ฉีดฟิลเลอร์

ดึงหน้า ร้อยไหม ฉีดฟิลเลอร์ เสริมซิลิโคน อยากเสริมความงามเลือกวิธีไหนดี?

Alternative Textaccount_circle
ฉีดฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์

แพรวดอทคอมเชื่อว่าสาวๆทุกคนบนโลกใบนี้อยากสวยกันทั้งนั้น และทุกคนก็มีวิธีการจัดการความสวยของตัวเองแตกต่างกันออกไป บางคนเชื่อว่าสวยธรรมชาติดีแล้ว บางคนก็ว่าแต่งหน้ากลบริ้วรอยน่ะดี บางคนก็คิดว่าฉีดเสริมนั่นเสริมนี่หน่อยก็เริดอยู่ บางคนก็ว่าผ่าตัดเสริมยกเซตเปลี่ยนเบ้าหน้าและส่วนต่างๆของร่างกายไปเลย เจ็บครั้งเดียวแต่สวยจบก็เข้าที บอกเลยค่ะว่า…นานาจิตตัง แล้วแต่ความชอบและไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคล

แต่สำหรับสาวๆบางคนก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ว่าต้องการแบบไหน ไม่รู้ว่าตัวเองขาดอะไร ทำอะไรได้บ้าง อยากเสริมหรือเปล่า หรือพอดีแล้ว เพราะศัลยกรรมแต่ละทีต้องคิดดีๆซะหน่อย แพรวดอทคอมได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญอย่าง นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล ที่จะมาช่วยไกด์ไลน์สาวๆว่า

มีคนชอบถามผมว่าจะเลือกวิธีไหนดี ระหว่างร้อยไหมกับดึงหน้า? ฉีดฟิลเลอร์หรือเสริมซิลิโคน? ทำเลเซอร์หรือผ่าตัด?

ผมขออธิบายโดยรวมอย่างนี้ครับ สำหรับการเสริมความงามตามหลักการแพทย์แบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ซึ่งแต่ละประเภทมีข้อดี – ข้อเสียแตกต่างกันไป

  1. Non-Invasive/Non-Surgical Procedures คือ การเสริมความงามที่ไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด เช่น เลเซอร์ โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ร้อยไหม และการทาครีมต่างๆ วิธีเหล่านี้ข้อดีคือ สามารถทำได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และไม่มีแผลผ่าตัด แต่ข้อเสียคือ ผลที่ได้ไม่ถาวร เช่น โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ต้องมีการฉีดเพิ่มเรื่อยๆ การร้อยไหมอาจอยู่ได้เพียง 1 – 2 ปี ซึ่งให้ผลการรักษาได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น หรืออาจแก้ปัญหาได้เฉพาะสิ่งที่เป็นน้อยๆ ไม่สามารถแก้ไขสิ่งที่เป็นมากๆได้ เช่น ร่องแก้มลึกๆ ใบหน้าหย่อนยานมากๆ ซึ่งอาจแก้ปัญหาริ้วรอยต่างๆได้เพียงเล็กน้อย แต่ไม่สามารถทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากๆและชัดเจนได้ครับ ดังนั้นวิธีการเสริมความงามแบบไม่ต้องผ่าตัดจึงเหมาะสมกับอาการหรือริ้วรอยที่ยังไม่มีความผิดปกติมาก และสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวก ไม่มีแผล แต่ก็ต้องยอมรับว่าผลลัพธ์ในการรักษาอาจไม่ชัดเจนและไม่ถาวร
  2. Invasive/Surgical Procedures คือ การเสริมความงามที่ต้องอาศัยการผ่าตัด (ศัลยกรรม) เช่น การเสริมจมูก ทำตา เสริมหน้าอก ดึงหน้า ดูดไขมัน เป็นต้น ซึ่งวิธีการเหล่านี้มีข้อดีคือ สามารถแก้ไขอาการหรือสิ่งที่เป็นมากๆได้ และให้ผลการรักษาที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนและถาวร เช่น การเสริมจมูก เสริมหน้าอก เมื่อทำศัลยกรรมแล้วจะให้ผลเปลี่ยนแปลงชัดเจน ถาวร และสามารถอยู่ได้ตลอดชีวิตหากไม่มีผลแทรกซ้อนครับ

ยกตัวอย่างเช่น การผ่าตัดดึงหน้า (Facelift) เมื่อทำศัลยกรรมออกมาแล้วจะให้ผลลัพธ์ที่ทำให้ใบหน้าดูอ่อนวัยลงอย่างชัดเจน ร่องรอยลึกต่างๆหายชัดเจน ทำให้ลดอายุลงไปได้ 10 – 20 ปีเลยทีเดียว แต่ก็มีข้อควรระวังคือ คนไข้จะต้องดูแลรอยแผลจากการผ่าตัดให้ดี และจะต้องใช้เวลาในการพักฟื้นที่ยาวนานกว่าการเสริมสวยแบบไม่ต้องผ่าตัด (Non-Invasive) ดังนั้นการทำศัลยกรรมดึงหน้าจึงเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ให้ผลลัพธ์ถาวร และกรณีที่ต้องการแก้ไขอาการผิดปกติมากๆบนใบหน้าครับ ทั้งนี้ผู้รักษาก็จะต้องเข้าใจก่อนว่าการผ่าตัดศัลยกรรมจะต้องมีแผลผ่าตัด และต้องคำนวณเวลาในการพักฟื้นให้ดี รวมถึงจะต้องมีการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดให้ดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดด้วยครับ

ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีการเสริมความงามแบบใด สิ่งที่สำคัญก็คือ คุณจะต้องรู้และศึกษาให้ดีถึงข้อดี – ข้อเสีย ผลที่คาดว่าจะได้รับจากวิธีนั้นๆ รวมถึงผลแทรกซ้อนที่สามารถเกิดขึ้นได้โดยละเอียด และจะต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น

 

เรียบเรียง : PP_แพรวดอทคอม
ภาพจาก Pinterest 
ข้อมูล : นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด

Praew Recommend

keyboard_arrow_up