“อยากหุ่นดี น้ำหนักต้องลดลง” เชื่อว่าสำหรับใครที่มี หุ่นพัง และกำลังอยากเริ่มต้นหันมาดูแลรูปร่างตัวเองอย่างจริงจัง ต้องเคยมีความคิดแบบนี้อยู่เหมือนกันว่า ถ้าอยากจะรูปร่างดี ต้องมีน้ำหนักน้อยๆ แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้ว น้ำหนักเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น น้ำหนักน้อยไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป เราต้องดูองค์ประกอบอื่นในร่างกายประกอบกันด้วย สำหรับใครที่อยากออกสตาร์ทแบบไม่พลาด ลองไป Checklist 4 ข้อ ที่คนอยากเริ่มดูแลรูปร่างตัวเองควรรู้ และควรเช็คก่อนที่ร่างกายจะช้ำ
หุ่นพัง วิกฤติเบอร์ไหน! Checklist 4 ข้อ ที่คนอยากเริ่มดูแลรูปร่างตัวเองควรรู้
1. มวลกล้ามเนื้อ (Muscle Mass)
มวลกล้ามเนื้อมีหน้าที่สำคัญในการช่วยให้ระบบเผาผลาญในร่างกายดีขึ้น ช่วยซัพพอร์ทกระดูก ช่วยให้กลับมาอ้วนช้ากว่าปกติ เวลาชั่งน้ำหนัก ถ้าจะให้ดีต้องดูด้วยว่าในน้ำหนักรวมร่างกายมีมวลกล้ามเนื้อเท่าไหร่ ต่ำกว่ามาตรฐานไหม มากกว่ามวลไขมันหรือเปล่า ถึงแม้ว่าเรากำลังอยู่ในช่วงดูแลตัวเอง แต่ถ้าน้ำหนักเพิ่มก็อย่าเพิ่งขวัญเสีย ถ้าสิ่งที่เพิ่มคือมวลกล้ามเนื้อ นั่นแปลว่าเรากำลังมีรูปร่างและสุขภาพที่ดี หายห่วงได้เลย
2. มวลไขมัน (Fat Mass)
เคยไหมล่ะที่ต้องมานั่งสงสัยว่าทำไมออกกำลังกายแล้วน้ำหนักไม่ลดลงเลยแต่กลับเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ ส่วนหนึ่งมักมาจากอาหารการกินของเราที่เต็มไปด้วยไขมัน ทำให้ค่ามวลไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้น หากปล่อยไว้ไม่ใช่แค่หุ่นเสีย แต่ยังอาจส่งผลต่อสุขภาพได้ ซึ่งเราสามารถวัดค่ามวลไขมันในร่างกายได้จากเครื่องชั่งที่มีฟังก์ชั่นวัดละเอียด ที่สามารถตรวจมวลไขมันและแสดงผลให้ดูกันไปเลยว่าวิกฤติเบอร์ไหน ซึ่งความจริงแล้วแม้น้ำหนักไม่ลดลง แต่มวลไขมันลดลงก็บ่งบอกได้ว่าเรากำลังมีรูปร่างที่ดีขึ้น
3. เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย (% Fat)
เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย ช่วยบอกให้เรารู้ว่าในร่างกายมีส่วนที่เป็นไขมันกี่เปอร์เซ็นต์ เมื่อแยกกับส่วนอื่นๆ (น้ำ กระดูก กล้ามเนื้อ) และช่วยเช็คได้ว่าในน้ำหนักตัวของเรามีเปอร์เซ็นต์ไขมันอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือเปล่า ทำให้สามารถกำหนดทิศทางการออกกำลังกาย และการกินอาหารได้ ซึ่งค่าเปอร์เซ็นต์ไขมันนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปร่างและน้ำหนัก เช่น คนที่ผอมมากๆ น้ำหนักตัวต่ำกว่ามาตรฐาน ก็มีโอกาสที่เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายจะสูงได้ ลักษณะที่คุ้นหูกันดีคือ “อาการผอมแต่ลงพุง” ที่เกิดจากการมีไขมันไปสะสมบริเวณหน้าท้อง เพราะมีกล้ามเนื้อน้อยเกินไป ถึงแม้ว่าน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ แต่ก็เต็มไปด้วยไขมันในร่างกายนั่นเอง
4. เส้นรอบวงเอวและสะโพก (Waist Circumference, Hip Circumference)
เส้นรอบวงเอวและสะโพก เป็นอีกข้อที่ห้ามพลาด เพราะสองค่านี้จะบอกได้ว่าเรามีปริมาณไขมันอยู่ใต้ผิวหนังเท่าไร ช่วยให้เช็คได้ว่าเรามีไขมันสะสมในช่องท้องมากเกินไปหรือยัง โดยค่ามาตรฐานความยาวเส้นรอบเอวสำหรับคนไทย คือ
– สำหรับผู้ชาย ไม่ควรเกินกว่า 90 ซม. (36 นิ้ว)
– สำหรับผู้หญิง ไม่ควรเกินกว่า 80 ซม. (32 นิ้ว)
ถ้าเกิดมีเส้นรอบวงเอวเกินกว่านี้ นอกจากโอกาสที่จะทำให้มีรูปร่างอ้วนแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดหัวใจได้อีกด้วย
สำหรับคนที่เริ่มหันมาดูแลรูปร่างตัวเอง Checklist ทั้ง 4 ข้อนี้ ทุกคนสามารถตรวจวัดได้จากเครื่องชั่งที่มีฟังก์ชั่นในการวัดค่าดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่เครื่องชั่งนี้จะมีให้บริการในฟิตเนส และเมื่อทราบข้อมูลตาม Checklist แล้วเราสามารถกำหนดแนวทางในการออกกำลังกาย และการรับประทานอาหารได้
โดยเฉพาะในเรื่องของการรับประทานอาหาร ข้อมูลจากรายงานผลการวิจัยล่าสุดของภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ดำเนินงานร่วมกับ My Whey ได้เปิดเผยว่า “ภายในระยะเวลา 12 สัปดาห์ การกินเวย์โปรตีนในปริมาณโปรตีน 58 กรัมต่อวัน มีส่วนช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ลดมวลไขมัน และลดเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย รวมไปถึงยังช่วยลดเส้นรอบวงเอวและสะโพกได้ด้วย” ดังนั้น การกินเวย์โปรตีนเสริมเข้าไปในแต่ละวัน ควบคู่กับการออกกำลังกาย จะช่วยทำให้เรามีรูปร่างและสุขภาพดีขึ้น รวมถึงเห็นผลลัพธ์ในการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นขององค์ประกอบร่างกายตาม Checklist ทั้ง 4 ข้ออีกด้วยนะจ๊ะ