ครั้งแรกกับการเปิดอาณาจักรของครอบครัว “อัญชลีวิวัฒน์” เจ้าของธุรกิจโรงแรมดัง ร้านอาหาร และคาเฟ่สุดเทรนดี้กว่า 10 แห่งที่พัทยา โดยมี คุณทราย-วรรณพร ทายาทคนกลางของตระกูลเป็นเจ้าโปรเจ็กต์ดูแลอาณาจักรแห่งนี้ให้สมบูรณ์และสง่างาม
A Classy Style Is My “Style”
จะเรียก “ที่นี่” ว่าเป็นอาณาจักรใหม่ล่าสุดของครอบครัว “อัญชลีวิวัฒน์” ก็คงได้ เพราะสมาชิกทุกคนเพิ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่กี่เดือน หากมองจากรั้วด้านหน้าจะเห็นประติมากรรมบรอนซ์รูปม้าทรอยโดดเด่นหน้าอาคารขนาดใหญ่ ซึ่งออกแบบเป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับครอบครัวใช้ร่วมกัน บริเวณโถงกลางอาคารตกแต่งไฟแชนเดอเลียร์คริสตัล มีโต๊ะไม้กลมวางหนังสือดีไซน์ต่างๆ ให้ความรู้สึกหรูหราสไตล์อเมริกัน

ถัดไปทางปีกขวาเป็นห้องเลี้ยงรับรอง ตกแต่งแนวลักซ์ชัวรี่คอนเทมโพรารี ดีไซน์ผนังหินอ่อนไวท์คาร์ราราจากอิตาลี แชนเดอเลียร์คริสตัล พร้อมโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ เลี้ยงรับรองแขกได้ 18-20 ที่นั่ง

ส่วนปีกซ้ายเป็นห้องรับรองแขก ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เรียบโก้แบบ Ralph Lauren “คุณทราย” ซึ่งเป็นทั้งเจ้าของไอเดียสร้างบ้าน พร้อมรับหน้าที่คุมโปรเจ็กต์ก่อสร้างทั้งหมด เล่าให้ฟังว่า

“ครอบครัวเราพักที่โรงแรม Garden Seaview ของเราเองมาเป็นสิบปี เพราะก่อนหน้านี้มีกันแค่ 5 คน คุณพ่อ คุณแม่ พวกเราสามพี่น้อง เป็นผู้หญิงหมด กระทั่งพี่สาว (คุณพรชลี อัญชลีวิวัฒน์) แต่งงาน มีลูกสามคน ทำให้รู้สึกว่าการพักโรงแรมเริ่มไม่สะดวกสบายสำหรับการอยู่เป็นครอบครัว เด็กๆ น่าจะอยากมีสนามวิ่งเล่น ทรายจึงถามคุณพ่อ (คุณสุวัจชัย) ว่าสร้างบ้านดีไหม เพราะปกติทรายเป็นโปรเจ็กต์แมเนเจอร์ของบ้านอยู่แล้ว เช่น ถ้าสร้างโรงแรมใหม่ ทรายมีหน้าที่ช่วยคุณพ่อดูแลควบคุมการก่อสร้างมาตลอด

“พอคุณพ่อยกที่ดินขนาด 3 ไร่ แปลงนี้ให้สร้างบ้าน ทรายทำทุกอย่างเอง ตั้งแต่หาผู้ออกแบบ ผู้รับเหมาก่อสร้าง คุณพ่อมีหน้าที่จ่ายเงินอย่างเดียว ตอนแรกบอกคุณพ่อว่าของบประมาณกว่าร้อยล้าน แต่ที่สุดเกินงบ (ยิ้ม) ถูกคุณพ่อเรียกไปเขกหัวหลายรอบ (หัวเราะ) ปกติเวลาก่อสร้างโรงแรม ทรายไม่เคยดูฮวงจุ้ยเลย แต่พอจะสร้างบ้าน คิดว่าดูหน่อยก็ดี จึงปรึกษา อาจารย์วันชัย รวยอารี

“ปรากฏว่าถูกแก้แบบหมด เพราะทีแรกให้สถาปนิกโรงแรมเขียนแบบบ้านโมเดิร์นตามแนวถนัดของเขา แต่ผิดฮวงจุ้ย จึงแก้แบบมาตลอด เปลี่ยนตำแหน่งสระว่ายน้ำให้อยู่ในจุดที่มีลมหมุนเวียนดี และให้มีคอร์ตยาร์ดตรงกลาง สุดท้ายทรายตัดสินใจเปลี่ยนสถาปนิกใหม่ อยากได้บ้านที่อยู่ได้นานๆ ไม่เบื่อ จึงลงตัวที่แนวนี้ ‘คลาสสิกคอนเทมโพรารี’ บวกกับน้องสาว (คุณเวทิญาณ์ อัญชลีวิวัฒน์) เตรียมแต่งงาน ช่วงที่สถาปนิกคนใหม่เขียนแบบ เราจึงแบ่งพื้นที่อยู่กันคนละชั้นไปเลย อย่างตึกที่ทรายอยู่มี 4 ชั้น ชั้นล่างเป็นที่จอดรถ ชั้นสองเป็นส่วนที่คุณพ่อคุณแม่พักอาศัย น้องสาวอยู่ชั้นสาม ทรายอยู่ชั้นสี่ ส่วนพี่สาวแยกอยู่อีกตึกหนึ่ง เป็นของครอบครัวเขาเลย ส่วนใครชอบตกแต่งภายในแบบไหนก็บอกอินทีเรียร์ให้เขาจัดให้”

เธอเล่าพร้อมอมยิ้มน้อยๆ ผังบ้านหลังนี้จึงเป็นเหมือน 3 อาคารเชื่อมกัน โดยมีอาคารที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้านหน้า มีสวนสไตล์อังกฤษตรงกลาง ฝั่งซ้ายเป็นสระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นไฮไลต์ของบ้าน เชื่อมกับห้องปาร์ตี้ดีไซน์โมเดิร์น เปิดประตูห้องปาร์ตี้กระโดดลงสระได้เลย ชั้นบนเป็นฟิตเนสย่อมๆ กับห้องซาลอน ฝั่งขวาเป็นบ้านพี่สาว และอาคาร 4 ชั้นของคุณพ่อคุณแม่ คุณทราย และน้องสาว พักคนละชั้น


“เดิมอินทีเรียร์ออกแบบสระว่ายน้ำให้มีแชนเดอเลียร์ 3 ช่อ ติดตั้งห่างกันเป็นระยะๆ ดูสวยมาก แต่อาจมีปัญหาเรื่องความสะอาด เพราะมีนกบินผ่านไปมา จึงเปลี่ยนจากติดแชนเดอเลียร์เป็นฝังไฟเบอร์ออปติกที่พื้นหินอ่อนแทน เวลาเปิดสวิตช์จะเห็นแสงไฟตัดกับพื้นหิน ช่วยให้สระว่ายน้ำดูสนุกและมีสีสันเพิ่มขึ้น”

เติมความโดดเด่นด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์อเมริกัน
“เรื่องหนักใจที่สุดระหว่างคุมงานคือ การเลือกเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน เพราะต้องประกอบด้วยสไตล์และอีกหลายอย่าง ช่วงที่บ้านใกล้เสร็จ ทรายเป็นตัวแทนครอบครัวเดินทางไปอเมริกาพร้อมอินทีเรียร์ เลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ซึ่งไม่รู้จะสวยถูกใจทุกคนหรือเปล่า ประกอบกับราคาสินค้าค่อนข้างสูง ทำให้รู้สึกเครียดว่าใช้เงินมากไปไหม แต่ที่สุดทรายก็เลือกเฟอร์นิเจอร์ของ Baker และ Ralph Lauren กลับมา 2 คอนเทนเนอร์ บางชิ้นยังไม่ถูกใจนัก แต่ซื้อมาก่อนเพราะบ้านใกล้เสร็จ น้องสาวจะทำพิธีหมั้นที่บ้าน จึงต้องเร่งให้ทันงาน”

เราสังเกตว่าบ้านนี้มีประติมากรรมรูปม้าทั้งไซส์ใหญ่และเล็ก และภาพเขียนสีน้ำมันรูปม้าตกแต่งไว้ตามจุดต่างๆ ซึ่งคุณทรายเล่าว่า
“เวลาเพื่อนมาบ้านชอบถามว่าทรายขี่ม้าเหรอ ทำไมมีรูปม้าเยอะจัง (ยิ้ม) ตามความเชื่อของคนจีนถือว่าม้าเสริมฮวงจุ้ยเกี่ยวกับการค้าขาย และทรายเกิดปีม้าพอดีด้วย จึงรู้สึกชอบเป็นพิเศษ บวกกับสถาปนิกแนะนำให้หาประติมากรรมมาวางที่สนามหน้าบ้าน ทีแรกนึกไม่ออกว่าจะหาอะไรที่ดูลงตัว พอดีได้รู้จักกับ คุณชัยณรงค์ กองกลิ่น เป็นศิลปินที่ถนัดทำรูปเด็กอ้วน เขาออกแบบมาให้เลือก 3 แบบ เป็นภาพเด็กอ้วนตัวกลมๆ ถือริบบิ้น ภาพม้า และภาพนักรบ ทรายเลือกม้าทรอยสำหรับตั้งหน้าบ้าน พอเข้ามาห้องเลี้ยงรับรองจะเห็นภาพเขียนสีน้ำมันรูปม้าของศิลปินฝรั่งเศส ดูมีพลังดี ส่วนที่ห้องรับแขกก็มีบรอนซ์รูปเด็กอ้วนขี่ม้า ผลงานศิลปินคนเดียวกันกับที่ทำม้าทรอย ดูเชื่อมโยงล้อกันดี”


บนชั้น 4 ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณทรายเน้นตกแต่งสไตล์คลาสสิก คอนเทมโพรารี แทรกกลิ่นอายความเป็นเรอเนซองซ์นิดๆ เพิ่มความหรูหราด้วยการดึงสีทองมาประกอบ
“ทุกอย่างที่นี่ทำเตรียมไว้สำหรับอยู่สองคนตามที่คุณพ่อแนะนำ (ยิ้ม) เฟอร์นิเจอร์หลักเป็นสไตล์อเมริกันของ Baker เหมาะกับไลฟ์สไตล์เรา ตอนแต่งบ้านเครียดมาก เพราะกว่าจะหาของได้แต่ละชิ้นใช้เวลานานมาก อย่างโคมไฟแชนเดอเลียร์กลางบ้านจัดว่าเป็นชิ้นหายากที่สุด นอกจากจะหาแบบที่เราชอบแล้ว ยังต้องหาขนาดที่พอดีกับความสูงของเพดานด้วย กระทั่งเจอชิ้นนี้ เป็นแก้วเป่าของ Italamp จากประเทศอิตาลี

“โต๊ะรับประทานอาหารยืดหดได้สำหรับ 8 ที่นั่ง ผนังห้องครัวเป็นหินอ่อน Sino Emperador จากอิตาลี ส่วนพื้นใช้หินอ่อน Crema Marfil จากสเปนมาช่วยเพิ่มมิติ ทรายให้พื้นที่ครัวและแพนทรี่ค่อนข้างใหญ่ ไม่ใช่ว่าทำอาหารเป็น แต่มีไว้เผื่อสามีจะมาทำให้ทาน” เธอหัวเราะร่วน ก่อนปิดท้ายประโยคแก้เขินว่า

“แต่เขาคนนั้นไม่ต้องทำอาหารเป็นก็ได้นะคะ ทรายเลี้ยงดูอย่างดี (หัวเราะ) เพราะมีร้านอาหารของเราเอง อยู่ใกล้บ้านแค่ 5 นาทีถึง อยากทานอะไรก็โทร.สั่งให้มาส่ง บ้านเราไม่มีใครทำอาหารเลย ทุกบ้านมีครัวฝรั่งสำหรับใช้อุ่นอาหาร ส่วนครัวไทยมีที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ ถ้าวันไหนมีจัดเลี้ยง ที่ชั้นล่างสุดมีห้องครัวขนาดใหญ่สำหรับยกทีมเชฟมาปรุงอาหารได้เลย ตั้งแต่ย้ายมาอยู่บ้านนี้ ทรายอยู่ติดบ้านมากขึ้น แทบไม่ได้ออกไปไหน พื้นที่ส่วนกลางที่ใช้บ่อยคือ ฟิตเนส ห้องปาร์ตี้ ถ้าอยากนวด ทำผม สระผม ก็เรียกพนักงานที่สปาของโรงแรมมาให้บริการ”
ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 939