ผิวดีข้ามปี! แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีฟื้นบำรุงและ ล็อคความเนียนนุ่มชุ่มชื้น
ผิวดีข้ามปี! แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีฟื้นบำรุงและ ล็อคความเนียนนุ่มชุ่มชื้น

ผิวดีข้ามปี! แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีฟื้นบำรุงและ ล็อคความเนียนนุ่มชุ่มชื้น

Alternative Textaccount_circle
ผิวดีข้ามปี! แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีฟื้นบำรุงและ ล็อคความเนียนนุ่มชุ่มชื้น
ผิวดีข้ามปี! แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีฟื้นบำรุงและ ล็อคความเนียนนุ่มชุ่มชื้น

การมีผิวสวยสุขภาพดีช่วยเสริมความมั่นใจได้เป็นอย่างดี แต่บ่อยครั้งที่เราต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ มลภาวะ การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ รวมถึงการปรนนิบัติดูแลผิวแบบไม่ถูกวิธี อาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ส่งผลให้เกราะป้องกันตามธรรมชาติของผิวอ่อนแอลง ผิวจึงดูหมองคล้ำ ขาดชีวิตชีวา รวมถึงอาจเกิดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาได้อีกมากมาย แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและความงาม ‘ธัญ’ (THANN) ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แพทย์หญิงอณัฏฐ์ชา อัศดามงคล แนะวิธี “ฟื้นบำรุงและล็อคความเนียนนุ่มชุ่มชื้นด้วยเทคโนโลยี Double moist, Double lock”

ผิวที่มีความชุ่มชื้น คือ กุญแจสู่ผิวสวยสุขภาพดี เพราะผิวที่มีความชุ่มชื้นเพียงพอส่งผลให้ผิวมีความแข็งแรง ลดการเกิดปัญหาผิว ปกติแล้วผิวหนังของเราจะมีการสร้างมอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้เองตามธรรมชาติ โดยจะสร้างสารที่เรียกว่า Natural Moisturizing Factors หรือ NMF คือ สารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในผิวหนังของเรา ทำหน้าที่เป็นตัวดึงความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ผิวสามารถรักษาสมดุลของน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย NMF เป็นส่วนประกอบสำคัญของเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ที่ช่วยป้องกันผิวจากสิ่งสกปรกและมลภาวะ แต่ก็อาจมีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ระคายเคือง และอักเสบได้ง่าย

  • ปัจจัยภายใน
    • อายุที่มากขึ้น ส่งผลให้การผลิตน้ำมันตามธรรมชาติและไขมันที่ทำหน้าที่กักเก็บความชุ่มชื้นลดลง
    • พันธุกรรมเป็นตัวกำหนดปริมาณและคุณภาพของ NMF ในชั้นผิว
    • โรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis) โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) โรคต่อมไขมันอักเสบ (Seborrheic dermatits) เป็นต้น ส่งผลให้ร่างกายเสียสมดุลการสร้างไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ผิวจึงขาดความชุ่มชื้น
    • การขาดสารอาหารอย่างขาดโอเมก้า-3 หรือวิตามินอีและซี ทำให้ผิวไม่สามารถรักษาความชุ่มชื้นได้
    • ความเครียด ส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ไปรบกวนสมดุลของน้ำในผิว
  • ปัจจัยภายนอก
    • อากาศและสภาพแวดล้อมที่แห้ง เย็น หรือหนาวจัด รวมถึงการอยู่ในห้องปรับอากาศเป็นเวลานานก็ส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย
    • แสงแดดและรังสียูวี ทำลายเกราะป้องกันผิวและลดความสามารถในการกักเก็บน้ำของผิว
    • การล้างหรือขัดผิวบ่อยเกินไป ทำให้เซลล์ผิวและน้ำมันที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นถูกทำลาย
    • ฝุ่น ควันและมลภาวะในอากาศจะกระตุ้นให้เกิดอาการระคายเคืองและลดความชุ่มชื้นในผิว
    • การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีความรุนแรง จะทำให้ผิวสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติไป
    • การอาบน้ำอุ่นจัดหรือน้ำร้อน ทำให้น้ำมันตามธรรมชาติบนผิวถูกชะล้างออกไป ผิวจึงแห้งตึง

ซึ่งเราสามารถเพิ่มระดับความชุ่มชื้นและป้องกันการสูญเสียน้ำของผิวได้ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่

  • ชนิดปิดกั้นไม่ให้น้ำซึมผ่าน(Occlusives) ทำหน้าที่เหมือนฟิล์มเคลือบผิวหนัง ป้องกันไม่ให้ความชื้นที่ผิวหนังระเหยไป มีประสิทธิภาพในการรักษาความชุ่มชื้นที่ผิวหนังได้ถึง 98% แต่เมื่อโดนน้ำก็จะละลายหรือหลุดออกง่าและต้องทาซ้ำอยู่บ่อยๆ อาจทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะและสร้างความรำคาญได้ ตัวอย่างเช่น Petrolatum, Mineral oil, Paraffin, Dimethicone เป็นต้น
  • ชนิดเคลือบผิวหนัง(Emollients) ลักษณะใกล้เคียงกับ Occlusives ต่างกันที่สามารถซึมลงสู่ชั้นผิวหนังได้ ทำหน้าที่ควบคุมระดับความชื้นของผิวให้กลับมาสู่สภาวะปกติ โดยจะเติมร่องผิวชั้นนอกช่วยให้ผิวเรียบเนียนนุ่มตัวอย่างเช่น Rice bran oil, Cocao butter, Ceramides เป็นต้น
  • ชนิดดูดซับน้ำจากอากาศ(Humectants) ทำหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังชั้นนอกด้วยการดักจับน้ำหรือความชื้นในอากาศหรือดึงน้ำจากผิวชั้นใน โดยมักจะใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่น เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้น ตัวอย่างเช่น Myrothamnus (สารสกัดจากพืชทะเลทราย), Aloe vera เป็นต้น

นอกจากการเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวแล้ว ควรให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองเพิ่มเติมอย่างเหมาะสมควบคู่ไปด้วย อาทิ

  • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ เพื่อทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป สามารถคำนวณได้จากน้ำหนักตัว (ก.ก.) x 33 =… ซีซี (1,000 ซีซี = 1 ลิตร, 1 ลิตร = 4 แก้ว)
  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนนานเกินไป เพราะน้ำร้อนจะชะล้างน้ำมันตามธรรมชาติบนผิว ทำให้สูญเสียความชุ่มชื้นและผิวจะแห้งมากยิ่งขึ้น
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ปลาทะเล ผัก ผลไม้ ธัญพืช ผลไม้ตระกูลเบอรี่
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองได้เต็มที่
  • ปกป้องผิวจากแสงแดด โดยทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30+ ทุกวัน เพื่อป้องกันรังสี UV ที่ทำลายผิว
  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวไม่มีสารเคมีรุนแรงและมีค่า pH ใกล้เคียงกับผิว
หฤทัย ไชยันต์ ณ อยุธยา, แพรวปรียา ชุมสาย ณ อยุธยา และฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล

นอกจากนี้เหล่าเซเลบริตี้คนรักผิวยังได้ร่วมเผยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น เพื่อให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์เริ่มที่ คุณแพรวปรียา ชุมสาย ณ อยุธยา เผยว่า “ช่วงปีใหม่นี้มายด์แพลนว่าจะไปเล่นสกีที่ประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่าจะต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น และมายด์เองเป็นคนที่มีสภาพผิวผสมค่อนข้างแห้ง ทำให้ต้องใส่ใจเรื่องการดูแลบำรุงผิวมากเป็นพิเศษ โดยจะเน้นเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วย Earl Grey Infusion Rice Extract Body Milk จาก THANN ที่มีเทคโนโลยี Double moist, Double lock ช่วยเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้เป็นอย่างดี ทำให้มั่นใจได้เลยว่าผิวยังคงความเนียนนุ่มชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกลิ่นหอมที่มอบความสดใสมีชีวิตชีวาด้วยส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติจาก Lavender, Bergamot, Clary sage และ Cardamom ค่ะ”

ต่อมาที่ คุณหฤทัย ไชยันต์ ณ อยุธยา เล่าว่า “ปอนด์เป็นคนที่มีผิวแห้งมาก เรียกได้ว่าถ้าไม่ได้บำรุงผิวก็จะแห้งแตกเป็นขุยได้ง่าย ทำให้ปอนด์ต้องใส่ใจในการดูแลผิวตัวเองเป็นพิเศษ โดยพยายามเลี่ยงการอาบน้ำร้อนจัด รวมถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่เน้นเรื่องการเพิ่มและคงความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วงปลายปีก็มีโอกาสไปท่องเที่ยวชมพิระมิดและมัมมี่ที่ประเทศอียิปต์ ทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจและสนุกมาก แต่ด้วยสภาพอากาศที่ค่อนข้างเปลี่ยนแปลงบ่อยในช่วงกลางวันที่ร้อนมากและอากาศจะหนาวเย็นในช่วงกลางคืน ส่งผลให้ผิวของปอนด์ยิ่งแห้งกร้านได้ง่ายกว่าปกติ แต่ปอนด์มีตัวช่วยอย่าง Earl Grey Infusion Rice Extract Body Milk ของ THANN ที่มีเทคโนโลยี Double moist, Double lock นอกจากจะช่วยให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยล็อคความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้อีกด้วย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องผิวแห้งกร้านที่เกิดจากสภาพอากาศค่ะ”

ปิดท้ายที่ คุณฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล เผยว่า “ช่วงนี้มีโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ เพื่อถ่ายทำคอนเทนต์ ล่าสุดก็มีโอกาสได้เดินทางไปประเทศนิวซีแลนด์ช่วงปลายปี เป็นช่วงที่อากาศดีมากแต่ก็ค่อนข้างหนาวเย็น แน่นอนว่าอากาศที่หนาวเย็นย่อมส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ประกอบกับส่วนตัวพิมฐาเองก็เป็นคนที่ชอบอาบน้ำร้อนและอยู่ในห้องแอร์เป็นประจำ ยิ่งทำให้ผิวมีโอกาสที่จะแห้งกร้านได้มากกว่าปกติ จึงจำเป็นต้องดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายอยู่ตลอดเวลา โดยจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดและน้ำมันธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและเติมเต็มความชุ่มชื้นสู่ผิวอย่าง Earl Grey Infusion Rice Extract Body Milk ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Double moist, Double lock ทำให้สามารถกักเก็บความเนียนนุ่มชุ่มชื้นได้ยาวนาน และยังมีกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติที่ช่วยสร้างความสดใสมีชีวิตชีวาที่ได้จาก Lavender, Bergamot, Clary sage และ Cardamom ด้วยค่ะ”


Praew Recommend

keyboard_arrow_up