มาส์กหน้า

แนะทริค ‘มาส์กหน้า’ ให้เหมาะกับแต่ละสภาพผิว ตัวช่วยฟื้นฟูผิวแบบด่วนในช่วงร้อนนี้

Alternative Textaccount_circle
มาส์กหน้า
มาส์กหน้า

จะปีนี้ปีไหนๆ ประเทศไทยก็อากาศร้อนโหดทุกปี แต่ถึงจะร้อนยังไงหลายๆคนก็ยังคงเลือกใช้เวลาพักผ่อนและเพลิดเพลินกับการทำกิจกรรมกลางแจ้งกันไม่น้อย ซึ่งการดูแลและฟื้นฟูสภาพผิวหลังการทำกิจกรรมอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผิวสวยและสุขภาพดีอยู่เสมอ ‘ธัญ’ (THANN) ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แพทย์หญิงภัทรพร ภัทรากร ได้แนะทริคการ มาส์กหน้า เพื่อฟื้นฟูสภาพผิวหลังสนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งช่วงหน้าร้อนมาฝาก

ช่วงฤดูร้อนนี้หลายคนที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งกัน อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาผิวต่างๆ ตามมาโดยไม่รู้ตัว อาทิ ผิวคล้ำเสียจากแสงแดด ผิวอ่อนล้าอิดโรย ผิวแห้งขาดน้ำ สิว บางครั้งเพียงการล้างหน้าและทาครีมบำรุงก็อาจไม่เพียงพอที่จะฟื้นฟูสภาพผิวได้ การใช้มาส์กที่มีคุณสมบัติพิเศษจึงเป็นวิธีบำรุงผิวที่ง่ายและรวดเร็ว ช่วยดูแลปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพกว่าการบำรุงทั่วๆ ไป เรียกได้ว่าเป็นการบำรุงขั้นพิเศษเพื่อช่วยฟื้นฟูผิว ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมี มาส์กหน้า ให้เลือกใช้หลากหลายชนิด การเลือกใช้มาส์กที่เหมาะกับแต่ละสภาพผิวก็จะช่วยให้มาส์กสามารถทำงานและได้ผลลัพธ์อย่างเต็มประสิทธิภาพ

  • ผิวมัน มักเกิดการอุดตันของรูขุมขน โดยก่อให้เกิดปัญหาผดผื่นและสิวตามมา ควรเลือกมาส์กที่มีส่วนผสมของโคลนธรรมชาติ เพื่อดูดซับความมันส่วนเกิน สิ่งสกปรกตกค้าง และช่วยกระชับรูขุมขนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ควรมีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการปลอบประโลมผิว และบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น อาทิ สารสกัดจากแตงกวา, กุหลาบ และน้ำมันรำข้าว
  • ผิวแห้งขาดน้ำ ควรเลือกใช้มาส์กที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่ช่วยปลอบประโลมผิวให้แข็งแรงและเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างยาวนาน  อาทิ สารสกัดจากชาเขียวออร์แกนิคที่อุดมด้วยสารโพลิฟีนอล ทำหน้าที่เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยปลอบประโลมผิว, สารสกัดจากสับปะรดออร์แกนิค อุดมด้วยวิตามิน ซี และเอนไซน์โบรมีเลน (Bromelain) บรรเทาความแห้งกร้าน และกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน, สารสกัดจากทรีฮาโลส (Trehalose) เติมเต็มความชุ่มชื้น และเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับโครงสร้างผิวหรืออาจใช้ Sleeping mask หรือ Overnight mask โดยพอกทิ้งไว้ทั้งคืนและล้างออกในตอนเช้า
  • ผิวบอบบางแพ้ง่าย ควรเลือกใช้มาส์กที่มีคุณสมบัติในการปลอบประโลมผิวที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติจากใบชิโซะ อโลเวล่า แตงกวา หรือดอกคาโมมายล์
  • ผิวที่มีปัญหาผิวหมองค้ำ หรือจุดด่างดำ ควรเลือกมาส์กที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูความกระจ่างใสของผิว มีส่วนผสมของสารสกัดจากผลองุ่น สารสกัดจากรากต้นหม่อน รวมถึงมาส์กมีส่วนผสมของวิตามิน ซี และสาร AHA เพื่อกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว และปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอ
  • ผิวที่มีปัญหาริ้วรอย ควรเลือกมาส์กที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูความแข็งแรงของเซลล์ผิวจำพวกเปปไทด์, โคคิวเท็น, คอลลาเจน, เชียร์บัตเตอร์, ชาเขียว และอะโวคาโด ซึ่งส่วนผสมดังกล่าวมีคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วย โดยใช้ควบคู่กับผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

เคล็ดลับการมาส์กหน้าให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรเริ่มจากการทำความสะอาดผิว หากแต่งหน้าควรเช็ดเครื่องสำอางออกด้วย Cleansing water แล้วล้างตามด้วยผลิตภัณฑ์ล้างทำความสะอาดหน้าอย่าง Facial cleanser หรือ Face wash จากนั้นซับหน้าพอหมาดๆ แล้วมาส์กหน้าได้เลย โดยไม่ต้องรอให้แห้ง เพราะหากผิวแห้งแล้วจะทำให้การดูดซึมสารบำรุงต่างๆ จากตัวมาส์กลดลง สำหรับผิวปกติถึงผิวมัน สามารถใช้ผ้าขนหนูซับน้ำอุ่นโปะลงบนผิวเพื่อเปิดรูขุมขนให้พร้อมรับการบำรุงได้อย่างเต็มที่ แต่ไม่แนะนำวิธีนี้สำหรับคนที่มีสภาพผิวแห้ง เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้งเพิ่มขึ้นได้ ระยะเวลาที่เหมาะสมในการมาส์กหน้าอยู่ที่ 15-20 นาที หากทิ้งมาส์กไว้เกินเวลาจนมาส์กเริ่มแห้ง จะเกิดกระบวนการออสโมซิส โดยจะดูดความชุ่มชื้นออกจากผิวหน้ากลับคืนไปสู่แผ่นมาส์กแทน

ส่วนมาส์กโคลนหรือแบบล้างออก (Wash off) หากรู้สึกว่าหน้าเริ่มแห้งตึงก็สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำสะอาด ไม่จำเป็นต้องล้างโฟมหรือเจลล้างหน้าซ้ำ ส่วนมาส์กแบบชนิดลอกออก (Peel off) หรือ (Rubber mask) จะมีทั้งที่ต้องล้างออกหลังการมาส์กและไม่จำเป็นต้องล้างออก ตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละชนิดของผลิตภัณฑ์ ที่สำคัญคือควรทาครีมบำรุงผิวหลังการมาส์กหน้าทุกครั้ง ส่วนสาวๆ คนไหนที่มีเวลาน้อย หรือต้องออกงานสำคัญแบบเร่งด่วน สามารถเลือกมาส์กที่เน้นการฟื้นคืนความชุ่มชื้นกระจ่างใสสู่ผิวได้ เพียงมาส์กก่อนการแต่งหน้า 15 นาที เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมก่อนการแต่งหน้า ง่ายๆ เพียงเท่านี้เราก็สามารถอวดผิวสวยอย่างมั่นใจได้แล้ว

การมาส์กหน้าช่วยให้ผิวหน้าเนียนนุ่ม ลดความมัน กระชับรูขุมขน ใบหน้าแลดูขาวกระจ่างใส ช่วยแก้ไขปัญหาผิวแห้ง ผิวมัน ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม การมาส์กหน้าที่ถูกวิธีและดีต่อสุขภาพผิวนั้น ไม่ควรทำบ่อยจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวของคุณแห้งหรือขาดน้ำได้ ดังนั้น เวลาที่เหมาะสมสำหรับการมาส์กหน้าจึงอยู่ที่ประมาณ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ ก็จะช่วยบำรุงผิวพรรณได้ดีทีเดียว ส่วนช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาส์กหน้า คือ ช่วงเวลาค่ำ หรือก่อนเข้านอน เนื่องจากการมาส์กหน้าช่วงเวลากลางคืนนั้นจะเป็นการฟื้นฟูสภาพผิว เป็นการให้เวลาผิวหน้าได้พักหลังผ่านช่วงเวลาที่ผิวต้องเผชิญกับมลภาวะต่างๆ มาทั้งวัน ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการฟื้นบำรุงผิวขณะที่เราพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ด้วย

Photo: Pexels


Praew Recommend

keyboard_arrow_up