ยิ่งเที่ยวยิ่งได้ “พริม-พริมา พันธุ์เจริญ” เปิดโลกใหม่ด้วยการผจญภัยในต่างแดน

ยิ่งเที่ยวยิ่งได้ “พริม-พริมา พันธุ์เจริญ” เปิดโลกใหม่ด้วยการผจญภัยในต่างแดน… พริมเป็นนักเที่ยวสายสบายค่ะ เน้นไลฟ์สไตล์ กิน ชมวิว ซึมซับบรรยากาศ อาจดูเหมือนไม่ใช่สายแอดเวนเจอร์ แต่จริงๆ แล้วชีวิตพริมมีโอกาสทำอะไรแปลกใหม่เป็นครั้งแรกจากการไปเที่ยวนี่แหละ

 

Safari first time

ปีที่แล้วพริมไปเที่ยวที่เซาท์แอฟริกากับกองถ่ายละครเรื่อง ข้ามสีทันดร ไปทั้งหมด 9 วัน เป็นอีกหนึ่งประเทศที่สวยมากๆ จนอยากกลับไปอีก อยากเห็นอะไรอีกเยอะ เพราะตอนนั้นทำงานเป็นหลัก ใช้เวลาอยู่กับแต่ละสถานที่ค่อนข้างน้อย

ถ้าให้โหวตสถานที่ที่พริมชอบมากก็คือ เคปทาวน์ เพราะรอบๆ ตัวมีบรรยากาศของศิลปวัฒนธรรมของคนพื้นเมือง มองไปทางไหนมีแต่งานศิลป์และเสียงเพลง ตามท้องถนนจะมีคนออกมาเล่นดนตรี ร้องเพลง พริมอัดคลิปมาเยอะมาก แล้วที่ชอบอีกอย่างคือ ทุกคนใส่เสื้อผ้าสีสันสดใสตัดกับสีผิวของเขา ดูแล้วสวยมาก จนต้องซื้อเดรสสีแดงแปร๊ดจากตลาดนัดมาด้วยตัวหนึ่ง ส่วนอาหารก็มีให้เลือกกินหลากหลายชาติ แล้วก็สดมากด้วย โดยเฉพาะซีฟู้ด ยิ่งถ้าใครชอบไวน์ก็จะยิ่งรักเมืองนี้ เพราะไวน์ที่นี่ถูกมากๆ

ทริปนี้ยังทำให้อีกฝันของพริมเป็นจริงด้วยค่ะ นั่นก็คือได้ไปเที่ยวซาฟารี ตื่นเต้นมาก เคยเที่ยวซาฟารีในเมืองไทยที่นั่งรถรางไปดูสัตว์ในกรง แต่ที่นั่นเรานั่งรถจี๊ปเข้าไปในดงสัตว์ คนท้องถิ่นขับรถ โดยมีกล้องส่องทางไกลดูว่าสัตว์อยู่ตรงไหน แล้วคอยบอกเรา มันน่าตื่นเต้นที่ไม่รู้ว่าต้องเจออะไรบ้าง สัตว์อยู่ในที่ของเขา ไม่มีกรงไฟฟ้าขังไว้ แถมรถเราก็เป็นรถธรรมดา ไม่ได้มีอะไรป้องกัน ตอนที่ได้เห็นเสือโผล่ออกมา เห็นช้างเดินเป็นโขลงเหมือนในการ์ตูนเรื่อง เดอะไลอ้อนคิง จึงใจเต้นสุดๆ นี่แหละธรรมชาติที่แท้ทรู

 

เหยียบทะเลทราย ว่ายน้ำกับโลมาที่ดูไบ

พริมคิดว่าดูไบเป็นเมืองที่น่าทึ่งมาก ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นจากฝีมือคนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นตึกสูงที่สุดอย่างเบิร์จคาลิฟา มันสูงมากจนประหลาดใจว่าสิ่งที่เราเห็นตรงหน้าสร้างจากมือคนจริงๆ เหรอ แล้วยังมีน้ำพุ มีคลองไว้ล่องเรือรอบๆ เมือง มันแปลกมากเลยที่คนเราสามารถสร้างทั้งหมดนี้บนทะเลทราย ส่วนวิวก็สวยเกินบรรยาย พริมไม่เคยเห็นผืนทรายที่กว้างสุดลูกหูลูกตาขนาดนี้มาก่อน เสียดายที่ทริปนี้มีอุปสรรคตรงความร้อน เพราะไปช่วงฤดูร้อนของที่นั่นพอดี อากาศประมาณ 40 องศา ร้อนแบบผิวไหม้ไปเลยค่ะ เพราะฉะนั้นเกือบทุกที่ในประเทศนี้จะติดแอร์ ขนาดสวนสนุกยังมีแอร์เลย

ที่ปลื้มอีกอย่างของทริปนี้คือ พริมได้ไปว่ายน้ำเล่นกับโลมาเป็นครั้งแรกที่ Dolphin Bay ด้วย เขาเลี้ยงโลมาไว้ในบ่อใหญ่ แล้วให้เราเลือกว่าจะเล่นระดับไหน ถ้าว่ายน้ำแข็งหน่อยก็เกาะครีบโลมาแล้วว่ายไปด้วยกันได้เลย แต่เพื่อนที่ไปด้วยกันว่ายน้ำไม่เก่ง เลยได้แค่ว่ายระดับผิวน้ำ แค่นั้นก็เหมือนฝันที่เป็นจริงแล้วค่ะ เพราะสมัยเด็ก พริมเคยฝันอยากเป็นนางเงือก จะได้เล่นกับโลมา (หัวเราะ) ซึ่งพอเจอตัวจริงก็น่ารักมากๆ ถ้ามีโอกาสไปอีกครั้งจะขอเล่นเลเวลยากสุด เกาะครีบว่ายน้ำไปด้วยกันเลย

 

พบเจ้าหญิงในฝัน

สมัยพริมยังเด็ก คุณพ่อต้องไปทำงานที่ญี่ปุ่น พริมก็เลยไปเรียนอนุบาลที่นั่น ทำให้ซึมซับวัฒนธรรมของเขามาบ้าง ตอนเด็กพูดญี่ปุ่นได้เลยนะ แต่ตอนนี้ลืมไปแล้ว เพราะไปอยู่ไม่กี่ปี กลับมาเมืองไทยก็ไม่ได้ใช้อีก ตอนอยู่ที่โน่นพริมมีความทรงจำดีๆ หลายอย่าง โดยเฉพาะวันที่พ่อแม่พาไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ครั้งแรก พริมเป็นสายคลั่งไคล้เจ้าหญิงน่ะ มันอยู่ในสายเลือด (หัวเราะ) พอเห็นเจ้าหญิงในดิสนีย์แลนด์ จำได้ว่าตะลึงเหมือนเราเห็นดาราในฝันที่รอมานาน เขาเหมือนเจ้าหญิงในการ์ตูนจริงๆ วันนั้นความฝันคอมพลีตมาก เป็นโมเมนต์ประทับใจสุดๆ ทุกวันนี้กลับไปนั่งดูรูปเก่าๆ ก็ยังรู้สึกคลาสสิกอยู่เลย

สำหรับพริม ญี่ปุ่นเหมือนบ้านหลังที่สอง ทุกปีพริมจะหาโอกาส ไปเที่ยว เพราะรักทุกอย่างที่นั่น เหมือนเราได้ไปชาร์จพลังด้วย ไปแล้วไม่เคยผิดหวัง เพราะทุกอย่างได้มาตรฐาน ไม่ต้องลุ้นว่าอาหารจะกินได้ไหม ห้องน้ำ ที่นอนจะสะอาดหรือเปล่า เพราะความสะอาดของเขาเต็มที่อยู่แล้ว เรื่องอาหารก็จัดว่าอร่อย เดินไปกินข้าวหน้าปากซอยยังอร่อยเลย ทุกครั้งที่ไปไม่มีครั้งไหนอยากกลับบ้านเลยนะ พูดแล้วก็อยากไปอีก ไปทีไรเงินหมดเร็วมาก หมดไปกับทุกอย่างรอบตัว ตั้งแต่พวกของจุกจิก ของฝากดิสนีย์แลนด์ จนถึงกระเป๋ากับเครื่องสำอาง เห็นอะไรก็ชอบไปหมด

 

ติดพายุที่สวิตเซอร์แลนด์

สมัยเรียนชั้น ม.4 พริมเคยไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนโครงการ AFS ที่สวิตเซอร์แลนด์ เป็นการไปต่างประเทศคนเดียวนาน 1 ปีเป็น ครั้งแรก ความยากอยู่ที่ภาษา เพราะที่นั่นใช้ภาษาเยอรมันเป็นหลัก ไม่พูดภาษาอังกฤษเลย เราก็พยายามคุยกับเขา แต่เขาก็ยังพูดเยอรมันใส่เราอยู่ พยายามทุกวิถีทางที่จะเรียนภาษาเขาให้เร็วที่สุด เพราะอยากมีเพื่อนคุย ใช้เวลา 3 เดือนเลยละกว่าจะพูดได้ ใช้วิธีดูหนังเรื่องเดิมซ้ำๆ ประมาณ 7 รอบ จนฟังออกว่าพูดอะไร เป็นวิธีช่วยที่ดีมากนะสำหรับใครที่เริ่มฝึกภาษา

คนสวิสเหมือนจะหยิ่ง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่หรอก พอเขาเรียกเราว่าเพื่อนแล้ว เขาก็แชร์ทุกอย่างกับเรา อาจจะไม่ใช่เพื่อนสายงุ้งงิ้งเหมือนคนไทย ช่วงแรกที่ยังไม่มีเพื่อน พริมพยายามเดินตามเขาไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเขาก็เห็นเราเอง เรียกว่าหน้าด้านเท่านั้นถึงจะอยู่ได้ (หัวเราะ) พอเราคุยได้พูดได้ก็มีเพื่อนเอง ทุกวันนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่นะคะ เมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา เพื่อนที่สวิสก็มาหา

ส่วนเรื่องน่าตื่นเต้นที่สุดในสวิสคือ เจอพายุค่ะ! ตอนนั้นอยู่ที่สถานีรถไฟ กำลังจะเดินกลับบ้านซึ่งห่างจากสถานีราว 10 นาที แต่ฝนตกหนักมาก ไม่เคยเห็นพายุหนักขนาดนี้มาก่อน พอกางร่ม ร่มก็หัก เดินออกไปไม่ได้เลย แล้วสักพักลูกเห็บก็ตกลงมา ด้วยความเป็นเด็ก ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จักใคร แล้วทางเดินเข้าบ้านก็เปลี่ยว เป็นทุ่งหญ้า ไม่มีเซเว่นหรือไฟสว่างเหมือนบ้านเรา ก็เลยยืนร้องไห้ตรงสถานีคนเดียว กลัวมาก กลัวกลับบ้านไม่ได้ แต่ก็คิดว่าถ้ายืนอยู่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าจะต้องยืนถึงเมื่อไหร่ สุดท้ายกลั้นใจวิ่งฝ่าพายุกลับ พอถึงบ้านร้องไห้ โฮสต์เจ้าของบ้านเข้ามากอดเลย คืนนั้นโทร.เล่าให้แม่ฟัง แต่แม่กลับหัวเราะเพราะคิดว่าเป็นเรื่องตลก ทำไมแม่ไม่อินกับลูกเลย

 

ขึ้นบอลลูนชมแสงแรกที่ตุรกี

ทริปล่าสุดของพริมคือตุรกีค่ะ เรียกว่าเป็นเมืองท็อปลิสต์ในใจ สวยมากๆ สวยกว่าที่คิดไว้เยอะเลย ภูมิประเทศแปลกดี เดี๋ยวมีภูเขา เดี๋ยวเป็นดินสีแดง เหมือนเมืองในเทพนิยาย

พริมไปกับแก๊งเพื่อนประมาณ 8 วัน ไปเที่ยวเมืองอิสตันบูล ปามุกคาเล และคัปปาโดเกีย โดยจ้างไกด์ท้องถิ่นพาเที่ยว โมเมนต์ประทับใจที่สุดคือ ตอนขึ้นบอลลูน พริมไปรอตั้งแต่ตีสี่เพื่อขึ้นบอลลูนตอนหกโมงเช้าให้ทันแสงแรก ตอนกำลังจะลอยขึ้นฟ้าแล้วพระอาทิตย์ลอยขึ้นพร้อมๆ กันมันสวยมากอะ คุ้มเกินคุ้มสำหรับการที่ต้องตื่นเช้า

เรื่องอาหารการกินก็ไม่ต้องกลัวว่าจะกินยาก เพราะมีให้เลือกเยอะเลยค่ะ ทั้งจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ไทย ถ้าเป็นอาหารพื้นเมืองจะเป็นพวกหมักดอง เช่น ผักดอง กินกับแป้งนานก็อร่อย แต่ถ้ากินไปนานๆ ก็จะเริ่มเลี่ยนเหมือนกัน (หัวเราะ) สำหรับเครื่องดื่มที่ขึ้นชื่อที่สุดก็ต้องชาค่ะ เพราะตุรกีเป็นประเทศที่บริโภคชามากที่สุดในโลก เรียกว่าดื่มแทนน้ำเลยล่ะ หันไปไหนจึงมีแต่ร้านชา ทริปนั้นพริมเลยดื่มแต่ชาอย่างเดียว มันก็แปลกๆ ดีนะ

 

“first time” next Station

ต้นปีหน้าแพลนว่าอยากไปเล่นสกีที่รีสอร์ตนิเซโกะที่เมืองฮอกไกโด พริมจริงจังถึงขั้นจะไปลงเรียนเล่นสกีเป็นเรื่องเป็นราวเลย อีกที่ที่อยากไปมากคือ ไอซ์แลนด์ อยากลองไปเที่ยวในฟีลแอดเวนเจอร์บ้าง คิดว่าเรายังอายุน้อย ยังเที่ยวแบบล้มลุกคลุกคลานได้ นอนไหน กินไหนก็ได้ ต้องรีบไปเที่ยวให้คุ้มก่อนจะเดินไม่ไหว

---

 

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 936