ชุดแต่งงาน น้ำฝน พัชรินทร์

5 ลุคจากดีไซเนอร์คนสนิท! เผยดีเทลและราคาชุดแต่งงาน ‘น้ำฝน พัชรินทร์’

ชุดแต่งงาน น้ำฝน พัชรินทร์
ชุดแต่งงาน น้ำฝน พัชรินทร์

สวยหวานงามหยด! เจ้าสาวป้ายแดง น้ำฝน พัชรินทร์ เลือกไทยดีไซเนอร์คนสนิท มาช่วยออกแบบชุดแต่งงาน พร้อมเปิดราคาชุดไทยมูลค่ารวมเกือบล้านบาท

วันนี้ฤกษ์ดี (20 มี.ค. 63) นางเอกหน้าหวาน น้ำฝน พัชรินทร์ ควงคู่พิธีกรชื่อดัง อาร์ม พิพัฒน์ เข้าพิธีแต่งงานตามประเพณีไทยและมีการยกน้ำชาแบบจีน ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นของครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ทั้งในและนอกวงการบันเทิงที่มาร่วมแสดงความยินดีกับทั้งคู่

ในส่วนของชุดแต่งงานถือเป็นไฮไลท์สำคัญที่หลายคนรอคอย เจ้าสาวคนสวยได้จัดเตรียมมาถึง 5 ชุดด้วยกัน ทั้งแบบไทยและสากล โดยเลือกไทยดีไซเนอร์ที่สาวน้ำฝนสนิทสนมเป็นอย่างดีมาออกแบบให้ ทางแพรวดอทคอมจึงต่อสายตรงหาเจ้าสาวก่อนวันแต่งงาน เพื่อคุยเรื่องดีเทลชุดทั้งหมด และได้ของแถมมาเป็นคำชมหวานๆ จากเจ้าบ่าวว่า “หนูใส่ชุดไหนก็สวย”

ชุดแต่งงาน น้ำฝน พัชรินทร์

ชุดแต่งงาน น้ำฝน พัชรินทร์

ชุดแต่งงานเป็นแบรนด์ไทยทั้งหมด

“มีคุยกับดีไซเนอร์ไว้ 3 ท่านค่ะ งานตอนเช้าจะเป็นชุดของพี่ปลาและพี่เกจากแบรนด์ฟินาเล่ ตอนเช้าจะเป็นชุดไทยที่ใส่ในพิธีหมั้น รวมถึงชุดไทยสำหรับการจดทะเบียนสมรส และมีพิธียกน้ำชาแทนการรดน้ำสังข์ เพราะบ้านพี่อาร์มเป็นครอบครัวคนจีน ก็จะเปลี่ยนเป็นอีกชุดหนึ่ง เป็นชุดเจ้าสาวสีขาว ทั้ง 3 ชุดนี้จะเป็นของฟินาเล่หมดเลยค่ะ พอช่วงเที่ยงที่ลงมาทานข้าว เลี้ยงแขกที่มาร่วมงานก็จะเป็นแบรนด์เชอ-ซี (Cher’Z) ของพี่ทราย กรรณิการ์ พอเสร็จพิธี ช่วงบ่ายก็จะข้ามเรือมาให้สัมภาษณ์กับพี่ๆ สื่อมวลชนอีกฝั่งหนึ่ง ตอนนี้จะเป็นชุดของพี่ฌอน POEM ค่ะ”

ออกไอเดียหรือช่วยดีไซน์ชุดไหนบ้างไหมคะ

“ก็คือไปคุยกับพี่ๆ หมดเลยทั้งสามที่ เป็นพี่ๆ ที่น่ารักมาก ก็เหมือนทำงานด้วยกันมานาน ก็เริ่มจากที่พี่ปลาก่อน ชุดไทยฟินาเล่ทำออกมาสวยมาก ตอนแรกว่าจะใส่ชุดไทยชุดเดียว ยกน้ำชาและจดทะเบียนไปด้วยเลย แต่พี่ปลาบอกว่าไหนๆ แต่งงานทั้งทีก็อยากให้ออกมาสวยทุกชุด พี่ปลาเลยดูแลตรงนี้ 3 ชุดค่ะ และทั้ง 5 ชุดก็ถูกดีไซน์ขึ้นมาใหม่หมดเลย ส่วนใหญ่ฝนจะบอกไอเดียของฝนไปคร่าวๆ ทั้ง 3 ที่ เขาก็รู้คาแร็คเตอร์ของเรา ว่าฝนเหมาะกับอะไร ชอบสีไหน ชอบไม่ชอบอะไร เขาก็เลยหาแบบที่มันเป็นตัวฝนที่สุดให้”

ชุดไทยเป็นสไตล์ไหนบ้าง

“ก็คือชุดแรกจะเป็นสไบคล้องคอ 2 ฝั่ง เป็นชุดไทยที่ฝนยังไม่เคยเห็น แต่พี่ปลาก็เปิดในสมุดให้ดู ให้เราเลือกว่าอยากได้ประมาณไหน ในส่วนของฝนก็อยากได้แบบไม่หนักมาก เพราะเรารู้ว่าถ้าใส่ชุดหนักๆ เราก็จะเหนื่อย เลยออกมาเป็นอารมณ์ชุดไทยโบราณสีชมพูกลีบบัว เข้ารูปแขนกระบอก ตัวเสื้อใช้ลูกไม้ฝรั่งเศส วางลวดลายใหม่ งานปักจะเป็นสวารอฟสกี้ ลูกปัด และปล้องอ้อยญี่ปุ่นขนาดเล็กแบบเม็ดต่อเม็ดลงบนผืนผ้าไหมแก้ว พร้อมตัวกระโปรงผ้าไหมลำพูนลายยกดอกสีชมพูอ่อนสอดดิ้นสีเงิน จับจีบหน้านางวางเชิง (ทางแบรนด์แจ้งมาว่าชุดนี้ราคา 489,000 บาท)

ชุดแต่งงาน น้ำฝน พัชรินทร์

ชุดแต่งงาน น้ำฝน พัชรินทร์

สำหรับชุดในพิธีจดทะเบียน จะสวมชุดไทยจักรีโทนประยุกต์ หนึ่งในชุดไทยพระราชนิยม เป็นผ้าไหมสีโอลด์โรส บรรจงปักคริสตัสสวารอฟสกี้สีเงินบริเวณเชิงผ้านุ่งอย่างประณีตสวยงาม ส่วนตัวสไบนั้นบรรจงวาดลวดลงบนผืนผ้ากรองแก้ว สุดพิถีพิถันด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้สีเงินทั่วทั้งผืน (สำหรับชุดนี้ทางแบรนด์เผยว่าราคา 289,000 บาท)

ชุดไทยชุดที่สองใส่แล้วเบาจริงๆ เราเน้นใส่สบาย สวย ไม่หนักมาก แต่ด้วยความที่เป็นฟินาเล่ พี่ปลาก็จะใส่รายละเอียดให้เราเพิ่ม มีดีเทลเล็กๆ แต่ก็ทำให้ดูสวยขึ้น และพี่ปลาก็อยากให้เป็นแบบที่ไม่ค่อยมีคนใส่ สีชุดก็เลือกให้เหมาะกับฝนค่ะ”

ชุดแต่งงาน น้ำฝน พัชรินทร์

ชุดแต่งงาน น้ำฝน พัชรินทร์

ชุดแต่งงาน น้ำฝน พัชรินทร์

ชุดในพิธียกน้ำชาตามประเพณีจีน

“เป็นเดรสยาวทรงเอลงไป เพราะว่าตอนยกน้ำชาเราต้องหันซ้ายหันขวาสลับไปมา ก็เลยอยากเน้นที่เป็นแบบลุกนั่งสะดวก ตอนแรกว่าจะใส่สีแดงเลย แต่ด้วยความที่เราแต่งงานที่ โอเรียนเต็ล ฝนเลยอยากให้มันดูคลาสสิกคุมโทนไปด้วยกัน ก็เลยขอไม่สีแดงละกัน เพราะที่บ้านพี่อาร์มเขาโอเคว่าไม่ต้องแดงแบบจีนขนาดนั้นก็ได้ เราก็เลยขอเป็นสีขาว เลยออกมาเป็นเดรสสีขาวแขนยาวเข้ารูป ผสมการสร้างแพทเทิร์นประยุกต์ทรงกระโปรงเมอร์เมดและเอไลน์เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมใช้เทคนิคการวางลวดลายเฉพาะตัวของแบรนด์ FINALE WEDDING STUDIO ขึ้นมาใหม่ โดยผ้าลูกไม้ฝรั่งเศสผสมผสานเทคนิคการวางลวดลายผ้า เติมแต่งตัดต่อลาย เพื่อให้มีความงดงามพร้อมกับการเพิ่มงานปักบนลวดลายลูกไม้ให้มีความหรูหรา” (ฟินาเล่กระซิบมาว่าชุดนี้ราคา 359,000 บาท)

ชุดแต่งงาน น้ำฝน พัชรินทร์

ชุดแต่งงาน น้ำฝน พัชรินทร์

ชุดแต่งงาน น้ำฝน พัชรินทร์

ชุดที่ 4 เป็นแบบสากลและลากยาวที่สุด

“เป็นของพี่ซาย กรรณิการ์ ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์แบรนด์เชอ-ซี (Cher’Z) ฝนไปคุยกับพี่ทรายตั้งแต่แรกแล้ว เพราะพี่ทรายเป็นรุ่นพี่ที่มศว. ก็รู้จักกับพี่ทรายตั้งแต่ฝนเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ พอพี่ทรายมาทำแบรนด์ เราก็ได้รู้จักกับพี่ทรายมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ยังไม่มีแฟนจนจะแต่งงาน พี่ทรายเคยพูดไว้ว่าถ้าฝนแต่งงาน พี่ทรายต้องได้ทำหนึ่งชุดนะ แล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่เราได้แต่งงาน

ซึ่งแบรนด์เชอซีก็เป็นแบรนด์ที่มีความหวานและเซ็กซี่ในตัว แอบมีดีเทลโบใหญ่ๆ หรือปักแบบเบาๆ ฟุ้งๆ ค่ะ ฝนเป็นคนตัวเล็กแล้วก็ผอม แต่ไม่มั่นใจในต้นแขนตัวเอง ฝนขออะไรก็ได้ที่มาปิดต้นแขนให้ฝนหน่อย รู้สึกว่าถ่ายรูปทุกมุมจะไม่ได้กังวลเรื่องต้นแขนค่ะ ก็เลยได้ชุดที่เป็นแขนยาว แล้วก็ปักที่แขนด้วย แล้วเป็นผ้าปักที่นำเข้ามาจากต่างประเทศเป็นลวดลายที่มันเหมาะกับเรา กระโปรงก็เป็นแบบยาวมากเลยแหละ มีความฟูๆ ส่วนด้านบนก็จะเป็นแบบปักเรียบๆ แต่พี่ทรายเขาบอกว่าอยากให้มีความหวานซ่อนเปรี้ยวไว้ ชุดข้างในก็จะเป็นเกาะอกผ่าลงมา ด้านข้างก็จะผ่าเป็นแบบลูกไม้ ส่วนเวลคลุมผมไม่ได้ใส่เลยค่ะ ฝนอยากทำทรงเดียวทั้งสามชุดเลย เปลี่ยนแค่เครื่องประดับนิดหน่อย คือไม่อยากเสียเวลากับเรื่องการเปลี่ยนผม มั่นใจว่าชุดทุกชุดมันสวยอยู่แล้ว เราเลยอยากได้ผมแบบเรียบๆ ค่ะ”

ชุดของพี่ฌอน POEM มีความพิเศษยังไงบ้าง

“ของพี่ฌอน ฝนบอกพี่ฌอนว่าอยากได้ชุดสั้น เพราะต้องนั่งเรือข้ามฟากเพื่อที่จะไปสัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ฝนอยากเดินสะดวก ฝนไม่อยากลากชุดยาวไปนั่งสัมภาษณ์กับพี่ๆ สื่อ อยากได้ชุดที่คล่องตัว สไตล์ก็คือสไตล์ POEM อยู่แล้ว เอวก็คือคอดสุดสไตล์พี่ฌอน พี่ฌอนเขาก็เลยโอเค และคิดว่าคนจะรู้สึกว่าฝนเป็นผู้หญิงหวาน เขาก็อยากเอาความเรียบเท่แบบผู้ชายใส่เข้ามาให้ฝน เลยออกแบบมาเป็นอารมณ์ประมาณสูทหรือทักซิโด้ อยู่ในชุดของพี่ฌอนที่มีความเป็นผู้หญิง ตรงแถบที่ปิดแขนก็มีแรงบันดาลใจมาจากชุดสูทของผู้ชาย และก็ติดกระดุมหน้าไปเลยทั้งหมด

ด้วยความที่พี่ฌอนกำลังจะทำโปรเจ็กต์ใหม่กับ Jim Thompson ซึ่งเป็นผ้าไหมโดยเฉพาะเลย พี่ฌอนก็เลยเอาผ้าไหมไทยที่เป็นสีขาวแบบงาช้างมาตัดเป็นชุดให้ฝน เพราะคนสมัยก่อนเขาจะนิยมซื้อผ้าไหมมาให้ช่างออกแบบชุดให้ แล้วตัดขึ้นมาใหม่ แต่เดี๋ยวนี้ความนิยมแบบนั้นมันหายไป พี่ฌอนอยากให้เรื่องนี้กลับมา ฝนว่ามันมีเสน่ห์มากกับการที่ดีไซเนอร์ได้มาออกแบบผ้าไทยให้กับเราใส่ค่ะ”

ส่วนของรองเท้า แต่ละแบรนด์ทำให้เลยหรือเปล่า

“รองเท้าฝนไปเลือกเองค่ะ อย่างชุดไทยมันก็ต้องใส่ที่เป็นคัทชูที่เข้ากับชุดไทย ฝนก็ใช้ของแบรนด์ Zirishoes ค่ะ เป็นพี่ที่น่ารักเหมือนกัน พี่ที่รู้จักกันเขาก็ทำเป็นรองเท้าหนังแกะอยู่แล้ว ใส่สบาย สีก็เข้ากับชุดไทยของเรา ส่วนที่เป็นชุดเจ้าสาวสีขาว ชุดของพี่ฌอนกับชุดของพี่ทราย ฝนใส่รองเท้าของ Jimmy Choo ซึ่งเราก็ไปเลือกกันเองกับพี่อาร์มค่ะ ฝนเน้นแบบใส่สบาย ไม่เจ็บ อาจจะมีคัทฟอร์มด้านหน้านิดหนึ่งไม่ต้องมาก เพราะเราก็ต้องยืนนานเหมือนกัน”

ทำไมถึงเลือก 3 แบรนด์นี้มาทำชุดเจ้าสาว

“เราก็อยากให้พี่ที่รักของเราทำชุดให้ เพราะทั้ง 3 แบรนด์มีความสัมพันธ์ส่วนตัวหมดเลย อย่างพี่ทรายก็เป็นรุ่นพี่ เราก็ตั้งใจไว้แล้วว่านี่แหละคือพี่ๆ ที่เรารัก เขารู้ใจเรา ว่าเราชอบหรือเราเหมาะกับอะไร พี่ฌอนก็เป็นรุ่นน้องพี่อาร์มที่จุฬาฯ เขาสนิทกันมาก สรุปก็เลยได้ใช้ชุดของพี่ฌอนตอนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนด้วย ส่วนพี่ปลา ฟินาเล่ ฝนก็สนิทมากอยู่แล้วค่ะ”

คุณเจ้าบ่าวช่วยออกความคิดเห็นยังไงบ้าง

“พี่อาร์มน่ารักมาก ไปด้วยตลอดเลย แต่จะมีชุดของพี่ทรายที่พี่อาร์มยังไม่เห็น เพราะเขายุ่งจริงๆ เลยไม่ได้ไปด้วย เราก็คิดว่าเจ้าสาวควรจะมีชุดไว้เซอร์ไพร้ส์เจ้าบ่าวสักชุด ก็เป็นชุดของแบรนด์เชอ-ซี ที่ใส่ทานข้าวตอนกลางวันในงานเลี้ยงฉลองค่ะ และพี่อาร์มก็ตามใจมาก พอถามเขา เขาก็จะบอกว่าหนูใส่ชุดไหนก็สวยแล้ว รองเท้าใส่คู่ไหนก็สวยอยู่แล้ว ฝนว่าน่ารักมาก เพราะพี่อาร์มไปช่วยดูและไปเป็นเพื่อนด้วยทุกอย่างเลยค่ะ”

แพรวดอทคอมขอแสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะคะ


บทสัมภาษณ์ : ฮานะ_แพรวดอทคอม

ภาพ : FINALE WEDDING STUDIO , IG@hollyhua , @cherz_brand , @fairlyfight , @ployninrat

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ตามรอยพระมารดา ‘เจ้าหญิงชาร์ลอตต์’ ทรงใส่ชุดซ้ำออกงานเช่นกัน

 

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up