เฟิร์น นพจิรา  

ครอบครัว ความรัก แผลในใจของ เฟิร์น นพจิรา ทุกบทเรียนเวลาซื้อไม่ได้

เฟิร์น นพจิรา  
เฟิร์น นพจิรา  

ขึ้นแท่นนางเอกเจ้าน้ำตาไปแล้ว สำหรับสาว เฟิร์น นพจิรา ฤกษ์ขจรนามกุล กับบท “ตรีนุช” หญิงสาวที่ภายนอกดูเข้มแข็ง แต่ของในเปราะบาง ในละครดราม่า สุดเข้มข้นอย่าง “เวลากามเทพ” ทางช่องวัน 31 ซึ่งฟีดแบคกำลังดีเลยทีเดียว แพรวดอทคอม มีโอกาสได้พูดคุยกัยเธอ เลยไม่พลาดที่จะล้วงลึกทุกประเด็นมาฝากแฟน ๆ ไปติดตามกันเลยค่า

เฟิร์น นพจิรา  

ครอบครัว ความรัก แผลในใจของ เฟิร์น นพจิรา ทุกบทเรียนเวลาซื้อไม่ได้  

เฟิร์น นพจิรา  

ชื่อเรื่อง “เวลากามเทพ” แสดงว่าต้องมีเงื่อนไขในเรื่องของเวลามาเกี่ยวข้อง ?

“ใช่ค่ะ ธีมหลักของเรื่องนี้คือเรื่องของ “เวลา” นิยามคำว่าเวลาของแต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับภูมิหลังและประสบการณ์ของแต่ละคน สำหรับ “ตรีนุช” เขามีประสบการณ์ ที่ทำให้รู้สึกว่าไม่สามารถเสียเวลากับอะไรได้เลย ภายนอกดูเข้มแข็ง ในขณะเดียวกันก็มีความเหงา มีความอ่อนไหวซ่อนไว้เหมือนกันค่ะ”

มุมมองเรื่องเวลาของ “ตรีนุช” กับ “เฟิร์น ” เหมือนหรือต่างกันยังไง ?

“เฟิร์นว่าค่อนข้างเหมือนนะคะ เวลาจะผูกพันกับคนที่มีผลต่อความรู้สึกของเรา ยิ่งคนนั้นมีความสำคัญมาก ๆ เราก็มักจะให้เวลากับเขา แต่บางครั้งคนที่อยู่ใกล้ตัว เราอาจหลงลืม ละเลยเขา เพราะคิดว่าไม่เป็นไร พรุ่งนี้ก็ได้ แต่เราไม่รู้เลยว่าทั้งเราและเขาจะมีวันพรุ่งนี้ด้วยกันได้ไหม”

เฟิร์น นพจิรา  

มีเรื่องอะไรที่เป็นบทเรียนสำคัญ ทำให้รู้ว่า เวลา คือสิ่งที่มีค่า ?

“มีค่ะ เป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนความคิดและสร้างแผลในใจ คือ เหตุการณ์ก่อนที่อาม่าเฟิร์นจะเสีย 1 วัน ซึ่งเราก็เห็นในกรุ๊ปครอบครัวส่งรูปมาว่าอาม่ามาอยู่กับคุณอา ก็คิดว่าเดี๋ยวไปหาท่านดีกว่า ตอนนั้นประมาณ 2 ทุ่มแล้ว ก็งั้นไปพรุ่งนี้เช้าเลยแล้วกัน แต่ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นคุณพ่อโทรมาบอกว่าอาม่าเสียแล้วนะ เราก็ช็อกไปเลย ทำให้เราเข้าใจคำว่าพรุ่งนี้ไม่มีจริง เวลาไม่เคยรอใครจริง ๆ ว่าเป็นความรู้สึกแบบนี้นี่เอง”

การร่วมงานกับ ตรี ภรภัทร เป็นยังไงบ้าง ?

“เราเวิร์คช็อปเยอะพอสมควร ทำให้ละลายพฤติกรรมกันหมดแล้ว มีความเชื่อใจกันสูงมาก หลายครั้งเราเจออะไรที่เป็นเมจิกโมเมนท์ แต่ปัญหาตอนแรก คือ เราติดความเป็นเพื่อนมากเกินไป ก็ต้องเพิ่มเคมีความเป็นหนุ่มสาว ให้ฮอร์โมนพลุ่งพล่าน(หัวเราะ) เพราะตัวละครสองคนนี้รักกันมาก แต่เป็นความรักภายใต้เงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้ ก็จะมีความดึงดูดกัน และผลักออกจากกัน เหมือนแม่เหล็กค่ะ”

เฟิร์น นพจิรา

เฟิร์น นพจิรา  

จะได้เห็นเคมีความจิ้นเขนาดไหน ?

“มีเยอะมากค่ะ ความจิ้น ความฟินเรื่องนี้ เหมือนเป็นการทุบหัวหลอกคนดูเข้าบ้าน(หัวเราะ) ด้วยความที่ รักก็รักสุด เสียใจก็สุด ทุกข์ก็สุด มีมวลอารมณ์ของมนุษย์ในทุกทางไปเลย ทุกคนจะเห็นความเข้มข้นของอารมณ์ ยิ่งดราม่าเท่าไหร่ก็ยิ่งรักกันมากเท่านั้น หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คนดูได้สัมผัสถึงพัฒนาการที่เติบโตขึ้นของเฟิร์น เรื่องนี้เฟิร์นใส่ลายเซ็นตัวเองลงไปเยอะเหมือนกัน ส่วนเคมีก็เป็นเรื่องของจริตคนดู ว่าเขาชอบแบบไหนมากกว่าค่ะ”

ลายเซ็นทางการแสดงของเฟิร์นเป็นแบบไหน ?

“จริง ๆ ก็ถามตัวเองอยู่บ่อย ๆ นะ สำหรับเฟิร์นเรื่องนี้น่าจะเป็นแบบนางเอกเจ้าน้ำตา แต่แปลกที่คนดูชอบเห็นเราในลุคนี้ เพราะดึงดูดให้คนดูรู้สึกร่วมไปกับเราได้ ซึ่งเราก็อยากให้เขาเห็นว่าเราก็เป็นนักแสดงที่มีคุณภาพคนนึงค่ะ”

เฟิร์น นพจิรา  

เข้าวงการมา  5 ปีแล้ว ความรู้สึกของเฟิร์นเป็นยังไงบ้าง ?

“รู้สึกว่าเรากำลังเดินอยู่บนภูเขาอีกลูกหนึ่งกลางป่าใหญ่ ซึ่งเราก็มั่นใจว่าตัวเองเป็นนักแสดงมีคุณภาพ เฟิร์นว่าไม่ใช่สิ่งที่ผิด ที่เราจะให้กำลังใจหรือเห็นคุณค่าตัวเอง การที่เราเห็นคุณค่าของตัวเอง คนอื่นเขาก็จะเห็นคุณค่าในตัวเราเหมือนกัน แต่เราไม่ได้มองว่าตัวเองอยู่จุดสูงสุด ตอนนี้เรากำลังไต่เขาแต่ละลูกขึ้นไป วันนี้เราไต่เขาลูกนี้ได้ วันข้างหน้าก็จะมีเขาลูกอื่นให้ข้ามไปอีก ถ้าวันนึงเราขึ้นไปอยู่จุดที่สูงกว่านี้ ก็ยังมีจุดที่สูงขึ้นไปอีก เป็นความท้าทายที่สนุกค่ะ”

เป้าหมายในการทำงานของเราคืออะไร?

“เฟิร์นอยากให้คนดูมีความสุขกับผลงานของเรา อยากให้คนที่คอยซัพพอร์ตเรา รู้สึกว่าเขาเลือกคนไม่ผิด ที่เขาทุ่มเทให้เรา แต่ละปีหนูก็จะทำให้พวกเขาภูมิใจในตัวหนูมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะแฟนคลับ เป็นเซฟโซนที่พร้อมเป็นหลังบ้านเป็นที่ดี  เป็นพลังงาน เป็นกำลังใจที่ดี นี่คือสิ่งที่ประทับใจมาก ๆ ค่ะ ”

เฟิร์น นพจิรา  

เฟิร์น นพจิรา

รีวิวชีวิตในปี 2022 ให้ฟังกันสัดนิด ?

“อย่างแรก คือ ติดโควิด-19 ต้อนรับวันเกิดเลย (หัวเราะ) เป็นการก้าวเข้าสู่วัย 27 ที่น่าตื่นเต้น กำลังจะเป็นผู้ใหญ่ รู้สึกมีวุฒิภาวะ มีความสุขมากขึ้น เห็นคุณค่าของการมีลมหายใจของตัวเองในทุก ๆ วัน รวมถึงเห็นคุณค่าคนที่อยู่ใกล้ตัวเรา ใช้ชีวิตอยู่บนความเกลียดชัง หรือโกรธน้อยลง ปล่อยวาง มีสติมากขึ้น ที่สำคัญเฟิร์นมีแพชชั่นกับการแสดงที่แข็งแรงและสนุก อยากให้คนดูเซอร์ไพรส์ทุกครั้งที่เห็นผลงานของเรา ถ้านึกถึงนักแสดงสายฝีมือ ก็อยากให้คนนึกถึงชื่อเราเป็นหนึ่งในนั้นค่ะ”

ถามถึงเรื่องหัวใจบ้าง ?

“จริง ๆ ก็มีคนที่คุยอยู่ค่ะ  พอทำงานตรงนี้ก็ค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องงานมาก คนที่เข้ามาเขาต้องเข้าใจในสิ่งที่เราทำอยู่ เพราะเราก็ไม่อยากคบแล้วคุยเล่น ๆ เฟิร์นเป็นคนจริงจังกับเรื่องความรัก แค่เราไม่ได้เอาออกมาเปิดเผย เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งเขาก็สนับสนุนการทำงานของเรา ถ้าถามว่าชอบคนแบบไหน ก็ชอบคนอบอุ่น มีความเป็นผู้นำ แชร์ความคิดกับเราได้ และซัพพอร์ตเราได้ เฟิร์นให้ความสำคัญกับเรื่องของความคิดและจิตใจค่ะ”

เฟิร์น นพจิรา

เคยมองภาพการใช้ชีวิตครอบครัว อยากแต่งงานตอนอายุเท่าไหร่ ?

“เฟิร์นว่าเป็นเรื่องของจังหวะชีวิต ถ้าถึงเวลาที่เราคิดว่าเหมาะ หรือใช่ก็คงเป็นเวลานั้น เฟิร์นไม่อยากให้ตัวเลขมาเป็นตัวกำหนดว่าชีวิตเรา ต้องเป็นแบบนี้ เพียงเพราะทำตามกรอบของสังคม เพราะสุดท้ายแล้วทุกอย่างขึ้นอยู่กับมุมมอง การใช้ชีวิตและตัดสินใจของเรา ชีวิตของเราก็ควรจะได้ใช้ในแบบที่เราอยากใช้จริง ๆ เรื่องการมีครอบครัว แต่งงาน มีลูก มันเป็นอีกสเต็ปนึงของชีวิต กว่าจะไปถึงขั้นนั้นเฟิร์นยังมีเป้าหมายอีกหลายอย่าง ที่อยากทำก่อน เรื่องนั้นไว้หลังอายุ 30 เลยค่ะ”

เขารอไหวใช่ไหม ?

“ก็ไม่รู้(ยิ้มเขิน) อันนี้เราก็ตอบไม่ได้จริง ๆ ว่าอนาคตจะเป็นยังไงค่ะ”

เฟิร์น นพจิรา

สิ่งที่อยากจะฝากถึงแฟน ๆ ?

“ก็อยากจะขอบคุณทุกคนที่ติดตามและให้กำลังใจมาจนถึงตอนนี้ หวังว่า “เวลากามเทพ” จะมอบความสุขให้กับคนดูได้ เรื่องนี้เฟิร์นทุ่มสุดชีวิตสุดหัวใจจริง ๆ หวังว่าทุกคนจะเป็นกำลังใจ เป็นพลังงานที่น่ารัก แบบนี้ให้เฟิร์นไปเรื่อย ๆ สัญญาว่าจะตั้งใจทำงาน และเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิมในทุก ๆ วันแน่นอนค่ะ(ยิ้ม)”


ภาพจาก : กองละครเวลากามเทพ

Praew Recommend

keyboard_arrow_up