“คิมมี่ ธิติสรรค์” หนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษ คว้าตำแหน่ง “Mister International 2023 Present by Chat Cosmetics” ยืนหนึ่งหนุ่มหล่อระดับโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งครั้งนี้ไทยเป็นเจ้าภาพ ครั้งที่ 15 มีหนุ่มๆ จากประเทศต่างๆ รวม 36 ประเทศ เข้าร่วมประชันความหล่อ โดยรอบตัดสิน มีขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา
สำหรับ “คิมมี่ ธิติสรรค์ กู๊ดเบิร์น“ หนุ่มหล่อลูกครึ่งไทย-อังกฤษ อายุ 24 ปี คว้าชัยในบ้าน ชนะเลิศครองตำแหน่ง มิสเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2023 ขณะที่รองอันดับ 1 ได้แก่ หนุ่มหล่อจากเวเนซุเอล่า และรองอันดับ 2 ได้แก่ หนุ่มหล่อคมเข้มจากบราซิล
ฟาก “น้องฉัตร เมคอัพอาร์ติสต์ชื่อดัง” ได้เปิดเบื้องหลังลุคหล่อของหนุ่มๆ จากเวที “Mister International 2023” ไว้ว่า
“ก่อนหน้านี้กองประกวดติดต่อแบรนด์ของน้องฉัตรเข้ามาว่าอยากให้สนับสนุนเวทีประกวดในเรื่องของการแต่งหน้า เราเลยได้ดูคอนเซ็ป แล้วปีนี้ไทยเป็นเจ้าภาพ เลยรู้สึกว่าเราอยากผลักดันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ โดยอาจจะเป็นเรื่องราวเล็กๆ ผ่านการใช้เครื่องสำอาง ให้รู้สึกว่าผู้ชายก็สามารถแต่งหน้าได้ เป็นเรื่องที่ธรรมดาในชีวิตประจำวัน เพราะเราสามารถกลบรอยใต้ตา กลบรอยสิว เพื่อให้หน้าดูกระจ่างใส และหล่อมากยิ่งขึ้น จึงมีโอกาสได้มีเข้ามาร่วมส่วนสนับสนุนให้ทีมได้มาดูแลความหล่อ ทั้งตอนเก็บตัว การแสดงในรอบต่างๆ ต้องมีการแต่งหน้า”
การแต่งหน้าผู้ชาย ต่างจากผู้หญิงอย่างไร
ผู้ชายทั่วไปอาจจะรู้สึกว่าไม่ต้องแต่งหน้าอะไรมาก แต่จริงๆ แล้วดีเทลการแต่งหน้า การเลือกเมคอัพยากกว่าผู้หญิง เพราะผู้หญิงมีเรื่องของสีมาเป็นตัวประกอบ แต่ของผู้ชายทั้งหน้าจะเป็นในเรื่องของการเลือกเฉดสี ทั้งคอลซีลเลอร์ แป้งเฉดต่างๆ ต้องเลือกให้เข้ากับผู้ชายมากที่สุด เพราะไม่เช่นนั้นเวลาแต่งหน้าจะดูลอย ดูไม่กลืนเข้ากับสีผิว
หลักๆ เลยผู้ชายต้องดูแลผิวหน้า แต่ถ้ามีสิว มีรอยดำ อาจจะใช้รองพื้นหรือคอลซีลเลอร์กลบรอยต่างๆ ได้ ซึ่งน้องฉัตรจะใช้เทคนิคด้วยวิธีการทาคอลซีลเลอร์รอบดวงตา เกลี่ยให้ทั่ว ถ้าคนที่มีใต้ตาที่คล้ำมากๆ จะใช้คอลซีลเลอร์ที่มีเฉดอมแดง หรืออมชมพู เพื่อตัดกับสีดำ ส่วนการเลือกสีรองพื้น คือ ป้ายที่หลังมือ แล้วเอาหลังมือมาเทียบกับใบหน้า จะเห็นชัดว่าเฉดสีไหนเข้ากับใบหน้าตัวเองมากที่สุด บางคนอาจมิกซ์แอนด์แมทช์เฉดสีรองพื้นเข้ม กลาง อ่อน รวมกัน
ผู้ชายต้องหน้าบางเบา สบายผิว แต่งหน้าไม่หนาดูเป็นธรรมชาติ แต่กิจกรรมแต่ละอย่างต้องใช้เครื่องสำอางที่ทนทาน กันน้ำ กันเหงื่อ การแต่งหน้าให้ขึ้นกับไฟบนเวที จริงๆ แล้วไม่ต่างอะไรมากกับการแต่งหน้าไลฟ์สไตล์ แต่อาจจะต้องมีการเพิ่มจุดเด่น เช่น เลือกสีรองพื้น ด้วยการใช้หลายเฉดสี เป็นการมิกซ์แอนด์แมทช์ เช่น กลางหน้าเป็นสีที่พอดีผิว กรอบหน้าเป็นสีเข้มเพื่อให้เวลาขึ้นเวที มีกรอบหน้าที่ชัดยิ่งขึ้น
ที่สำคัญเวลาเจอไฟ อย่าแต่งหน้าที่มีลักษณะมัน ไม่เช่นนั้น หน้าอาจจะดูเยิ้ม หรือโทรมขึ้นได้ แต่ถ้าอย่างการแต่งหน้าในรอบชุดว่ายน้ำจะใช้วิธีลงคอลซีลเลอร์และลงรองพื้น แต่ไม่ลงแป้ง ถ้ารอบชุดสูท จะมีการซับหน้าด้วยแป้งฝุ่นเล็กน้อย เพื่อให้หน้าดูแมตต์มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญการแต่งหน้า การเลือกเมคอัพ ต้องเข้ากับชุดของผู้เข้าประกวดด้วย