ยังมีให้ได้ลิ้มรสความอร่อยกันอีกเช่นเคย