account_circleเพราะการเที่ยวมีหลายรูปแบบ ทั้งสายชิลนอนริมทะเล เดินป่า ปืนเขา และอีกหนึ่งอย่างที่เราอยากแชร์ก็คือ การล่องเรือสำราญ ที่เหมือนการพักผ่อนอยู่ในโรงแรมหรู แต่ลอยอยู่กลางทะเล จึงเหมาะทั้งการเที่ยวครอบครัว คู่รัก หรือแก๊งเพื่อน เพราะมีกิจกรรมให้ทำเพียบ!!!
ขอเล่าก่อนว่า Costa คือบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ให้บริการล่องเรือสำราญมากว่า 70 ปี ในคอนเซ็ปต์ Italian Style Cruising ทั้งในแถบยุโรปและเอเชีย ซึ่งครั้งนี้เป็นทริปเดินทางจากประเทศญี่ปุ่น โตเกียว – โกเบ – เจจู (เกาหลีใต้) – ฟุกุโอกะ – โตเกียว รวมทั้งหมด 6 คืน 7 วัน โดยเรือ Costa neoRomantica เรือสำราญขนาดใหญ่ สูง 14 ชั้น ประกอบด้วยห้องพักถึง 789 ห้อง และเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นห้องอาหารอิตาเลียนสุดหรู บาร์ สปา ฟิตเนส ห้องสมุด และสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าจะพูดให้เห็นภาพชัดๆ ก็คือ เหมือนยกโรงแรม 5 ดาวไปไว้บนเรือนั่นเอง
Day 1 หลังจากเดินเล่นชมเมืองโตเกียวพอหอมปากหอมคอ ก็นั่งรถบัสเพื่อไปยังท่าเรือ ซึ่งมีพนักงานคอยต้อนรับและจัดการยกกระเป๋าไปไว้ในห้องให้เรียบร้อย เราแค่เดินตัวเปล่าขึ้นเรือไปได้เลย โดยทาง Costa จะแจกการ์ดให้ผู้โดยสารคนละ 1 ใบ เป็นเหมือน ID Card ที่ระบุชื่อและเลขที่ห้อง เพราะตลอดระยะเวลาที่อยู่ในเรือลำนี้ คุณไม่ต้องพกเงินสดติดตัวให้วุ่นวาย เพียงแค่โชว์การ์ดใบนี้ก็ใช้บริการทุกที่บนเรือได้เลย โดยเขาจะตัดเงินจากบัตรเครดิตที่ระบุไว้ สะดวกสบายมากๆ ค่ะ
ภายในเรือ Costa neoRomantica คุณสามารถเลือกทำกิจกรรมทุกอย่างได้ตามใจชอบ แบบว่าอยากกินตอนไหน ตื่นกี่โมง ได้หมดค่ะ! โดยทางเรือจะมีตารางกิจกรรมในแต่ละวันแจกในห้องพักว่าวันนี้ห้องอาหารมีเมนูพิเศษอะไร โซน Duty Free มีอะไรลดราคา หรือธีมปาร์ตี้ในช่วงกลางคืนที่เปลี่ยนไปแต่ละวัน เช่น Gala Wear, White Outfits, Tropical Wear เป็นต้น
ทันทีที่ขึ้นเรือ เราแวะไปเยี่ยมที่ห้องอาหาร Giardino Restaurant ที่บริการอาหารนานาชาติบุฟเฟ่ต์ พร้อมชมวิวของท้องทะเลแบบ 360 องศา ก่อนจะเข้าห้องพักเพื่อพักท้อง เอ๊ย พักผ่อน เตรียมตัวแต่งสวยสำหรับไปดินเนอร์ที่ Botticeli Restaurant ห้องอาหารอิตาเลียนตอนค่ำ
Day 2 ช่วงบ่ายเรือแวะพักที่โกเบ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีเวลาให้เราออกไปเดินเล่นตั้งแต่ 15.30 น. – 21.00 น. และใครที่ไม่อยากเหนื่อยเดินทางเอง ทางเรือก็มีบริการทัวร์พร้อมรถรับ-ส่ง โดยเราเลือกไปย่าน Kitano Street เพื่อชมบ้านพักในสมัยก่อนที่ผสมผสานวัฒนธรรมญี่ปุ่นและตะวันตกเข้าด้วยกัน จากนั้นต่อด้วย Kobe Port ท่าเรือสำคัญของเมือง เพื่อชมภาพมุมสูงจากโกเบทาวเวอร์ ช็อปปิ้งและดินเนอร์อาหารทะเลสดๆ แล้วจึงกลับขึ้นเรือ
Day 3 วันนี้เราพักผ่อนชิลบนเรือ ซึ่งไฮไลต์ที่ไม่ยอมพลาดคือ Samsara Spa ที่มีโปรแกรมปรนนิบัติผิวให้เลือกมากมาย ต่อด้วยซาวน่าและว่ายน้ำในสระระบบเกลือในร่ม เพื่อให้สดชื่นพร้อมสำหรับการแต่งตัวสวยๆ ไปชมการแสดงในยามค่ำคืน ซึ่งมีให้เลือกชมเยอะมาก ทั้งโชว์ละตินแดนซ์ มายากล หรือฟังเพลงแจ๊ส จิบเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมชมวิวยามค่ำคืน เลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ
Day 4 ช่วงสายเจ้าหน้าที่ประกาศให้เราเตรียมพาสปอร์ตเมื่อเข้าสู่เกาะเจจู ประเทศเกาหลีใต้ เราเปลี่ยนบรรยากาศไปกินมื้อกลางวันแบบเกาหลีแท้ๆ กัน แล้วไปเดินย่อยที่ Jeju Shinhwa World คอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ที่ไม่ควรพลาดเช็กอิน ต่อด้วย GD Cafe คาเฟ่สุดฮิปของ G-Dragon ซูเปอร์สตาร์วง Big Bang และ Shinhwa Theme Park สวนสนุกสุดน่ารักที่รวมคาแร็คเตอร์การ์ตูนชื่อดังของเกาหลีใต้ไว้เพียบ หรือจะไปนั่งเล่นที่ O’sulloc Tea Museum ร้านชาชื่อดัง แล้วช็อปปิ้งต่อรัวๆ ที่ Innisfree บิวตี้แบรนด์ดังของเกาะเจจู
Day 5 ช่วงเช้าเราตื่นขึ้นมาพร้อมวิวของฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งวันนี้มีเวลาเดินเล่นถึงช่วงบ่าย (8.00-13.30 น.) ที่แรกที่เราอยากไปคือศาลเจ้า Dazaifu Tenmangu เพื่อไหว้พระขอพร สบายใจแล้วก็ไปเดินเล่นย่านเมืองเก่าที่รายล้อมด้วยร้านค้ามากมาย ไม่ควรพลาดชิมเมนไทโกะ (ไข่ปลาค็อด) เมนูขึ้นชื่อของเมืองนี้ ฟินพอประมาณแล้วกลับขึ้นเรือ เปลี่ยนชุดและไปว่ายน้ำที่สระกลางแจ้ง นอนอาบแดดท่ามกลางวิวทะเลและเสียงคลื่น บอกเลยว่าฟิน!
Day 6 ขอใช้เวลาพักผ่อนเต็มที่ก่อนจะจบทริปนี้ มุมหนึ่งที่ชอบมากๆ คือบริเวณดาดฟ้าเรือ ที่คุณสามารถนั่งเล่น เดินเล่น อ่านหนังสือ จิบกาแฟได้ตามใจชอบ พอถึงช่วงค่ำก็ดินเนอร์สุดพิเศษกับเชฟมิชลินระดับ 2 ดาวที่ห้องอาหาร Casanova Restaurant
Day 7 เวลา 8.00 น. เรากลับขึ้นฝั่งที่ท่าเรือโตเกียว ถือเป็นการจบทริปนี้แบบสมบูรณ์แบบ
เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่เต็มไปด้วยความประทับใจ ยิ่งถ้าใครชอบทะเลไม่ควรพลาด เพราะไม่ว่าคุณจะมองไปทางไหน ก็เห็นบรรยากาศของท้องทะเลและเสียงคลื่นคลอเคลียตลอดเวลา ชิลให้สุด…แล้วหยุดที่ทะเล <3
FYI
– ข้อมูลเพิ่มเติม www.costacruise.com
– บริการและสินค้าทุกอย่างบนเรือ เป็นค่าเงิน USD (ดอลลาห์สหรัฐ)
ที่มา่ : นิตยสารแพรว ฉบับ 943