แอน สิเรียม

แอน สิเรียม เชื่อแค่ลิ้นกับฟัน! นนนี่ – สามี ยังไม่เลิกแค่แยกกันอยู่คนละประเทศ

Alternative Textaccount_circle
แอน สิเรียม
แอน สิเรียม

แอน สิเรียม เคารพการตัดสินใจของลูกสาว น้องนนนี่ เนื่องจากมีปัญหากับสามี เชื่อแค่ลิ้นกับฟัน  ยืนยันยังไม่เลิกแค่แยกกันอยู่คนละประเทศ

เรียกว่าเป็นข่าวที่กลายเป็นหัวข้อร้อนแรงเลยเมื่อ น้องนนนี่ หรือ นนนี่-นนลนีย์ โอแกน  ลูกสาวของคุณแม่แอน-สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ได้โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว @nnnonie ว่า “Ask me คนโสด” และ “BROKE AGAIN” และเมื่อสังเกตดีๆ ก็พบว่ารูปภาพในวันงานแต่งงานของเธอนั้นถูกลบออกไปจนหมด ซึ่งทำให้หลายคนเข้าใจว่าครอบครัวของเธอกำลังมีปัญหา 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2563 คุณแม่แอน-สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในงานบวงสรวงละครเรื่อง “สายลับลิปกลอส” โดยระบุว่าเธอเคารพการตัดสินใจของลูกสาว และเชื่อแค่ลิ้นกับฟัน  ยืนยันยังไม่เลิกกันเพียงแค่แยกกันอยู่คนละประเทศเท่านั้น

แอน สิเรียม

ตอนนี้ครอบครัว น้องนนนี่ เหมือนจะมีปัญหาพี่แอนได้มีการพูดคุยกับน้องหรือเปล่า ?

“แอนไม่ได้อ่านเนื้อข่าวละเอียดว่าอะไรยังไงบ้าง คือลูกก็มาพูดให้ฟังแต่ก็ยังไม่ได้มาในเชิงขอคำปรึกษา เลยยังไม่ได้คุยดีเทลขนาดนั้นค่ะ”

ความคาดเดาของคนหลังจากเห็นเขาลบรูปในอินสตาแกรม เลยคิดว่าน้องอาจจะเลิกกับสามี ?

“ก็คงจะมีงอนๆ กัน แต่ว่ายังไม่ได้เลิก”

คิดว่าเป็นการถอยกันคนละก้าว ?

“เห็นเขาว่าอย่างนั้นนะคะ คือลูกก็ยังไม่ได้มาขอคำปรึกษาเป็นเรื่องเป็นราว และแอนเองก็มองว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคน แอนเป็นคนที่สาม แอนเลยไม่อยากจะเข้าไปยุ่ง แอนกับลูกเรามีระยะกันมาแบบนี้ตลอด แอนให้เกียรติการตัดสินใจของเขา ให้เกียรติการดำเนินชีวิตของลูก แอนมองว่าถ้าเขายังไม่พร้อมที่จะมาขอคำปรึกษา แอนก็เป็นคนที่สาม ก็ไม่อาจจะก้าวไปล้วงละเมิดสิทธิ์ของเขา”

ตอนนี้เขาอยู่เมืองไทยด้วยกันไหม หรือแยกกันอยู่ ?

“ตอนเดือนมีนาคมก็กลับมาพร้อมกัน แต่ทางนั้นที่ทำงานสามีเขาเปิด เขาก็เลยต้องกลับไป ส่วนนนนี่ก็อยู่กับแอนที่เมืองไทย เขาก็แยกกันอยู่คนละประเทศ”

สภาพจิตใจน้องตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?

“ก็เป็นปกติอยู่นะคะ เขาไม่ได้เข้ามาขอคำปรึกษาอะไร ก็เลยคิดว่าคงจะแค่งอนๆกัน มันก็ต้องมีบ้าง แอนก็บอกลูกไปแล้วว่าชีวิตแต่งงานมันเป็นสเต็ปแรกของการดำเนินชีวิต เริ่มต้นมันก็จะต้องมีอุปสรรคอะไรกันบ้าง ลิ้นกับฟัน ช่วง โควิด-19 ที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับว่าครอบครัวเราก็ไม่ได้มีอะไรทำกันมาก เราต้องอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง ถ้าเป็นชีวิตแบบปกติทุกวันนี้ตื่นเช้าขึ้นมาก็ออกจากบ้าน ต่างคนต่างมีหน้าที่การงานที่จะต้องไปทำ การปะทะกันมันก็อาจจะน้อยลง จากที่เราโตมาเรามีบทเรียนชีวิตจากการดำเนินชีวิตของเรา เราก็จะเล่าให้ฟังในลักษณะนี้ได้ แต่ถ้าถามเรื่องในเชิงลึก เป็นดีเทลอันนี้แอนไม่ทราบจริงๆ”

ในฐานะแม่เราเป็นห่วงเรื่องนี้ขนาดไหน?

“ทุกคนต้องเป็นห่วงลูกทุกคน เพียงแต่วิธีการเลี้ยงดูมันก็แตกต่างกัน”

เราพร้อมรอลูกเดินเข้ามาปรึกษา ?

“แอนไม่ได้พร้อม คือเขาเข้ามาคุยกับเราได้เสมอ แต่ว่าแอนไม่ใช่แม่ที่จะต้องคอยบงการชีวิตลูก แอนไม่ได้เลี้ยงเขาแบบนั้นมาตั้งแต่แรก แอนก็ต้องยอมรับตรงนี้”

พอมีข่าวขึ้นมาเขาซีเรียสไหมเพราะเขาไม่ได้อยู่ในวงการ ?

“ไม่นะคะ เขาเข้าใจว่ามันเป็นยังไง แอนดูจากอาการเขาก็เป็นปกติดี ก็ยังรับงาน ส่งงานให้แม่อยู่ทุกวัน”

เขามาปรึกษาเราก่อนหรือว่าอ่านจากข่าว ?

“เขามาพูดนิดหน่อยค่ะ แต่ตอนหลังมีคนมาบอก เดี๋ยวนี้เขาโตขึ้นเยอะแล้ว เขาไม่ได้เป็นเด็กๆ แล้ว เราก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเขา เราก็รับฟังอย่างเดียว แอนเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนก็ต้องทำแบบเดียวกับแอน คือฟังลูก และไม่ใช่แค่เรื่องนี้ เรื่องอื่นๆ เรื่องพี่ เรื่องน้อง เรื่องญาติเราก็รับฟัง”

เรียกว่าพร้อมสนับสนุนเขาทุกเรื่องใช่ไหม?

“เราก็ยืนอยู่ตรงนี้ เขาพร้อมเมื่อไหร่ เขาก็เดินมาหาเราเอง เราไม่จำเป็นที่จะต้องลุกไป แอนก็ถามสามีนะคะ เขาก็บอกว่าจริงๆ มันเป็นเรื่องของคนสองคน เราเป็นคนที่สามสี่ห้าแล้ว มันก็ต้องมีเรื่องบ้าง แต่ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตในชีวิต เขาตัดสินใจยังไงเราก็พร้อมเดินไปกับเขาอยู่แล้ว เขาเป็นลูกเรา เราก็ต้องพร้อมหมด แอนว่าคนทุกคนสมัยนี้เด็กๆ เขาโตกันแล้ว อย่ามองว่าเขาเป็นเด็ก บางทีเขาก็มีวิธีคิด การบริหารจัดการชีวิตในรูปแบบของเขาเอง”


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ครอบครัวมีปัญหา นนนี่-นนลนีย์ ส่อแววแยกทาง หลังตกลงสามีถอยคนละก้าว

Praew Recommend

keyboard_arrow_up