เรือนเวลาเลอค่าของขวัญแทนใจวันแต่งงาน

ไม่เพียงเครื่องเพชรเลอค่า นาฬิกาหรูระดับลักซูรี่แบรนด์ ยังเป็นที่นิยมมอบเป็นของขวัญชิ้นพิเศษในวันแต่งงาน แพรวพามาซูมอิน 2 เรือนหรูที่ควรค่าแก่การมอบเป็นของแทนใจ

ถ้าให้พูดถึงแบรนด์ที่เป็นที่นิยม ในด้านความเป็นเลิศของคุณภาพ การออกแบบ และเรื่องราวความเป็นมา และยังเป็นดั่งสินทรัพย์ในการลงทุน หนึ่งในนั้นคือ Patek Philippe ซึ่งสองรุ่นล่าสุดของซีรีย์ที่แนะนำมาพร้อมความพร่างพรายของอัญมณีในสองแบบสองสไตล์

นับตั้งแต่เปิดตัวในปี ค.ศ. 2004 ‘Aquanaut Luce’ ในฐานะนาฬิกาเวอร์ชั่นสำหรับสุภาพสตรีของซีรีย์ Aquanaut ที่เปิดตัวในปี ค.ศ. 1997 ‘Aquanaut Luce’ ได้สร้างความสำเร็จอย่างล้นหลามในหมู่สุภาพสตรีที่หลงใหลและชื่นชอบในสไตล์อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงความสง่างามสำหรับทุกโอกาส โดยมีประกายเพชรอันเจิดจรัสประดับตกแต่งไว้บนขอบตัวเรือนซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “Luce” ในภาษาอิตาลีที่หมายถึงแสง

            สำหรับ Aquanaut Luce “Rainbow” chronograph Ref. 7968/300R ใหม่นี้ มากับตัวเรือนโรสโกลด์ 18 กะรัต ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39.9 มิลลิเมตร ติดตั้งกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ คาลิเบอร์ CH 28-520 พร้อมดิสก์คลัทช์แนวตั้ง รวมถึงหน้าปัดย่อยจับเวลาโครโนกราฟ 60 นาที ขนาดใหญ่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา โดยในขณะที่เข็มจับเวลาโครโนกราฟอยู่ ยังสามารถใช้เป็นเข็มแสดงวินาทีต่อเนื่องได้ ด้วยปุ่มกด ณ ตำแหน่ง 4 นาฬิกา ซึ่งควบคุมฟังก์ชั่นฟลายแบ็ก (flyback function) ทำให้สามารถเริ่มต้นการจับเวลาครั้งใหม่ได้ในทุกเวลา

            นอกจากฟังก์ชั่นที่เหนือระดับยังมากับความพร่างพรายของอัญมณีล้ำค่าประดับตกแต่งบนขอบตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมด้วยอัญมณีบาแกตต์คัต (baguette-cut) สองแถว ซึ่งแถวในประกอบด้วยเพชรสีขาวไร้ตำหนิหายากระดับ Top Wesselton จำนวน 40 เม็ด (2.05 กะรัต) ส่วนแถวนอกที่มีมุมเอียงเล็กน้อยเจิดจรัสไปด้วยแซฟไฟร์ 40 เม็ดในหลากหลายเฉดสีรุ้ง (2.31 กะรัต) ซึ่งการจัดวางอัญมณีในรูปแบบสองแถวนี้ Patek Philippe เลือกใช้เทคนิคประดับตกแต่งแบบไร้หนามเตยเพื่อความสมบูรณ์ที่สุด โดยประดับไว้บน “รางโลหะ” (metal rails) ที่ไม่อาจมองเห็นได้จากด้านนอก ลงตัวกับหน้าปัดเปลือกหอยมุก ซึ่งแกะสลักด้วยลวดลายต้นตำรับของ Aquanaut พร้อมทั้งมาร์ก-เกอร์ชั่วโมงทำจากโรสโกลด์ทั้ง 12 ชิ้น ซึ่งประดับด้วยแซฟไฟร์บาแกตต์ (0.31 กะรัต) กับเฉดสีที่ต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่ผสมผสานอย่างลงตัวเข้ากับอัญมณีบนหน้าปัดเรือนเวลา ขณะที่เข็มชี้ทรงบาตอง (baton) เรืองแสงทำจากโรสโกลด์ยังมอบซึ่งความสามารถในการมองเห็นการแสดงเวลาชั่วโมงและนาทีได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

ภายใต้ตัวเรือนซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39.9 มิลลิเมตร ติดตั้งไว้ด้วยปุ่มกดโครโนกราฟทั้งสองปุ่มที่ผ่านการขัดเงาด้วยมือและตกแต่งด้วยงานขัดด้านแบบซาติน (satin-finished) อย่างประณีตโดยศิลปินช่างฝีมือของโรงงานการผลิต ทั้งยังสอดรับอย่างสมบูรณ์ตรงตามเกณฑ์กำหนดของ Patek Philippe Seal (ปาเต็ก ฟิลลิปป์ ซีล) ด้วยกลไก คาลิเบอร์ CH 28-520 ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรประณีตเช่นเดียวกัน โดยสามารถชื่นชมการทำงานและความงดงามของกลไกนี้ได้ผ่านทางฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ของนาฬิกา เพื่อตอบรับกับทุกสไตล์แต่งตัวในแต่ละโอกาส นาฬิการุ่นนี้ยังมากับสายสามสไตล์ ซึ่งทำจากวัสดุคอมโพสิตที่มีความทนทานสูง โดยสายหนึ่งมาพร้อมสีแดง (เวอร์ชันดั้งเดิม) ขณะที่อีกสองสายมาพร้อมกับสีเบจแบบด้าน และสีขาวแบบด้าน ตัวล็อกสายแบบบานพับสิทธิบัตรของ Patek Philippe ที่ประดับตกแต่งไว้ด้วยเพชรบาแกตต์ 10 เม็ด (0.36 กะรัต)

อีกเรือนเวลาแนะนำ NAUTILUS JOAILLERIE ที่นำเรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรี ‘Nautilus ladies’ มาเนรมิตความเปล่งประกายในเวอร์ชั่นประดับอัญมณี ภายใต้ความแวววาวเจิดจรัสอันลุ่มลึกของโรสโกลด์ ที่หล่อหลอมอย่างกลมกลืนเข้ากับเฉดสีอันอบอุ่นของอัญมณีสเปสซาร์ไทต์ (spessartite) ทรงบาแกตต์คัต 68 เม็ด ในรุ่น Ref. 7118/1300R-001 Nautilus Joaillerie ที่ประดับอย่างงดงามล้ำค่าบนขอบตัวเรือนโรสโกลด์ 18 K ผ่านเทคนิคไล่ระดับของสองเฉดสีอันชวนหลงใหล ทั้งระหว่างอัญมณีสีคอนยัค (cognac-colored stones) ณ ตำแหน่ง 12 และ 6 นาฬิกา และระหว่างอัญมณีสีแชมเปญ (champagne-colored stones) ณ ตำแหน่ง 9 และ 3 นาฬิกา ลงตัวกับอัญมณีสเปสซาร์ไทต์สีคอนยัครูปทรงโค้งยอดแหลมอีกทั้ง 11 เม็ด ที่ตำแหน่งบอกชั่วโมง

การตกแต่งอย่างประณีตวิจิตรของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 324 S C ยังสามารถชมได้ผ่านฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ เสริมความสมบูรณ์แบบด้วยสายโลหะตัวล็อกสายแบบบานพับสิทธิบัตรของ Patek Philippe ที่ประกอบด้วยตัวจับล็อคอิสระสี่ตัว