“นักพัฒนาอสังหาฯพันล้าน” คงไม่ใช่คำกล่าวเกินจริงที่จะใช้แนะนำตัวและความสำเร็จของ “คุณทิป – ภรณ์ทิพย์ อัคควิบูลย์” นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของโครงการ “พูนทรัพย์รังสิต” อสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่า ที่เริ่มปลุกปั่นธุรกิจตั้งแต่อยู่ในวัยเรียน จนกลายเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าสูงนับพันสองร้อยล้าน แต่เส้นทางความสำเร็จนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ อาศัยเริ่มก่อน เรียนรู้ก่อน และมุ่งมั่นตั้งใจ เสริมด้วยไอเดียที่ไม่เหมือนใคร ความสำเร็จก็ไม่ไกลเกินเอื้อม

“พูนทรัพย์รังสิต” โครงการที่มีแต่ “เพิ่มพูน”
คุณทิปเล่าถึงภาพรวมของโครงการพูนทรัพย์รังสิตว่า “เป็นส่วนหนึ่งในโครงการของบริษัทพูนทรัพย์รังสิต ที่เน้นธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ซึ่งเรามีทั้งพื้นที่ทำการเกษตร อาคารสำนักงาน ที่ดินเปล่า ฯลฯ ส่วนโครงการพูนทรัพย์รังสิตนั้นเน้นปล่อยเช่าให้กับผู้ทำธุรกิจรายใหญ่ๆ เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ โชว์รูม Ford และรถยนต์ไฟฟ้า NETA ปั๊มน้ำมันบางจาก ธุรกิจโรงเรียนสอนขับรถยนต์ เรื่อยไปจนถึงธุรกิจเบเกอรี่ โรงงานขนม ศูนย์กระจายสินค้านพรัตน์ 20 บาท และโรงงานผลิตคุกกี้ส่งออกด้วยค่ะ
“จุดเด่นของโครงการเราคือทำเลขนาดใหญ่กว่า 40 ไร่ในย่านรังสิต ติดทั้งริมถนนใหญ่พหลโยธิน ใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต อีกทั้งเรายังมีความชำนาญเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จึงพร้อมให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อพัฒนาการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และวางผังโดยใช้ศาสตร์ฮวงจุ้ยร่วมด้วย เพื่อช่วยส่งเสริมธุรกิจของผู้เช่าให้เติบโตไปด้วยกัน ทำให้ส่วนใหญ่ธุรกิจที่มาเช่าพื้นที่ของเราจะเป็นผู้เช่าระยะยาว อยู่ด้วยกันมานานและเติบโตไปด้วยกันจริงๆ
“ปัจจุบันที่ดินของโครงการพูนทรัพย์รังสิตติดกับโครงการหมู่บ้านจัดสรรใหม่ๆ มากมาย ส่วนใหญ่เป็นบ้านราคาระดับกลางถึงบน และปัจจุบันยังมีที่ดินเหลือ 2 แปลง แปลงที่ 1 มีขนาด 3 งาน เป็นพื้นที่ติดถนนพหลโยธิน สามารถทำธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร หรือโชว์รูมเพื่อรองรับความเจริญในโซนนี้ได้อีก
“แปลงที่ 2 เป็นที่ดินขนาด 5 ไร่ 3 งาน ที่เคยเป็นที่เช่าธุรกิจรถยนต์เจ้าใหญ่หลายเจ้า เพิ่งว่างไม่นาน มีอาคารสำนักงานพร้อมใช้งาน ซึ่งลูกค้าที่มาเช่าสามารถตกแต่งนิดหน่อยแล้วใช้ดำเนินกิจการต่อได้เลย โดยแบ่งให้เช่าเริ่มต้นที่ 1 ไร่ค่ะ”

จากนักศึกษาสู่อาณาจักรพันล้าน
คุณทิปเล่าถึงที่มาของการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ จนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นความคิดของนิสิตมหาวิทยาลัย “ทิปเริ่มเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปี 1 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะทิปชอบออกแบบและเห็นการเปลี่ยนแปลงค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการจัดสวน จัดห้อง จะสนุกมาก ยิ่งพอลงมือทำเองแล้วได้เห็นผลงานที่เราตกแต่งห้องหรือออกแบบเอง นอกจากจะรู้สึกภูมิใจ มีความสุขแล้ว ยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับพื้นที่ด้วย ดังนั้นการพัฒนาที่ดินเพื่อนำมาขายให้นักธุรกิจเช่าลงทุนทำกิจการจึงตอบโจทย์ในแง่มุมนี้ ทำให้ทิปเข้าไปพัฒนาโครงการ ‘พูนทรัพย์รังสิต’ แต่กว่าจะทำได้สำเร็จ บอกเลยว่ายากมาก
“ปัญหาที่เจอบ่อยที่สุดคือการถูกผู้รับเหมาโกงค่ะ เช่น จ่ายเงินแล้วไม่ได้ของมาบ้าง แต่ก็กัดฟันทำจนกระทั่งโครงการเสร็จเรียบร้อยและเริ่มปล่อยเช่า ซึ่งถึงตรงนี้ก็พบว่าการคัดกรองสมาชิกเข้ามาอยู่ร่วมกันสำคัญมาก โดยทิปจะเลือกจากลูกค้าที่อยากเข้ามาเช่าพื้นที่ของเราจริงๆ และเคมีการทำงานเข้ากับเราได้ มีไอเดียดี เป็นธุรกิจที่ส่งเสริมกันและกัน มีความหลากหลาย และเป็นธุรกิจที่หลายคนรู้จักกันอย่างแพร่หลาย โดยธุรกิจที่เข้ามาอยู่กับเราช่วงแรกๆ มีทั้งธุรกิจคาร์แคร์ ปั๊มน้ำมัน โชว์รูมรถยนต์ อย่างที่เล่าไป ซึ่งก็ยังอยู่กับเราถึงทุกวันนี้ ที่เหลือหลังจากนั้นคือการคอยดูแลบริหารจัดการโครงการให้ดูดีอยู่ตลอดเวลา

“กว่าจะมาถึงวันนี้ต้องบอกว่าหนึ่งในบทเรียนที่ดีในการทำธุรกิจของทิป ก็มาจากลูกค้าที่กลายมาเป็นครูสอนบทเรียนหลายอย่างในชีวิต อย่างคุณประวิตร พันธุ์สายเชื้อ เจ้าพ่อธุรกิจโชว์รูมรถยนต์ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ทิปยังเป็นนักศึกษา ก็ให้ข้อคิดและคำแนะนำดีๆ หลายอย่าง โดยเฉพาะคำพูดที่ว่าการทำธุรกิจควรโฟกัสทีละอย่าง ทำในสิ่งที่ชอบและถนัด รวมถึงสัจจะคำพูดของคนเราคือเครดิต เป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ ซึ่งแม้โลกปัจจุบันจะเปลี่ยนไปมาก แต่ทิปก็ยังยึดคำสอนของท่านมาจนถึงทุกวันนี้
“สุดท้ายทิปมองว่าในโลกการทำงาน ไม่ว่าจะอาชีพไหนก็ต้องเคยผิดพลาด ทิปเรียนรู้ว่าไม่มีอะไรเป็นกำลังใจให้เราได้ดีเท่ากับตัวของเราเอง จะผ่านไปได้หรือไม่ก็อยู่ที่ใจของเรา ทุกอย่างคือประสบการณ์ที่จะสอนให้เราเก่งขึ้น แกร่งขึ้น และเติบโตจนมีวันนี้ค่ะ”

ต่อยอดความสำเร็จ
หลังจากโลดแล่นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากว่า 17 ปี คุณทิปบอกว่า “สิ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ นอกจากความตั้งใจจริง เรียนรู้ และพยายามแล้ว ส่วนหนึ่งของเคล็ดลับความสำเร็จยังมาจากการใช้ศาสตร์ฮวงจุ้ยในการทำธุรกิจ โดยได้รับคำแนะนำจากซินแสสมปอง (คุณสมปอง มังคละวิรัช) ที่มาช่วยให้คำแนะนำตั้งแต่การเลือกแปลงที่ดินและวางผังโครงการต่างๆ
“พอทำโครงการของเราจนประสบความสำเร็จ จึงนำความสนใจและความรู้ในด้านนี้มาต่อยอดเป็นธุรกิจให้คำปรึกษาด้านฮวงจุ้ยอีกด้วย ซึ่งลูกค้าหลายท่านก็ไว้วางใจและใช้บริการกันอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ เพราะเห็นแล้วว่าการจัดฮวงจุ้ยช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้นจริง ในขณะเดียวกันการให้คำแนะนำด้านฮวงจุ้ยกับต่างประเทศยังเปิดโอกาสให้เราได้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งปัจจุบันเราขยายไปที่อเมริกาและฮาวายแล้ว
“ทิปและสามีทำงานอย่างหนักตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะมองปลายทางไว้ตรงกันว่าอนาคตอยากมีเวลาอยู่กับครอบครัว การเห็นโครงการของเรามีการพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ก็เหมือนเราเลี้ยงลูกคนหนึ่ง มีความสุขเมื่อเห็นเขาเติบโตจนสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ในที่สุด ถือเป็นรางวัลของการทำงานหนักมาตลอด”