ลิซ่า รันวงการผ้าไทย ซิ่นหมักโคลนย้อมคราม ขาดตลาด รอใหม่นานนับเดือน!

ศิลปินสาว ลิซ่า BLACKPINK รันวงการผ้าไทย ผ้าฝ้ายหมักโคลนย้อมคราม กำลังขาดตลาดผู้ผลิตเผย สินค้าใหม่ต้องรอนานนับเดือน!

เรียกว่าเป็นตัวมัม ตัวแม่ แห่งวงการ Soul Out สำหรับ ลิซ่า BLACKPINK  ศิลปินชื่อดังระดับโลกสายเลือดไทย อย่างที่ทราบกันดีนอกจากผลงานด้านเพลงของเธอแล้ว นักร้องสาวยังเป็นแฟชั่นไอคอนของเด็กรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็เป็นกระแสตลอด ยกตัวอย่างเช่นแบรนด์ Celine นับตั้งแต่ดึงลิซ่าเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ก็ทำเงินอย่างถล่มทลายอย่างที่ไม่ปรากฏมาก่อน

ลิซ่าเองไม่เพียงแต่จะเป็นพรีเซนเตอร์หรือแบรนด์แอมบาสเดอร์ ให้แต่กับแบรนด์หรูเท่านั้น แต่เธอยังเป็นหนึ่งคนที่ขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยให้กับชาวโลกได้รับรู้ ไม่ว่าจะเป็น ลูกชิ้นยืนกิน,ขนมไทย,แบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าไทย ฯลฯ ผ่านโซเชียลมีเดียอินสตาแกรมที่มีผู้ติดตามตอนนี้มากถึง 94.6 ล้านคน

ล่าสุด ลิซ่า รันวงการผ้าไทย เพราะเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เธอได้เดินทางไป วัดมหาธาตุ วัดหน้าพระเมรุ และ วัดแม่นางปลื้ม ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยการแต่งกายของเธอนั้นสวมงามจนเป็นที่พูดถึง เธอสวมเสื้อผ้าฝ้ายแขนกลีบบัวกับผ้าซิ่น ที่ต่อมาทราบว่าเป็น “ฝ้าผ้ายหมักโคลนย้อมคราม”ซึ่งเป็นที่นิยมของหญิงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แมทช์กับกระเป๋า Celine สีดำ

สำหรับ เรื่องราวเกี่ยวกับ “ฝ้าผ้ายหมักโคลนย้อมคราม” สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย ได้ให้เกร็ดความรู้ว่า ป็นงานหัตถกรรมผ้าทอมือที่ขึ้นชื่อของจังหวัดอุดรธานี และเป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษมายาวนาน

โดยการนำผ้ามาหมักโคลนนั้นเกิดจากวิถีของชาวบ้านที่นุ่งผ้าออกไปทำงาน ทำไร่ ทำนา เปื้อนดินโคลน เมื่อกลับมาบ้านนำผ้าไปซักจึงพบว่าผ้ามีความนุ่มและเงาอย่างน่าประหลาด จนเป็นที่มาของผ้าฝ้ายหมักโคลนในปัจจุบัน ส่วนการย้อมครามนั้นเป็นการย้อมสีจากธรรมชาติ โดยสีที่ได้มาจากต้นครามซึ่งผ่านกระบวนการในการนำมาหมักครามจนเกิดเป็นสีน้ำเงินที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์

การทอผ้ามัดหมี่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ มีกรรมวิธีการทอโดยเริ่มจากนำเส้นด้ายหรือไหมมาย้อมสีแล้วมัดบริเวณที่ต้องการเก็บไว้ เมื่อนำไปย้อมสีอื่นจะได้ไม่ติดสี เพียงซึมเข้ามาบางส่วน โดยย้อมเรียงลำดับจากสีอ่อนไปหาสีเข้มจนครบ ตามลวดลายที่กำหนด จากนั้นจึงนำด้ายกรอเข้าหลอดตามลำดับ แล้วนำไปทอจะเกิดลวดลายบนผืนผ้า ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญในการมัดย้อมและทอเป็นอย่างมาก

อย่างก็ตามมีการเปิดเผยว่า ผ้าที่ลิซ่าใส่นั้นมาจากร้านของ นางสุวิมล ไชยวงศ์ เจ้าของร้านชานเรือน ซึ่งเป็นแม่ของนักแสดงสาว เดียร์น่า ฟลีโป ซึ่งได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผ้าที่น้องลิซ่าใส่นั้นเป็นผ้ามัดหมี่ย้อมครามหมักโคลนเป็นลายดั้งเดิม ชื่อ ลายขอนาค โดยชาวบ้านตั้งขึ้น ลักษณะของผ้าเป็นการมัดหมี่ด้วยมือจากนั้นนำไปย้อมครามและทอด้วยมือ
ซึ่งลายนี้นำเสนอความเป็นอีสาน การผลิตผ้าชิ้นนี้ใช้เวลาทำนานร่วมเดือน กว่าจะมัดลายย้อมคราม จากนั้นนำไปปั่นใส่หลอดและทอทีละเส้น ซึ่งจะต้องใช้ความชำนาญของช่าง โดยลวดลายที่ลิซ่าใส่นั้นาทำไว้ไม่เยอะประมาณ 4 ผืน และตอนนี้มีคนสั่งซื้อหมดแล้ว ตอนนี้กำลังสั่งทอใหม่ซึ่งคาดว่าน่าจะต้องใช้เวลาเกือบ 1 เดือน