4 พฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดฝ้า และ จุดด่างดำ

4 พฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดฝ้า และ จุดด่างดำ



เคล็ดลับจัดการปัญหาจุดด่างดำ คืนความกระจ่างใส ให้ผิวดูเปล่งประกาย

แม้ว่าจะย่างเข้าหน้าฝนเสียแล้ว แต่แสงแดดก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะอ่อนกำลังลงจากหน้าร้อนเลย สุขภาพผิวของสาวๆ ที่ต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นเวลานาน สะสมมาตั้งแต่ช่วงเวลาแห่งความสนุกในซัมเมอร์ กิจกรรมกลางแจ้ง ปะทะลมร้อน ที่บ่อนทำร้ายผิว ก่อให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ เช่น ผิวคล้ำเสีย ปัญหากระ ฝ้า รอยคล้ำจุดด่างดำ และยังมีจุดด่างดำที่ซ่อนเร้นอยู่ในผิวซึ่งยังไม่เผยออกมาให้เห็น จึงไม่รอช้า นำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับต้นตอของปัญหา พร้อมทั้งชี้พฤติกรรมที่กระตุ้นให้เกิดจุดด่างดำ รวมไปถึงเคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ เพื่อผิวดูเปล่งประกายกระจ่างใสดุจกำเนิดใหม่อีกครั้ง

จุดด่างดำ
เกิดจากการผลิตสารเมลานินหรือเซลล์เม็ดสีมากกว่าปกติ และสารเมลานินที่สะสมอยู่มากกว่าปกตินั้น ทำให้การเพิ่มจำนวนของเซลล์ผิวบกพร่อง อัตราการผลัดเปลี่ยนของเซลล์ผิวจึงลดลง และเกิดเป็นรอยฝ้า และจุดด่างดำบนใบหน้า นอกจากนี้แต่ละจุดด่างดำที่เรามองเห็นบนใบหน้านั้น พัฒนามาจากจุดด่างดำที่ซ่อนเร้นฝังลึกอยู่ใต้ผิวหนังโดยหนึ่งจุดด่างดำที่ปรากฎ จะมีจุดด่างดำอีกถึง 5 จุดซ่อนอยู่ใต้ผิว และจะพัฒนาจนปรากฎขึ้นให้เห็นชัดบนใบหน้าในที่สุด นักวิทยาศาสตร์ของเอสเค-ทูยังพบว่า การก่อตัวของจุดด่างดำเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงอายุ 20 ปี และสะสมอยู่ใต้ผิวหนังจนมีความเข้มขึ้นเรื่อยๆ และ ปรากฎออกมาให้เห็นเด่นชัดในช่วงวัย 30 ปี เป็นต้นไป โดยแพทย์หญิง เซียง รองประธานสาขาวิชาโรคผิวหนัง โรงพยาบาลหัวซาน ในสังกัดมหาวิทยาลัยฟู่ตั้น วิทยาลัยแพทย์ เมืองเซี่ยงไฮ้ ให้เหตุผลสาเหตุการเกิดจุดด่างดำที่ซ่อนเร้นในวัยสาวว่า อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และการเผชิญกับแสงแดด และรังสีอัลตราไวโอเล็ต

การหลีกเลี่ยงการอยู่ท่ามกลางแสงแดดจ้าเป็นเวลานานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ และควรเลิกนิสัยขี้เกียจทาครีมกันแดดเพราะชะล่าใจ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่กำลังจะมาถึง เพราะเห็นว่าอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน แดดไม่แรง ไม่ต้องทาครีมกันแดดก็ได้ เพราะจะยิ่งทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหน้า รังสีอัลตราไวโอเลต เป็นรังสีที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มีอานุภาพและคลื่นความยาวสูงมาก โดยเฉพาะรังสียูวีเอ ที่สามารถทะลุเข้าผ่านเสื้อผ้า และเข้าสู่ผิวหนัง ไปกระตุ้นการเกิดฝ้า หรือทำให้ฝ้าเห็นชัดมากขึ้น แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดแบบน้ำ หรือ แบบเจล เพราะนอกจากเนื้อจะบางเบา ซึมลงใต้ชั้นผิวหนังได้ง่ายแล้ว ยังไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะ และยังทำให้เครื่องสำอางติดทนและแต่งหน้าได้เรียบเนียนอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมอีกหลายประการที่ทำร้ายผิวโดยที่คุณสาวๆอาจไม่รู้ตัว อาทิเช่น

นิสัยอยากขาว : สาวๆมักมีสมการที่ผิดเกี่ยวกับความขาว และ ความสวย ผู้หญิงหลายคนเชื่อว่า ขาว คือ สวย เพราะฉะนั้นถ้าจะสวย ต้องขาว…และต้องขาวมากด้วย จึงสรรหาสารพัดวิธีมาทำให้ขาว แต่รู้หรือไม่ว่า คุณกำลังแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะอุปสรรคของความขาวใสบนใบหน้าคือ สิว ฝ้า ความหมองคล้ำ และจุดด่างดำต่างๆ แม้ผิวจะไม่ขาวเผือด แต่คุณก็สามารถสวย เด่นกว่าใครได้ เพียงลองปรับทัศนคติเรื่องความสวย มาเป็นการมีผิวที่สุขภาพดี เรียบเนียน ปราศจากรอยใดๆ ด้วยการใส่ใจเรื่องการลดเลือนจุดด่างดำ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ

นิสัยยังเด็ก : ความเชื่อที่ว่า “ฉันยังเด็กอยู่ ผิวหน้าก็ยังดีอยู่ ยังไม่ถึงเวลาดูแลผิว” สำหรับสาววัยต้นๆ เลข 2 นั้นควรเปลี่ยนเสียใหม่ ผู้หญิงส่วนใหญ่มักรอจนกว่าจะเห็นจุดด่างดำบนในหน้าก่อน แล้วค่อยหาวิธีดูแลรักษา แต่ความจริงแล้วการจัดการกับจุดด่างดำนั้นต้องใช้เวลานาน เพราะ จุดด่างดำเริ่มก่อตัวขึ้นใต้ผิวหนังตั้งแต่ช่วงอายุ 20 ปี และรอที่จะปรากฎบนผิวอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการดูแลจุดด่างดำจึงควรทำตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อลดโอกาสที่จุดด่างดำจะเด่นชัดขึ้นเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น

นิสัยจัดเต็ม : ไม่ว่าจะสาวสังคม สาวปาร์ตี้ หรือสาวใดก็ตามที่แต่งหน้าจัดหนัก หน้าแน่น ครบเครื่องทุกวัน เป็นประจำ แนะนำให้เบาๆลงบ้างก็ดี เพราะสารบางตัวในเครื่องสำอางค์มีคุณสมบัติในการดูดซับแสง และ หากไม่ทำความสะอาดอย่างดี ล้างเครื่องสำอางค์ให้หมดจด สารตกค้างเหล่านั้นจะซึมเข้าสู่ผิวหนัง เป็นต้นตอของจุดด่างดำ และรอยต่างๆ บนใบหน้า เอสเค-ทู ขอแนะนำให้สาวๆ บำรุงผิวให้มีสุขภาพดี แข็งแรง แล้วหันมาแต่งหน้าแบบเน้นผิวสวยๆ ใสๆ ดึงเสน่ห์ความสวยแบบเป็นธรรมชาติออกมาจากตัวคุณในวันพักผ่อนสบายๆ บ้างดีกว่า

แต่งหน้าเบาๆได้อย่างไร ในเมื่อปัญหาจุดด่างดำคอยกวนใจ
ให้ต้องโบกรองพื้น ตบแป้งหนาเพื่อปกปิดรอยนั้นจุดนี้อยู่เรื่อย เอสเค-ทู จึงขอนำเสนอวิธีดูแล และแก้ปัญหาจุดด่างดำง่ายๆ ที่สามารถทำได้เองที่บ้าน ไม่ต้องพึ่งคุณหมอ หรือเสียเงินหลักหมื่นไปกับค่าเลเซอร์

การรักษาด้วยน้ำมะนาว
เราสามารถใช้กรดผลไม้จากธรรมชาติมาทำทรีทเมนท์ โดยเฉพาะ น้ำมะนาวที่มีฤทธิ์เป็นกรด สามารถทำให้เซลล์ผิวชั้นนอกที่มีจุดด่างดำค่อยๆ ผลัดเซลล์ผิวออก รอยคล้ำดูจางลง ผิวดูกระจ่างขึ้น เพราะ มะนาวเปรียบเสมือนสารฟอกสีธรรมชาติ ที่ช่วยผลัดผิวของคุณสาวๆให้ขาวขึ้น และยังช่วยลดการเพิ่มการผลิตเม็ดที่เข้มเฉพาะจุด ในบริเวณแก้ม รอบจมูก หน้าผาก และ เหนือริมฝีปาก แนะนำให้ใช้น้ำมะนาวทาบริเวณที่มีจุดด่างดำเป็นประจำทุกวัน และจะสามารถเห็นผลที่ชัดเจนภายใน 3 สัปดาห์ หรือ จะนำน้ำมะนาวมาผสมกับน้ำผึ้ง และมาส์กบริเวณทั่วใบหน้า เพื่อเพิ่มความกระจ่างใสก็ได้

การรักษาด้วยว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้เป็นสมุนไพรที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความเย็น ช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนของผิวที่โดนแดดเผาได้ดี และยังสามารถลบเลือนรอยฝ้าบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสามรถลดรอยด่างดำ และ ความไม่สม่ำเสมอของสีผิว โดยนำเนื้อวุ้นที่ล้างสะอาด หรือ เจลว่านหางจระเข้ ทาบริเวณใบหน้าวันละ 2 ครั้ง ทิ้งไว้ครั้งละประมาณ 45 นาที รอยด่างดำต่างๆ จะดูลดเลือนลงในเวลา 1-2 เดือน

การรักษาด้วยมาส์กมะละกอ
มะละกออุดมไปด้วยสารปาเปน ซึ่งเป็นเอนไซม์โปรตีน ที่ช่วยขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่สดใสกว่าขึ้นมาแทน ตามหลักแล้วสารปาเปนจะสะสมอยู่ในมะละกอดิบมากกว่ามะละกอสุก แต่การใช้ผลมะละกอดิบมาขัดใบหน้าบริเวณที่มีรอยด่างดำ อาจทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ จึงขอแนะนำสูตรการทำมาส์กมะละกอสุก ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินซีและอี ที่จะช่วยขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม เพียงแค่นำเนื้อมะละกอสุกมาปั่นให้ละเอียดแล้วพอกหน้า โดยเว้นรอบดวงตาทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นจะรู้สึกผิวหน้าเต่งตึงและสดชื่นขึ้น

การรักษาด้วยมาส์กข้าวโอ๊ต-น้ำผึ้ง
ข้าวโอ๊ต และ น้ำผึ้งเป็นส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับอาหารผิว และเป็นสูตรที่นิยมอย่างมาก เพราะ มีสรรพคุณที่ดีต่อผิวพรรณ ใช้ขัดผิวด้วยวิธีธรรมชาติ เพื่อลดจุดด่างดำบนใบหน้า และยังช่วยขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก เพื่อให้ผิวหน้าดูเกลี้ยงเกลาและเปล่งปลั่งสดใส สาวๆสามารถปรุงมาส์กพอกหน้าสูตรนี้ ได้เอง โดยนำข้าวโอ๊ตมาบดให้เป็นผงละเอียด และ ผสมเข้ากับน้ำผึ้งบริสุทธิ์ ทาส่วนผสมนั้นให้ทั่วใบหน้า โดยหลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา ปล่อยทิ้งไว้ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น จากนั้นใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ ซับให้แห้ง

จุดด่างดำที่เกิดขึ้นและสะสมมานานนั้นยากจะกำจัดเสมือนกับคราบตระกันที่เกาะติดแน่นบนกระทะต้องแช่น้ำยาทิ้งไว้ข้ามคืน การจัดการกับปัญหาจุดด่างดำจึงต้องอาศัยเวลาและการรักษาที่ตรงจุด เพื่อเข้ากำจัดต้นตอของปัญหา เอสเค-ทูก็มี SK-II Whitening Spots Specialist Program อันประกอบด้วย Whitening Spots Specialist และ Whitening Spots Specialist Concentrate ซึ่งเป็นโปรแกรมดูแลปรนนิบัติผิวหน้า ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อลดเลือนปัญหาจุดด่างดำที่มองเห็นและซ่อนเร้น แม้แต่จุดด่างดำที่กังวลมายาวนานกว่า 5 ปี


ผ่าน 3 ปฏิบัติการ ได้แก่ ลดการก่อตัวของจุดด่างดำที่กำลังเริ่มขึ้น ช่วยให้จุดด่างดำดูจางลง และ ลดเลือนจุดด่างดำให้ผิวดูกระจ่างใสเจิดจรัส อันมี Alarian สารสกัดจากสาหร่ายสายพันธุ์พิเศษ เป็นหัวใจสำคัญช่วยในการผลัดผิวและเติมความชุ่มชื้นเพื่อให้จุดด่างดำดูจางลง

คุณโสภิตนภา ชุ่มภาณี แบรนด์แอมบาสเดอร์ของเอสเค-ทู แนะนำเทคนิคส่วนตัวในการดูแลรอยคล้ำ และ จุดด่างดำจากประสบการณ์จริงในการใช้ผลิตภัณฑ์เอสเค-ทูมากว่า 10 ปี โดยแนะนำให้ใช้ Whitening Spots Specialist เซรั่มเข้มข้นบำรุงผิวทั้งกลางวันและกลางคืน และใช้ Whitening Spots Specialist Concentrate บำรุงผิวเป็นพิเศษในตอนกลางคืน โดยแต้มบนจุดที่กังวลและนวดด้วยข้อนิ้วให้ซีรั่มซึมซาบอย่างเต็มประสิทธิภาพ

เมื่อใช้อย่างเป็นประจำทุกวัน ก็จะสามารถช่วยให้จุดด่างดำดูลดเลือนลงภายใน 28 วัน และ สาวๆจะสัมผัสได้ถึงประสบการณ์ผิวสวยสมบูรณ์แบบ มั่นใจพร้อมจะอวดผิวใส ไร้จุดด่างดำ ในทุกสถานการณ์

credit: 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up