ลิ้มรสอาหารไทยต้นตำรับที่ ‘มาร์เก็ต คาเฟ่ บาย ข้าว’ การจับมือของโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท และร้าน ‘ข้าว’ ห้องอาหารระดับ 1 ดาวมิชลิน
ถ้าคุณอยากลิ้มรสอาหารไทยแท้ต้นตำรับดั้งเดิม เราแนะนำให้คุณลองมารับประทานที่ห้องอาหาร มาร์เก็ต คาเฟ่ บาย ข้าว ชั้น 4 โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท ซึ่งได้ร่วมกับพันธมิตรอย่าง ‘ร้านข้าว’ ย่านเอกมัย ร้านอาหารเจ้าของรางวัล 1 ดาวมิชลิน ที่ถ่ายทอดรสชาติอาหารไทยอย่างพิถีพิถัน ทั้งการใช้วัตถุดิบสดใหม่บวกกับเทคนิคการปรุงอาหารขั้นสูง เมนูที่เราอยากนำเสนอ เป็นเมนูอาหารไทยสูตรโบราณไม่ว่าจะเป็น แกงรัญจวน และ กรวยกระหรี่ไก่ นอกจากนี้ยังมีอาหารไทยจานเด่นอย่าง ผัดไทยกุ้งแม่น้ำ, แกงมัสมั่น ไปจนถึงจานใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาได้แก่ พะแนงพริกหยวกยัดไส้ และ สะเต๊ะปู
ส่วนเมนูอาหารแนะนำจานอื่นๆ นั้น อาทิ สาคูกรอบหน้าตังกุ้ง เมนูว่างทานเล่นที่ประยุกต์มาจากข้าวตังสมัยรัชกาลที่ 6 มีเรื่องเล่าอยู่ว่า สมัยนั้นผู้คนมักจะถนอมอาหารด้วยการนำข้าวไปตากแดดให้แห้งแล้วค่อยนำมาทอด แต่ทางห้องอาหารได้นำสาคูมาประยุกต์ใช้แทนข้าว แล้วนำไปต้มกับดอกอัญชัน จนได้สีม่วงสวยอย่างที่เห็น สาเหตุที่ใช้ดอกอัญชันเพราะมีสีแต่ไม่มีกลิ่น เมื่อทานคู่กับน้ำพริกหน้าตั้งกุ้งแม่น้ำสูตรเฉพาะ จะให้รสชาติอร่อยกลมกล่อม หอมกะทิ และได้ความหวานกำลังดี
เมนูต่อมาคือ ปีกไก่ไส้ลาบวุ้นเส้น เมนูนี้จะแหวกแนวจากที่เราเคยกินมา เพราะปกติเมนูยัดไส้มักจะทำจากเนื้อหมูหรือไก่ แต่ทางห้องอาหารอยากจะรังสรรค์ความแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร จึงนำปีกไก่มายัดไส้ลาบวุ้นเส้นแทน จากนั้นก็นำไปทอด จนมีสีสวยน่ารับประทาน ปรุงรสให้จัดจ้าน ยิ่งทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว จะได้รสชาติที่อร่อยนัวยิ่งขึ้น
ส่วนถ้าใครเป็นสายเฮลตี้ ขอแนะนำเมนู ยำรากบัว ซึ่งรากบัวนั้นอุดมด้วยวิตามินและเกลือแร่ มีสรรพคุณทางยา ช่วยบำรุงหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิต ห้องอาหารได้นำรากบัวที่มีความกรุบกรอบมาคลุกเคล้ากับน้ำยำรสจัดจ้าน เติมกุ้งเนื้อแน่น ได้รสชาติอร่อยตามต้นตำรับไทยๆ
ต่อมาคือ มัสมั่นน่องแกะ โดยปกติแกงมัสมั่นจะใช้เนื้อไก่เป็นวัตถุดิบหลัก แต่เชฟได้เลือกใช้น่องแกะเกรดพรีเมียมแทน นำไปจี่บนเตาถ่านจนหอม ก่อนจะนำไปตุ๋นในน้ำกะทิและสมุนไพร โดยใช้ไฟอ่อนตุ๋นราว 5 ชั่วโมง แล้วนำมาเคี่ยวต่อในน้ำแกงมัสมั่นสูตรเฉพาะ ได้รสหวาน มัน อมเปรี้ยวนิดๆ เสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิ จานนี้การันตีว่าอร่อยกลมกล่อมแน่นอน
มาต่อกันที่ พะแนงพริกหยวกยัดไส้ สูตรพิเศษของห้องอาหาร ที่ผสมผสานกับแกงพะแนงสูตรเฉพาะ เข้ากันได้ดีกับพริกหยวกหมูสับที่มีความมัน ได้กลิ่นหอมจากใบมะกรูด ส่วนถ้าอยากได้รสชาติน้ำพริกจัดจ้าน แนะนำน้ำพริกหยำ น้ำพริกจากภาคใต้ โดยคำว่า หยำ นั้นมาจากคำว่า ขยำ คือการเอาวัตถุดิบหลายๆ อย่างมาขยำรวมกัน ได้แก่ กุ้ง กะปิ ตะไคร้ มะกรูด คล้ายน้ำพริกกะปิ แต่จะใส่เครื่องและเนื้อกุ้งชั้นโต เสิร์ฟคู่กับผักเคียง
ปิดท้ายด้วยความหวานสองเมนูแนะนำคือ ส้มฉุน เมนูลอยแก้วแบบโบราณ ที่ปรากฏอยู่ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานในรัชกาลที่ 2 ส้มฉุนประกอบไปด้วย ระกำลอยแก้ว, เงาะ, ลำไย, ลิ้นจี่, ส้ม และทับทิมแดง นำไปแช่ในน้ำเชื่อมที่มีส่วนผสมของผิวส้มซ่า 1 คืนจนเข้าเนื้อ และมีกลิ่นหอมเฉพาะ โรยด้วยหอมเจียวและขิงอ่อนซอย รับประทานคู่กับน้ำแข็งจะช่วยคลายร้อนได้ดี
เมนูที่สองคือ ขนมบัวลอยเม็ดบัวดอกหอมหมื่นลี้ การันตีว่ากลิ่นหอมหมื่นลี้สมชื่อ เข้ากันได้ดีกับขนมบัวลอย ซึ่งห้องอาหารได้รังสรรค์บัวลอยที่ไม่เหมือนบัวลอยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นแป้ง ไส้ หรือน้ำกะทิ ก็ล้วนมีส่วนผสมของดอกหมื่นลี้อยู่ด้วย ปั้นขนาดกำลังพอดีคำ ใส่ไส้เม็ดบัวที่กวนเป็นเวลานานจนมีความหนึบนุ่ม ผสานกับความหวานมันและความหอมของดอกหมื่นลี้ในน้ำกะทิ
อยากให้มาลองดูชิมสักครั้งค่ะ
ห้องอาหาร Market Café by Khao เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.30 น. @ชั้น 4 โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท สำรองโต๊ะล่วงหน้าติดต่อได้ที่เบอร์ 02-098- 1234 ต่อ 1346 หรือ อีเมลที่ [email protected]