ดร.คฑา ชินบัญชร พาเปิดเส้นทางพลังบวก @สมุทรสงคราม

Alternative Textaccount_circle

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชู ดร.คฑา ชินบัญชร เปิดเส้นทางรับพลังบวกในโครงการ “เที่ยวไทยรับพลังบวกกับ ดร.คฑา ชินบัญชร” ท่องเที่ยวสบายๆ ต้อนรับลมหนาวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ รับพลังบวกจากธรรมชาติ ศาสนสถาน ชุมชนวิถีไทยที่ทรงเสน่ห์ที่จังหวัดสมุทรสงคราม

ดร.คฑา ชินบัญชร

สำหรับทริปนี้ออกเดินทางไปที่แม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม เรามุ่งหน้าไปที่วัดเพชรสมุทรวรวิหาร สักการะหลวงพ่อบ้านแหลม พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพเลื่อมใสของคนทั่วไป เป็นพระพุทธรูปยืนอุ้มบาตร ขนาดเท่าคนจริงสูงประมาณ ๑๖๗ เซนติเมตร ตามตำนานเล่าว่า ชาวประมงบ้านแหลมออกไปลากอวนในอ่าวแม่กลองได้พระพุทธรูปติดมา ๒ องค์ องค์หนึ่ง เป็นพระพุทธรูปนั่งอีกองค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูป ยืน พระพุทธรูปนั่งได้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ที่วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี ส่วนพระพุทธรูปยืนนำมา ประดิษฐานไว้ที่วัดบ้านแหลม เรียกกันว่า หลวงพ่อบ้านแหลม หลวงพ่อบ้านแหลม เป็นที่เคารพบูชาในหมู่พุทธศานิกชนโดยทั่วไป ในแต่ละวันจะมีผู้ศรัทธาจากทั่วทุกสารทิศมากราบนมัสการอย่างเนืองแน่น มีการเปรียบเปรยว่า หากใครไปเมืองสมุทรสงครามไม่ได้ไปนมัสการ หลวงพ่อบ้านแหลม เสมือนไปไม่ถึงเมืองสมุทรสงคราม

ดร.คฑา ชินบัญชร

นมัสการพระคู่บ้านคู่เมืองแล้วได้เวลาสัมผัสชุมชนวิถีไทยทรงเสน่ห์ที่ตลาดน้ำบางน้อย ตลาดน้ำเก่าแก่แห่งหนึ่งมีอายุมากกว่า ๑๐๐ ปี หน้าวัดเกาะแก้ว อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสวิถีชุมชนของชาวบ้านริมสองฝั่งแม่น้ำแม่กลองที่แท้จริง ต้องมาเยือนตลาดน้ำบางน้อยแห่งนี้ ในอดีตตลาดน้ำบางน้อย เป็นที่ค้าขายผลไม้ พืชผลทางการเกษตร จากชาวสวนที่อยู่รอบๆตลาด เช่น มะพร้าว ชมพู่ ส้มโอ มะม่วง และ อาหารทะเลอย่างเช่น ปลาทู กะปิ ตลาดน้ำบางน้อยถือว่าเป็นย่านค้าขายขนาดใหญ่ เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไป ทำให้ตลาดน้ำบางน้อย เปลี่ยนจากตลาดกลายเป็นชุมชนเก่าแก่ริมน้ำที่ยังอนุรักษ์ความเป็นอยู่ และวิถีชีวิตริมน้ำอย่างเรียบง่ายให้คงอยู่เช่นเดิม

เมื่อจนรถที่ลานจอดรถแสนกว้างขวางของวัดบางน้อยแล้ว มองจากภายนอกอาจเห็นเป็นตลาดน้ำเล็กๆ คงใช้เวลาเดินชมไม่เกิน ๒๐ นาทีก็คงจะทั่วทั้งตลาด แต่เมื่อย่างเท้าเข้าไปจริงๆแล้วกลับหลงเสน่ห์และตื่นตาตื่นใจกับพืชผักผลไม้ที่ชาวกรุง หรือนักท่องเที่ยวจากพื้นที่อื่นไม่เคยรู้จักมาก่อน ที่สำคัญราคาถูกมากจนน่าตกใจ นอกจากพืชผักผลไม้แปลกๆแล้วเราจะได้เห็นขนมโบราณแปลกๆ เช่น ขนมอัญชัน โรตีแต้จิ๋ว (หลั่วก๊วย) ซึ่งเป็นขนมภายในครอบครัวที่อาม่า คิดขึ้นเพื่อใช้สำหรับไหว้เจ้าในพิธีส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ (ก่อนตรุษจีน ๖ วัน) ด้วยการม้วนของขนมมีลักษณะคล้ายโรตี จึงได้ตั้งชื่อเพื่อให้เรียกได้ง่ายว่า “โรตีแต้จิ๋ว” โรตีแต้จิ๋ว มีส่วนประกอบคือ แป้งข้าวเหนียว ถั่วลิสง น้ำตาลทรายแดง และ งา ลักษณะเหนียวนุ่ม หวาน หอม กรอบอร่อย แถมอุดมไปด้วยประโยชน์ โรตีแต้จิ๋ว เป็นขนมของครอบครัว จึงไม่มีจำหน่ายที่อื่น นอกจากที่ตลาดน้ำบางน้อยแห่งเดียวเท่านั้น

ดร.คฑา ชินบัญชร

ชิมโรตีแต้จิ๋ว ขนมอันชัญแล้ว ถ้ายังไม่อยู่ท้อง นักท่องเที่ยวสามารถเลือกทานข้าวหมูแดง ก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยเตี๋ยวหมูโบราณ และอาหารพื้นเมืองต่างๆ ได้ในราคาแสนถูก กับวิวแม่น้ำบรรยากาศแสนเย็นสบาย สามารถเยี่ยมชมตลาดน้ำบางน้อยได้ในวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ น.

อิ่มท้องอิ่มบรรยากาศกันแล้ว เดินทางไปรับพลังบวกกันต่อที่วัดบางกะพ้อม อำเภออัมพวา วัดบางกะพ้อม เป็นวัดในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตามตำนานเล่าขานกันมาว่าผู้สร้างคือตระกูลคหบดีมาฐานะดีได้ลงเรือพาครอบครัวหนีข้าศึกมาเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยา วัดบางกะพ้อมมีวิหารที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง ๔ รอย และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังนูน เป็นเรื่องพุทธประวัติและกลางวิหารประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นศิลปะจีนและไทยผสมกันเป็นเรื่องราวของพระพุทธศาสนา และความเป็นอยู่ของชาวไทย จีนในสมัยนั้น

ดร.คฑา ชินบัญชร

ดร.คฑา ชินบัญชร

ดร.คฑา ชินบัญชร

นอกจากนี้หากแล่นเรือมาทางแม่น้ำแม่กลองผ่านหน้าวัด จะเห็นรูปหล่อเหมือนจริง “หลวงพ่อคงองค์ใหญ่” ซึ่งเป็นพระเกจิแห่งลุ่มน้ำแม่กลองที่ชาวสมุทรสงครามเคารพนับถือเป็นอย่างมาก โดยดร.คฑา ชินบัญชร แนะนำเคล็ดลับการขอพรหลงพ่อคงองค์ใหญ่ให้อธิษฐานให้การงานมั่นคง การเงินมั่งคั่ง ผู้ใหญ่ให้การสนับสนุนค้ำชู

ปิดท้ายเส้นทางรับพลังบวกแสนเพลินใจที่โครงการอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ ของมูลนิธิชัยพัฒนา ที่จัดสรรพื้นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนำถวายของนางสาว ประยงค์ นาคะวะรังค์ ข้าราชการบำนาญโรงพยาบาลทรวงอก ในตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา จำนวน ๕ แปลง พื้นที่รวม ๒๑ ไร่ ๑๒ ตารางวา และของนางวณี ด้วงคุ้ม และนางประทิน ด้วงคุ้ม ได้น้อมเกล้าฯ ถวายที่ดินสวนผลไม้ให้กับมูลนิธิชัยพัฒนา เนื้อที ๒ ไร่ ๑ งาน ๕๒ ตารางวา และ ๒ ไร่ ๓ งาน ๗๒ ตารางวา ให้เป็นแหล่งเรียนรู้และส่งเสริมวิถีชุมชน โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น ๔ ส่วนคือ ๑) พื้นที่สวนชัยพัฒนานุรักษ์ ๒) ลานวัฒนธรรมนาคะวะรังค์ ๓) ร้านค้าชุมชนของโครงการฯ ๔) ร้านชานชาลา ๕) ห้องนิทรรศการชัยพัฒนานุรักษ์

จบทริปแสนสุขที่ทั้งอิ่มท้อง อิ่มใจ รักโลก ลดขยะ สะสมบุญ ที่จังหวัดสมุทรสงครามกันแล้ว อย่าลืมส่งรูปถ่ายกับสถานที่ท่องเที่ยวรับพลังบวกทั้ง ๑๒ แห่งในโครงการ ไปลุ้นรับของรางวัลมากมายที่ www.เที่ยวไทยรับพลังบวก.com


 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up