เรียกว่าเป็นเรื่องราวที่ทำให้อดีตนักร้องหนุ่ม “เขื่อน-ภัทรดนัย เสตสุวรรณ” เสียน้ำตาหนักเลยทีเดียว เมื่อ แม่เขื่อน เค-โอติก ออกมาเปิดใจอย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังจากที่ลูกชายประกาศตัวว่าเป็นเพศที่ไร้กรอบ LGBTQ+ Community ซึ่งทำให้คุณแม่ถูกเพื่อนๆ และคนรู้จักตั้งคำถามแรงว่า “สอนลูกยังไงถึงกลายเป็นแบบนี้” , “ทำไมปล่อยให้ลูกทำอย่างนี้” แม้จะได้รับการปฏิบัติแบบนั้น แต่คุณแม่ของเขื่อนก็ได้อธิบายไปอย่างใจเย็น ซึ่งตรงนี้เองทำให้หนุ่มเขื่อนถึงกับหลั่งน้ำตาเพราะคุณแม่เป็นคนที่เข้าใจเขามากๆ นั่นเอง
เข้าใจลูก LGBTQ+ แม่เขื่อน เค-โอติก เล่าถูกดูหมิ่น ยืนยันลูกเป็นเกย์ไม่น่าอาย!
เขื่อน : ยากไหมกับการที่มีลูกเป็น LGBTQ+ ?
คุณแม่ : ตอนแรกคิดว่ายาก แต่พอมองไปชัดๆ นี่คือลูกเรา เรารักลูกเรา แล้วมองเห็นในสิ่งที่เขาเป็น และสิ่งที่เขาทำ แล้วก็เข้าใจเขา เพราะเราสองคนแม่ลูกสื่อสารกันอย่างตรงไปตรงมามาก มันเลยไม่ยาก
คุณแม่ : ตอนแรกที่คิดว่ายาก เพราะว่าไม่เข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสิ่งที่เขื่อนเป็น คือมันมีความหลากหลายมาก ต้องใช้เวลานิดหนึ่ง ที่สำคัญคือเขื่อนกับแม่เราคุยกันตลอด และเขื่อนสื่อสารตรงไปตรงมามากกับแม่ แม่ก็ค่อยๆ เรียนรู้ พอแม่เรียนรู้และแม่เข้าใจแล้ว มันไม่ยากนะ มันกลายเป็นว่าแค่เห็นคนที่เรารักมีความสุข และได้ทำในสิ่งที่เขาอยากทำ เป็นในสิ่งที่เขาอยากเป็น แค่นั้นเอง
เขื่อน : หลังจากที่เขื่อนเปิดเผยว่าเป็น Queer Gender แน่นอนว่ามันไม่ได้จบที่เรา 2 คน มันมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนอื่น คุณแม่ได้รับฟีดแบคกลับมาอย่างไรบ้าง?
“มาอันดับหนึ่งคือ ทำไมปล่อยลูกให้ทำอย่างนี้ อันดับสองคือ สอนลูกยังไงลูกถึงกลายเป็นแบบนี้ ซึ่งเราก็ตอบกลับไปว่า เราไม่ได้ปล่อยลูกเป็นอย่างนี้ เขาโตมาเป็นอย่างนี้ เราต่างหากเป็นคนที่ต้องเรียนรู้ และทำความรู้จักเขา”
“มีทั้งคนที่สนับสนุนและต่อต้าน แต่คุณแม่ไม่รู้สึกอะไร เพราะเราอยู่บนเส้นของความเป็นจริง หลายๆ ครั้งที่ตอบคำถามเพื่อนไปว่า เราโชคดีมากเลยเธอรู้ไหม ลูกเราตั้งใจเรียน แล้วในสิ่งที่เขาเป็น เขาเอามาใช้ประโยชน์ได้ เขามาเป็นนักกิจกรรมที่มาดูแล LGBTQ ทั้งหลาย เขาสร้างความภูมิใจให้เราเยอะมากในหลายเรื่อง เรามีแต่ความภาคภูมิใจ เพราะว่าสิ่งที่ลูกเป็น ลูกนำมาซึ่งประโยชน์ทั้งสิ้น แล้วก็นำความสนุกสนาน ความสุขมาให้แม่เยอะแยะเลย เพราะฉะนั้นการที่ใครมาพูดอะไร สำหรับแม่แล้ว ไม่มีประเด็น”
เขื่อน : สิ่งที่เราสองคนแม่ลูกแชร์กันตรงนี้ มันเกี่ยวข้องกับเราสองคน ที่ออกมาเพราะอยากแชร์ประสบการณ์เพื่อที่ว่าคนคนที่กำลังมีปัญหาอยู่อาจจะได้ไปใช้กับตัวเอง หรือได้มองมุมต่างบ้างกับคนที่เขาไม่เข้าใจ?
คุณแม่ : อันนี้คุณแม่เห็นด้วย เพราะว่าบางครอบครัวอาจจะเกิดความขัดแย้งในใจ หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกเป็น แต่แม่ไม่ได้มีปัญหาอันนั้น และพอยิ่งสื่อสารกันมากเท่าไหร่ ยิ่งค้นพบว่าการเปิดใจยอมรับ มันเป็นกุญแจดอกสำคัญของทุกสิ่งเลย
เขื่อน : คิดอย่างไรกับการที่ลูกใส่กระโปรง?
คุณแม่ : ตอนแรกงงค่ะ ไม่เข้าใจ เพราะแม่ไม่มีความรู้เยอะตอนแรกว่าข้อแตกต่างใน LGBTQ+ เขาแตกต่างกันอย่างไร พอเขื่อนใส่กระโปรงปุ๊บ แม่ก็อ้าว! ไหนว่าเป็นเกย์ ทำไมถึงใส่กระโปรง หรือว่าเป็นสาวประเภทสอง คือจะเป็นอะไรก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ว่าเราต้องเข้าใจว่าเป็นอะไร แต่เราก็ค่อยๆ เรียนรู้และค่อยๆ เข้าใจทีละนิด ก็ไม่แปลกใจนะ กลับชอบ เพราะว่าเสื้อผ้าที่เอามาใส่ เครื่องประดับที่เอามาใส่เราแบ่งกันใส่หรือบางครั้งก็แย่งกันใส่ด้วย”
“ตอนนี้รู้สึกสนุก เพราะทุกๆ วันตื่นมาตอนเช้า เราต้องมาดูว่าวันนี้ ลูกเราจะมารูปแบบไหน เสื้อผ้าเป็นอย่างไร แล้วมีไอเดียอะไรมานำเสนอ เลยรู้สึกสนุกมาก”
อย่างไรก็ตามคุณแม่ได้ทิ้งท้ายว่า “ไม่เคยคิดว่าเขื่อนจะทำอะไรที่ไม่ดี แม่ไม่กลัวเลย แต่กลัวคนที่ไม่เข้าใจมากกว่า ว่าเขาจะมีปฏิกิริยาตอบโต้มาแบบไหน ถ้าเป็นบนอินเทอร์เน็ต ในแง่ของวาจาหรือการแสดงออก ก็ไม่กลัว เพราะเชื่อว่าลูกเรารับมือได้ แต่ก็กลัวพวกที่มาประชิดตัว”
ข้อมูลจาก : YouTube Koendanai
สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
สนับสนุนเพศทางเลือก เจ้าชายวิลเลียมเผย รับได้หากพระโอรส-พระธิดาเป็น LGBT
รักจะเป็นชาวสีรุ้งต้องรู้ไว้! 7 ประเทศ Anti-Gay ไปเมื่อไหร่เสี่ยงตายสูง
“ฉันเป็นผู้หญิงข้ามเพศ” Nikkie บิวตี้ยูทูปเบอร์ชื่อดัง เผยความลับที่ปิดมา 11 ปี