ฉีดโบฯ

หน้าไม่ตึงแข็ง! เทคนิคฉีดโบฯ แบบใหม่ ลดริ้วรอย แถมยกกระชับปรับรูปหน้าเล็กลง

Alternative Textaccount_circle
ฉีดโบฯ
ฉีดโบฯ

ฉีกทุกกฎ ไขทุกเทคนิคความงามบนใบหน้าที่เคยรู้ จากศัลยแพทย์ความงามชื่อดังเกาหลีใต้

ความสวยงามคือหนึ่งในองค์ประกอบหลักบนใบหน้าของทุกคน ซึ่งปัจจุบันการเติมเต็มความสวยงามให้แก่ใบหน้า ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การดูแลผิวหรือใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ แต่มีนวัตกรรมมากมายที่ช่วยย่นระยะเวลาที่จะช่วยให้ใบหน้าดูดีขึ้นมาได้โดยไม่ต้องศัลยกรรม หนึ่งในนั้นคือนวัตกรรมการลดเลือนริ้วรอยด้วยการฉีด Botulinum Toxin Type A (โบทูลินั่ม ท็อกซิน ไทป์ เอ) หรือที่รู้จักกันว่า ฉีดโบฯ ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก

ดร.ลี ยง ซอบ ศัลยแพทย์ความงามชื่อดังจากประเทศเกาหลี ได้อัพเดทเทคนิคและเทรนด์การเสริมความงามด้วยการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน ซึ่งจัดโดย กัลเดอร์มา ประเทศไทย ว่า “การเสริมความงามโดยการใช้สาร โบทูลินั่ม ท็อกซิน ได้รับความนิยมทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชีย มีคนไข้ที่เข้ารับบริการหรือรักษาผิวพรรณด้วยการฉีดโบฯ เป็นอันดับต้นๆ โดยจุดประสงค์เพื่อความดูดีของตัวเอง ช่วยสร้างความมั่นใจและสร้างโอกาสในชีวิต โดยนวัตกรรมสารลดเลือนริ้วรอยนี้ ได้มีการพัฒนาอยู่ต่อเนื่อง โดยแนวโน้มในปัจจุบันคือจะต้องให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยคนไข้ยังสามารถขยับใบหน้า และแสดงสีหน้าออกทางอารมณ์ได้ตามปกติ ผลลัพธ์ยังต้องอยู่ได้นาน และได้รับประโยชน์ในเรื่องของการปรับรูปหน้า นอกเหนือจากเรื่องลดเลือนริ้วรอยเพียงอย่างเดียว”

ฉีดโบฯ

 “หน้าเล็ก” เทรนด์รูปหน้ามาแรงของผู้หญิงเอเชีย

เทรนด์ความงามของผู้หญิงเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นไทย จีน เกาหลี ยังคงต้องการมีรูปหน้าที่เล็ก โดยรูปหน้ายอดนิยม คือหน้ารูปหัวใจ และใบหน้ารูปไข่ ในขณะที่ลักษณะโครงสร้างรูปหน้าของคนเอเชียคือ หน้าแบน ดังนั้น เทคนิคในการปรับรูปหน้า ต้องโฟกัสการปรับบริเวณ ส่วนกลางของใบหน้า (แก้มและจมูก) ให้มีมิติ พุ่งออกมา โดยทั่วไปคนไข้ชาวไทยมักจะมีความกังวลเกี่ยวกับปีกจมูก ส่วนคนจีนและเกาหลีจะมีปัญหาเรื่องกระดูกขากรรไกร ดังนั้น การออกแบบใบหน้าให้กับคนไข้แต่ละคน สิ่งที่แพทย์ต้องคำนึงถึงคือทำอย่างไรให้ใบหน้าที่มีโครงสร้างต่างกันออกมาได้รูปหน้าที่เล็ก ได้สัดส่วน และเสริมความงามในแบบของแต่ละคน เพราะลักษณะใบหน้าที่แตกต่างกัน ต้องมีเทคนิคในการแก้ไขและปรับรูปหน้าที่แตกต่างกันด้วย เพื่อความสวยสมบูรณ์แบบและส่งเสริมเอกลักษณ์ให้กับใบหน้าคนไข้

เทคนิคการฉีดแบบเก่า vs แบบใหม่ ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่าง

ดร.ลี นับเป็นศัลยแพทย์คนแรก ที่คิดค้นเทคนิคการฉีดโบฯ ที่ชั้นผิวหนังแท้ เรียกว่าเทคนิค Dermo Lifting ด้วยสารลดเลือนริ้วรอยจากอังกฤษในสัดส่วนเฉพาะ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้ โดยได้เล่าว่า “เทคโนโลยีการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เพื่อเสริมความงามได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จากสมัยก่อนคือการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ปัจจุบันได้พัฒนามาเป็นเทคนิคการฉีดที่ชั้นผิวหนัง ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือหน้าไม่ตึงแข็ง” ซึ่งเทคนิค Dermo Lifting ของดร. ลีนี้ คนไข้จะสามารถขยับใบหน้าและแสดงสีหน้าทางอารมณ์ได้อย่างปกติ ที่สำคัญคือเห็นผลลัพธ์ได้ทันที และเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องรอนานเป็นสัปดาห์เหมือนกับการฉีดโบฯ ด้วยเทคนิคเดิมๆ

ฉีดโบฯ

เทคนิคการฉีดโบฯ ปี 2020

อย่างที่กล่าวกันตั้งแต่ต้นว่าเทรนด์เรื่องการเสริมความงามและการดูแลตัวเอง กลายเป็นสิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องคอยอัพเดทเพื่อให้ตัวเองอยู่ในกระแสและดูแลตัวเอง รวมถึงเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเข้ารับบริการเสริมงามของตัวเอง ซึ่งดร.ลี ได้พูดถึงเทคนิคการฉีดโบฯ ที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นในปี 2020 และในอนาคตข้างหน้าว่า “เทคนิคการฉีดสารลดเลือนริ้วรอย หรือการปรับรูปหน้า ในปี 2020 นั้น คนไข้ต้องไม่เพียงแค่ลดเลือนริ้วรอยแต่ต้องยกกระชับปรับรูปหน้า เห็นผลทันทีอย่างเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นาน มีประสิทธิภาพสูงสุด  

ดังนั้น ในการตัดสินใจเข้ารับบริการเสริมความงามใดๆ ต้องพิจารณาถึง 3 ปัจจัยสำคัญ คือ 1) คลินิกที่เข้ารับบริการต้องมีมาตรฐานและน่าเชื่อถือ 2) แพทย์ต้องมีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ตลอดจนผ่านการเทรนอย่างต่อเนื่อง 3) ใช้ตัวยาที่ถูกต้อง เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน โบฯ ในปัจจุบันมีหลากหลายแบรนด์ และแต่ละแบรนด์ก็ให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกัน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีผลวิจัยรับรองในประสิทธิภาพและความปลอดภัย ตลอดจนได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ความงามทั่วโลก


ภาพ : Pexels

 

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อยากปรับรูปหน้าให้สวยเป๊ะ ไม่โป๊ะ ควรเลือก ฉีดฟิลเลอร์ หรือ ฉีดไขมัน ดีกว่า??

สวยชิคทุกทรง! ส่องลุคผมสั้นสไตล์ต่างๆ ของ ซอเยจี ดาเมจแรงโดยไม่มีอะไรกั้น

สายสกินต้องรู้! ไฮยาลูโรนิค แอซิด 4 มิติ เทรนด์นวัตกรรมวงการบิวตี้ปี 2020

 

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up