“ยาเสียสาว” เป็นคำที่เรามักได้ยินจากข่าวหรือสื่อโซเชียล โดยเฉพาะเวลาเกิดเหตุร้ายแรง เช่น การถูกล่วงละเมิดทางเพศหรือมอมยารูปแบบต่างๆ แต่รู้หรือไม่ว่า คำนี้ไม่ได้หมายถึง “ยาเฉพาะชนิด” แต่เป็นชื่อเรียกรวมของสารหลายประเภทที่ถูกนำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย เพื่อให้เหยื่อ หมดสติ มึนงง ความจำขาดช่วง หรือไม่สามารถขัดขืนได้ และมักถูกใช้ร่วมกับการก่ออาชญากรรม โดยเฉพาะการล่วงละเมิดทางเพศหรือขโมยทรัพย์สิน
ยาเสียสาวคือสารอะไรบ้าง? สารที่มักถูกใช้เป็น “ยาเสียสาว” ได้แก่
- GHB (Gamma-Hydroxybutyrate)
มีฤทธิ์กดประสาท ทำให้ง่วง หลับ หรือหมดสติในเวลาอันรวดเร็ว มักถูกผสมในเครื่องดื่มเพราะไม่มีสีไม่มีกลิ่น - Rohypnol (โรฮิปนอล)
ยานอนหลับที่แรงมาก ทำให้เหยื่อ “เบลอ” ไม่สามารถจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในช่วงเวลานั้น (เรียกว่า memory blackout) - Ketamine (เคตามีน)
ยาสลบที่ใช้ในวงการสัตวแพทย์ ถ้าใช้ผิดวิธีอาจทำให้เกิดอาการหลอน ง่วง และหมดแรงขัดขืน - Benzodiazepines (เช่น Xanax, Valium)
กลุ่มยาคลายกังวลที่กดระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ผ่อนคลาย ง่วงง่าย ขาดการควบคุมตัวเอง
ทำไมถึงอันตราย?
- สารเหล่านี้มัก ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และละลายง่าย จึงสามารถใส่ในเครื่องดื่มโดยที่เหยื่อไม่รู้ตัว
- ออกฤทธิ์ภายใน 10–30 นาที โดยอาจเริ่มจากมึนงง ง่วงนอน หน้ามืด และหมดสติในที่สุด
- หากใช้ในปริมาณมากหรือผสมแอลกอฮอล์ อาจทำให้ หยุดหายใจ และ เสียชีวิต
- แม้จะไม่หมดสติทั้งหมด บางรายอาจยังมีสติบางส่วนแต่ ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือ ความทรงจำขาดหายเป็นช่วงๆ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อ
สัญญาณเตือนว่าคุณอาจถูกวางยา
- อยู่ดีๆ ก็รู้สึกมึนงง ง่วงจัด มือไม้อ่อนแรง
- มองภาพเบลอ พูดไม่ชัด หรือเดินไม่ตรงทาง
- มีช่องว่างความจำ จำเหตุการณ์บางช่วงไม่ได้
- มีอาการคล้ายเมาแอลกอฮอล์ทั้งที่ดื่มไม่เยอะ
- พบว่าตื่นขึ้นมาในสภาพผิดปกติ มีร่องรอยถูกแตะต้องร่างกาย
หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการเหล่านี้หลังดื่มเครื่องดื่ม ควรรีบขอความช่วยเหลือ และไปโรงพยาบาลทันที
วิธีป้องกันตัวเองจากการถูกวางยา
- อย่ารับเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้า หรือคนที่ไม่น่าไว้ใจ
- อย่าทิ้งเครื่องดื่มไว้โดยไม่มีคนเฝ้า
- ใช้แก้วมีฝาปิด หรือพกหลอดปิดเอง
- ไปงานสังสรรค์กับเพื่อนที่ไว้ใจ และดูแลกัน
- หากรู้สึกผิดปกติให้รีบบอกเพื่อนหรือคนใกล้ตัว และอย่าอยู่คนเดียว
ถ้าถูกวางยา ควรทำอย่างไร?
- รีบไป โรงพยาบาล เพื่อตรวจหาสารตกค้าง
- แจ้งความทันที แม้ยังไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น
- เก็บ หลักฐาน เช่น เสื้อผ้า แก้ว เครื่องดื่ม
- ขอความช่วยเหลือจากแพทย์ จิตแพทย์ หรือหน่วยงานช่วยเหลือผู้ถูกล่วงละเมิด เช่น
- ศูนย์พึ่งได้ (One Stop Crisis Center – OSCC)
- สายด่วน 1669 หรือ 1300
ความผิดทางกฎหมาย การวางยาเพื่อมอมเมา ถือเป็นความผิดทางอาญา และหากถูกล่วงละเมิดทางเพศขณะเหยื่อไม่สามารถขัดขืนได้ จะถือว่า “ข่มขืนกระทำชำเรา” โดยมีโทษสูงถึง จำคุก 4–20 ปี หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับผลกระทบและอายุของเหยื่อ
และควรหยุดใช้คำว่า “เสียสาว” กับเหยื่อ เพราะคำว่า “เสียสาว” เป็นคำที่ล้าสมัยและลดทอนคุณค่าของเหยื่อ การถูกวางยามอมเมาและล่วงละเมิดไม่ใช่ความผิดของผู้ถูกกระทำ และสังคมควรหยุดโทษเหยื่อ รวมถึงส่งเสริมให้คนรอบตัวเข้าใจ พูดคุย และกล้าแจ้งความเมื่อเกิดเหตุ
แหล่งอ้างอิง:
- สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
https://www.fda.moph.go.th - Narcotics.com: What Is a Date Rape Drug?
https://www.narcotics.com/date-rape-drugs/ - ศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลตำรวจ
https://www.facebook.com/osccpolicehospital - สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
https://www.royalthaipolice.go.th - WHO – Addressing violence against women
https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/violence-against-women