เมคอัพไฝเสน่ห์

เมคอัพไฝเสน่ห์ การเดินทางของประวัติศาสตร์สู่สไตล์วินเทจ

Alternative Textaccount_circle
เมคอัพไฝเสน่ห์
เมคอัพไฝเสน่ห์

เรียกว่าเป็นลุคที่น่าคตื่นเต้นมากสำหรับการปรากฏตัวล่าสุดของ ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล ในการเยี่ยมช้อป CELINE ณ สยามพารากอน  โดยสไตลฃ์การแต่งตัวของเธอในวันนี้มาในลุคแม่เสือสาว เซ็ตทรงผมดัดลอนเข้ากันอย่างลงตัว ขณะที่เมคอัพนั้นมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอคือเน้นที่ดวงตากลมโต

เมคอัพไฝเสน่ห์

และหนึ่งจุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ การกลับมาของ เมคอัพไฝเสน่ห์ ซึ่งมักจะปรากฏในลุคการแต่งหน้าที่ต้องการความโฉบเฉี่ยว ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียงของเหล่าแฟนคลับอยู่เสมอว่าเป็นจุดที่เกิดจากธรรมชาติหรือเป็นเมคอัพกันแน่ แต่ไม่ว่าอย่างไรสไตล์นี้ก็เป็นที่สะกดสายตาทุกครั้ง

หากจะพูดถึงผู้คนในปัจจุบันจะชอบชื่นชอบใบหน้าที่ดูเรียบเนียนราวกับกระเบื้องเคลือบ ไร้จุดตำหนิต่างๆ บนใบหน้า  แต่สำหรับในศตวรรษที่ 18 จุดบนใบหน้าถือเป็นเครื่องหมายแห่งความงามที่น่ามหัศจรรย์  โดยจุดที่ได้รับความนิยม เช่น ดวงตา แก้ม ริมฝีปาก

ย้อนกลับไปในยุครีเจนซี่หรือศตวรรษที่ 18 พระนาง มารี อ็องตัวแน็ต กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความงามในสมัยนั้น และหนึ่งในเทรนด์เมคอัพที่ดึงดูดความสนใจคือ การใช้ดินสอเสริมความงามบนใบหน้าในรูปแบบต่างๆ เช่น จุด หัวใจ ดวงดาว ไม่เพียงจะเพิ่มความโดดเด่นเท่านั้น แต่ยังช่วยซ่อนร่องรอยบาดแผลจากโรคต่างๆ ที่เกิดจากการเสียโฉมบนใบหน้า

 พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ได้เคยให้คำจำกัดความของจุดเสริมความงามดังต่อไปนี้

  • แก้ม – เจ้าชู้
  • มุมปาก – จูบได้
  • หน้าผาก – หยิ่ง
  • ร่องแก้ม – ขี้เล่น
  • ริมฝีปากบน – ซุกซน
  • ริมฝีปากล่าง – รอบคอบ
  • ตา – ยั่วยุ
  • จมูก – ไม่สุภาพ

ไฝเสน่ห์ หรือ รอยความงาม ได้กลับมาเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจอีกครั้งในยุค 50 มาริลิน มอนโร บิวตี้ไอคอนและเซ็กซ์ซิมโบลตลอดกาล เป็นที่จดจำของผู้คนจากไฝที่แก้มซ้าย, อลิซาเบธ เทย์เลอร์ ที่ขึ้นชื่อว่าผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกก็มีรอยความงามบนแก้มขวา รวมถึง ฌอง ฮาร์โลว์ และ ดิต้า วอน ทีส ต่างก็มีจุดเสริมความงามบนใบหน้าเช่นเดียวกัน

แม้หลายคนจะไม่ได้โชคดีมีรอยความงามอย่างธรรมชาติ แต่เราสามารถ เมคอัพไฝเสน่ห์ ขึ้นมาได้จากดินสอหรืออายไลเนอร์สีดำ โดยเลือกตำแหน่งที่ต้องการ หรือลองครีเอทรูปแบบใหม่ๆ กันดูนะ

Praew Recommend

keyboard_arrow_up