account_circle#PraewDigitalCover พาไปพูดคุยกับ “นนน & เฌอปราง” 2 นักแสดงนำ จากภาพยนตร์เรื่อง “SLR กล้อง ติด ตาย” กับบทบาทการแสดงที่เติบโตขึ้นอีกขั้น
แค่เปิดตัวมาก็ชวนให้แฟนๆ ลุ้นตายแบบนั่งไม่ติด สำหรับ “SLR กล้อง ติด ตาย” ภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องล่าสุดจากค่าย M Pictures ผลงานการกำกับของ มาร์ค – เลิศศิริ บุญมี และ เอ็ด – วุฒิชัย วงศ์นภดล เสริมด้วยผู้กำกับมากฝีมืออย่าง โขม – ก้องเกียรติ โขมศิริ ที่มารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ในเรื่องนี้ด้วย
อีกทั้งยังได้นักแสดงนำรุ่นใหม่อย่าง นนน-กรภัทร์ เกิดพันธุ์, เฌอปราง อารีย์กุล และ นนท์-ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์ และ อ้น – นพพันธ์ บุญใหญ่
ที่บอกเล่าเรื่องราวของ “แดน” (นนน-กรภัทร์) นักศึกษาหนุ่มคณะภาพถ่าย ที่สอบธีสิสกับอาจารย์เอมมาเป็นปีแล้ว แต่ยังไม่ผ่านเสียที จนในที่สุดอาจารย์เอมได้ให้กล้อง SLR กับเขา เพื่อให้ถ่ายงานที่ดีที่สุดมาส่ง และทำให้แดนค้นพบว่า มันเป็นบททดสอบของกล้องปีศาจ ซึ่งเขาไม่มีทางหนี นอกจากจะต้องเลือกว่าจะยอมตามมัน หรือจะสู้กับมัน ไม่เพียงเท่านั้นเขากำลังจะลากแฟนและเพื่อนของเขาอย่าง “น้ำ” (เฌอปราง) และ “เกรท” (นนท์-ศดานนท์) เข้ามาร่วมชะตากรรมอันน่าสะพรึงกลัวและความตาย
“นนน & เฌอปราง” กับบทบาทใหม่ใน “SLR กล้อง ติด ตาย”
จุดเริ่มต้นของ “SLR กล้อง ติด ตาย” ของ 2 ผู้กำกับ
มาร์ค ผู้กำกับ “ผมชอบดูหนังตั้งแต่เด็ก ติดตามทุกแนว ซึ่งพอเรียนจบด้านฟิล์มที่ New York Film Academy กลับมาทำงานที่ไทย ก็ได้มีโอกาสเจอ คุณเอ็ด (วุฒิชัย วงศ์นภดล) ซึ่งรักหนังเหมือนกัน และได้ทำงานร่วมกัน จนเกิดภาพยนตร์เรื่องแรกอย่าง “หลง” ฉายทางทรู ออริจินอล เมื่อปี 2012
เอ็ด ผู้กำกับ “จากนั้นผมก็ไปทำงานเกี่ยวโปรดักชั่น แต่ระหว่างทางก็คุยกับมาร์ค ว่าอยากทำหนังมาตลอด กระทั่งได้โอกาสได้มาคุยงานกับ เอ็ม พิคเจอร์ส จึงได้พัฒนาบทอยู่พักใหญ่ จนในที่สุดก็ได้มาเป็น SLR ครับ”
มาร์ค ผู้กำกับ “ผมอยากนำเสนอภาพยนตร์สยองขวัญที่ไม่ใช่แนว cliché (ทั่วไป) จึงอยากเสนอไอเดียใหม่ๆ โดยมาในรูปแบบของกล้อง SLR ที่จะมาขโมยชีวิตของคุณไป ซึ่งกล้อง SLR ก็คือ Single Lense Reflex และผมเจอเรื่องนี้ด้วยตัวเองคือ อาม่าไม่ยอมให้ผมถ่ายรูปในงานแต่งงาน ท่านให้เหตุผลว่าเดี๋ยวพลังของฉันจะหาย ตอนนั้นผมก็ตกใจว่าทำอะไรผิด ซึ่งนั่นเป็นความเชื่อส่วนบุคคล
“ผมกับเอ็ดจึงนั่งคิดกันว่า ถ้าเราคิดในเชิงวิทยาศาสตร์ กล้องก็คือกล่อง ๆ หนึ่งที่บันทึกภาพ ภาพคือแสง แสงคือพลัง แสดงว่าพลังของเราส่วนหนึ่งได้ถูกเก็บในแผ่นฟิล์มไปแล้ว จึงเป็นที่มาของ SLR กล้องที่สะท้อนตัวเองเข้าไป และเก็บในฟิล์ม
“ถ้าถามถึงความสยองขวัญในเรื่องนี้ มีแน่ ๆ ครับ แต่เราต้องการทำให้แตกต่างออกไป ในมุมมองที่แปลกใหม่ ผมกับเอ็ดมองว่าหนังเรื่องนี้เป็นแนวความขัดแย้งภายในของมนุษย์ เป็น Psychological Thriller ไม่ได้มีแต่ Horror อย่างเดียว จึงอยากให้ทุกคนมาชมหนังเรื่องนี้ที่มีทั้งสนุกและน่ากลัว”
เอ็ด ผู้กำกับ “อีกส่วนหนึ่งคือ น่าจะเป็น Starting Concept เพราะผูกกับความเชื่อเก่าๆ ซึ่งเป็นจุดร่วมที่เข้าถึงคนหมู่มาก และถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้มีเสน่ห์ตรงไหน ผมคงบอกไม่ได้ แต่ต้องให้คนดูเป็นคนตัดสิน และคิดว่าคนดูน่าจะสนุกไปกับภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ”
บทบาท “น้ำ” ที่ได้รับเป็นอย่างไรคะ
เฌอปราง “ในเรื่อง น้ำ เป็นเวิร์คกิ้งวูแมน กระฉับกระเฉง กลัวแต่ก็กล้าเผชิญหน้า และแต่งตัวมีสไตล์มากกว่าตัวจริงของเฌอ (หัวเราะ) เวลาแสดงเป็นน้ำ เฌอจะนึกถึงตัวเองในเวอร์ชั่นตอนเป็น Head ของงาน เพราะบทเรื่องนี้โตขึ้นกว่าเรื่องอื่นๆ ที่เคยแสดง น้ำอยู่ในวัยสตาร์ทอัพ มีความทะเยอะทะยาน ซึ่งถามว่าใกล้เคียงตัวเฌอไหม ก็ไม่ไกลและไม่ใกล้มากค่ะ
“อย่างถ้าเฌอได้รับมอบหมายโปรเจ็กต์อะไร เราก็จะเป็นแบบน้ำนะ มีเป้าหมายในชีวิตชัดเจน มีความขี้เล่นและมีความจริงจัง แต่สิ่งหนึ่งที่เฌอไม่เคยทำในชีวิตก็คือ น้ำแอ๊วผู้ชายค่ะ (หัวเราะ) แบบว่า เธอเป็นแฟนหันไหม บอกเลยว่าตอนเล่นฉากนี้เขินนะคะ แต่ต้องแสดงออกมาแบบชิลล์ๆ เป็นตัวเองที่สุด”
แล้วคาแร็คเตอร์ “แดน” เป็นอย่างไรคะ
นนน “เป็นคนมุ่งมั่นตั้งใจและพยายาม เป็นคนรุ่นใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จในทางที่เลือก ในเรื่องผมเรียนด้านถ่ายรูปเพื่อหาเลี้ยงชีพ แต่ถูกกดดันจากครอบครัว จึงพยายามจะทำเพื่อพิสูจน์ให้ครอบครัวเห็น
“บท แดน อาจจะมีคล้ายผมในเรื่องความทะเยอทะยาน อยากประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตัวเองรัก อย่างครอบครัวของผมไม่ได้กดดันนะครับ แต่ผมก็รู้ว่าอาชีพการแสดงไม่มั่นคง ก่อนหน้านี้ผมจึงอยากเรียนด้านวิศวกรรมศาสตร์ ครอบครัวก็สนับสนุน หาที่เรียนพิเศษให้เต็มที่ แต่พอผมเปลี่ยนใจมาเรียนนิเทศศาสตร์ ก็มีพูดคุยกับครอบครัวเหมือนกันครับ แต่ท่านก็ปล่อยให้เราได้เรียนรู้เอง ซึ่งผมก็เอาวัตถุดิบและประสบการณ์ตรงนี้ มาใช้ในหนังเรื่องนี้เหมือนกัน”
ร่วมงานกันครั้งแรกเฌอปราง, นนน และศดานนท์ เป็นอย่างไรบ้าง
เฌอปราง “ทั้งคู่เด็กกว่าเฌอ 4-5 ปีเลยค่ะ (หัวเราะ) แต่ว่าทั้งคู่ถือเป็นรุ่นพี่ในการแสดงนะคะ ในการทำงานสนุกสนานมากค่ะ ทั้ง 2 คน คนละคาแรคเตอร์เลย ศดานนท์ จะนิ่งๆ มีโหมดไปนั่งสมาธิเงียบๆ และเข้าถึงบทได้เร็วมาก เก่งมากๆ ค่ะ ส่วน นนน ก็ผ่านงานแสดงมาเยอะ จึงทำให้ได้เห็นความสามารถของเขาที่ปล่อยออกมาเรื่อยๆ และเป็นคนสนุกสนาน ร่าเริง และตั้งใจทำงานมากๆ”
ในเรื่องนี้ต้องฝึกฝนอะไรใหม่บ้างคะ
เฌอปราง “หลักๆ เลย จินตนาการค่ะ เพราะเป็นเรื่องที่เหนือจริง อย่างเวลามองผ่านกล้อง แล้วต้องเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหว เพื่อที่จะแสดงอารมณ์และความรู้สึกออกมาก ซึ่งจริงๆ เรามองฉากเปล่าๆ ไม่ได้เห็นอะไรเลย แต่ต้องแสดงออกมาว่าสิ่งที่เราเห็นมันน่ากลัว ซึ่งเราต้องใช้จินตนาการสูงมาก พยายามนึกถึงสิ่งที่ตัวเองกลัว บวกกับเป็นหนังสยองขวัญที่มีแอ็คชั่นด้วย จึงต้องฝึกทักษะเพิ่มในหลายๆ ด้านเลยค่ะ”
นนน “เรื่องนี้เป็นการเริ่มต้นใหม่หมดเลยครับ เพราะเป็นการแสดงภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกของผม ซึ่งการทำงานเป็นคนละแนวกับซีรีส์เลย บวกกับผมไม่เคยเล่นแนวทริลเลอร์ บวกแอ็คชั่นด้วย มีอะไรหลายๆ อย่างที่ผมไม่เคยทำ ก็ได้ทำในเรื่องนี้ครับ
“และความยากคือ ตอนนั้นผมถ่ายหนัง 3 วัน ถ่ายซีรีส์ 4 วัน จึงต้องมีแอ็คติ้งโค้ชช่วย เพราะการแสดงหนังและซีรีส์ แม้ว่าเป็นการสื่อสารเหมือนกัน แต่เป็นคนละแบบ ใช้พลังคนละแบบ เวลาเล่นหนังต้องเล่นจากอินเนอร์ข้างใน แต่ห้ามปล่อยออกมาเยอะนะ เพราะจะไม่เนียน”
ฉากไหน ยากที่สุดคะ
นนน “ยากทุกฉากเลยครับ แต่ละฉากต้องใช้พลังเยอะมาก ต้องเรียนรู้ใหม่หมดเลย และสังเกตจาก ศดานนท์ พี่เฌอ และพี่อ้น ปรึกษาผู้กำกับครับ”
ฝากเรื่อง “SLR กล้อง ติด ตาย” หน่อยค่ะ
นนน “มีความ Coming of Age ที่มีฟีลสยองขวัญครับ แต่มี Psycological นิดๆ ด้วย ผมคิดว่าเรื่องนี้มีความน่าสนใจตรงที่เล่นกับความเชื่อชุดใหม่ที่ผู้กำกับอยากให้ทุกคนเข้าไปลองสำรวจในโลก SLR อยากฝากให้ทุกคนติดตาม เพราะผมทุ่มเทมากๆ ทีมงานนักแสดงทุกคนตั้งใจหมด ไปให้กำลังใจและไปชมกันเยอะ ๆ นะครับ”
ชมภาพยนตร์เรื่อง “SLR กล้อง ติด ตาย” พร้อมกัน ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ ทุกโรงภาพยนตร์
เรื่อง Minim
ช่างภาพ วรสันต์ ทวีวรรธนะ
สไตลิสต์ UnseenUp
ผู้ช่วยช่างภาพ ภาดร ขจรฤทธิ์, ณัฐวุฒิ สุวรรณประทีป
ผู้ช่วยสไตลิสต์ จิรพรรณ บุดดาวงศ์
แต่งหน้า ภคมน คชาภา
ทำผม วรรณวนัช เล็กอิ่ม
เสื้อผ้า Gucci, Versace, Ermenegildo Zegna