ยูนิโคล่

ลดภาระต่อสิ่งแวดล้อม ยูนิโคล่ เตรียมฟอกยีนส์แบบใหม่ ด้วยการใช้น้ำลดลงถึง 99%

ยูนิโคล่
ยูนิโคล่

 ยูนิโคล่ เตรียมฟอกยีนส์แบบใหม่ เพื่อลดการใช้น้ำปริมาณมากในกระบวนการฟอก แต่ในขณะเดียวกันยังมั่นใจได้ถึงคุณภาพและการออกแบบที่ดีเยี่ยม ซึ่งการนำเทคนิคนี้มาใช้นั้น ทำให้ยูนิโคล่สามารถลดปริมาณน้ำที่ใช้ในกระบวนการฟอกกางเกงยีนส์ได้มากถึง 99%

กลุ่มฟาสต์ รีเทลลิ่ง (Fast Retailing Group) เจ้าของแบรนด์เครื่องแต่งกายยูนิโคล่ (UNIQLO) ได้พัฒนากระบวนการฟอกยีนส์แบบใหม่ที่ลดการใช้น้ำลงได้สูงสุดถึง 99% โดยมีค่าเฉลี่ยลดการใช้น้ำลงได้มากกว่า 90% เทคโนโลยีนี้ได้รับการคิดค้นขึ้นที่ศูนย์นวัตกรรมยีนส์ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง (FR Jeans Innovation Center) ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนายีนส์ของกลุ่มฯ ตั้งอยู่ในเมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย และเป็นเทคโนโลยีที่ได้เริ่มนำมาใช้ผลิตจริงตั้งแต่ซีซั่น Fall / Winter 2018 ในกางเกงยีนส์ทรงกระบอก (Regular Fit) สำหรับผู้ชาย และซัสเทเนเบิล แคปซูล คอลเล็คชั่น (Sustainable Capsule Collection) ของ เจ แบรนด์ (J BRAND) โดยในปีนี้กางเกงยีนส์จากทั้งสองแบรนด์รวมจำนวน 10 ล้านตัว ซึ่งเทียบเท่ากับปริมาณเกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนกางเกงยีนส์ที่ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ผลิตขึ้นต่อปี จะถูกผลิตขึ้นโดยใช้กระบวนการฟอกยีนส์แบบใหม่นี้ และภายในปี 2020 เทคโนโลยีใหม่นี้ จะถูกนำมาใช้กับกางเกงยีนส์ทั้งหมดที่ทางกลุ่มฯ เป็นผู้ผลิตและจำหน่าย

 ยูนิโคล่ ฟอกยีนส์แบบใหม่
ศูนย์นวัตกรรมยีนส์ (Jeans Innovation Center) เป็นศูนย์เฉพาะด้านเพื่อการวิจัยและพัฒนายีนส์

นวัตกรรมใหม่ล่าสุดนี้ ได้ผสานการทำงานของเครื่องฟอกอันทันสมัยที่ใช้ฟองอากาศขนาดเล็กระดับนาโนเมตรและโอโซน ผนวกเข้ากับทักษะของนักออกแบบยีนส์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อลดการใช้น้ำลงอย่างมากในกระบวนการฟอก เมื่อเทียบกับวิธีการผลิตแบบเดิมๆ แต่ในขณะเดียวกันยังมั่นใจได้ถึงคุณภาพและการออกแบบที่ดีเยี่ยม ซึ่งการนำเทคนิคนี้มาใช้นั้น ทำให้ยูนิโคล่สามารถลดปริมาณน้ำที่ใช้ในกระบวนการฟอกกางเกงยีนส์ทรงกระบอกสำหรับผู้ชายลงได้มากถึง 99% โดยมีค่าเฉลี่ยการใช้น้ำลดลงมากกว่า 90%

 ยูนิโคล่ ฟอกยีนส์แบบใหม่
กางเกงยีนส์ยูนิโคล่ ทรงกระบอก สำหรับผู้ชาย

 

 ยูนิโคล่ ฟอกยีนส์แบบใหม่
ซัสเทเนเบิล แคปซูล คอลเล็คชั่น ของ เจ แบรนด์ เจ แบรนด์ (J BRAND)

ในปี 2020 ทางกลุ่มฯ มีแผนที่จะผลิตกางเกงยีนส์ 40 ล้านตัว โดยใช้กระบวนการฟอกแบบใหม่นี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดการใช้น้ำลงได้ถึง 3,000,080 ล้านลิตร หรือคิดเป็นปริมาณที่มากพอที่จะเติมลงสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานสากลจนเต็มได้ถึง 1,470 สระ

นอกจากนี้หินภูเขาไฟที่ใช้ในกระบวนการฟอกยังได้ถูกแทนที่ด้วยหินสังเคราะห์ซึ่งสามารถใช้งานแบบกึ่งถาวรได้ จึงช่วยลดมลพิษทางน้ำลง และการใช้แรงงานก็เบาลงด้วยเช่นกัน จากการนำเทคโนโลยีเลเซอร์มาใช้ในกระบวนการขัดแทนที่การทำงานแบบเดิม ซึ่งเป็นการขัดด้วยมือที่ต้องใช้แรงงานสูง

มาซาอากิ มัตซึบารา ผู้อำนวยการของศูนย์นวัตกรรมยีนส์ กล่าวว่า “เราเชื่อว่ายีนส์ที่ถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง จะต้องไม่ผลิตโดยมุ่งเน้นเพียงแค่เรื่องการออกแบบและสวมใส่สบายเท่านั้น แต่ยังต้องผลิตในสภาวะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปกป้องสิทธิ์ของแรงงานที่อยู่ในกระบวนการผลิตด้วย ซึ่งการมุ่งมั่นในแนวทางการผลิตยีนส์เช่นนี้จะนำไปสู่อนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น เราจึงใช้ขีดความสามารถที่กลุ่มฟาสต์ รีเทลลิ่งมีอยู่ ทั้งทางด้านเทคนิคและการประหยัดจากขนาดการผลิต (Economy of Scale) เพื่อร่วมสร้างสรรค์สังคมที่ยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริง”

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up