ว่ากันว่าการศัลยกรรมหน้าอก คือการผ่าตัดที่ผู้หญิงนิยมใช้บริการสูงที่สุด ไม่ใช่แค่ความสวยงามภายนอก แต่ยังเสริมความมั่นใจภายใน เพราะความพึงพอใจในรูปร่างและการรักตัวเอง คือพลังขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ แพรว และ Breastsociety.com ได้รวบรวมคุณหมอที่มีความชำนาญด้านการศัลยกรรมหน้าอกจากสถาบันชั้นนำมาแนะนำการเลือกสถานพยาบาล การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด วิธีการเลือกแพทย์ รวมถึงคำแนะนำที่คุณไม่ควรพลาด ไปจนถึงตัวแปรสำคัญอย่างซิลิโคนเต้านมที่ต้องได้มาตรฐานและปลอดภัย

นพ.กัมปนาท ตั้งอมตะกุล
SLC Hospital

นพ.วิศรุต ศรีวงษ์เรืองกิจ
SLC Hospital
“การทำศัลยกรรมความงามโดยเฉพาะหน้าอกต้องคำนึงเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก การเลือกทำที่ไหนนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด สถานที่ที่ได้มาตรฐานจะสามารถมอบผลลัพธ์ที่สวยงามสมใจ เพราะเป็นหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยเสริมความมั่นใจว่าจะต้องไม่มีสิ่งที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น
“คำถามคือบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้อยู่วงในจะรู้ได้อย่างไรว่าโรงพยาบาลหรือคลินิกนั้นๆ มีความปลอดภัย ส่วนหนึ่งเราสามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองผ่านโซเชียลมีเดียเบื้องต้น แต่แนะนำว่าอย่าเชื่อโฆษณาหรือโซเชียลมีเดียไปทั้งหมด ต้องดูทั้งลักษณะของสถานที่ การรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และการดูรีวิวเยอะๆ ประกอบกัน
“หากดูจากภายนอกยังไม่มั่นใจก็ควรเข้าไปสัมผัสด้วยตัวเอง สอบถาม เช็กล่วงหน้าว่าแพทย์คนไหนจะเป็นคนทำ สภาพของสถานที่ที่แท้จริงสะอาดได้มาตรฐานหรือไม่ รวมไปถึงอุปนิสัยการต้อนรับของบุคลากรและการให้บริการก็สามารถบอกได้ว่าเป็นอย่างไร จะเอาแต่ขายของหรือไม่ การเข้าไปพูดคุยสอบถามกับแพทย์โดยตรงก็สำคัญ ลองเข้าไปฟังก่อนว่าเขาให้คำอธิบายแนะนำอย่างสมเหตุสมผลหรือไม่
“สุดท้ายคุณสามารถขอดูได้ว่าจะผ่าตัดที่ไหน ห้องผ่าตัดเป็นอย่างไร เรื่องนี้เป็นสิทธิ์ของผู้รับบริการที่ทำได้ เพราะสถานบริการบางที่เป็นคลินิกเปิดไว้เพื่อต้อนรับและให้คำปรึกษา แต่ผ่าตัดที่อื่น ดังนั้นควรสอบถามเรื่องนี้ให้แน่ชัดก่อนตัดสินใจ ลองนำทั้งชื่อสถานที่และแพทย์ไปตรวจสอบว่ามีการรับรองจากแพทยสภาหรือไม่ ควรตรวจสอบหลักฐานทางราชการจึงจะปลอดภัยที่สุด
“หากสถานที่ได้มาตรฐาน แต่อุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน ความปลอดภัยก็เกิดไม่ได้ ที่ SLC Hospital เรารักษามาตรฐานอย่างเคร่งครัด โดยมี AACI ระบบรับรองคุณภาพตามมาตรฐานสากลจากประเทศสหรัฐอเมริกา การเลือกผลิตภัณฑ์ก็ล้วนต้องมีมาตรฐานรับรอง ยิ่งโดยเฉพาะกับการเสริมหน้าอก เราเลือกแบรนด์จากสหรัฐอเมริกาอย่าง Mentor ซึ่งผ่าน USFDA จากสหรัฐอเมริกา โดยถือเป็นบริษัทที่ได้ผ่านมาตรฐานเป็นบริษัทแรกมาใช้ในประเทศไทย
“การจะเลือกใส่อะไรเข้าไปในร่างกายควรต้องมั่นใจว่าดีที่สุด Mentor เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก มีชื่อเรื่องทรงสวย มีความนุ่ม สัมผัสเป็นธรรมชาติเหมือนเนื้อเต้านมจริงๆ ด้วยความที่ SLC Hospital เป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งโดยเฉพาะ ซึ่งให้ความสำคัญกับการรักษาและคุณภาพมาตรฐาน จึงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเสมอครับ
“อยากฝากถึงคนที่มีแพลนทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกให้มั่นใจในมาตรฐานของเราที่ตรวจสอบได้ SLC Hospital มีสถานที่ที่โอ่โถง เรียกว่าเป็นโรงพยาบาลระดับบูติกได้เลย ผู้รับบริการสามารถตรวจสอบห้องพักและห้องผ่าตัดของเราได้ ที่นี่มีห้องผ่าตัดแบบ Positive Pressure ป้องกันการติดเชื้อ มีระบบไฟฟ้าสำรอง ทำให้ไม่มีการสะดุดระหว่างการผ่าตัดแน่นอน แม้แต่การเกิดเหตุไม่คาดฝันอย่างเพลิงไหม้ ประตูห้องผ่าตัดของเราสามารถป้องกันไฟได้ถึงครึ่งชั่วโมง เพราะฉะนั้นเรื่องความปลอดภัยจึงอยากให้วางใจได้ มาตรฐานของ SLC Hospital เข้มข้นและรักษาระดับไม่เคยตกครับ”

นพ.ปิติ รุจนเวชช์
Onemai Clinic
“หนึ่งในหัวใจสำคัญของการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก คือการเลือกชิลิโคนให้เหมาะสม ทั้งเรื่องขนาด รูปแบบ และรูปทรง สำหรับเรื่องขนาดมีหลักการคือเราจะเลือกจากฐานหน้าอกเดิมว่ามีความกว้างเท่าไหร่ และพิจารณาจากความยืดหยุ่นของเนื้อหน้าอก นอกเหนือจากนี้จะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้รับบริการ เรียกว่าจะต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ควบคู่กันครับ
“สำหรับรูปแบบของซิลิโคนจะแบ่งออกเป็นซิลิโคนถุงน้ำเกลือและซิลิโคนเจล แต่ในปัจจุบันซิลิโคนถุงน้ำเกลือได้รับความนิยมน้อยลงมากๆ จนแทบจะไม่เหลือในท้องตลาดแล้ว เพราะให้สัมผัสเวลาจับที่ไม่เป็นธรรมชาติ ดังนั้นจึงเหลือแต่ซิลิโคนเจลที่ได้รับความนิยมเป็นหลัก ซึ่งพอเป็นซิลิโคนเจลก็จะมีอยู่สองพื้นผิวคือผิวเรียบและผิวทราย แต่เนื่องจากผิวทรายมีโอกาสทำให้เกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง จึงทำให้ซิลิโคนเจลผิวเรียบกลายเป็นตัวเลือกหลักในปัจจุบัน
“มาถึงเรื่องรูปทรงที่จะมีทรงกลมและทรงหยดน้ำ แต่เนื่องจากซิลิโคนทรงหยดน้ำเป็นผิวทรายทั้งหมด ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง แม้มีโอกาสน้อยมาก แต่ผมก็จะเลือกซิลิโคนทรงกลมผิวเรียบเป็นหลัก เพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการมากที่สุด เทรนด์ล่าสุดในการเลือกซิลิโคนมักจะเลือกทรงที่ดูคล้ายธรรมชาติ ไม่พุ่งมากจนเกินไป ต่างจากอดีตที่มักจะใส่ทรงพุ่ง เพื่อที่จะใส่ซิลิโคนให้ใหญ่ที่สุด
“ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับซิลิโคนเสริมหน้าอกที่หมอพบบ่อยๆ ข้อแรกคือซิลิโคนยุบลงได้ ซึ่งความจริงแล้วซิลิโคนยังคงมีขนาดเท่าเดิม หากไม่เกิดการรั่วหรือแตก แต่อาจจะเกิดจากอาการบวมของการทำศัลยกรรมในช่วงแรก พอเวลาผ่านไปอาการบวมหายไป หน้าอกเริ่มเข้าที่ ทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่าซิลิโคนยุบลง อีกปัจจัยหนึ่งคือความเคยชิน หลังเสริมหน้าอกวันแรกแน่นอนว่าเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน แต่หลังจากนั้นเราเห็นตัวเองทุกวันก็อาจจะชินตา ข้อสองคือถ้าอยากได้หน้าอกทรงหยดน้ำก็ต้องใส่ซิลิโคนทรงหยดน้ำ ซึ่งข้อนี้ก็ไม่จริง เพราะการสร้างสรรค์รูปทรงหน้าอกขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัด บวกกับการเลือกขนาดของซิลิโคนและการวางตำแหน่งของซิลิโคนอย่างเหมาะสม และความเชื่อผิดๆ อีกข้อที่พบบ่อยคือการเลือกขนาดของซิลิโคนตามเพื่อน เห็นเพื่อนใส่ขนาดนี้แล้วสวย ซึ่งความจริงแล้วควรเลือกตามพื้นฐานหน้าอกเดิมของเราครับ
“ข้อควรรู้ในการทำศัลยกรรมหน้าอกให้ปลอดภัย ข้อแรกคือควรเลือกเข้ารับบริการกับศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีความชำนาญการเฉพาะทาง ข้อสองคือการเลือกสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน มีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานสากล อย่างวันใหม่คลินิกเราเลือกใช้ซิลิโคนที่ผ่านการรับรอง USFDA จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นมาตรฐานที่สูงจากผู้ผลิตที่มีประสบการณ์ยาวนาน”

ผศ. พญ.พูนพิศมัย สุวะโจ
Madame Classique
“ศัลยกรรมหน้าอกปลอดภัย สิ่งที่ควรคำนึงคือผู้รับบริการต้องมีสภาพร่างกายและจิตใจที่พร้อม การเตรียมตัวเบื้องต้น เช่น น้ำหนักคงที่ไม่สะวิง หากต้องการลดน้ำหนักหลายกิโล ต้องลดก่อนศัลยกรรม เพื่อไม่ให้เต้าเสียทรงภายหลัง สำหรับผู้หญิงต้องไม่อยู่ในช่วงมีแพลนตั้งครรภ์ และควรตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมก่อน หากตรวจพบและรักษาพร้อมเสริมเต้าก็จะไม่ทำให้ต้องผ่าตัดซ้ำ สำหรับหญิงข้ามเพศจะมีการรับฮอร์โมนข้ามเพศต่อเนื่องอย่างน้อย 12 เดือนก่อน เพื่อปรับเปลี่ยนสรีระ เช่น มีเนื้อบางลงหรือเต้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้มีลักษณะที่ไม่เปลี่ยนแปลงหลังการผ่าตัด ส่วนขั้นตอนอื่นๆ ของการศัลยกรรมหน้าอกของทั้งผู้หญิงและหญิงข้ามเพศนั้นค่อนข้างเหมือนกัน
“การดูแลตัวเองในช่วงพักพื้นของผู้หญิงและหญิงข้ามเพศมีหลักการคล้ายคลึงกัน หลังผ่าตัดเสร็จใหม่ๆ ในช่วง 4 – 6 สัปดาห์แรกอยากให้ระวังสามข้อ 1.) ระวังไม่ให้เลือดออกซ้ำ เพราะเพิ่งผ่าตัดเสร็จ เส้นเลือดอาจจะยังไม่แข็งแรงดี จึงไม่ควรยกของหนักหรือออกกำลังกายหนัก และควรใส่ยกทรงกระชับตามที่แพทย์แนะนำ แต่ข้อนี้หญิงข้ามเพศต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะกล้ามเนื้อค่อนข้างใหญ่และแข็งแรงกว่าผู้หญิง ฉะนั้นถ้าผ่าตัดใส่ซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อก็อาจจะต้องระวังเรื่องเลือดออก พอยกของนิดหน่อยก็จะเกิดแรงดึงค่อนข้างมาก 2.) ป้องกันการติดเชื้อ หากรู้สึกไม่สบายไม่ว่าจะก่อนหรือหลังผ่าตัดต้องรีบแจ้งแพทย์ทันที 3.) พยายามอย่าให้แผลปริ แผลแยก แผลเปื่อย เช่น ออกแรงว่ายน้ำหรือนอนแช่น้ำนานเกินไป อาจมีปัญหาได้ และตอนที่แพทย์ตัดไหม อย่าดึงเปิดดูบาดแผลบ่อยๆ เพื่อให้แผลสมานติดสนิทและไม่ปริจากแรงดึง
“ปัจจุบันเทรนด์ศัลยกรรมหน้าอกของหญิงข้ามเพศจะค่อนข้างเลือกขนาดที่พอดีกับหน้าอกตัวเอง ไม่ใหญ่เกินไปเหมือนเมื่อก่อน และนิยมใส่ซิลิโคนแบบใต้กล้ามเนื้อ เมื่อก่อนใส่เหนือกล้ามเนื้อ ทำให้เห็นขอบในคนที่เนื้อบางหรือรับฮอร์โมนเร็ว แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น Dual Plane คือใส่ซิลิโคนแบบกึ่งใต้กล้ามเนื้อ ทำให้เนียนมีความคล้ายผู้หญิงตรงเพศมากขึ้น
“หญิงข้ามเพศที่ศัลยกรรมหน้าอกมักมีระยะระหว่างหัวนมถึงใต้ฐานนมสั้น แล้วก็อาจจะไม่มีร่องข้างล่างชัดเจน ด้วยความเนื้อน้อยตามสรีระ เวลากำหนดแผล หากเรียบจะทำให้เห็นแผลชัด อาจเลี่ยงทำที่รักแร้ หรือรอระยะเวลาให้หน้าอกทิ้งตัวลงไปกลบเส้นที่เป็นแผล ฉะนั้นการกำหนดแผลจึงมีความยากมากกว่าผู้หญิงตรงเพศที่มีร่องอยู่แล้วเล็กน้อย
“กรณีที่เสริมมานานกินสิบปีแล้วไม่แน่ใจว่าซิลิโคนยังดีอยู่ไหม ให้หมั่นเช็กเป็นระยะหลังศัลยกรรมว่าซิลิโคนยังอยู่ในสภาพดี ไม่มีปัญหาซึมหรือแตกรั่ว โดยมากเมื่อก่อนจะแนะนำว่าหลังศัลยกรรม 3 – 5 ปีให้เช็กหนึ่งครั้ง อาจจะใช้วิธีการตรวจด้วยแมมโมแกรม (Mammogram) และอัลตราซาวนด์ (Breast Ultrasound) เบื้องต้นหากสงสัยเพิ่มให้ลองตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีปัญหา ปัจจุบันซิลิโคนมีคุณภาพและความคงทนที่ค่อนข้างดี (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อด้วย) ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตามเวลา แต่หากซิลิโคนไม่มีปัญหาก็อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในร่างกายตามเวลาที่ผ่านไป บางครั้งเนื้อยืดขึ้นก็สามารถใส่ซิลิโคนที่ขนาดใหญ่ขึ้นได้ หรือหากผอมลงมากๆ อาจจะต้องทำหัตการอย่างอื่นเสริม เช่น เติมไขมันที่เนินบนเพื่อให้บดบังขอบมากขึ้น หรือปรับเปลี่ยนซิลิโคน ต้องปรึกษาแพทย์ตามกรณี
“การศัลยกรรมหน้าอกนั้นควรเลือกศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีความน่าเชื่อถือและตรวจเช็กได้ เพราะมีส่วนสำคัญมากตั้งแต่การให้คำปรึกษา การเลือกซิลิโคนที่ได้มาตรฐานและคุณภาพดี การแนะนำวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสม ตลอดจนขั้นตอนการผ่าตัดให้ได้ผลดีและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น และควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ที่ทันสมัย และมีทีมแพทย์มากประสบการณ์ เพื่อผลการผ่าตัดที่น่าพอใจและปลอดภัย”

นพ.อภิรุจ ทองวัฒน์
THE KLINIQUE

นพ.พีรยะ กนกศิลป์
THE KLINIQUE
“ปัจจุบันผู้หญิงให้ความสำคัญกับการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกเป็นจำนวนมาก มีรายงานสำรวจจากทั่วโลกพบว่า การศัลยกรรมเสริมหน้าอกคือการผ่าตัดอันดับหนึ่งที่ผู้หญิงนิยมมากที่สุด ซึ่งการผ่าตัดที่ว่านี้ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยความงาม แต่ยังช่วยในการแก้ไขหน้าอกที่มีปัญหา ทั้งหน้าอกหย่อนคล้อยหลังการคลอดลูก หรือผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีหน้าอกผิดรูปหลังจากตัดก้อนเนื้อ รวมไปถึงสาวประเภทสองที่มีหน้าอกห่าง หรือสาวๆ บางคนก็อยากได้แผลเล็ก ซึ่งโดยปกติแผลผ่าตัดมีหลายที่ คือรักแร้ ฐานหน้าอก และรอบถัน ขึ้นอยู่กับการแต่งตัว บางคนใส่เสื้อแขนกุดตลอด ถ้ามีแผลที่รักแร้ก็จะดูไม่ดี บางคนชอบใส่เสื้อคร็อป ไม่อยากให้เห็นแผลที่ใต้ฐานอกเลย ทางเราชำนาญด้านการผ่าตัดแผลเล็ก สามารถทำแผลให้มีขนาดไม่เกิน 2 เซนติเมตรรอบปานนมได้ ปัจจุบันสาวๆ จึงนิยมวิธีนี้มากขึ้น THE KLINIQUE เคยผ่าตัดคนไข้แผลเล็กที่สุดเลยจะอยู่ที่ 1.3 เซนติเมตร ซึ่งเล็กพอๆ กับปลายนิ้วก้อยและแผลบางเท่าเส้นไหม
“ปัจจัยสำคัญที่การทำศัลยกรรมหน้าอกจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการวางแผน หนึ่งคือต้องเป็นแพทย์ผู้ชำนาญด้านศัลยกรรมตกแต่ง / แพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะสาขา เรียนจบด้านศัลยกรรมตกแต่ง นอกจากนี้สถานพยาบาลต้องใหญ่และมีมาตรฐานเพียงพอรองรับเหตุฉุกเฉินได้ เครื่องไม้เครื่องมือก็สำคัญ ซึ่งที่ THE KLINIQUE เราได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลกจาก AACI ซึ่งเป็นระบบรับรองคุณภาพตามมาตรฐานสากลด้านความปลอดภัยและการให้บริการจากสหรัฐอเมริกา
“ในส่วนบริการก่อนการผ่าตัดก็มีความสำคัญ ควรวางแผนอย่างชัดเจน สิ่งที่ผู้รับบริการต้องตอบตัวเองให้ได้คืออยากทำเพราะอะไร เกิดปัญหาตรงจุดไหน และควรปรึกษาหมอหลายๆ ท่าน เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจ และควรตรวจร่างกายก่อนเข้ารับการผ่าตัด อย่างผู้รับบริการบางรายเคยผ่าตัดเสริมหน้าอกมาก่อน แต่ไม่ชอบรูปทรงเดิม ก็ควรจะรู้ว่าตัวเขาเสริมหน้าอกมานานเท่าไหร่ ทำมากี่ครั้ง อย่างบางรายจำไม่ได้ว่าเคยใช้ซิลิโคนรุ่นอะไร ทรงแบบไหน หรือจำไม่ได้ว่า cc เท่าไหร่ ก็จะใช้วิธีอัลตราซาวนด์รวมทั้ง MRI Breast เพื่อดูรายละเอียดคร่าวๆ และก่อนผ่าตัดเราจะให้ผู้รับบริการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ซิลิโคนด้วยการเช็กรหัสบาร์โค้ดว่าตรงกับที่ต้องการหรือไม่ นอกจากนี้ควรพิจารณาเรื่องการบริการหลังผ่าตัดด้วยว่ามีการรับประกันเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งเราจะมีตารางนัดหมายการฟอลโลว์อัพที่ชัดเจน เช่น ผ่านไป 3 เดือน 6 เดือน ต้องมาพบคุณหมอ รวมถึงภายในหนึ่งปี ถ้าหน้าอกมีปัญหาเราก็รับแก้ไขฟรี
“สิ่งที่ผู้รับบริการควรให้ความสำคัญคือซิลิโคน เพราะซิลิโคนแบบเดียวไม่ได้ตอบโจทย์ผู้รับบริการทุกคน ควรพิจารณาแบรนด์ที่มีซิลิโคนให้เลือกลายรูปแบบ อย่างเช่น Mentor สามารถเลือกความกว้างของฐาน ความพุ่งและขนาดที่หลากหลาย ตอบโจทย์ขนาด รูปทรงที่ผู้รับบริการต้องการได้ด้วย ซึ่งเดี๋ยวนี้เทรนด์การทำหน้าอกเปลี่ยนไป อย่างเมื่อสิบปีที่แล้วจะฮิตขนาด 500 – 600 cc แต่ปัจจุบันลดขนาดซิลิโคนลงมา เพราะเน้นความเป็นธรรมชาติมากขึ้น
“นอกจากนี้ผู้รับบริการบางรายก็กังวลเรื่องมะเร็งที่เกิดจากพังผืดของซิลิโคนประเภทผิวทราย ซึ่งต้องเล่าให้ฟังว่ามะเร็งที่เกิดจากการศัลยกรรมเชื่อว่ามีโอกาสที่จะเกิดขึ้นแตกต่างกัน หนึ่ง ขึ้นอยู่กับวัสดุของซิลิโคน ถ้าเป็นประเภทผิวทรายจะมีโอกาสเกิดมากกว่า เพราะความเป็นผิวทราย แม้จะช่วยกระชับหน้าอกที่หย่อนคล้อยได้ดี แต่ผิวของมันเหมือนกระดาษทรายที่ขูดผิวจากข้างในจนทำให้เกิดการถลอก เมื่อแผลเรื้อรังไปนานๆ ก็กระตุ้นการเกิดเซลล์มะเร็งได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ใช้ซิลิโคนชนิดนี้จะเป็นมะเร็งหมด เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านเชื้อชาติด้วย โดยส่วนมากจะพบการเกิดมะเร็งในฝรั่งมากกว่าเอเชีย ขณะเดียวกันคนเอเชียก็ไม่นิยมผิวทราย แต่จะใช้ซิลิโคนผิวเรียบแทน เพราะยังไม่เคยมีอุบัติการณ์เรื่องมะเร็งมาก่อน ซึ่งทางเราเองก็ใช้ซิลิโคนผิวเรียบจากแบรนด์ที่มีมาตรฐาน ซึ่งทั่วโลกใช้งานมาแล้วกว่า 40 ปี
“การทำศัลยกรรมหน้าอกเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง เพราะซิลิโคนต้องอยู่ในร่างกายผู้รับบริการนับสิบๆ ปี บางคนก็อยู่ตลอดชีวิต เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต ซิลิโคนต้องได้มาตรฐานและควรได้รับการรับรองจาก FDA หรือองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา เพราะฉะนั้นควรเลือกสถานพยาบาลที่วางใจได้ มีผลงานที่ดี เรื่องนี้ไม่ต่างจากการซื้อลักชัวรี่แบรนด์ที่ราคาอาจบ่งชี้ถึงคุณภาพได้ในระดับหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญกว่าคือผลงาน เพราะเมื่อจะต้องลงทุนกับชีวิต ก็ควรลงทุนในสิ่งที่ดีที่สุด”
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.breastsociety.com