กินอยู่ เรียนรู้ รักตัวเอง ‘กฏเหล็กกาละแมร์’ วินัยฟิต ชีวิตเฟิร์ม

ผู้หญิงมักจะชอบตั้งคำถาม วางเงื่อนไขให้กับชีวิตตัวเองว่า ฉันต้องผอม ฉันต้องสวย ฉันต้องเก่ง หรือวันนึงฉันจะต้องเป็นคนที่สมบูรณ์แบบให้ได้ แต่เชื่อว่าหลายคนดันถอดใจซะก่อน เพราะมองแล้วหนทางกว่าจะไปถึงไม่ใช่แค่การรอจังหวะโอกาสเท่านั้น ที่สำคัญตัวเองก็ต้องมีวินัยกับชีวิตอยู่ไม่น้อย

kalamae4

กาละแมร์ – พัชรศรี เบญจมาศ ทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว ในบทบาทของการเป็นผู้ประกาศข่าวมากความสามารถ ที่ตอนนี้ผันตัวเองมาเป็นพิธีกรรายการวาไรตี้ระดับแถวหน้าของวงการบันเทิงไทย ซึ่งในช่วง 2-3ปีหลังมานี้จะเห็นว่าชีวิตของสาวเก่งอย่างกาละแมร์ไม่ได้มุ่งแต่การทำงานอย่างหนักหน่วงเหมือนสมัยที่เป็นคนข่าว วันนี้เธอกำลังเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของผู้หญิงที่รักสุขภาพ ชนิดที่ถึงขั้นยอมเปลี่ยนนิสัยเดิมทั้งเรื่องการกิน การนอน และการออกกำลังกายที่พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว

kalamae8

เริ่มดูแลสุขภาพตัวเองแบบจริงจังตั้งแต่เมื่อไหร่

กาละแมร์ : ก็นานแล้วเหมือนกันนะ ประมาณ 2-3 ปี ที่แล้ว แต่ช่วงนั้นยังไม่คุมอาหาร เพราะคิดว่าออกกำลังกายแล้ว กินอะไรก็ได้ แต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรกับรูปร่างตัวเองเลย จนมาเมื่อปลายปีที่แล้ว 6-7 เดือนที่ผ่านมา เราก็มีเทรนเนอร์มาช่วย เขาถามเรื่องการกินของเรา ก็ถ่ายรูปอาหารที่เรากินให้เขาดู นี้เขาจะบอกเลยว่าอะไรกินแล้วดีไม่ดี อันนี้กินไม่ได้ พอเริ่มมีความรู้ เลยศึกษาถามคุณหมอ อ่านหนังสือ ดูเว็บไซต์ด้วย เลยรู้ว่าอาหารที่เรากินไปมันมีผลต่อชีวิตเรานะ แล้วจะเกิดอะไรกับร่างกาย เลยอยากจะเลือกกินแต่ของดี

ของดีไม่ใช่ของแพงนะคะ ที่ว่าดีอาจจะทั้งแพงและไม่แพง แต่ยังไงก็ขอให้ดีกับร่างกาย

kalamae2

เหตุผลนี้หรือเปล่าที่ทำให้พักหลังทำอาหารทานเองด้วย

กาละแมร์ : ใช่ค่ะเราคิดว่าทำอาหารกินเองแล้วกัน เพราะถ้าไปกินข้างนอกเราก็ไปเรื่องมากใส่เขาอีก วันไหนเราทำเองได้ก็ทำเองเลย จากคนไม่ทำอาหารเลย เพราะทำไม่เป็น และไม่อยู่ในวิถีชีวิตเลย แต่เป็นคนชอบดูรายการทำอาหารนะ เลยเอาวะ! ลองทำแล้วกัน ทำไปแบบงูๆ ปลาๆ นี่แหละ ลองผิดลองถูก คือบอกได้เลยนะว่า คนเราต่อให้อะไรก็ตาม ถ้าทำอาหารเองยังไงก็กินได้ เพราะมันคือฝีมือเรา

kalamae6

เมนูที่ทำทานบ่อยๆ เป็นเมนูอะไร

กาละแมร์ : โดยปกติถ้ากินเป็นประจำก็โยเกิร์ตใส่เบอร์รี่ อัลมอนด์ ก็มีปรับเปลี่ยนมาเรื่อยๆ ทำมาสักพักหน้าตาอาหารก็ดูดีบ้าง ดูไม่ได้บ้าง เคยมีครั้งนึงทำอออกมาแล้วหน้าตาเหมือนอ้วกมากเลย (หัวเราะ) แต่ก็ถ่ายลงอินสตาแกรม ก็อายนะ ดูรูปผลงานตัวเองแรกๆ นี่มันอ้วกหรือเปล่าทำไมมันเละขนาดนี้ เราก็… (ทำหน้าคิด) แล้วเราจะทำเมนูอะไรต่อไปดี พอเข้าไปดูในอินเตอร์เน็ตเลยเห็นว่าเฮ้ย….มีคนทำอาหารสุขภาพเยอะนะ โลกนี้มันไม่ใช่มีกลุ่มน้อยๆ นี่ ตอนนี้เลยคิดสร้างแฮชแท็ก Healthymary ขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองมีไอเดียว่าคนไหนทำอาหารสุขภาพช่วยแท็กหน่อยจะได้เข้าไปดูให้รู้ว่ามีเมนูอะไรบ้าง ไม่เน้นยากนะ เพราะทำไม่เป็น เราคิดเสมอว่าอาหารเราต้องมีประโยชน์ อร่อย หน้าตาดี เพราะเป็นคนเสพทั้งรูปและรส แต่ก่อนนี่อคติเลยว่า

เฮ้ย…อาหารสุขภาพกินได้หรอ ไก่ยางลบไม่นะ กินไข่ขาว 10 ลูกไม่เอานะ และเราเป็นคนที่ต้องแบบมีสุนทรีย์ในการกินนิดนึง ก็เลยเป็นแบบนี้ คนก็แฮชแท็กกันใหญ่ ซึ่งมันมีประโยชน์ต่อคนอื่นด้วย ที่เข้าไปดูได้ พอเราทำไปเรื่อยๆ ก็เริ่มมีการพลิกแพลง ทำให้อาหารดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น อร่อยในระดับที่เราโอเค เพราะคนเราติดกับความเคยชินของรสชาติ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด แต่พอเราเรียนรู้ว่าเค็มมากไป หวานไป มันไป ก็ไม่ดี ต้องปรับลิ้นตัวเองแล้ว

อาหารฝีมือคุณกาละแมร์

พอมาทำอาหารสุขภาพดู เลยเริ่มชินว่าเออแบบนี้ก็อร่อยนะ ใส่เกลือ พริกไท คือมันยังมีเครื่องเทศอีกหลากหลายมากที่ทำให้อาหารของเราอร่อยได้ ทำให้เรารู้จักการมิกซ์แอนด์แมทช์ มันคือศิลปะอย่างนึง เรียกว่าตอนนี้ก็ทำอาหารดีขึ้น และสนุกกับมันมาก ทุกวันนี้ที่ทำไม่ได้คิดตามกระแสคนอยากผอมหรือเป็นเทรนด์อะไร แค่รู้สึกว่าทำแล้วมันดีกับชีวิตเราแค่นั้นเอง


ย้อนไปสมัยที่ก่อนที่ยังไม่ได้ฟิตแบบนี้ นิสัยการกิน-อยู่เป็นอย่างไร

กาละแมร์ : พังพินาศมาก (หัวเราะ) ทำงานเครียด พักผ่อนน้อย กินข้าวไม่ตรงเวลา กินแต่ของไม่มีประโยชน์ เกลียดการเหงื่อออก คิดเสมอว่าการออกกำลังกาย มันใช่เรื่องไหม? ทำงานจะตายอยู่แล้ว ยังต้องมาออกกำลังกาย อะไรแบบนี้เลย รู้สึกว่าไม่ทำอะไรเลย ตรวจสุขภาพมาก็นั่นแหละ ไขมันสูง น้ำตาลสูง แบบร่างกายเหนื่อย (ทำหน้าอ่อนใจกับตัวเองมาก) ตอนกลางวันต้องเอาน้ำตาลเข้าร่าง โกโก้เย็นสักหน่อย เค้กสักชิ้นนะ ทำงานหนักก็ต้องรีแล็กซ์นะ ไม่เคยคิดว่าผิดเลย มีข้ออ้างตลอด

kalamae5

บอกได้ไหมว่าเคยหนักมากสุดกี่กิโล

กาละแมร์ : ประมาณ 56 กก. แต่ตอนนี้เหลือ 49 กก. จริงๆ ตอนนั้นคนก็บอกว่าไม่ได้อ้วนหรอก แต่มันก็บวมๆ มันรู้ตัวเองออกรายการก็ใส่เสื้อแขนยาว มีผ้าพันคอ ตันไปกันใหญ่ พอเริ่มคิดว่าไม่ไหวละก็ต้องออกกำลังกาย และเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน และพอได้ทำจริงๆ เลยเปลี่ยนวิถีชีวิตไปเลย ทำให้เรานอนเร็วขึ้น เพราะต้องออกกำลังกายตอนเช้า ทำอะไรที่มันเป็นอันตรายตัวเองก็ไม่ทำ อย่างเพื่อนชวนไปปาร์ตี้ก็ยังไปบ้าง แต่เราก็จะไม่ดื่มมาก เพราะมันส่งผลต่อร่างกาย มากสุดก็อาจจะไวน์แดงสักแก้ว เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ (ยิ้ม) อะไรแบบนี้ แต่ต้องหยุดตัวเองให้ได้นะ กลับบ้านก็มีวินัยกับตัวเอง จากขึ้นลิฟท์ตลอด ถ้าชั้น2-3 ก็เปลี่ยนเป็นขึ้นบันไดแทน เดินมากขึ้น จะไม่นั่งแช่ จะไม่ทำอะไรที่ทำร้ายตัวเอง

kalamae12


แสดงว่าในหนึ่งวันใช้เวลาไปกับการดูแลตัวเองมากทีเดียว

กาละแมร์ : ใช่ค่ะ ตื่นมาประมาณ 6-7 โมงเช้า ออกกำลังกายก่อน จะเล่นสลับกันไประหว่าง weight traning โยคะ และวิ่ง จากนั้นทำอาหารเช้า ถ่ายรูป กิน ล้างจาน บางวันถ้าไปในที่อื่น ก็จะคิดละที่นั่นไปจะมีไรกินไหม ก็จะทำลันช์บ็อกซ์ของตัวเองไปด้วย บางทีก็เตรียมอาหารไว้ข้ามคืน เสร็จอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานก็เอาไปกินที่งานด้วย


ยังกินของทอด ของมันอยู่บ้างไหม

กาละแมร์ : น้อยมากกกกกกกกกกกก อย่างของหวาน ช็อคโกแลตเป็นสิ่งที่ชอบมากนะ แต่ก็ต้องอยู่รอดให้ได้ในสายนี้ จะทำไง อยากกินของหวาน แต่เราก็รู้มาว่ามีคนทำของหวานแบบคลีนเหมือนกัน ไม่มีแป้งไง และพอมันทำได้ เราก็แบบอยู่รอดแล้ว กินช็อคโกแลตแบบคลีนได้ กินแล้วได้ประโยชน์ด้วย ไม่เกิดโทษด้วย หลังๆ ก็หาวิธีทำเอาเอง อันไหนยากก็เก็บไว้ก่อน ง่ายๆ ค่อยทำ อยากกินอะไรแบบไหน ทำเองเลย บางทีไปซื้อก็ไม่ถูกใจ

kalamae10

เห็นว่าตอนนี้ดูแลไปถึงคุณแม่แล้วด้วย

กาละแมร์ : เรื่องคุณแม่นี่ต้องค่อยๆ ปรับ ตอนนี้พูดจนเจ็บคอ แต่ก็ซื้อของให้ทาน บอกให้เขากินแบบนี้นะ ให้เขาเปิดใจลองดู ตอนนี้ก็เปลี่ยนมากขึ้น เพราะเริ่มเป็นโรคนั่นนี่ หมอพูดถึงจะเชื่อ ก็บอกกับเขาตลอดๆ ให้ออกกำลังกาย พอหกล้มเริ่มรู้ว่ากระดูกตัวเองไม่ค่อยดีแล้วนะ เดินบ้างไรบ้าง พอมีคนทักเค้าผอมลงก็ดูเขาดีใจ


ออกกำลังกายและกินคลีนฟู้ดทุกวันแบบนี้ มีคนทักหรือเห็นความเปลี่ยนแปลงบ้างหรือยัง

กาละแมร์ : เรื่องขับถ่ายเห็นชัดมาก คือเมื่อก่อนก็แบบจะออกไม่ออก เจ็บ เดี๋ยวนี้บางทีอยากจะถ่ายรูปอึตัวเองด้วยความภาคภูมิใจมาก (หัวเราะ) ปรบมือให้ตัวเองรัวๆ เพราะมันดีงามมาก พรวดเดียวจบ ส่วนเรื่องผิวพรรณ ใบหน้าเห็นชัดมาก คนทักมากขึ้นว่าหน้าเด็กลง ดูสว่างมากขึ้น แต่เราอยู่กับตัวเองก็ไม่ได้สังเกตหรอกว่าเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง กระฉับกระเฉงมากขึ้น ไม่ง่วงเหงาหาวนอน ไม่อืด แต่ก่อนนี่บวมๆ ไม่อยากลุกไปไหน ตัวหนักๆ ก็ไม่เกิดขึ้นกับเราอีก มันจะสดใสตลอดเวลา

การออกกำลังกายมันไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพกำลังของเรา แต่มันคือการเอาใจไปออกด้วยกายนี่มันผลจากภายนอก แต่ใจคือ เราชนะใจตัวเองได้ มันคือสิ่งที่ยากมาก ถ้าทำได้เรื่องอื่นๆ เราก็ต้องทำได้เหมือนกัน มีความมั่นใจศรัทธาในตัวเองมากขึ้น ไม่งั้นก็มัวแต่คิดว่าดูดิ เรื่องแค่นี้ก็ทำไม่ได้

kalamae1


ตอนนี้เรื่องการรออกกำลังกายแอดว้านซ์ถึงขั้นไหนแล้ว

กาละแมร์ : ยกตัวอย่างการเล่นโยคะแล้วกัน แต่ก่อนทำอะไรไม่ได้เลย ทุกอย่างตึงหมด ซึ่งจริงๆ มันไม่ต้องมีทักษะอะไรเลยนะ แต่เราต้องฝึกฝน ร่างกายเราฉลาดนะ ฝึกไปเลย มันสอนชีวิตด้วย คนเราชอบกลัวกันไปเองว่าจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่ยังไม่ได้ลองทำเลย อย่างมากถ้ายังเล่นไม่เก่งก็แค่ล้ม แต่ล้มแล้วแล้วก็ลุกสิ อย่ากลัวที่จะล้ม ถ้ายังไม่ได้ลองทำเลย ถ้าสมติว่าลองแล้วทำได้ มันจะแบบคิดเลยว่าเรามาถึงตรงนี้ได้ไง เมื่อก่อนกลัวความสูงมาก ทำไม่ได้หรอก ไม่เคยคิดมาก่อน แต่เราก็ทำได้ และมันจะชาเลนจ์ตัวเองไปเรื่อยๆ เรียนรู้ร่างกายตัวเองว่าเราทำแบบนี้ได้ ร่างกายเรามันเรียนรู้ค่อยๆ ฝึก ค่อยๆ ทำ แล้วมันจะได้อยู่กับตัวเอง ฝึกสมาธิดีด้วยนะ ได้ทั้งกาย และอารมณ์

kalamae14

ดูแลตัวเองดีขนาดนี้ หัวใจล่ะ มีคนดูแลหรือยัง

กาละแมร์ :
ก็ปล่อยให้มันเป็นธรรมชาติ ยังไงก็ขอคนที่ดูแลตัวเองนะ เพราะตัวเราชอบดูแลตัวเอง ถ้าดันไปเจอคนที่ไม่ดูแลตัวเองมันจะหงุดหงิดมาก เราจะแบบ อะไรของมันเนี่ยะ กินอะไรเนี่ยะ ทำอะไรเนี่ยะ แล้วเวลาไปไหนด้วยกันมันจะตบตีจะไม่เห็นพ้องกัน ถ้าเป็นคนดูแลตัวเองเหมือนที่เราเป็น หรือดูแลเราได้ด้วยจะยินดีมาก มาช่วยล้างจาน ทำอาหารอย่างอื่นได้ด้วยจะยิ่งปลาบปลื้ม หัวใจตอนนี้เลยยังไม่สีชมพูนะ เป็นได้ทุกสี วันไหนอยากสีอะไรก็แล้วแต่ตัวเองเลย


รู้ไหมว่าผู้หญิงหลายคนอยากทำได้แบบที่คุณทำได้ ทั้งเรื่องงาน และวินัยการออกกำลังกาย

กาละแมร์ : พูดจริงๆนะ ทุกคนทำได้หมดแหละ อย่าไปคิดว่าฉันทำไม่ได้หรอก เพราะนั่นแหละมันจะทำไม่ได้ เพราะคิดไปก่อนแล้ว

รู้สึกยังไงที่ผู้หญิงส่วนใหญ่อย่างเก่งแบบคุณ

กาละแมร์ : โห ขอบคุณมากค่ะ เอางี้ขอพูดถึงสิ่งที่รู้สึกหน่อยนะว่ามันเกิดจากการไปแก้ผ้าอาบน้ำที่ตุรกี และเจอผู้หญิงอาบน้ำให้ เราจะเห็นคนทุกชาติทุกภาษา ทุกวัย ทุกคนแก้ผ้าหมด เราต่างกันแค่ภายนอกเท่านั้นเอง ยังไงเราก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันนี่แหละ เรามีความต้องการ มีความรู้สึก เราอยากมีคนดูแลปรนนิบัติ เรามีความต้องการในชีวิตพื้นฐาน ทุกคนเป็นแบบนั้น เพราะฉะนั้น เราสามารถทำให้ตัวเองได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครในฐานะไหน ผิวพรรณอย่างไรก็ตาม เราว่าทุกคนเท่าเทียมเสมอกันหมด คนรวยๆ บางคนอาจจะอิจฉาคนจนบางคนด้วยซ้ำ นี่ไม่ได้พูดให้ดูโลกสวยนะ แต่นี่คือความจริง

kalamae7

อย่าแบบคิดว่าเฮ้ย… เราเกิดมาไม่เท่ากันว่ะ ไม่จริงหรอก มันเท่ากันหมดแหละ ไม่ว่าจะเกิดที่ไหนก็ตาม แต่อยู่ที่ว่าหลังจากเกิดแล้วคุณทำตัวอย่างไรมากกว่า อย่างเวลาที่เราลงรูปไปเที่ยว ก็มีคอมเม้นท์พิมพ์มาว่า…ชีวิตพี่ดีจังเลย อิจฉาพี่จัง คือถ้าคิดแค่นี้คุณก็จะไม่มีโอกาส หนูไม่รวยแบบพี่ คือ แค่คิดก็ผิดแล้ว ทำไมเราดูถูกตัวเองแบบนั้น เราต้องคิดสิว่าเห็นแล้วมันจะเป็นแรงบันดาลใจกระตุ้นตัวเองว่าเราอยากมีชีวิตแบบนี้บ้าง ไม่ต้องรอเจ้าชายเสกให้ คุณมีชีวิตที่คุณอยากมีได้ เราสร้างปราสาทของเราได้ด้วยตัวเอง

ไม่ใช่บอกว่าไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายนะ (หัวเราะ) ถ้ามีแล้วดี มีไปเลย แต่ต้องหัดบอกตัวเองในวันที่ไม่มี มีมาเวิ่นเว้อถามพี่อยู่ยังไงคะตอนเป็นโสด เนี่ยะแค่คิดก็ผิดแล้ว มันต้องเริ่มจากจากความคิดเรา อยากมีชีวิตแบบไหนคุณเสกเลย ทำเลย อย่ารอคอยโชคชะตา รออะไรมาประทานให้ใครมาทำให้ คุณทำได้ด้วยตัวคุณเอง

kalamae3
อยากฝากไว้ถึงทุกคนเลยนะคะว่าคนรวยถ้าไม่ทำตัวให้ดีมีค่ามากขึ้น ก็ไม่ได้จะดีไปกว่าใคร คนจนถ้ามัวแต่ดูถูกตัวเอง โทษสวรรค์ดวงชะตา ว่าทำไมฉันเกิดมาครอบครัวแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ ทำไมฉันไม่สวย รูปชั่วตัวดำแบบนี้ คุณก็จะเป็นแบบนั้นไปตลอด ต้องลองเปลี่ยนความคิดว่าฉันอยากทำให้ชีวิตดีขึ้นนะ ฉันอยากมีชีวิตแบบนั้น อยากมีอาชีพแบบนี้ อยากเห็น รูปร่างตัวเองสมส่วน สุขภาพดี หน้าตาสดใส ทำเลยค่ะ! ทุกคนทำได้หมด

ทุกย่างก้าวในชีวิตของผู้หญิงคนนี้ หากใครได้ติดตามมาตั้งแต่ต้นจนมาได้อ่านการสัมภาษณ์ครั้งนี้จะเห็นว่ามีอะไรหลายอย่างในตัวเธอที่เปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ไม่ใช่แค่วิถีชีวิตของการมีวินัยในการออกกำลังกายเท่านั้น แต่เธอกำลังบอกบางอย่างกับผู้หญิงทุกคนว่า เราสามารถสร้างตัวเองได้ตามที่เราต้องการเพียงแค่เรารักและเคารพตัวเองให้มากพอ

เรื่อง : SRIPLOI
ภาพ : ธีรพงษ์ กูลแก้ว

บทความนี้ถือเป็นทรัพย์สินของเว็บไซต์แพรว ห้ามผู้ใดนำไปคัดลอก ดัดแปลง หรือทำซ้ำ อนุญาตให้แชร์บทความนี้ได้จากลิ้งค์นี้เท่านั้น

Praew Recommend

keyboard_arrow_up