อัพเดตชีวิต 15 ปี เส้นทางนักร้อง "เป๊ก-ผลิตโชค" ล้มลุกแล้วโลดแล่นด้วยพลังบวก

อัพเดตชีวิต 15 ปี เส้นทางนักร้อง “เป๊ก-ผลิตโชค” ล้มลุกแล้วโลดแล่นด้วยพลังบวก

Alternative Textaccount_circle
อัพเดตชีวิต 15 ปี เส้นทางนักร้อง "เป๊ก-ผลิตโชค" ล้มลุกแล้วโลดแล่นด้วยพลังบวก
อัพเดตชีวิต 15 ปี เส้นทางนักร้อง "เป๊ก-ผลิตโชค" ล้มลุกแล้วโลดแล่นด้วยพลังบวก

สัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟ! อัพเดตชีวิต 15 ปี เส้นทางนักร้องของ “เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร” ซุป’ตาร์ที่ล้มลุกแล้วโลดแล่นด้วยพลังบวกเสมอ

ถือเป็นมีตติ้งประจำระหว่าง แพรว กับ “เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร” ที่จะโคจรมาเจอกันบนปกทุกปี และล่าสุดเพิ่งครบรอบ 15 ปี (นับจากซิงเกิ้ล ไม่มีใครรู้ พ.ศ. 2548) บนเส้นทางสายนักร้องของผู้ชายคนนี้ ที่เขาเคยเกือบถอดใจวางไมค์ จนมาถึงวันที่กลับมาสร้างกระแสให้วงการเพลงอีกครั้ง โดยยังคงไว้ซึ่งความสดใสและพลังงานบวกแบบเต็มร้อยไม่มีเปลี่ยน

ช่วงปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้างคะ

“ปีที่แล้วยาวมาจนตอนนี้ถือเป็นช่วงปีที่ดีของผมนะครับ และเป็นอีกหนึ่งปีที่ดีมากๆ มีโอกาสได้ทำงานหลายอย่างที่ไม่เคยทำ ได้ทำโปรเจ็กต์ใหม่ๆ เยอะเลย ได้ร้องเพลงกับคนนู้น ถ่ายแฟชั่นกับคนนี้ ได้รู้จักคนใหม่ๆ ที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลผมในเรื่องหนักๆ หลายอย่างจัดว่าผมโชคดีมากๆ และถ้าไม่นับช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ชีวิตค่อนข้างดีร้อยเปอร์เซ็นต์เลยครับ (ยิ้ม)

“เพราะโควิด-19 ทำให้ที่แพลนไว้หลายอย่างต้องเลื่อนออกไป ทั้งคอนเสิร์ตที่ขยับไปเดือนพฤศจิกายน หรือน้ำหอมที่เตรียมจะเปิดตัวกลิ่นใหม่ แต่ผมก็เชื่อว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี อย่างช่วงที่ต้องกักตัวอยู่บ้านก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาพักผ่อน ซ้อมดนตรี ทำอาหาร แล้วก็นั่งๆ นอนๆ เฝ้าคอยให้ทุกอย่างดีขึ้น จนเป็นห่วงคนที่เขาไม่ได้ทำงานว่าจะอยู่กันยังไง เพราะผมเองดาวน์ไปเหมือนกัน อยู่บ้านหลายวันก็เริ่มคิดถึงงาน อยากกลับมาทำงาน กลับมาเจอแฟนๆ กลับมาถ่ายนิตยสาร

“แต่ตอนนี้สถานการณ์โอเคขึ้นแล้ว ก็เลยกลับมาตารางแน่นเหมือนเดิม ลุยงานทุกวัน งานแน่นมาก คือห้ามป่วย ห้ามลา และห้ามหน้าเหี่ยว (หัวเราะ) อย่างบางวันจะเห็นว่าผลิตตาปูดเพราะนอนน้อย ก็ต้องยอมรับว่ามันห้ามไม่ได้จริงๆ บางวันเหนื่อยมาก กลับบ้านล้างหน้าแล้วก็นอนเลย ครีมก็ไม่ได้ทา หรือบางวันไม่ได้ล้างหน้าด้วยซ้ำ แต่ดีที่ผมได้รับพลังงาน ได้รับกำลังใจจากแฟนๆ ที่ส่งมาให้ตลอด ทำให้เหนื่อยแค่ไหนก็ไหวครับ (ยิ้ม) และล่าสุดผมมีอัลบั้มใหม่ออกมาให้ฟังกันแล้วนะ ฟังหรือยังครับ”

เล่าถึงความพิเศษของอัลบั้มนี้ให้ฟังหน่อยค่ะ

“A LITTLE THING เป็นดิจิทัลอัลบั้มแรกของผม มีทั้งหมด 5 เพลง ต่อยอดมาจากเสียงเรียกร้องของแฟนๆ ที่บอกว่าอยากฟังเป๊กร้องเพลงอะไรก็ได้ที่มินิมัล คือดนตรีน้อยชิ้น เน้นโชว์เสียง เพราะที่ผ่านมาจะมีซาวนด์ดนตรีเยอะ สีสันจัดจ้านหน่อย พอมาอัลบั้มนี้จึงเลือกเครื่องดนตรีน้อยชิ้น

“ซึ่งรูปแบบการทำงานก็ไม่ได้ต่างจากเดิมมากนะครับ แม้จะเป็นดิจิทัลอัลบั้ม แต่ก็ยังคงทำงานแบบฟูลสเกลเหมือนเดิม ทั้งถ่ายเอ็มวี ถ่ายปกโปสเตอร์ เข้าห้องอัด เหมือนออกอัลบั้มเต็มเลย แต่ความพิเศษคือเราปล่อยให้แฟนๆ ได้ฟังทีเดียว 5 เพลงรวด ชอบใจเพลงไหนก็ดาวน์โหลดไปเลย ส่วนมิวสิควิดีโอพิเศษมากๆ เพราะได้ร่วมงานกับนักแสดงและนางแบบที่กำลังฮ็อต ตามคาแร็คเตอร์ที่ตรงกับแต่ละเพลง ถือเป็นเกียรติและดีใจมากๆ ที่ได้ร่วมงานกับน้องๆ ทุกคน (ต้าเหนิง-กัญญาวีร์ สองเมือง, เฌอปราง อารีย์กุล, ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง และ เก้า-สุภัสสรา ธนชาต) เพราะทุกคนคือขวัญใจของผลิตที่อยากร่วมงานด้วยมากๆ อยู่แล้ว” (ยิ้ม)

15 ปีบนเส้นทางนักร้องของเป๊ก-ผลิตโชค เป็นอย่างไรบ้าง

“ถ้านับตั้งแต่เริ่มเป็นนักร้องก็รวมแล้ว 15 ปีพอดี เพิ่งฉลองครบรอบ 15 ปี เพลง ไม่มีใครรู้ ด้วย ซึ่งถ้ามองตัวเลข 15 ผมว่าเป็นวัยกำลังเฮี้ยวเลยนะ (หัวเราะ) อาจจะดูอายุเยอะนิดหนึ่ง แต่ว่าเราไม่หยุด ขอบคุณทุกคนที่มอบโอกาสให้ผมได้ทำงานตรงนี้ ได้เป็นไอดอลของหลายๆ คน

“จากตอนแรกที่ต้องเหนื่อยกับการฝึกซ้อม ทั้งซ้อมร้อง ซ้อมเต้นทุกวัน ต้องดูแลตัวเอง ส่วนตอนนี้บทบาทใหม่ที่ได้รับคือการรักษามาตรฐานของตัวเองให้ดีที่สุด และสำคัญคือต้องดูแลตัวเองให้ดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้หน้าตาแจ่มใสอยู่ตลอด พักผ่อนเยอะๆ อย่าซ่าให้มาก (หัวเราะ) ซึ่งผมก็พยายามดูแลตัวเองเท่าที่ทำได้ เพื่อให้ทุกคนภูมิใจในสิ่งที่เขาคอยซัพพอร์ตและมอบให้ผม

“ซึ่งการจะรักษามาตรฐานไว้ให้ดีที่สุดมันก็ยากนะ เพราะบางครั้งผมก็คิดมากว่าถ้าเราทำแบบนี้ ทำเพลงสไตล์นี้ หรือเต้นแบบนี้ จะออกมาดีหรือเปล่า ซึ่งจริงๆ ไม่ควรคิดมากเลย เพราะแฟนๆ พร้อมจะสนับสนุนอยู่แล้ว เพียงแต่มันยากตรงที่ต้องแบ่งเวลาให้ถูกต้อง ยิ่งอายุเริ่มเยอะก็ต้องบริหารจัดการเวลาให้บาลานซ์ ทั้งเวลาทำงาน เวลาใช้ชีวิต เวลาพัก เพราะผมมักจะเป็นแบบว่า เล่นก็อยากเล่น งานก็อยากทำ

“อย่างตอนนี้เวลาทำงานประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ พักอีก 10 เปอร์เซ็นต์ แต่พักของผมคือ 5 เปอร์เซ็นต์นอนอยู่บ้านพักผ่อน อีก 5 เปอร์เซ็นต์คือออกไปแฮ้งเอ๊าต์กับเพื่อน”

 

อะไรคือสิ่งที่ภูมิใจที่สุดในฐานะศิลปิน

“ผมดีใจที่ได้ทำงานตรงนี้ ขอบคุณทุกคนก็ยังเปิดโอกาสให้เราได้ยืนอยู่ตรงนี้ที่ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาสั้นๆ อย่าง 4 ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน สำหรับคนที่เกือบถอดใจแล้ว จากคนที่ทำงานแล้วรายได้ติดลบ ตอนนั้นผมเสียใจมาก ขอโทษในทุกๆ อย่าง แต่ทางค่ายก็ยังให้โอกาส ให้เราทำงาน จนกระทั่งวันนี้ที่เราได้ใช้หนี้เขาหมดแล้ว (หัวเราะ) เปลี่ยนจากติดลบตัวท็อปของแกรมมี่ กลับมาทำรายได้ได้แล้ว” (ยิ้ม)

งานร้องเพลงหนาแน่น แต่ยังสามารถแบ่งเวลาไปเป็น CEO แบรนด์น้ำหอมด้วย

“ใช่ครับ ปีนี้น้ำหอม Colour Soul มาพร้อมกับกลิ่นใหม่ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น อารมณ์เหมือนอยู่ริมชายหาดทะเล ที่สื่อถึงซัมเมอร์ เพราะตอนแรกตั้งใจจะออกตั้งแต่เดือนเมษายน แต่ด้วยสถานการณ์จึงต้องเลื่อนมาเดือนสิงหาคมแทน แต่เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ก็สามารถใช้ได้ตลอดครับ และความพิเศษคือเมื่อฉีดไปแล้ว แต่ละคนจะได้กลิ่นที่ไม่เหมือนกัน นอกจากนั้นผมไปถ่ายภาพโปรโมตไกลถึงที่แอลเอ สหรัฐอเมริกาเลยนะ ซึ่งผมดูแลเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่เลือกกลิ่น ส่วนผสมต่างๆ รวมถึงภาพถ่ายที่แฟนๆ จะได้รับไปด้วย”

เพราะขายเก่งขนาดนี้ ถึงได้ครองตำแหน่งเจ้าพ่อพรีเซ็นเตอร์

“ไม่ขนาดนั้น (ยิ้มเขิน) จริงๆ ผมต้องยกเครดิตนี้ให้แฟนๆ ทุกคน ที่เขาคอยสนับสนุนในทุกเรื่องและทุกย่างก้าวของเราจริงๆ ไม่ว่าผมจะทำอะไร จับอะไร เขาก็สนับสนุนทุกอย่าง เช่น ผมดื่มน้ำยี่ห้อนี้ เขาก็ดื่มด้วย ผมกินขนมอะไร เขาก็กินด้วย หรือผมใช้อะไร เขาก็ใช้ด้วยทุกอย่าง ขอบคุณมากๆ ครับ”

ล่าสุดเปิดขายของในไอจี ขนาดไม่บอกว่าเจ้าของร้านคือใคร แต่แฟนๆ ก็รู้อยู่ดีว่าคือผลิตโชค

“เดี๋ยวนะ รู้กันหมดแล้วจริงๆ เหรอว่าผมเป็นแอดมิน (หัวเราะ) คือเรื่องมาจากว่าผมชอบเที่ยว จึงได้เดินทางไปหลายๆ จังหวัด ยิ่งปีก่อนทำงานกับ ททท. ก็ได้ไปจังหวัดเมืองรองหลายแห่ง และได้เห็นสินค้างานฝีมือ เครื่องสานต่างๆ ที่ชาวบ้านทำขาย ผมก็อุดหนุนกลับมาตลอด เอามาแบ่งเพื่อนๆ พี่ๆ บ้าง จนช่วงหลังทุกคนได้รับของจากผมกันหมดแล้ว ก็เลยแนะนำให้ผมขาย เพื่อนำเงินไปทำบุญ ก็เลยกลายเป็นโปรเจ็กต์ใหม่ขึ้นมา ในชื่อไอจี @yourlittle_corner

“อย่างกระเป๋าใบหนึ่งผมซื้อมาจากชาวบ้านราคาประมาณสองร้อย แต่ขายได้กว่าแสนบาท ผมเองไม่คิดว่าจะได้มูลค่าสูงขนาดนี้ ตกใจเหมือนกันครับ จึงทำให้ผมอยากทำเป็นโปรเจ็กต์ต่อเนื่อง เพื่อนำเงินตรงนี้ไปทำประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ไปช่วยเหลือมูลนิธิต่างๆ ที่เขาขาดแคลนทุนทรัพย์หรือสิ่งของต่างๆ โดยในอนาคตอยากทำเป็นมูลนิธิ เพราะบางครั้งคนซื้อของ บริจาคของ เขาอาจจะไม่ค่อยสบายใจ จึงอยากมีบัญชีกลางและทำเป็นรูปแบบทางการไปเลย (ยิ้ม)

“แต่ความยากของพ่อค้าออนไลน์มือใหม่แบบผมก็คือตอนแรกไม่รู้ว่า CF (Confirm) คืออะไร (หัวเราะ) เมื่อก่อนไปออกบู๊ธขายของ ผมขายเก่งนะ แต่พอเป็นออนไลน์ ผมโพสต์ไป 2 นาที มีข้อความเข้ามาเกือบ 2 พันข้อความ ผมตกใจเลย แล้วเราจะต้องขายให้ใคร จนเพื่อนแนะนำว่าต้องให้เขาพิมพ์ว่า CF นะ แล้วขายให้คนแรกที่พิมพ์ ซึ่งก็เป็นงานใหม่ของผมอีกงานที่สนุกดีครับ แม้จะไม่ได้ทำสม่ำเสมอ แต่ก็อยากทำต่อเนื่องนะ”

ถ้าตัดเรื่องงานออก ชีวิตแต่ละวันของเป๊กเป็นอย่างไรบ้าง

“ถ้ามีเวลาว่างนิดหน่อย ผมเลือกไปสปาครับ ไปผ่อนคลายร่างกาย แต่ถ้ามีเวลาว่างทั้งวัน จะไปทะเลใกล้ๆ นั่งรถไปตอนสาย กินอาหารอร่อยๆ ได้เห็นวิวทะเลนิดหน่อย ให้เท้าได้สัมผัสทรายแตะน้ำ แล้วค่ำๆ ค่อยกลับบ้าน แค่นี้ผมมีความสุขแล้วครับ” (ยิ้ม)

อีกหนึ่งเรื่องที่แฟนๆ อยากรู้ ความรักในวัย 36 ของเป๊ก-ผลิตโชค เป็นอย่างไรคะ

“ความรักของผมในวัย 36 (หยุดนึก) ผมมองในมุมของความเป็นเพื่อนกันนะ ผมเคยถามคุณพ่อว่าแต่งงานตอนอายุเท่าไร ท่านบอกอายุ 30 แล้วก็มีลูกเลย แต่พอมาดูคนยุคใหม่ ไม่มีอะไรตายตัวหรือกำหนดว่าต้องแต่งงานตอนอายุเท่าไร หรือควรมีลูกตอนไหน

“อย่างผมไม่ซีเรียสเรื่องการแต่งงานนะ เพราะเพื่อนๆ ในกลุ่มก็ยังไม่มีใครมีแฟนสักคน หรือบางคนมีแฟนแล้ว แต่งงานแต่ก็ยังไม่มีลูก สำหรับผมเองตอนนี้ถ้าพูดแบบ…ไม่ได้ตอบแบบดารานะ คือทำงานหนักมากจริงๆ ครับ ไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่นเลย และไม่มีเวลาได้เจอใครด้วย แต่ก็รู้สึกโอเคนะ ยังโอเคอยู่

“แต่ถามว่าเหงาไหม เหงาครับ (พยักหน้า ) เพียงแต่ผมชอบมีชีวิตฉายเดี่ยว คือไปไหนคนเดียว เที่ยวคนเดียว เพราะบางทีเรื่องราวในใจเรามันเยอะมากจริงๆ ทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน บางทีแค่ต้องการรีแล็กซ์เงียบๆ คนเดียว แต่บางวันก็อยากเจอเพื่อนนะ คือมี 2 แบบ โมเมนต์ส่วนตัวอาจจะเยอะกว่า เพื่อนๆ จะนิยามผลิตโชคว่าเป็นคนเข้าสังคมเก่งที่มีโลกส่วนตัวสูง ซึ่งผมว่าจริงเลยครับ เพราะสังคมหรือเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญ ความรักก็เป็นสิ่งสำคัญที่เป็นแรงผลักดันให้เราทำงานได้ อย่าง แพรว-คณิตกุล แนะนำให้ผมได้รู้จักกับครูเชาว์ (เชาวลิต สาดสมัย ) ที่ดูแลเด็กพิการและเด็กด้วยโอกาส ผมจึงนำเงินจากที่ขายสินค้าในไอจีไปมอบให้เขา ซึ่งนี่คือพลังจากคนรอบข้างที่ผลักดันให้เราทำอะไรดีๆ

“ส่วนเรื่องสเป็ค ไม่มีระบุตายตัวครับ ผลิตคิดว่าอยู่ที่เฟิร์สต์อิมเพรสชั่นนะ เสน่ห์ การพูดคุย ความเข้าใจกัน ตรงนี้สำคัญกว่า ถ้าเจอคนที่ใช่ ความรู้สึกจะบอกว่าใช่เองครับ”


ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารแพรว ฉบับ 961

ภาพ : peckpalit

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

8 ปี บนเส้นทางมายา ‘เจมส์-จิรายุ’ ไม่ยึดติดบทพระเอก พร้อมบรรเลงตามจังหวะชีวิต

ฉีกกรอบเดิมๆ ของคำว่าเลดี้ ปราง-กัญญ์ณรัณ ทำไมสุภาพสตรีจะแซ่บบ้างไม่ได้

เปิดใจคู่ ‘นาตาลี-ฟลุค’ ไม่ง่ายกว่าจะมีวันนี้ พิสูจน์รัก 10 ปี ลบคำว่าคาสโนวาเกลี้ยง

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up