ล้วงหัวใจ แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ มุมมองความรักถึงอนาคตการแต่งงานใหม่
แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ

ล้วงหัวใจ แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ มุมมองความรักถึงอนาคตการแต่งงานใหม่

account_circle
แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ
แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ

ย้อนอ่านบทสัมภาษณ์ ล้วงหัวใจคุณมัมสายสตรอง  แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ เล่ามุมมองความรักถึงอนาคตการแต่งงานใหม่

หลังจากที่ ชมพู่-อายา ได้แซว แอ-ทักอร ภักดิ์สุขเจริญ พิธีกรร่วมในรายการ 3แซ่บ เกี่ยวกับความรักครั้งใหม่กับหนุ่มรุ่นน้อง จนทำให้แม่แอถึงกับเสียอาการจนทำให้แฟนคลับพยายามที่จะตามสืบว่าหนุ่มคนนี้เป็นใครกันแน่ ท่ามกลางข่าวลือว่าอาจเป็น 4 หนุ่ม ทิมพิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร, ตี๋-ธนพล จารุจิตรานนท์ และ หมอเน๋ง-ศรัณย์ นราประเสริฐกุล แต่ล่าสุดแอได้ออกมาปฏิเสธข่าวทั้งหมดผ่านบันเทิงไทยรัฐ โดยระบุว่า

“เป็นสิ่งที่แม่ชมพูดในรายการ เป็นการแซวกันเล่น แม่ชมชอบแซว เพราะอยากให้เรามีแฟนใหม่ และที่หลายคนคาดเดา ไม่ว่าจะเป็น ต่อ-ธนภพ, ทิม-พิธาหรือ ตี๋-ธนพล ด้าน “แม่แอฟ” ยืนยันว่าไม่ใช่สักคน สำหรับต่อ ตั้งแต่ถ่ายละครจบก็ไม่ได้คุยกันเลย ส่วน ทิมพิธา ก็รู้จักกันมานานแล้ว รวมถึงรู้จักกับ ต่าย-ชุติมา ด้วย ไม่ต้องตกใจถ้าจะเห็นอีกฝ่ายมาคอมเมนต์ในไอจี ขณะที่ ตี๋ ก็ไม่ได้มีอะไร น้องแค่ชื่นชอบเฉย ๆ ยืนยันว่าตอนนี้โสดและเหงามาก ทุกวันนี้ตื่นก็ไปถ่ายซีรีส์ให้ “หม่อมน้อย หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล” ตั้งแต่เช้ามืดเลย”

ล้วงหัวใจ แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ มุมมองความรักถึงอนาคตการแต่งงานใหม่

แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ3

ทั้งนี้เมื่อ 9 เดือนที่แล้ว นิตยสารแพรว ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ แอฟ-ทักษอร เกี่ยวกับมุมมองความรัก หลังจากที่ผ่านมรสุมลูกใหญ่ รวมถึงถึงอนาคตการแต่งงานใหม่ ที่เธอจะว่าอย่างไรนั้นต้องไปติดตามในบทสัมภาษณ์นี้กันค่ะ

วันนี้ก็รู้สึกยินดีมาก ๆ นะคะที่ทางแพรวได้มีโอกาสมาคุยกับคุณแอฟอีกครั้งหนึ่งนะคะ ตอนนี้งานยุ่งมากขนาดไหนคะ?

แอฟ : แน่นดี สนุกดี สนุกค่ะ เมื่อก่อนนี้ แอฟจะไม่ใช่คนอย่างนี้เลย แต่ตอนนี้พอมันมีอะไรที่หลากหลายขึ้น เราทำงานหลายช่องขึ้น เรามีงานหลายรูปแบบมากขึ้น มันกลับสนุกขึ้นค่ะ

ตอนนี้เหมือนพูดเก่งขึ้นมากด้วยหรือเปล่าคะ?

แอฟ : ด้วยค่ะ แต่ต้องบอกว่าจริง ๆ สิ่งที่ทำให้แอฟพูดเยอะขึ้น คือไม่อยากพูดคำว่าพูดเก่ง เพราะว่าแอฟก็ยังไม่คิดว่าตัวเองพูดเก่งอยู่ดี แต่ว่าอย่างน้อยก็พูดเยอะขึ้นคือปีใหม่

เพราะลูกเลยใช่ไหมคะ?

แอฟ : เพราะลูกเลยค่ะ เลยต้องทำให้เป็นคนที่จากที่ไม่เคยชอบอธิบายอะไร แล้วแต่คนจะมอง เข้าใจไม่เข้าใจก็แล้วแต่ ตอบอะไรก็ตอบสั้น ๆ ตั้งแต่มีลูกคือแอฟต้องบอกเลยว่าแอฟพูดเยอะที่สุดในชีวิต

แสดงว่าน้องปีใหม่เข้ามาเปลี่ยนอะไรหลาย ๆ อย่างในชีวิตแอฟเยอะมากเลยหรือเปล่า?

แอ : หลายอย่างจนเรียกได้ว่าแทบทุกอย่างเลยค่ะ มันทุกอย่างเลยค่ะ มุมมองชีวิต ความคิด การตัดสินใจ หรือแม้กระทั่งแบบชีวิตประจำวัน ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต การแบ่งเวลาคือทุกอย่าง คือเขาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรา

สวยและดูแลตัวเองดีขนาดนี้ มีคนมาจีบไหมคะ?

แอฟ : อายจังเลยที่ต้องตอบว่าไม่มี

จริงหรือเปล่า?

แอฟ : ไม่มีค่ะจริง ๆ

ส่วนตัวลึก ๆ คือความรู้สึกเราถ้ามีคนเข้ามาคือเราพร้อมที่จะเปิดใจหรือยัง?

แอ : จริง ๆ ไม่เคยปิดค่ะ แต่ต้องยอมรับว่าไม่ได้สนใจ แอว่าสำหรับคนเป็นแม่โดยเฉพาะ อันนี้ก็ต้องพูดตรง ๆ ว่าเป็น single mom และก็ยังทำงานด้วยอะไรอย่างนี้ค่ะ มันไม่มีเวลาที่จะคิดจริง ๆ นะคะ

หรือจริง ๆ อาจจะมีคนเข้ามา แต่คุณแอฟไม่รู้ตัวหรือเปล่าว่าเขากำลังเข้ามาจีบอยู่?

แอฟ : คิดว่าไม่นะ มันฟังดูน่าสงสารไหม ไม่เอานะไม่ต้องสงสารนะคะ  (หัวเราะ) พูดเล่นไม่ต้องสงสารเลย คือคิดว่าไม่ค่ะ อืม คิดว่ามั่นใจ เพราะทุกวันนี้แอฟไม่ค่อยได้แบบ มันอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิม ๆ แอฟอยู่ทำงานกับประมาณสามทีม ทีมละคร ทีมรายการอีกสองรายการ ไม่ค่อยได้เจอใครนอกจากนี้เท่าไหร่ ก็อาจจะมีบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ อะไรอย่างเงี้ย แต่ซึ้งแอฟว่าจริง ๆ มันอาจจะไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะในสังคมไทย ในการที่จะเริ่มต้นใหม่ เรามีทั้งตัวตนที่มาพร้อมเรื่องราวที่ทุกคนรู้ คือมันไม่ได้มาแบบเงียบ ๆ และก็มีลูกสาวอีกหนึ่งคนอะไรงี้ค่ะ แต่จริง ๆ ลูกสาวเปิดรับมากเลยค่ะ ลูกสาวผลักดันตลอด

ลูกสาวมีหวงคุณแม่ไหมคะ?

แอ : เชียร์มาก เชียร์มั่วไปหมดเลยลูก เชียร์มาก คือเขาอยากเห็นแม่ยิ้ม ก็เคยถามเขานะคะ ก่อนหน้าเขาก็บอกเขาอยากมีน้อง แอบอกปีใหม่ แม่จะมีน้องได้ยังไงลูก วันๆ แม่อยู่กับหนูทุกวัน แม่ไม่เคยอยู่กับใครเลย ไม่เจอไม่มีเอางี้ดีกว่า แถมยังบอกอีกว่า “เดี๋ยวหนูหาให้เอง” ปีใหม่เขาเป็นแบบนี้ คือเขาไม่คิดว่าเป็นเรื่องดราม่าหรืออะไร เขาแค่รู้สึกว่า อยากเห็นภาพนั้น ไม่ได้หวงแม่เลย

ทุกวันนี้ความในชีวิตของพี่แอฟคือนอกจากงาน และก็น้องปีใหม่ ยังมีความสุขอะไรในแง่อื่นอีกบ้างมั้ยคะ ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าแบบจริง ๆ พี่แอฟก็มีมุมนี้เหมือนกัน?

แอฟ : คือรวม ๆ แอฟว่าคงมีความสุขกับการที่ตอนนี้แอฟยังสามารถบาลานซ์ทุกอย่างได้อย่างลงตัว ยังมีเวลให้ตัวเอง ถึงแม้จะน้อยมาก คือต้องรอปีใหม่หลับก่อน มีเวลาให้ลูก มีเวลาทุ่มเทให้กับการทำงาน ยังมีเวลาดูแลครอบครัว คือคุณพ่อคุณแม่ ยังมีเวลาให้เพื่อน ซึ่งโอเคส่วนนี้อาจจะน้อยที่สุด แต่ไม่ใช่ไม่รัก เรารักกัน แต่ว่าเพื่อนก็อยู่ในช่วงนี้เหมือนแอฟเหมือนกัน คือช่วงเวลานี้มันเหมือนเป็นช่วงเวลาแบบจะต้องสุด ๆ ไปเลยกับการทำงาน เหมือนกับถ้าไม่พีคตอนนี้ไม่เต็มที่ตอนนี้ มันไม่มีโอกาสนี้แล้วนะ

แม่ลูกคู่นี้บอกรักกันทุกวันไหมคะ?

แอ : พูดทุกวันตลอดเวลา อันนี้อาจเป็นความเคยชินที่เราทำกับเขามาตั้งแต่เล็ก และที่บ้านหมายถึงครอบครัวแอ คุณตาคุณยายทั้งสองคู่ก็บอกรักกันตลอด ที่บ้านเราจะเป็นอย่างนี้ตลอด คุณพ่อคุณแม่แอยังกอดหอมบอกรักแอ เพราะอย่างนั้นน้องปีใหม่จึงเคยชินในการแสดงออกถึงความรัก ความห่วงใยกับคนในครอบครัวว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ และมันเป็นเรื่องที่ดี มันไม่ใช่เรื่องน่าเขินหรืออะไร

ลูกสาวนี่คือเป็นส่วนสำคัญเลยไหมคะที่ทำให้คุณแอฟกลับมาได้เร็วอย่างทุกวันนี้?

แอ : ใช่ค่ะ เป็นส่วนสำคัญ อันนี้ต้องยอมรับเลย คือด้วยส่วนตัวแอฟเป็นคนที่ก่อนตัดสินใจเอาแน่นอน มันมีช่วงที่เราดาวน์ เราเสียใจอะไรมาก็แล้วแต่ แต่ก็เป็นคนมั่นใจว่า เมื่อเราพยายามจนถึงที่สุดแล้ว คือมันไม่มีที่สุดกว่านี้แล้ว หมายถึงเราทำดีที่สุดแล้ว เราให้เวลากับมันแล้ว เราพยายามดีที่สุดแล้ว เราแก้ไขปรับปรุงตัว เราเห็นว่าตรงไหนเป็นจุดบอด เราแก้หมดแล้วทุกจุด เมื่อเราพยายามดีที่สุดแล้ว เราทำไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว เราจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจของเราแล้ว

แอ :อันนี้คือจุดสำคัญจุดแรก แต่พอหลังจากนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง หลังจากที่เราตัดสินใจไปแล้ว ลูกเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เราไม่เสียเวลานานกับจมอยู่กับอะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ เพราะยิ่งลูกเหลือเราคนเดียว เรายิ่งต้องแบบยิ่งต้องทุ่มเทให้ลูก เราจะเสียเวลากับเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์กับตัวเราแล้วเป็นประโยชน์กับลูกไม่ได้ เราจะแบบเสียใจ ดาวน์อยู่ไม่ได้เพราะลูกมองเราอยู่ มองตลอดเลย ไม่ได้ แล้วเด็กยังไงเขามีสัญชาตญาณที่แบบรับรู้ได้ ต่อให้เราไม่พูดออกมา แต่ถ้าข้างในเราเศร้า ข้างในเราเครียด ข้างในเราไม่มั่นใจ ลูกจับได้หมดเลยนะคะ

แอ : ต่อให้เราจะแบบฝืนยิ้มหรืออะไร ขนาดเป็นนักแสดงแต่เขารู้ค่ะว่าข้างในเราไม่มีความสุข เพราะฉะนั้นลูกเป็นสิ่งที่ช่วยแอมาก ๆ เลย ที่ทำให้เราแบบ เฮ้ย เราต้องมองไปข้างหน้า ไปข้างหน้า เพราะว่าลูกรออยู่ เราจะมาจมอยู่แบบนี้ไม่ได้ ลูกรออยู่ ลูกรอเล่นกับเราอยู่ เอาแค่นี้ง่าย ๆ แค่นี้ เราจะมานั่งเสียเวลานั่งคิดอะไรเรื่องเก่า  เขารอเล่นกับเราอยู่ เขารอเราเล่านิทานอยู่ เขาต้องการเราตลอดเวลา เพราะฉะนั้นมันก็เลยทำให้เราก้าวข้ามผ่านอะไรหลายอย่างมาได้อย่างง่ายดาย พอรู้ตัวอีกทีเราผ่านเรื่องนั้นมาไกลแล้ว เพราะว่าเรายุ่งอยู่กับการเลี้ยงลูก

มุมมองเรื่องของการแต่งงาน เปลี่ยนไปไหม?

แอ : แน่นอนค่ะ ยืนยันและตัดสินใจเหมือนเดิม ไม่เคยอยากแก้อะไรเลยในชีวิต ไม่ได้บอกว่าเราตัดสินใจถูกหรือเราตัดสินใจดี ดีของเราอาจจะไม่ดีสำหรับคนอื่น แต่แอว่าทุกการตัดสินใจ ทุก ๆ ช่วงชีวิตที่ผ่านมา มันเลยทำให้แอเป็นแอทุกวันนี้ ทุกการตัดสินใจแม้ว่ามันผิดพลาด แม้ว่าสรุปสุดท้าย แอจะไม่ได้มีชีวิตการแต่งงานที่เพอร์เฟกต์ แต่มันสอนอะไรแอเสมอ มันให้บทเรียนที่ดีสำหรับแอ ทุก ๆ ประสบการณ์มันให้อะไรกับเราเสมอ และแอก็ยังเชื่อเหมือนเดิมว่าความรักยังไงมันก็เป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข ให้ตัดสินใจใหม่แอยังตัดสินใจอย่างงั้น เพราะ ณ ตอนนั้นแอมีความสุขมาก ๆ ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยมี อย่างน้อยเรามีตอนนั้น แต่เราอาจจะไม่ได้โชคดีที่มันจะยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบัน

แอ : แต่ ณ ตอนนั้นเรามีความสุข มันก็ดีที่สุดแล้วสำหรับเรายังดีกว่าชีวิตนี้ไม่เคยเจอเลย คือมันแค่เปลี่ยน คือคนเราอาจจะไม่โชคดีในทุกช่วงชีวิต อันนี้ไม่ใช่เฉพาะชีวิตคู่ อาจจะหมายถึงการทำงานก็เหมือนกัน ถ้าเราเคยพีมาแล้วช่วงหนึ่ง และช่วงนี้ไม่ได้พีเหมือนเดิม แต่ก็ดีกว่าชีวิตนี้ไม่เคยพีเลยไหม คือมันต้องเรียนรู้และก็ปรับตัว และก็เหมือนใจเราต้องยอมรับตลอดเวลาว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือลง ไม่มีใครหรอกที่จะแย่ไปหมดไปตลอด

แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ 2

 การแต่งงานก็อาจจะเกิดขึ้นได้อีกครั้งหรือเปล่า?

แอ : ใช่ แน่นอนค่ะ หรืออาจจะไม่แต่งก็ได้ค่ะ คือแอรู้สึกว่ายิ่งโตขึ้น รูปแบบการใช้ชีวิตคู่เหมือนมันมีมากกว่าที่เราเคยคิด เมื่อก่อนเราคิดว่ามีแค่โสดกับไม่โสด หมายถึงไม่โสดก็คือแต่งงาน แต่เดี๋ยวนี้แอเห็นบางคน ก็อาจจะใช้ชีวิตคู่แบบที่ไม่ต้องแต่งงานก็ได้ ก็มีเหมือนกัน คือตอบยาก อยู่ที่เราในวัยนั้นและคู่ด้วย บางคนถ้าเขาไม่ได้เชื่อในการแต่งงาน แต่เราก็อาจจะเป็นคู่ชีวิตกันก็ได้ ก็เป็นแบบเพื่อนคู่คิดกันไปแบบนี้ก็ได้ หรือตอนนั้นเราจะเจอคนที่เขาเชื่อในชีวิตแต่งงานแล้วเราก็เชื่อ เราก็แต่งงานกันได้ แอว่าแล้วแต่คู่ของเราค่ะ

อะไรคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของแอฟ ณ วันนี้?

แอ : ครอบครัวค่ะ ทุกอย่างเลย เพราะว่าครอบครัวหล่อหลอมแอ ทำให้แอมีความคิดเติบโตมาจนทุกวันนี้ และทำให้แอเลือกใช้ชีวิตแบบนี้ ตัดสินใจแบบนี้ และจนทุกวันนี้แอส่งต่อสิ่งนี้ไปให้ปีใหม่ แอเลยบอกว่า แอตอบไม่ได้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือลูก เพราะแอรู้สึกว่า คุณแม่แอ คุณพ่อแอ หรือแม้แต่ คุณแม่เลี้ยงแอ คุณพ่อเลี้ยงแอ ก็คือส่วนหนึ่ง มันคือก้อนเดียวกันสำหรับแอ คือคำว่าครอบครัวจริง ๆ และเรารู้แล้วว่าไม่ว่าเราจะเจออะไรในชีวิต จะร้ายจะดีคือเขาอยู่กับเราเสมอ และโดยเฉพาะครอบครัวแอ แอบอกเลยว่าคือเขาอยู่แบบที่ รักและเคารพการตัดสินใจของแอ ไม่ได้ชี้นำ ไม่ได้ชักจูง ในการตัดสินใจใด ๆ เลยในช่วงชีวิตแอ แต่เขาสนับสนุน คือให้การตัดสินใจของแอเอง แต่ไม่ว่าลูกจะตัดสินใจยังไงเขาพร้อมซัพพอร์ต พร้อมสนับสนุน หรือถ้าเมื่อไรเราต้องการความช่วยเหลือเมื่อไรเขาก็พร้อม หรือถ้าอยากได้ความช่วยเหลือก็เขาก็พร้อมอยู่ตรงนั้น แอรู้สึกว่ามันคือทุกอย่างของแอเลย

ครอบครัวแอฟ


ภาพจาก : @aff_taksaorn

Praew Recommend

keyboard_arrow_up