เพลียเรื้อรัง

นอนเต็มอิ่มแต่กลับไม่มีแรง ใช่ ‘เพลียเรื้อรัง’ หรือไม่? ควรแก้ยังไง ก่อนส่งผลเสียสุขภาพกายและใจ

Alternative Textaccount_circle
เพลียเรื้อรัง
เพลียเรื้อรัง

สัญญาณเตือนจากร่างกายอย่าง อาการเพลีย ไม่สดชื่น ไม่มีแรง อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ว่าไม่ควรจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง ทำให้เกิดการไม่สบายตัว เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง ปวดเมื่อยตามตัว จนเกิดภาวะอ่อนล้าเรื้อรัง (Chronic Fatigue Syndrome หรือ CFS) นอกจากส่งผลต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตใจ ให้หดหู่ ห่อเหี่ยว ท้อแท้ ไร้พลังงานที่จะใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนอย่างเคยได้ ซึ่งวิธีการแก้ไขอาการ เพลียเรื้อรัง อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่

  • ทำงานหนักเกินไป พักผ่อนไม่เพียงพอ
  • ประสิทธิภาพการผลิตพลังงานระดับเซลล์ไม่ดี
  • ความเครียดสะสม
  • อายุที่มากขึ้น
  • โรคประจำตัวที่เป็นอยู่ เช่น เบาหวาน โลหิตจาง ภาวะตับทำงานผิดปกติ หรือการใช้ยารักษาโรคบางอย่าง เช่น การให้เคมีบำบัด การฉายแสง
  • ฮอร์โมนไม่สมดุล ได้แก่ ฮอร์โมนไทรอยด์ ฮอร์โมนต่อมหมวกไต ฮอร์โมนเพศ โดยเฉพาะผู้ที่เข้าสู่วัยทอง
  • ขาดวิตามินหรือแร่ธาตุบางชนิด เช่น วิตามินบี วิตามินดี แมกนีเซียม สังกะสี เป็นต้น

ซึ่งถ้าแก้ปัญหาไม่ตรงจุด หรือไม่ถูกวิธีก็จะกลายเป็นอาการเรื้อรัง เบื้องต้นนี่คือวิธีการแก้อาการอ่อนเพลียด้วยตัวเองง่ายๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน ดังนี้

  • กินอาหารให้หลากหลายและดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยอาจเพิ่มในส่วนของวิตามินบี วิตามินดี แมกนีเซียม สังกะสี ซึ่งพบได้ในอาหารประเภท ธัญพืช เนื้อสัตว์ นม ไข่ เป็นต้น
  • นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้พักฟื้นอย่างเต็มที่
  • หาวิธีผ่อนคลายความเครียด หากิจกรรมที่ชอบทำ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง นั่งสมาธิ เป็นต้น
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ บุหรี่
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ไม่หักโหมเกินไปจนร่างกายเกิดอาการล้าได้
  • กินอาหารเสริมที่ช่วยเพิ่มพลังงาน ลดอาการอ่อนเพลีย ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ไม่มีเวลา หรือต้องการทางลัดเร่งด่วน เช่น Vitamin B Complex, CoenzymeQ10, NMN เป็นต้น

ทั้งนี้ ถ้าหากลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยตัวเองแล้วก็ยังไม่หาย ควรไปพบแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติม ในปัจจุบันการแพทย์ทางชะลอวัยและป้องกัน มีวิธีการตรวจหาสาเหตุของอาการเพลียจากภายในลึกถึงระดับเซลล์ ตรวจได้ละเอียดและดีกว่าการตรวจสุขภาพทั่วไป

Source: พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ American Board of Anti-Aging Medicine จาก Addlife Anti-Aging Center ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี)

Photo: Pexels


Praew Recommend

keyboard_arrow_up