เพราะกลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลก! ไข 4 กุญแจกำจัดต้นตอ สู่ลมหายใจสดชื่น

กลิ่นปาก ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่ถ้าเกิดขึ้นกับตัว โดยเฉพาะสาวๆ ทั้งหลาย เสน่ห์ความเป็นหญิงอาจหาย และทำให้บทสนทนาทั้งเรื่องงาน เรื่องรัก ไม่ลื่นไหลได้

หนึ่งในเรื่องน่าวิตกกังวลของใครหลายคนคือ กลิ่นปาก แม้ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่เป็นปัญหากวนใจในการเข้าสังคม ที่น่ากลัวคือ เจ้าตัวมักไม่รู้ตัวว่ามีกลิ่นปาก ส่วนคนรอบข้างก็ไม่กล้าบอก อมพะนำกันไปมา กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็อับอายเสียเซลฟ์กันไปหลายตลบ ก่อนจะไปหาวิธีกำจัดกลิ่นปาก เราควรย้อนกลับไปหาสาเหตุของการเกิดกลิ่นเสียก่อน จะได้ตัดไฟที่ต้นลม

กลิ่นจากอาหาร

กลิ่นปากสาเหตุของกลิ่นปากที่พบบ่อยที่สุดคือ การรับประทานอาหารที่มีกลิ่นรุนแรง เช่น หอม กระเทียม หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่มอย่างกาแฟ ซึ่งสามารถลดกลิ่นได้ง่ายๆ ในกรณีฉุกเฉินด้วยการเคี้ยวหมากฝรั่งไร้น้ำตาล แปรงฟัน หรืออมน้ำยากลั้วปาก ก็จะช่วยขจัดกลิ่นได้ และกลิ่นจะหายไปเองเมื่อคุณหยุดรับประทานอาหารเหล่านี้สักระยะ แต่กลิ่นที่สร้างปัญหาระยะยาวคือ กลิ่นปากที่เกิดจากการสูบบุหรี่ เพราะต่อให้แปรงฟันแล้วก็ช่วยลดทอนได้นิดหน่อยเท่านั้น ยิ่งคนที่สูบมานานกลิ่นก็จะติดตัว

ละเลยการดูแลสุขภาพในช่องปาก

กลิ่นปากสาเหตุหลักอีกอย่างของการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในช่องปากคือ แบคทีเรีย ซึ่งเกิดจากการแปรงฟันไม่ถูกวิธีหรือแปรงฟันไม่สะอาด คราบอาหาร หินปูน และน้ำตาลที่เกาะค้างอยู่ตามซอกฟันคืออาหารชั้นดีของแบคทีเรีย เมื่อแบคทีเรียกินเข้าไปก็จะปล่อยแก๊สชนิดหนึ่งออกมา ทำให้เกิดกลิ่นเหม็น ดังนั้นแพทย์แนะนำให้ใช้ไหมขัดฟันตามซอกฟันด้วยทุกครั้ง จะก่อนหรือหลังแปรงฟันก็ได้

ปัญหาทางสุขภาพ

กลิ่นปากอย่างไรก็ตาม ทันตแพทย์เตือนว่า การมีกลิ่นปากไม่ได้เกิดจากปัญหาในช่องปากทั้งหมด หากคุณมีกลิ่นปากหรือลมหายใจค่อนไปทางหวานๆ แบบผลไม้ (Sweet and Fruity Smelling Breath) นั่นอาจเป็นสัญญาณบอกว่า คุณกำลังเป็นโรคเบาหวาน แต่ถ้ามีกลิ่นปากคล้ายกลิ่นแอมโมเนีย นั่นแสดงว่า คุณอาจกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับตับ แต่อย่าคิดไปเองไม่ว่าจะเจอปัญหาใด แนะนำให้ไปพบและปรึกษาทันตแพทย์ก่อน เพราะอาการหลายๆ อย่างก็ต้องดูควบคู่กัน

ดื่มน้ำไม่เพียงพอ

กลิ่นปากถือเป็นสาเหตุหลักที่หลายคนมองข้าม การดื่มน้ำไม่เพียงพอจนทำให้ร่างกายขาดน้ำ จะทำให้ร่างกายผลิตน้ำลายออกมาน้อยกว่าปกติ ซึ่งน้ำลายในช่องปากมีฤทธิ์ต่อต้านแบคทีเรียโดยเฉพาะ การมีน้ำลายน้อยก็เท่ากับว่าเปิดโอกาสให้แบคทีเรียส่งกลิ่นได้มากขึ้นนั่นเอง

Did you know? กลิ่นปาก เคลียร์ได้ !!!

1. หมั่นพบทันตแพทย์ เป็นประจำเพื่อตรวจเช็คสุขภาพเหงือกและฟัน รวมถึงการขูดหินปูนซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของการมีกลิ่นปาก

กลิ่นปาก

2. ก่อนนอนอย่าลืมแปรงลิ้น ระหว่างแปรงฟันด้วยสัก 1-2 นาที ส่วนระหว่างวัน ควรแปรงลิ้นอย่างน้อย 1 ครั้ง ทันตแพทย์บอกว่า แค่แปรงฟันให้ถูกวิธีก็ทำความสะอาดผิวหน้าฟันไปได้มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนซอกฟันนั้นควรจะพึ่งไหมขัดฟันช่วยดีกว่า เพราะลำพังแปรงธรรมดาจะซอกซอนเข้าไปไม่ถึง

กลิ่นปาก

3. การเคี้ยวหมากฝรั่งไร้น้ำตาล (ย้ำว่าไร้น้ำตาล เพราะน้ำตาลเป็นอาหารอันดีของแบคทีเรีย จะยิ่งทำให้มีกลิ่น) จะช่วยทำให้มีการผลิตน้ำลายมากขึ้น ช่วยต่อสู้กับแบคทีเรีย ต้นกำเนิดกลิ่นปากได้ประมาณหนึ่ง

กลิ่นปาก

4. หากมีกลิ่นปากจริงๆ แล้วหาสาเหตุไม่พบ แนะนำให้ลอง จดไดอารี่ ว่า แต่ละวันกินอาหารอะไรมาบ้าง จากนั้นค่อยนำไปปรึกษาทันตแพทย์ให้ช่วยวิเคราะห์ปัญหาให้ตรงจุดขึ้น

กลิ่นปาก

 

เรียบเรียงโดย : Gingyawee_แพรวดอทคอม
ที่มา : นิตยสารแพรว ปักษ์ 883 วันที่ 10 มิถุนายน 2559 เรื่อง Tomalin
ภาพ : www.pixels.com, www.theguardian.com, www.verywell.com, www.universe-syle.com, www.newbeauty.com, dailyhomeremedy.com

Praew Recommend

keyboard_arrow_up