ตี๋ พัฒนพงศ์ & เพชร กวินวัชร์ ฝ่าวิกฤติธุรกิจสปา สู่ Supplement หน้าใหม่ยอดขายกระฉูด

ช่วงโควิดระบาดถือเป็นมรสุมลูกใหญ่มหาโหดของธุรกิจสปา เพราะถูกสั่งปิดก่อนและเปิดทีหลังธุรกิจอื่นๆ แทบทั้งหมด จนแฟนสปานึกเป็นห่วงว่าธุรกิจสปาระดับเวิลด์คลาสของไทยอย่าง DIVANA จะต้องต่อสู้กับวิกฤตินี้หนักหนาเพียงใด แต่ “คุณตี๋ พัฒนพงศ์ รานุรักษ์” CEO ของ DIVANA กลับไม่ได้มีเวลาหยุดคิดเรื่องวิกฤติโควิดด้วยซ้ำ เพราะเขาง่วนอยู่กับพาร์ตเนอร์ไฟแรง “คุณเพชร กวินวัชร์ เลิศอัศวเวคิน” CEO ของ Dii Supplements ซุ่มทำโปรเจ็กต์อาหารเสริมวิถีใหม่ที่ผลสำเร็จนั้นปังสวนกระแสเลยทีเดียว

“ตี๋ พัฒนพงศ์ รานุรักษ์” CEO ของ DIVANA & “เพชร กวินวัชร์ เลิศอัศวเวคิน” CEO ของ Dii Supplements ฝ่าวิกฤติธุรกิจสปา สู่ Supplement หน้าใหม่ยอดขายกระฉูด

ย้อนเล่าถึงก่อนที่คุณตี๋จะจับธุรกิจสปาและความงามสักนิดค่ะ

“ที่จริงผมมีเรื่องธุรกิจอยู่ในใจมาตลอด แต่พอจะเริ่มก็เจอคำถามว่า ‘มีเงิน หรือ’ พอดีสายการบินสวิสแอร์เปิดรับสมัครพนักงานต้อนรับ จึงกะว่าเข้าไปทำงาน เก็บเงินสัก 3 – 6 เดือน เพราะเป็นอาชีพที่ไม่ได้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผมที่ต้องให้ เวลากับการดูแลคุณแม่ แต่พอไปทำจริง ๆ แล้วสนุกมาก ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ทุก วัน คนเปลี่ยนทุกวัน ระบบการเทรนของเขาก็เจ๋งมาก

“ปรากฏว่าเกิดเหตุการณ์ 911 ธุรกิจสายการบินเข้าสู่ช่วงวิกฤติ สายการบิน สวิสแอร์ประกาศล้มละลาย พนักงานที่เป็นชาวต่างชาติทั้งหมดถูกให้ออกจาก บริษัท โอ้โฮ…คนร้องไห้เสียใจกันเพียบ มีแต่ผมที่รู้สึกว่านี่คือโอกาสที่เราจะได้ หลุดจากคอมฟอร์ตโซนไปทำธุรกิจแล้ว ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้เริ่มในสิ่งที่อยากทำ เสียที ซึ่งพอดีว่าเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งแล้ว จึงมีโอกาสได้มาเริ่มต้นทำ DIVANA”

การเริ่มต้นทำธุรกิจของคนที่ไม่เคยทำธุรกิจเลย เป็นอย่างไรคะ

“ต้องฝ่าฟันเยอะมากครับ เป็นตั้งแต่ CEO (Chief Executive Officer), CFO (Chief Financial Officer), CMO (Chief Marketing Officer) ทำ Business Development เป็นรีเซ็ปชั่น พ่อบ้าน คนสวน ผมลงต้นไม้ ทุกต้นในสวนเอง ยังจำได้เลยว่าตรงไหนเป็นอย่างไร ตอนนั้นทำงานแบบ 7 วัน 24 ชั่วโมง พอลูกค้ามาก็ไปดูแล ขณะเดียวกันก็ยังต้องดูแลที่บ้านไปด้วย ต้องบาลานซ์ไลฟ์สไตล์และจัดการชีวิตให้ได้ ยอมรับว่าหนักมาก

“แล้วในตอนนั้นพอบอกว่าจะทำสปาในแนวทางนี้ก็ไม่มีใครเชื่อเรา ที่ปรึกษา เก่ง ๆ ยังบอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เราเชื่อว่าเป็นไปได้ จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ DIVANA ซึ่งมีความหมายว่า ‘Crazy in Love’ เหมือนกับผู้ชายคนหนึ่งที่บ้ารัก ผู้หญิงคนหนึ่งมาก ก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้สมหวังแบบไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตอนนั้นไม่คิดด้วยว่าจะได้เงินไหม แต่ความรักบอกว่าผมต้องทำ”

ยังจำลูกค้าคนแรกได้ไหมคะ

“จำได้ครับ เขาเป็นนักบินต่างชาติ ใส่กางเกงขาสั้นเข้ามาทำสปาตั้งแต่ 5 โมงเย็น เสร็จ 4 ทุ่มแล้วเขาออกมานั่งคุยกับผมต่อยาวถึงตี 2 หลังจากวันนั้น เขากลับไปบอกคนรู้จักว่ามีสปาชื่อ DIVANA อยู่นะ จากนั้นเราก็ได้ลงหนังสือ ของสายการบิน เริ่มมีลูกค้าจาก 10 เป็น 100 ค่อย ๆ ขยับมาเป็น 1,000 แรก เริ่มเรามีทุนประมาณ 2 – 3 ล้าน เปิดห้องสำหรับทำสปาได้ 4 ห้อง พอมีลูกค้า จึงตั้งเป้าว่าทุก 5 แสนเราจะเปิดห้องใหม่ ตอนนั้นผมไม่ใช้สตางค์เลย กินแต่ ข้าวผัดกะเพรา ทำแบบนั้นได้เพราะรักงานนี้จริง ๆ จึงไม่รู้สึกลำบาก

“ซึ่งระหว่างทางก็เคยเจอจุดที่รู้ว่าเงินจะหมดแล้ว แต่ผมกลับไม่กลัวนะ สนุกกับการทำงานและแก้ปัญหา ผมว่าช่วงที่ดีที่สุดของการเดินทางคือเวลาที่เรา ตกหลุม แล้วหันไปเห็นว่ามีใครอยู่ข้าง ๆ บ้าง พอมีคนที่สู้ไปด้วยกัน ในที่สุด ธุรกิจก็ค่อย ๆ สำเร็จขึ้นตามลำดับ นอกจากสปาก็ได้เปิด DIVANA Clinic และ Dii ที่เซ็นทรัลเอ็มบาสซี ซึ่งกำลังจะแตกสาขาไปที่เซ็นทรัลเวิลด์และอโศก และ เร็ว ๆ นี้ก็กำลังจะเปิด Dii Aesthetic ที่สยามพารากอน ซึ่งเป็นการดูแลร่างกาย แบบมีการแพทย์เข้ามาเกี่ยวข้อง

“คนอาจจะมองว่าเราต่อยอดธุรกิจไปแบบ 1 2 3 4 แต่ที่จริงผมเห็น ภาพแล้วว่า 10 ของเราคืออะไร จึงค่อย ๆ ต่อจิ๊กซอว์ไป ซึ่งธุรกิจอาหารเสริมก็ เป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์นั้น เรารู้อยู่แล้วว่าเทรนด์สุขภาพจะมา แล้วอะไรที่จะทำให้ คนเรามีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน ผมเชื่อว่าสุขภาพไม่ได้มาจากแค่ ‘Body’ แต่มาจาก ‘Mind’ และ ‘Soul’ ด้วย ก็โชคดีที่ได้มาเจอกับเพชรพอดี”

ถามคุณเพชรบ้างว่ามาร่วมงานกับคุณตี๋ได้อย่างไรคะ

“เจอกันในคลาสเรียนธุรกิจครับ ผมกับภรรยาไปเรียน ส่วนพี่ตี๋เป็นหนึ่ง ในวิทยากร ตอนจบคลาสพี่ตี๋เอ่ยขึ้นมาว่ากำลังตามหาบริษัทที่มี Innovation ทาง ด้านวิตามิน เพราะช่วงนั้นพี่ตี๋ต้องไปฉีดวิตามินเพื่อบำรุงร่างกายทุกสัปดาห์ เขา มองหาวิธีอื่นทดแทนการฉีดอยู่ โดยให้โจทย์ว่าบริษัทไหนสามารถทำให้วิตามิน ดูดซึมเข้าใต้ลิ้นได้แทนการฉีดวิตามินให้มาคุยกัน ซึ่งผมมั่นใจว่าผมมีนวัตกรรม ที่สามารถทำในจุดนั้นได้ จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้มาทำโปรเจ็กต์ร่วมกันครับ”

แล้วคุณเพชรเริ่มต้นการทำธุรกิจอาหารเสริมได้อย่างไรคะ

“ความจริงผมเริ่มจากการทำผลไม้อบแห้งก่อนครับ ชึ่งทุนทำธุรกิจมาจาก เงินเก็บของผมกับภรรยา เรารีโนเวตโกดังเก่าของคุณพ่อภรรยามาเป็นโรงงาน แล้ว รับสินค้า OTOP จากชาวบ้านที่พะเยากับจันทบุรีมารีแพ็ค หลัง ๆ ก็เริ่มรับ OEM (รับจ้างผลิตสินค้า) ให้บริษัทในสนามบิน ทำให้ได้เจอลูกค้ามากขึ้น

“วันหนึ่งขณะออกไปเยี่ยมลูกค้า ผมสะดุดตากับเครื่องจักรที่ลูกค้าบอกว่าเป็นเครื่องแพ็คคอลลาเจน เหมือนไปรับคอลลาเจนมาแล้วรีแพ็คขายเป็นซองเล็กๆ ให้สาวโรงงานในละแวกนั้น ส่วนตัวผมชอบด้าน Supplement อยู่แล้ว สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ก็เคยพยายามเก็บเงินซื้อวิตามิน กินตามพี่โดม-ปกรณ์ ลัว (หัวเราะ) จึงลองถามเขาว่าถ้าผมอยากทำบ้าง ต้องทำอย่างไร เขาบอกว่า น้องก็ซ้อื คอลลาเจนพี่ ไปสิ ปกติคอลลาเจนพวกนี้จะมีใบ COA (Certificated of Analysis) บอกว่าผลิตที่ไหน มีสเป็คอย่างไร แต่เขาเบลอชื่อผู้ผลิตไว้ เพื่อให้เราซื้อผ่านเขา แต่แฟนผมหาทางแกะรอยจนเจอชื่อผู้ผลิตเป็นโรงงานแห่งหนึ่งที่ประเทศญี่ปุ่น ผมจึงยกหูไปคุยจนสามารถซื้อได้ตรงกับทางโรงงาน แล้วก็เริ่มทำโรงงานอาหารเสริมครับ”

 

กับคุณตี๋ คลิกกันในแง่มุมไหนจึงได้เริ่มทำธุรกิจด้วยกันคะ

คุณเพชรเล่าก่อน “ความที่ผมทำงานในส่วนของผู้ผลิต ผมมีแผลฝังใจว่า ลูกค้าที่มาหาเราพร้อมจะเปลี่ยนเจ้าทันทีเมื่อเขาเจอเจ้าใหม่ที่ให้ราคาถูกกว่า เรื่องหนึ่งที่พี่ตี๋ไม่ทราบ คือก่อนหน้านี้ผมเคยเจ๊งเป็นสิบล้าน ลูกค้าหายไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ผมคิดว่าคงไปไม่รอดแล้ว เครียดมากจนมีอาการซึมเศร้า ต้องไปปรึกษาเทอราปิสต์ ช่วงที่ได้เจอกันจึงรู้สึกเหมือนพี่ตี๋ถือคบเพลิงมาท่ามกลางพายุหิมะ”

คุณตี๋เล่าบ้าง “เขาไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ผมฟัง ผมเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ เราได้มาเจอกัน เพชรทำให้ผมเห็นว่าเขามีแพสชั่นสูงมาก ตอนนั้นผมคุยกับผู้ผลิต อาหารเสริมหลายราย เป็นโรงงานใหญ่ ๆ 7 – 8 เจ้า แต่คิดว่าน้องคนนี้ต้องมี อะไรสักอย่าง เพราะเขาหาทางมาถึงผม คือผมไปทำงานที่ไหน เขาตามไปดูด้วย ทำให้ผมเห็นว่าเขาตั้งใจจริง ๆ”ธุรกิจ Dii Supplements เกิดขึ้นในช่วงโควิดพอดี เรียกว่าเปิดตัวสวนกระแสวิกฤติเลยนะคะ

คุณตี๋แชร์ให้ฟังอย่างสนุก “ความจริงเราคุยกันมาก่อนหน้าโควิดประมาณ 1 ปี พอโควิดเข้ามาจึงเป็นเหมือนสัญญาณเตือนว่าคงถึงเวลาแล้ว เพราะตอนนั้น DIVANA ถูกปิดหมด ผมแก้ปัญหาช่วงแรกด้วยการนำแอลกอฮอล์ล้างมือที่เคย ทำแจกให้บริษัทพาร์ตเนอร์และนักข่าวมาลองขายดู ซึ่งขายดีมาก เดือนแรกขายได้ หลายหมื่นขวด แต่ยังไม่พอเลี้ยงพนักงานหลายร้อยคน ผมก็ต้องคิดต่อว่าจะขาย อะไรดี จึงบอกเพชรว่าได้เวลาแล้ว เราเริ่มที่วิตามินซีแล้วกัน พี่มีเวลาให้ 7 วัน ต้องขายสินค้าตัวนี้พร้อมมี อย.ด้วย ปรากฏเขาทำได้เร็วมาก แถมทำยอดขายได้ กระฉูดด้วย” (ยิ้มภูมิใจ)

คุณเพชรสารภาพ “ตอนแรกผมคิดว่า 7 วันทำการแทบเป็นไปไม่ได้เลย ปกติต้องใช้เวลา 2 เดือน แต่เพราะเราเตรียมการกันมานาน จึงมีสูตรที่นิ่งแล้ว และมีเอกสารครบ คือเวลายื่นขอ อย. ถ้าเอกสารไม่ครบ เขาจะขอเพิ่มเรื่อย ๆ แต่ของเราไม่ต้องแก้ไขใด ๆ เลย จึงได้เร็วแบบปาฏิหาริย์”

Dii แตกต่างจากอาหารเสริมทั่วไปอย่างไรคะ

คุณเพชรเล่าเอง “วิตามินซีของเราใช้สารจากธรรมชาติทั้งหมดครับ เป็น ตำรับมะขามป้อมผสมกับ Brazilian Cherry และซิงค์ที่ช่วยในการดูดซึม ต้อง อธิบายก่อนว่าของเจ้าอื่นก็ไม่เชิงเป็นเคมี แต่ส่วนใหญ่จะสังเคราะห์ออกมา ขณะที่ ของเราใช้การสกัดจากธรรมชาติล้วน ๆ ในปริมาณที่แพทย์แนะนำว่าดูดซึมได้อย่าง เห็นผลที่สุด ซึ่งผลตอบรับดีมากครับ ปัจจุบันเรามี Supplement หลากหลาย สูตรช่วยแก้ปัญหาในด้านต่าง ๆ กันไป วิตามินแต่ละตัวจะมีสารสกัดจากธรรมชาติ เป็นหลักและผสมเข้ากับวิตามินจำเป็นของแต่ละสูตร ปัจจุบันเรามีหลายสูตร ตั้งแต่ no.1 – no.9 ที่ขายดีมาก ๆ มี 2 ตัวคือ no.4 ช่วยจัดการ 4 สาเหตุหลัก ของการเกิดสิว กับ no.7 ช่วยให้ผิวสวยโกลว์”

คุณตี๋เสริมว่า “การใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติคือคีย์สำคัญของ Dii Supplements ครับ ผมบอกเพชรแต่แรกว่าขอไม่เอาเคมีคอลนะ เพราะเรา ต้องทำอะไรที่ตัวเองกล้ากิน กล้าให้คุณแม่และพาร์ตเนอร์กิน เทรนด์ในอนาคต ก็น่าจะมาทางนี้เหมือนกัน คือไม่ใช้เคมีคอล ฉะนั้นโปรดักต์ของอนาคตจึงต้องมี ความปลอดภัย น่าเชื่อถือ และมีนวัตกรรม เราต้องการจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งใน ชีวิตของผู้บริโภค ดูแลลูกค้าอย่างครบวงจรตั้งแต่ตื่นจนถึงหลับ เราเชื่อว่าการดูแล สุขภาพไม่สามารถดูแลเป็นจุด ๆ ได้ แต่ต้องให้กลมกลืนอยู่ในชีวิตประจำวัน สมมติตื่นเช้ามาเล่นเวต เราก็มีตัวเพิ่มโปรตีนไปช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ระหว่างวัน อาจมีอาหารจาก DIVANA Cuisine ชื่อ DIVANA Diet เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ

“พอตกบ่ายขอตามใจตัวเองหน่อย ก็มีมื้อที่เป็น Cheat Meal ตอนเย็น อาจไปนวดที่ DIVANA Spa หรอื ถา้ กนิ เยอะไปหนอ่ ย อาจแวะไป Dii Aesthetic Clinic เข้าคอร์สสลิมมิ่งลดเซลลูไลต์สักนิด ตกกลางคืนเรามี Sleeping Spray ช่วยรีแล็กซ์ก่อนนอน หรืออยากหลับลึกยาว ๆ เราก็มีอาหารเสริม No.9 ชื่อ Pillow ช่วยให้การนอนหลับมีประสิทธิภาพ” (ยิ้ม)

เรียกว่าเหมือนเป็นยาสามัญประจำบ้านของทุกคน

คุณเพชรตอบทันที “ใช่ครับ คอนเซ็ปต์ของเราคือ Wellness Kit at Home เพราะเป้าหมายสุดท้ายของอาหารเสริมนี้คือการเป็นวิตามินที่วางอยู่ใน ทุกบ้าน อย่างคนหนุ่มสาวใช้ก่อนออกกำลังกาย เสริมความงาม แล้วถ้าต้องการ จะให้คุณแม่ล่ะ เราก็จะมีโปรดักต์ไลน์ใหม่ที่ผสมผสานระหว่าง Supplement กับศาสตร์แพทย์แผนตะวันออก แบ่งเป็นธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ เสริมในแต่ละ ธาตุ สำหรับสุขภาพที่ดีของคุณแม่หรือคนอื่น ๆ ในครอบครัว”

ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านความงามและการแพทย์ไปไกลมาก ในฐานะผู้ผลิต มีวิธีการอัพเดตข้อมูลอย่างไรคะ

คุณเพชรอธิบายว่า “ต้องบอกว่าโชคดีที่ในองค์กรของเรามีทั้งทีมแพทย์ ทีมเภสัชกร และนักวิจัยทำงานร่วมกัน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะคอยอัพเดตข้อมูล จากงานวิจัยต่างประเทศกันตลอดเวลาอยู่แล้ว นี่คือสาเหตุสำคัญที่ผมต้องเลือก ทีมงานที่มีความสนใจและหลงใหลในงานด้านนี้จริง ๆ เขาจึงอ่านกันได้ทุกวันโดย ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยหรือมีความทุกข์ แล้วผมก็จะคอยอัพเดตจากเขาอีกที รวมถึง หาความรู้เองด้วย อย่างช่วงนี้ก็ไปเรียนด้านแพทย์แผนไทยและเภสัชกรรมแผนไทย เพิ่มเติม เพื่อให้ความรู้แน่นขึ้นครับ”

ในฐานะผู้ชายที่ทำธุรกิจความงาม มีมุมมองในเรื่องนี้อย่างไรคะ

คุณตี๋ตอบในฐานะผู้มีประสบการณ์ในแวดวงนี้มานาน “ผมว่าโลกไปไกล มากแล้ว อะไรก็เป็นไปได้ อย่างเพื่อนผมเป็นผู้ชายแท้ ๆ แต่งานของเขาคือทำ การตลาดผ้าอนามัย และผมก็มีเพื่อนผู้หญิงที่ทำถุงยางอนามัย (ยิ้ม) ผมเชื่อว่า มาตรฐานความงามในอนาคต ‘ตัวตน’ จะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เทรนด์ความงามจะยิ่ง มีความเฉพาะตัว คำหนึ่งที่อยู่ในดีเอ็นเอของผมและแบรนด์คือ ‘Diversification’ หรือความหลากหลาย ผมเชื่อว่าความแตกต่างคือความสวยงามของผู้หญิง เรา จึงใช้คอนเซ็ปต์ว่า ‘จริงใจ ใส่ใจ บันดาลใจ’ เพื่อโฟกัสไปที่ตัวตนของลูกค้า คือ ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน คุณคือความงามที่เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้ ผมจึง มองว่าผู้ชายในธุรกิจความงามก็ถือเป็นเรื่องที่ไปกันได้อย่างกลมกลืนครับ”

กว่าจะมีวันที่ยิ้มได้อย่างวันนี้ ทั้งสองท่านมีมุมมองต่อความสำเร็จและความล้มเหลวอย่างไรบ้างคะ

คุณตี๋แชร์ก่อน “ต้อง ‘ล้ม’ จึงจะสำเร็จ ถือเป็นมายด์เซตของสตาร์ตอัพ เลยครับ ล้มเหลวให้เร็ว เพื่อจะได้เรียนรู้และกลับมาทำให้สำเร็จ คนส่วนใหญ่ ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จคือคนที่กลัว แต่คนรุ่นใหม่อย่างเพชรนี่เขาเปรี้ยว (หัวเราะ) คือทุกครั้งที่ผมให้โจทย์ซึ่งอาจจะมีโอกาสสำเร็จน้อยมาก แต่เขาพร้อม ลองและกล้าที่จะล้มเหลว แล้วลุกขึ้นมาบอกว่า ‘พี่ตี๋ อย่างไรต่อดี ลุยเลยไหม ครับ’ ผมมองว่ายิ่งล้มเหลวมากเท่าไร ความสำเร็จที่เขาจะได้เจอจะยิ่งใหญ่มากขึ้น เท่านั้น บาดแผลจะทำให้คนเติบโต และคนแบบเพชรนี่แหละที่ผมคิดว่าคือ คนในโลกอนาคตที่จะประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่ปัจจุบัน”

คุณเพชรยิ้มกว้าง “ผมก็มองคล้ายพี่ตี๋นะครับ ก่อนที่จะฉลาด เราต้องโง่มาก่อน ซึ่งก็คือต้องผ่านการล้ม ถ้าลองแล้วไม่เคยล้ม ก็ยังไม่ได้เรียนรู้จริงๆ อันนี้ เป็นการเรียนร้ทู างตรง ในขณะเดียวกันเราก็สามารถหาทางลัดในการเรียนร้จู ากคนที่ ประสบความสำเร็จมาก่อน จะได้รู้ว่าเขาล้มแล้วลุกอย่างไร เพื่อจะได้นำมาปรับใช้”

ขอปิดท้ายด้วยการส่งต่อคัมภีร์ความสำเร็จ เป็นกำลังใจให้คนรุ่นใหม่ที่อยากทำธุรกิจสักนิดค่ะ

คุณเพชรแชร์ก่อน “คอนเซ็ปต์ของผมคือทำ 10 ได้ 1 หรือทำมากไว้ก่อน ไม่เป็นไร ทำไป 10 อย่าง อย่างน้อยต้องมีสักอย่างที่สำเร็จ ดังนั้นผมจึงกล้าที่จะ ลอง เพื่อเรียนรู้ว่าสิ่งไหนที่ไม่เวิร์ค ครั้งต่อไปเราจะได้มีโอกาสประสบความสำเร็จ มากขึ้น เพราะเราหักโอกาสล้มเหลวไปแล้วหนึ่งครั้ง” คุณตี๋ช่วยปิดท้าย “ผมยึดหลัก ททท. คือ ‘ทำทันที’ ยิ่งเทรนด์ตอนนี้ โฟกัสมาที่คนรุ่นใหม่ คิดอะไร ฝันอะไรไว้ นี่เป็นยุคของคุณแล้ว จงกล้าท้าทาย กับความล้มเหลวที่จะเกิดขึ้น ลงมือทำตั้งแต่วันนี้ อย่าได้รีรอ”

THE KEYS TO SUCCESS

• ทุกวิกฤติปัญหาที่เกิดขึ้นคือการเปิดรับโอกาส อันท้าทาย ฉะนั้นบางครั้งวิกฤติก็เป็นสัญญาณเตือน ว่าโอกาสใหม่ๆ มาถึงแล้ว
• การทำธุรกิจให้สำเร็จต้องเริ่มจากการ “Crazy” ในสิ่งนั้น
• ธุรกิจอาหารเสริมจะประสบความสำเร็จได้ ต้องจริงใจต่อลูกค้าและต้องรู้จริง มีแพทย์ รวมถึงนักวิจัยร่วมพัฒนาตั้งแต่การผลิต จนถึงให้คำแนะนำในการใช้ที่ถูกต้อง
• คนที่จะประสบความสำเร็จต้องกล้าที่จะล้มเหลว และเมื่อล้มแล้วต้องรีบลุกเพื่อกลับมาทำให้สำเร็จ ความล้มเหลวที่เจอจึงไม่ได้แปลว่าจะแพ้ คนที่ไม่กล้า แม้แต่จะลงมือทำต่างหากที่ล้มเหลวและแพ้อย่างแท้จริง

---

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 969

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

20 ปี บนเส้นทางอาหารสุขภาพ “หลิง-จันทิมา ติยะวัชรพงศ์” ผู้บุกเบิกแบรนด์ HappyMate

นักสู้แห่งเซ็นทรัลพัฒนา ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้นำทีมการตลาด Retail Developer เบอร์หนึ่งของไทย

ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล & พราว ลิ่มพงศ์พันธุ์ หัวเรือใหญ่แห่ง ZIPMEX ผู้นำวงการเงินดิจิทัล